6 วิธี ไม่เลื่อนปลุกซ้ำๆ ลดความเสี่ยงเป็นโรคความจำเสื่อม!

 

____________

 

            “กริ๊ง! เมื่อเสียงนาฬิกาปลุกดังชึ้น ขอเลื่อนอีก 10 นาทีแล้วกัน” น้องๆ หลายคนคงเคยเป็นแบบนี้ จนทำให้ติดเป็นนิสัย แต่รู้หรือไม่การเลื่อนนาฬิกาปลุกบ่อยๆ นั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีนะ แถมยังเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ ตามมาได้ วันนี้พี่แท็คท์มีสาเหตุและวิธีแก้ที่จะช่วยให้น้องชาว Dek-D หายจากอาการเหล่านี้มาฝากกันมีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลยยยยยย

 

รูปจาก : https://www.freepik.com/

 

            ถือเป็นเรื่องปกติมากๆ ที่น้องๆ หลายคนจะต้องการกดปุ่มเลื่อนปลุกซ้ำๆ จากผลการสำรวจพบว่าวัยผู้ใหญ่มากกว่า 1 ใน 3 กดเลื่อนปลุกถึง 3 ครั้ง ก่อนที่จะตื่นขึ้นในตอนเช้า และมากกว่าครึ่งในวัย 20-30 ปี และอาจเกิดมากขึ้นในวัยรุ่นที่มีกิจกรรมค่อนข้างเยอะในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือสอบ การเล่นโซเชียลมีเดีย เป็นต้น จนส่งผลทำให้น้องๆ รู้สึกเหนื่อยและง่วงมากขึ้นในระหว่างวัน และการนอนหลับในเวลากลางคืนแย่ลงได้
 

            ผลกระทบระยะยาวของการกดปุ่มเลื่อนซ้ำๆ และนอนต่อ ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกายทั้งหมดไม่แน่ใจว่าจะต้องตื่นนอนและเข้านอนเวลาไหน ทำให้นอนหลับไม่เพียงพอ ซึ่งนำไปสู่ความเครียดที่เพิ่มมากขึ้น ภูมิคุ้มกันลดลง และการอักเสบเพิ่มขึ้น เอฟเฟกต์เหล่านี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดอาการเครียด สมาธิสั้น และมีแนวโน้มที่จะรู้สึกเฉื่อยชาหรือหงุดหงิดง่าย หนักไปกว่านั้นคือการเป็นโรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง และสมองเสื่อมได้

 

รูปภาพ : https://www.freepik.com/

 

            แล้วจะแก้ไขการเลื่อนปลุกซ้ำๆ ได้อย่างไร?
 

            1. น้องๆ นอนเร็วพอหรือยัง? หากนอนดึกเกินไปก็ไม่น่าแปลกใจที่จะกดปุ่มเลื่อนซ้ำๆ ในตอนเช้า ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่บอกว่าการนอนที่ดีจะต้องนอนให้ครบ 7-8 ชั่วโมง ถ้าน้องๆ ตั้งปลุกในเวลา 7 โมงเช้า ก็จะต้องเข้านอนในเวลาเที่ยงคืน
 

            2. น้องๆ คนไหนออกกำลังกายกันบ้าง? หลังจากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าคนที่ออกกำลังกายหรือแอ็คทีฟอยู่ตลอดเวลา จะหลับได้ดีกว่าคนที่อยู่นิ่งๆ เฉยๆ 
 

รูปจาก : https://www.freepik.com/

 

            3. น้องๆ ทำกิจกรรมเหล่านี้ก่อนเข้านอนหรือไม่? ดื่มกาแฟก่อนอาหารเย็น หรือเล่นโซเชียลก่อนนอน จะทำให้น้องๆ รู้สึกกระปรี้กระเปร่าเกินไปและทำให้หลับยาก ควรเลือกกิจกรรมที่ทำให้หลับง่ายขึ้น เช่น อาบน้ำ อ่านหนังสือ หรือการฟังเพลงที่ช่วยให้ผ่อนคลาย
 

            4. หากสภาพแวดล้อมของน้องๆ ไม่ดี จะทำให้หลับยากขึ้น ห้องนอนจึงเป็นต้องเงียบหรือเก็บเสียงรบกวนจากภายนอก และอุณหภูมิจะต้องเย็นสบาย
 

            5. มีปัญหาการนอนหลับเรื้อรังหรือไม่? เช่น โรคขาอยู่ไม่สุข หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับอาจทำให้นอนหลับไม่สนิท หากน้องๆ มีอาการเหล่านี้ ควรเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
 

            6. ควรตื่นขึ้นทันทีที่เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น มันอาจจะยากนิดหน่อย แต่จะทำให้น้องๆ เริ่มต้นวันใหม่ด้วยความสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น

 

            รู้แบบนี้แล้ว! น้องๆ Dek-D คนไหนที่ยังเลื่อนนาฬิกาปลุกซ้ำๆ อยู่ พี่แท็คท์อยากให้ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและนำวีธีที่นำมาฝากนี้ไปใช้กัน เพื่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี หรือหากใครวิธีที่ใช้กับตัวเองแล้วได้ผลสามารถคอมเมนต์พูดคุยกันได้นะ
 

ที่มา
https://amerisleep.com/