วิจัยพบ เสียงนาฬิกาปลุกโหดๆ ทำให้เรางัวเงียยิ่งกว่าเสียงเมโลดี้หวานๆ

                                     เวลาตั้งนาฬิกาปลุก น้องๆ เลือกเสียงปลุกแบบไหนกันคะ? เพราะในโทรศัพท์มักจะมีให้เราเลือกทั้ง เสียงปลุกแบบโหดๆ เช่น เสียงหวอ เสียงสัญญาณเตือนภัย และ เสียงปลุกแบบหวานๆ เช่น เสียงเมโลดี้น่ารักๆ เสียงน้ำตก นกร้องต่างๆ ซึ่งพี่กวางเชื่อว่าต้องมีหลายคนมากๆ ที่เลือกเสียงปลุกแบบโหดๆ เพื่อให้ตัวเองสะดุ้งตื่นเอาไว้ก่อน แต่รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วเสียงปลุกน่ารักหวานๆ กลับช่วยปรับสมองให้ตื่นแล้วสดชื่นกว่าซะอีกนะ
 

ภาพจาก unsplash.com
 

                              อาการอ่อนเพลีย งัวเงีย ไม่กระฉับกระเฉงหลังตื่นนอนนั้น เรียกว่า Sleep Inertia หรือ SI ค่ะ ซึ่งโดยปกติคนเรามักมีอาการแบบนี้อยู่นานถึง 4 ชั่วโมงหลังตื่นนอน สำหรับบางคนอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่สำหรับน้องๆ ที่ต้องสอบ ต้องเล่นกีฬา หรือผู้ใหญ่ที่ทำอาชีพเสี่ยงๆ เช่น นักดับเพลิง นักบิน และทหาร อาจเกิดอันตรายได้ หากมีอาการ SI นานเกินไป

                              เหตุนี้ เหล่านักวิทยาศาสตร์จาก Australia’s RMIT University จึงได้รวบรวมอาสาสมัครกว่า 50 คนมาศึกษาและติดตามผลต่อเนื่องยาวนานถึง 1 ปี ด้วยการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับเสียงตั้งปลุกที่ใช้ และวัดระดับความกระฉับกระเฉงหลังตื่นนอน พบว่า เสียงเพลงปลุกแบบนุ่มนวลนั้นมีผลต่อการเกิด SI อย่างมีนัยยะสำคัญ นั่นคือพบว่า ในอาสาสมัครที่เลือกใช้เสียงปลุกโหดๆ จะเกิด SI ได้มากกว่า
 

ภาพจาก unsplash.com
 

                              ศาสตราจารย์ Adrian Dyer อธิบายเพิ่มเติมว่า  “เสียงตั้งปลุกโหดๆ เช่น เสียงหวอ หรือเสียงสัญญาณเตือนภัย จะรบกวนประสาทสมองจนทำให้ตื่น ในทางตรงข้ามกัน เสียงปลุกเป็นเมโลดี้นิ่มนวล เช่น เพลง Good Vibrations ของ The Beach Boys หรือเพลง Close to Me ของ The Cure นั้น จะค่อยๆ กล่อมสมองเราให้ตื่นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากกว่า”

                               “หากเราศึกษาต่อไปเกี่ยวกับความเชื่อมโยงของเสียงและการตื่นนอน จะต้องเกิดประโยชน์อีกมากมาย โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีการนอน รวมถึงการพัฒนา AI ด้วย”
 

 

                             รู้แบบนี้แล้วใครที่รู้สึกอ่อนเพลียตลอดเวลา ลองเปลี่ยนเสียงตั้งปลุกเป็นเมโลดี้น่ารักๆ ฟังสบายๆ แทนเสียงปลุกแบบโหดๆ ดูนะคะ แล้วถ้าได้ผลอย่างไร อย่าลืมมารีวิวกันบ้างล่ะ ที่แน่ๆ ไม่ว่าจะเสียงปลุกแบบไหนก็ตาม อย่าลืมหาเวลาพักผ่อนให้เยอะๆ วันละ 8-10 ชั่วโมง เพื่อให้สมองได้พักผ่อนเต็มที่ พร้อมสำหรับการเรียนรู้ในวันใหม่ค่ะ

                              น้องๆ ชาว Dek-D ล่ะ ใช้เสียงปลุกแบบไหนกันอยู่ แล้วอาการเป็นยังไงบ้าง เล่าให้พี่กวางฟังหน่อยนะ

ที่มา

https://newatlas.com/