ง่วงแต่นอนไม่ได้! 9 วิธี เอาชนะความง่วงในตอนกลางวัน โดยผู้เชี่ยวชาญ



 
Spoil
  • วิจัยพบว่าการกินแก้ง่วง ช่วยได้ 1 ชั่วโมง แต่ถ้า ออกไปเดินแก้ง่วง จะช่วยได้    2 ชั่วโมง
    • หัวข้อคุยกับเพื่อนที่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าแก้ง่วงได้ดีที่สุด คือหัวข้อเกี่ยวกับ การเมือง
    • กินน้ำน้อยก็ทำให้ง่วงได้ เวลาอ่านหนังสืออย่าลืมวางน้ำไว้บนโต๊ะขวดใหญ่ๆ

______________


            เป็นกันมั้ยคะ กลางวันแสกๆ ฟ้าสว่างจ้า ห้องก็เปิดไฟครบทุกดวง แต่มันง่วงมากกกไม่รู้ทำไม บางทีเพิ่งตื่นเมื่อกี้ แต่ก็อยากนอนอีกแล้ว อาการแบบนี้บอกเลยว่าไม่ดีต่อเด็กนักเรียนอย่างเราแน่ เพราะอ่านอะไรก็พาลจะไม่เข้าหัวไปหมด พี่กวางจึงขอนำเคล็ดลับมาบอกต่อ ว่าทำยังไงนะเราถึงจะเปลี่ยนจากความง่วง เป็นความ Fresh ตลอดวันได้! รอช้าอยู่ทำไม ใครกำลังง่วงฮึบไว้อีกนิด แล้วเลือกทำตามจาก 9 วิธีนี้เลย
 

ภาพจาก unsplash.com

 
วิธีที่ 1 : หยุดกิน! แล้วออกไปเดิน
            พี่กวางรู้นะคะ ว่าน้องๆ หลายคน (รวมถึงพี่กวางด้วย) พอง่วงปุ๊บเป็นกินปั๊บ แต่จากการวิจัยของศาสตราจารย์ Robert Thayer แห่ง California State University พบว่า คนที่กินขนมหวานแก้ง่วงนั้นร่างกายจะสดชื่นขึ้นก็จริงค่ะ แต่สดชื่นแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ก่อนจะกลับไปง่วงๆ เหมือนเดิม ต่างจากคนที่ออกไปเดินยืดเส้นยืดสายซัก 10 นาที ที่จะทำให้ร่างกายสดชื่นได้นาน 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว สาเหตุก็เป็นเพราะว่าการเดินนั้นช่วยเติมออกซิเจนเข้าสู่เส้นเลือดดำ สมอง และกล้ามเนื้อของเรา ทำให้รู้สึกสดชื่นมากกว่าการกินนั่นเองค่ะ

 
วิธีที่ 2 : ง่วงมากก็งีบเถอะ
            จำไว้ค่ะว่า “ง่วงก็อย่าฝืน” แต่ไม่ใช่เอะอะๆ ล้มตัวนอนลูกเดียวนะคะ เพราะคุณหมอ Barry Krakow ผู้เขียนหนังสือ Sound Sleep, Sound Mind: Seven Keys to Sleeping Through the Night. ได้แนะนำเอาไว้ว่า หากง่วงในช่วงกลางวันเราควรงีบสั้นๆ ไม่เกิน 25 นาทีเท่านั้น และหลีกเลี่ยงการงีบในช่วงเวลาใกล้นอนด้วย แต่ถ้าหากเราอยู่ในโรงเรียนและไม่สามารถหาที่งีบหลับได้ ดร.Allison T. Seibern แห่ง Stanford University Sleep Medicine Center in Redweed City ก็แนะนำไว้ว่า แค่นั่งหลับตาแล้วพักสั้นๆ ประมาณ 10 นาที ก็ช่วยได้แล้วค่ะ
 

ภาพจาก unsplash.com

 
วิธีที่ 3 : เลิกมองจอบ้าง
            ในยุค 4.0 ที่ทุกคนติดมือถือแบบนี้ เชื่อไหมว่าคืออีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกง่วง และอ่อนเพลียค่ะ เพราะแสงฟ้าจากจอมันรบกวนทำให้ดวงตาเราอ่อนล้านั่นเอง เราจึงควรพักสายตาจากหน้าจอต่างๆ บ้าง ไม่ว่าจะจอมือถือ แท็บแล็ต หรือจอคอม แล้วไปมองอะไรเขียวๆ หรืออะไรที่มองแล้วสบายตาแทนบ้างค่ะ
 
วิธีที่ 4 : ของกินบางอย่างก็ช่วยได้
            ถึงข้อแรกพี่กวางจะบอกว่า การกินมันช่วยได้แค่แป๊บเดียวเท่านั้น แต่พี่กวางก็เชื่อว่าน้องๆ หลายคนก็ยังอยากจะกินอยู่ดี ถ้าอย่างนั้นก็กินได้ค่ะ แต่รู้ไหมว่าขนมหวานที่น้องๆ ชอบกัน แม้จะกินแล้วรู้สึกสดชื่นแค่ไหน ก็ช่วยได้เพียงช่วงสั้นๆ ก่อนจะกลับไปเซื่องซึมเหมือนเดิมตามปริมาณน้ำตาลที่ลดลง ดังนั้นถ้าอยากกินขนมที่ทำให้ร่างกายกะปรี้กะเปร่ายาวนาน ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้กิน โยเกิร์ต+ผลไม้สด, แครกเกอร์+เนยถั่ว และ เบบี้แครอทจิ้มชีส Low-fat ค่ะ ลองแล้วได้ผลแค่ไหนมาบอกพี่กวางหน่อยนะ
 

ภาพจาก unsplash.com

 
วิธีที่ 5 : ชวนเพื่อนเมาท์มอย
            วิธีนี้พี่กวางว่าหลายคนถนัด นั่นก็คือการหันไปชวนเพื่อนคุยรัวๆ เลยจ้า ง่วงเมื่อไหร่รีบคิดท็อปปิกมาชวนเพื่อนเมาท์หน่อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องติ่ง เรื่องข่าว หรือเทรนด์ฮิตต่างๆ ซึ่งผู้อำนวยการแห่ง Maimonides Sleep Arts and Sciences Ltd. ก็ได้กล่าวไว้ว่า “การพูดคุยช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเราตื่นตัวได้มาก โดยเฉพาะการพูดคุยหัวข้อการเมือง” อุ๊ย...
 
วิธีที่ 6 : เปิดไฟให้สว่างจ้า
            สำหรับใครที่รู้สึกง่วงๆ ลองสังเกตดูว่าไฟในห้องเราเป็นยังไงค่ะ ถ้ามันมืดๆ ทะมึนๆ ลองเดินไปเปิดไฟให้ครบทุกดวงดูนะ เพราะมีผลวิจัยพบว่าแสงสว่างสามารถช่วยลดความง่วงและเพิ่มความกะปรี้กะเปร่าได้ นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้ออกไปเจอแสงแดดบ้าง ประมาณวันละ 30 นาทีค่ะ จะให้ดีก็ตื่นมาแล้วออกไปเจอแดดซักหน่อย ทำแบบนี้จะช่วยให้ร่างกายเราหลับสบายขึ้นในตอนกลางคืน และอ่อนเพลียน้อยลงในช่วงกลางวันค่ะ
 

ภาพจาก unsplash.com

 
วิธีที่ 7 : หายใจลึกๆ
            การหายใจลึกๆ ช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนในร่างกาย ทำให้หัวใจทำงานช้าลง ลดระดับความดันเลือด ช่วยให้เราสดชื่นขึ้น ซึ่งวิธีหายใจเข้าไล่ความง่วงก็ทำได้ง่ายมากๆ แค่นั่งหลังตรงบนเก้าอี้ วางมือข้างหนึ่งบนหน้าท้อง (ล่างซี่โครง) ส่วนอีกข้างวางบนหน้าอก จากนั้นหายใจเข้าลึกๆ ทางจมูก ให้พุงเราดันมือออกมา โดยที่หน้าอกไม่ขยับ แล้วค่อยๆ ปล่อยลมหายใจออกทางปากช้าๆ เหมือนเรากำลังผิวปากอยู่ โดยใช้มือที่หน้าท้องช่วยไล่ลมออกมาด้วยก็ได้ ทำแบบนี้ประมาณ 10 ครั้ง เราก็จะรู้สึก Fresh ขึ้นได้เลยค่ะ ลองดูนะ
 
วิธีที่ 8 : สลับงานอื่นมาทำบ้าง
          มีการวิจัยพบว่าคนที่ทำงานเดิมๆ ติดต่อกันนานๆ นั้น จะทำให้เกิดความเฉื่อยชาให้การทำงาน ดังนั้นเราจึงควรสลับงาน หรือสลับวิชาที่กำลังอ่านอยู่บ้างเมื่อรู้สึกง่วง หรืออาจใช้วิธีเปลี่ยนแนวการอ่าน เช่น อ่านวิชาสังคมแล้วง่วงมาก ก็ลองหยิบโจทย์เลขมาทำต่อแทน เพื่อให้เปลี่ยนแนวจากอ่านเฉยๆ เป็นเขียนแก้โจทย์บ้าง ก็จะช่วยได้เหมือนกันค่ะ
 
วิธีที่ 9 : ดื่มน้ำเยอะๆ
          รู้กันรึเปล่าว่าบางครั้งเราก็อ่อนเพลียเพราะร่างกายขาดน้ำนะ! การวางน้ำไว้บนโต๊ะอ่านหนังสือเสมอ (และดื่มด้วย) จึงสำคัญมากๆ รวมถึงการกินผักผลไม้ที่มีน้ำเยอะๆ ก็ช่วยได้เหมือนกันค่ะ
 

ภาพจาก unsplash.com

 
            อย่างที่ทุกคนรู้ว่าการอ่านหนังสือกับความง่วงมันเป็นของคู่กัน แต่หลายครั้งเราก็นอนไม่ได้ ถ้าใครประสบปัญหานี้อยู่อย่าลืมนำวิธีเหล่านี้ไปลองใช้กันนะคะ เพื่อให้ร่างกายตื่นตัว สมองไบร์ท พร้อมกับการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ค่ะ
 
            หรือใครมีเคล็ดลับแก้ง่วงอะไรเด็ดๆ ที่เคยใช้แล้วได้ผล แชร์ให้เพื่อนๆ ลองเอาไปทำตามกันได้นะคะ



 
ที่มา
พี่กวาง
พี่กวาง - Columnist พลเมืองบางบัวทอง ผู้ตามทันทุกเทรนด์ฮิต เพราะไถทวิตเตอร์ระหว่างรถติดแยกแคราย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด