ฝันดี ฝันร้าย! พฤติกรรมความฝันแบบไหน ที่ส่งผลต่อการนอนหลับ

 

            “ฝันดี ฝันดี หรือฝันร้าย” ถือเป็นเรื่องปกติมากๆ ถ้าหากน้องๆ นั้นจะฝันในช่วงที่ตัวเองหลับพักผ่อน ในบางวันอาจจะฝันดีหรือบางวันอาจจะฝันร้าย วันนี้พี่แท็คท์มีงานวิจัยของ National Sleep Foundation ที่พูดถึงเรื่องของความฝันมาฝากน้องๆ Dek-D กัน มีอะไรบ้าง ตามดูได้เลยยยยยย

 

 
https://www.freepik.com/
 

            การที่น้องๆ ฝันร้ายนานๆ ในเวลากลางคืน ส่งผลให้ตื่นนอนหรือนอนหลับต่อนั้นยากกว่าปกติ ภาพในความฝันที่น่ากลัวนั้นจะสามารถส่งผลกระทบต่ออารมณ์และพฤติกรรมในวันถัดไปทำให้น้องๆ อาจรู้สึกหงุดหงิดตลอดทั้งวันได้
 

            ความฝันไม่สามารถรบกวนการนอนหลับของน้องๆ ได้ ถึงแม้จะเข้านอนหรือตื่นนอนไม่เป็นเวลาก็ตาม แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือเวลาเข้านอนและท่านอนที่อาจเปลี่ยนไปมา ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้จะทำให้น้องๆ รู้สึกเหนื่อยหรือผ่อนคลายน้อยลงในตอนที่ตื่นนอนได้

 

 
https://www.freepik.com/
 

            จากงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าคนที่มีการนอนหลับที่ดี มักจะฝันถึงเรื่องราวความสุขและสนุกสนาน ต่างจากคนที่เป็นโรคนอนไม่หลับมักจะฝันดีน้อยกว่า และบางครั้งยังเกิดภาพในความฝันที่ไม่ชัดเจนอีกด้วย

 

 
https://www.freepik.com/
 

            เนื้อหาในความฝันมักเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต หากน้องๆ ไม่มีความเครียดในวันนั้นจะส่งผลให้ฝันดีมากขึ้น ในทางตรงกันข้ามหากวันไหนที่น้องๆ รู้สึกเครียด หดหู่หรือวิตกกังวลในระหว่างวันก็อาจทำให้ฝันร้ายได้และยังส่งผลให้การนอนหลับตอนกลางคืนลดลงอีกด้วย ทางที่ดีที่สุดคือการทำให้จิตใจของน้องๆ ไม่มีความเครียด ไม่ว่าจะจากการอ่านหนังสือ การเรียน หรือครอบครัวก็ตาม จะสามารถทำให้คุณภาพการนอนและความฝันนั้นดีขึ้นได้

 

            เป็นไงกันบ้าง! กับงานวิจัยที่พี่แท็คท์นำมาฝากในวันนี้ น้องๆ ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและคิดบวกเข้าไว้ ก็จะช่วยให้น้องๆ หลับเต็มอิ่มและฝันดีได้อย่างแน่นอน น้องๆ คนไหนที่นำไปใช้แล้วได้ผลกันบ้าง อย่าลืมคอมเมนต์พูดคุยกับพี่แท็คท์กันได้นะ
 

 ที่มา
https://www.sleepfoundation.org/