.png)
น้องๆ ชาว Dek-D แถวนี้น่าจะมีหลายๆ คนที่ชอบไอดอลเกาหลี แล้วก็มีความฝันว่าซักวันนึงอยากจะไปยืนอยู่บนเวทีแบบนั้นบ้าง เดี๋ยวนี้ทางเกาหลีเองก็มีมาเปิดออดิชั่นค้นหาเด็กไทยมีความสามารถถึงที่ แต่ต้องทำยังไงถึงจะเอาชนะใจกรรมการได้? วันนี้พี่แพมไปล้วงลึก "น้องจิ๊ฟฟี่" ผู้มีประสบการณ์การออดิชั่นกับค่ายเพลงเกาหลีมากกว่า 30 ครั้ง แถมเคยผ่านเข้าไปถึงรอบไพรเวทออดิชั่นกับค่าย SM มาแล้ว!
สวัสดีค่ะ ชื่อจิ๊ฟฟี่ ฟ้ารุ่ง หาญวงษ์ อายุ 20 ปีค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ สาขาจีนธุรกิจ ตอนนี้อยู่ปี 4 แล้วค่ะ
จุดเริ่มต้นของความฝันจากการเป็นติ่งเกาหลี!
จิ๊ฟเริ่มเรียนดนตรี เรียนเปียโนมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วค่ะ แต่ไม่ได้เล่นจริงจังอะไร จนกระทั่งช่วงม.ต้น ตอนนั้นติ่ง SJ ค่ะ เห็นเขาอยู่บนเวทีแล้วรู้สึกว่าเท่จัง อยากไปอยู่บนนั้นบ้าง แต่ตอนนั้นอยู่ที่จังหวัดอุดร ก็มีเรียนเต้นบ้าง มีประกวดบ้าง พอมาเรียนที่กรุงเทพฯ จิ๊ฟก็สมัครเรียนเต้นที่ Monkey Town ที่แกรมมี่ ได้เรียนเต้นหลายแนวเลยค่ะ ฮิพฮอพ ป็อปปิ้ง ช่วงนั้นก็มีไปประกวดบ้าง เต้น cover บ้าง ออดิชั่นกับค่ายที่ไทยบ้าง มีโอกาสเป็นศิลปินฝึดหัดของแกรมมี่ด้วยเหมือนกัน แต่ตอนนั้นจิ๊ฟตั้งเป้าหมายไว้ที่การเป็นไอดอลเกาหลีมากกว่า
จิ๊ฟฟี่คือผู้หญิงผมยาวที่ใส่แจ็คเก็ตสีดำไง จำได้มั้ยเอ่ย
บินไปออดิชั่นที่เกาหลีมากกว่า 30 ครั้ง ด้วยเงินของตัวเอง!
ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจิ๊ฟบินไปเกาหลีบ่อยมาก ไปเพื่อออดิชั่นโดยเฉพาะ ค่าย SM ที่เดียวจิ๊ฟก็ไป 30 กว่าครั้งแล้วค่ะ (นี่ยังไม่รวมที่ค่ายอื่นนะ) แต่จิ๊ฟไม่ได้ขอเงินพ่อแม่นะ ไม่ได้บอกด้วยซ้ำว่าจะไป แต่จิ๊ฟทำงานพิเศษ รับจ็อบฟรีแลนซ์เป็นแบ็คสเตจบ้าง ดูแลศิลปิน ทำเบื้องหลังคอนเสิร์ตอีเวนท์ต่างๆ พอเก็บเงินได้ก้อนนึง ก็จะบินไปเกาหลี โชคดีที่ที่นู่นจิ๊ฟมีคุณพ่อของเพื่อนที่รู้จักกันผ่านการออดิชั่นคอยดูแล ก็เลยมีที่พัก มีที่ปรึกษา
ออดิชั่นที่ไทยจิ๊ฟฟี่ก็ไม่พลาด!
จิ๊ฟเคยไปแข่งรายการ Thailand Got Talent ค่ะ มีของ BNK48 แล้วก็ MBO ด้วย แล้วก็ตอนที่ S.M. GLOBAL AUDITION SEASON 2 มาที่ไทย เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมาจิ๊ฟก็ไป ได้ผ่านเข้ารอบไปจนถึง Private audition ค่ะ ในรอบสุดท้ายที่มีผ่านเข้าไป 5-6 คน อยากรู้ว่ารายละเอียดเป็นยังไง จิ๊ฟก็เคยเขียนรีวิวเอาไว้ที่ Dek-D.com ด้วยนะ ตามไปอ่านกันได้เลย "แชร์ประสบการณ์ + Private audition Sm global in Thailand season2 (13/08/17 ค่อนข้างละเอียด)"
.jpg)
ที่ไทยการแข่งขันสูงกว่า แต่ที่เกาหลีกดดันมากกว่า!
ตอนที่จิ๊ฟไปออดิชั่นกับ SM ที่ไทย ก็คือคนสมัครเยอะมาก การแข่งขันสูงมาก มากันเป็นพันๆ คนเลยค่ะ แล้วเปิดแค่ 2 วันเอง ส่วนที่เกาหลีค่ายเขาจะเปิดออดิชั่นบ่อยมาก มีแบบ Weekly Audition คือเปิดทุกสัปดาห์ หรือ Monthly Audition ที่ออดิชั่นทุกๆ เดือน แล้วเด็กๆ ที่เกาหลีก็จะมาพร้อมมาก คือซ้อมกันจริงจัง ร้องเพลงเสียงดังๆ เต้นกันแบบมั่นใจมาก พอเห็นว่ามีแต่คนเก่งๆ เต็มไปหมด เราก็จะรู้สึกกดดันมากๆ
เอาความตั้งใจเข้าสู้!
จิ๊ฟเองก็พกความมั่นใจไปเต็มที่เลยค่ะ เพราะซ้อมมาหนักมาก คือเต้นทุกวันหน้ากระจก ถ้าไม่มีเรียนหรือวันหยุด ก็จะเต้นมันทั้งวันนั่นแหละค่ะ ไม่ไปไหน แต่เรื่องร้องจิ๊ฟไม่เคยมีพื้นฐานมาก่อน ก็เลยต้องฝึกหนักเหมือนกัน แต่ก็มีพี่ที่เป็นครูสอนร้องเพลงช่วยไกด์ให้ วันไหนที่มีเรียนก็คือตั้งใจเรียน แต่หลังจากเรียนก็คือซ้อมและซ้อมเท่านั้นเลยค่ะ
ผ่านเข้ารอบสุดท้ายที่เกาหลี!
จากการไปออดิชั่นที่เกาหลีหลายๆ ครั้ง จิ๊ฟเข้าใกล้ความฝันมากที่สุด คือผ่านเข้ารอบสุดท้าย เป็นรอบไพรเวทออดิชั่น จนพูดคุยกับกรรมการแล้วค่ะ แต่ก็ไม่ได้ไปต่อ อาจจะเป็นเพราะเราเป็นคนต่างชาติด้วย โอกาสมันก็ยากกว่าคนเกาหลี จริงๆ ก็เสียดายเหมือนกัน
.jpg)
มากกว่าชนะใจกรรมการคือชนะใจตัวเอง!
ทุกครั้งที่ไปเกาหลีจิ๊ฟก็ไม่อยากแค่ร้องๆ เต้นๆ แล้วก็กลับบ้านไปมือเปล่า เป้าหมายจริงๆ ของจิ๊ฟคืออยากเข้ารอบไพรเวทออดิชั่น เพราะเราจะได้แสดงความสามารถทั้งหมดที่เรามี ตอนนั้นกรรมการก็เคยพูดกับจิ๊ฟว่า เห็นมาบ่อยๆ ก็ไม่คิดว่าจะมีความสามารถเยอะขนาดนี้ แค่นี้ก็พอใจแล้วค่ะ เหมือนเอาชนะใจตัวเองได้แล้ว ความพยายามทั้งหมดที่เราทำมา สุดท้ายเขาก็เห็นคุณค่าเราแล้ว
ความมั่นใจคือเคล็ดลับสำคัญในการออดิชั่น!
ถ้าจะไปออดิชั่นอย่างแรกเลยก็คือ เราต้องมีภาพลักษณ์ที่ตรงกับสไตล์ของค่ายนั้นๆ ค่ะ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือความมั่นใจ ถ้าเราแสดงออกไปด้วยความมั่นใจเต็มที่ มันก็จะดึงดูดความสนใจได้ดี ประสบการณ์ก็สำคัญเหมือนกันนะ ถ้าเราได้โชว์เรื่อยๆ มันก็ค่อยๆ เพิ่มความมั่นใจ ส่วนเรื่องภาษา ที่เกาหลีก็จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษ แต่ถ้าได้ภาษาเกาหลีด้วยจะเลิศมาก
ก้าวต่อไปของจิ๊ฟฟี่!
ตอนนี้จิ๊ฟคิดว่าอิ่มตัวกับการไปออดิชั่นที่เกาหลีแล้วค่ะ เพราะเหมือนผ่านเป้าหมายของตัวเองได้แล้ว นั่นก็คือการได้เข้าไพรเวทออดิชั่น หลังจากนี้ก็อยากลองทำงานในไทยเหมือนกันค่ะ ก็จะพยายามต่อไป ตอนนี้ก็มีทำคลิปใน Youtube ฝากติดตามกันด้วยนะคะ ถ้ามีคำถามอะไรเกี่ยวกับการออดิชั่นเพิ่มเติม ก็เข้าไปพูดคุยกันได้ที่ twitter @frhwjeepfie หรือไม่ก็ Instagram @jeepfiee ได้เลย
ถ้ามีโอกาสต้องรีบคว้า!
สุดท้ายนี้จิ๊ฟก็อยากฝากถึงเพื่อนๆ ชาว Dek-D ที่มีความฝันเดียวกันว่า ทุกคนต้องค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบที่แท้จริงให้เจอก่อน แล้วก็ต้องซ้อมเยอะๆ ต้องเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ ไม่อยากให้คิดว่าปีนี้ไม่พร้อม รอปีหน้าดีกว่า เพราะว่าโอกาสมันไม่ได้มีมาบ่อยๆ ค่ายเพลงปีนึงก็มาแค่ครั้งเดียวหรืออาจจะไม่มาเลยก็ได้ การเตรียมความพร้อมคือสิ่งที่สำคัญมากจริงๆ
น้องๆ ชาว Dek-D คนไหนที่มีความฝันเดียวกับน้องจิ๊ฟฟี่ พี่แพมก็ขอให้มุ่งมั่นตั้งใจ ฝึกซ้อมต่อไป ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกลเกินความตั้งใจของเราแน่นอน สุดท้ายนี้ พี่แพมอยากรู้จังว่า น้องๆ ชาว Dek-D คนไหนเคยไปออดิชั่นหรือแข่งขันอะไร? ที่ไหนกันบ้าง? มาแชร์ประสบการณ์กันหน่อยเร็ว
6 ความคิดเห็น
ชอบพี่จิ๊ฟฟี่ค่ะ คอยดูอยู่เรื่อยๆ ชอบที่เขาไม่ได้เห็นแก่ตัวยังแชร์ยังบอกเล่าประสบการณ์ให้คนอื่นรับรู้ด้วย มีทริคมีอะไรเค้าก็บอก โอกาสอย่างนั้นนะหายาก❤️
สวย เก่ง ทัศนคติดี ถ้ามีโอกาสอยากเห็นจิ๊ฟลงในคอลัมMeetingค่ะ
ตามพี่เค้ามาสักพักแล้วเหมือนกันค่ะ เป็นแรงบันดาลใจเป็นไอดอลในหลายๆเรื่องเลย คือชอบมากๆ ไม่ได้มีแค่หน้าตาแต่มีครบทุกอย่าง ถึงพี่เค้าจะไม่ได้เป็นในเส้นทางเกาหลีก็เชื่อว่ามีโอกาสในวงการบันเทิงบ้านเราแน่นอน คนเก่ง คนกล้าแสดงออกแบบนี้น่าสนับสนุนค่ะ เป็นกำลังใจให้และเชียร์อยู่เสมอนะคะ
พอเห็นตอนพี่เค้าเต้นออsmแล้ว........... เราคงต้องกลับไปฝึกอีกเยอะะะะ5555555
ชอบมากค่ะ เก่งมากๆ ขอให้ความพยายามประสบความสำเร็จในสักวันนะคะ เชียร์อยู่ค่ะหน้าตาก็สวยด้วย
ได้ไปเข้าค่ายของ SM เหมือนกัน ตอนซ้อมก็ได้คุยกับพี่แกบ้างนะ แต่พอครูฝึกสอนคัดคนที่ดูมีโอกาสจะผ่านการออ พอถึงตาเราละเราผ่าน พี่แกไปกระซิบกับเพื่อนเราว่า”ผ่านได้ไงวะ” ก็อืมจ้าาาา พอได้รู้จักตัวจริงก็นะ ไม่เหมือนที่คนอื่นๆพูดเลย
จิ๊ฟฟี่นะคะ เคยไปแค่dctค่ะ ไม่เคยไปเข้าค่ายที่ไหน เราน่าจะไม่รู้จักกันค่ะ เพราะเราไม่เคยไปพูดกับใครว่าผ่านได้ไงอยู่แล้ว อืม จ้าเหมือนกันค่ะ เพราะตัวจริงถ้าจะให้พูดให้ตำหนิ จะตำหนิกับเจ้าตัวเองเลยค่ะ : )