Spoil
- โดนัทมีที่มาจากผู้อพยพชาวดัตช์ ก่อนที่ครอบครัว Gregory จะนำไปพัฒนาต่อ
- โดนัทเป็นขนมที่ได้รับความนิยมไปทั่วอเมริกา โดยเฉพาะใน Boston
- โดนัทคืออาหารแห่งศตวรรษ
ถ้าพูดถึงขนมทานเล่นอย่างหนึ่งที่ฮิตฮอตไปทั่วประเทศ ไม่สิ ทั่วโลกไปเลย เป็นขนมที่กินแล้วพออยู่ท้อง รสชาติหวานอร่อยกลมกล่อมจนมัดใจใครได้หลายๆ คน แป้งนุ่มนิ่มชวนลิ้มลองพร้อมกับท็อปปิ้งเคลือบผิวที่มีหลากหลายรสชาติแล้วแต่คนจะชอบแบบไหน พร้อมกับเอกลักษณ์ที่ทำให้มันเป็นอาหารที่ถือกินได้ง่ายด้วยการทำเป็นวงแหวน ใช่แล้วโดนัทนั่นเอง!
ในขณะที่เรารู้จักกับโดนัทมานานแสนนาน หลงใหลในรสชาติความอร่อยจากโดนัทตามแต่ละแฟรนไชส์ชื่อดังภายในห้าง หรือร้านเบเกอรี่เล็กๆ ตามตลาดเอง จะมีใครสักกี่คนที่รู้ว่าโดนัทมีต้นกำเนิดมาจากที่ไหน มีเรื่องราวความเป็นมาอย่างไร หรือมีอะไรที่เรายังไม่รู้เกี่ยวกับมันอีกบ้าง? ติดตามอ่านต่อได้ที่บทความนี้เลยครับ เพราะเราจะพาไปเปิดเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโดนัทกัน!
1.จุดเริ่มต้นของโดนัท
โดนัทมีจุดเริ่มต้นจากในช่วงกลางยุคปี 1800 โดยผู้อพยพชาวดัตช์ที่อพยพมายังอเมริกา โดยได้รับผลกระทบจากยุคของการล่าอาณานิคมเป็นคนเริ่มคิดค้นการทอดแป้งแบบนี้ขึ้นมา แต่มันก็ยังเป็นเพียงตัวต้นแบบที่เป็นเพียงการเอาแป้งปั้นก้อนกลมไปทอดในน้ำมันเท่านั้น
จนกระทั่งในปีค.ศ.1847 Elizabeth Gregory หญิงสาวที่เป็นแม่ของกัปตันเรือ New England เกิดความหวังดีอยากจะทำอาหารที่เก็บไว้กินได้นานให้ลูกชายได้กินบนเรือ เธอจึงนำเอาส่วนผสมภายในคลังเสบียงของเรือมาใช้เป็นวัตถุดิบ ไล่ตั้งแต่ ลูกจันทน์เทศ อบเชย และเปลือกมะนาวมาใส่ลงในแป้งทอด ก่อนจะเอาถั่วเฮเซลนัทมาวางโปะไว้ด้านบนของแป้งทอดนั้น และมันจึงกลายเป็นที่มาของชื่อโดนัทนั่นเอง มาจากคำว่า Dough ที่แปลว่าแป้ง และคำว่า Hezelnut มาผสมกันนั่นเอง
2.สาเหตุที่โดนัทมีรู
แต่มันก็ยังไม่ใช่เวอร์ชันแบบที่เราคุ้นเคยเพราะโดนัทของคุณนาย Gregory ยังคงเป็นแป้งแผ่นอยู่ ซึ่งคนที่ทำให้เกิดรูเป็นรูปวงแหวนกลางโดนัทก็ไม่ใช่ใครที่ไหน Hanson Gregory ลูกชาวหัวแก้วหัวแหวนของคุณนายนั่นเอง เขาไม่ชอบความอมน้ำมันของแป้งที่พอหยิบกินแล้วมันเลอะมือ จึงเอาขวดพริกไทยมาบดเอาแป้งตรงกลางออกไปเพื่อให้ง่ายต่อการถือกิน และเลอะมือน้อยกว่าด้วย แล้วจากนั้นลูกชายก็สอนให้แม่เปลี่ยนเทคนิคการทำ จนมันกลายมาเป็นโดนัทอันเลื่องชื่อที่ทุกคนคุ้นเคยนั่นเอง
3.ในสหรัฐอเมริกามีโดนัทถูกผลิตขึ้นมากกว่า 1 หมื่นล้านชิ้นต่อปี
อย่างที่รู้กันไปแล้วว่าโดนัทเกิดขึ้นที่อเมริกา เพราะงั้นจึงไม่แปลกใจที่มันจะโด่งดังในที่นั่นเป็นจุดเริ่มต้นแล้วขยายอำนาจความอร่อยไปทั่วโลก เพราะแบบนั้นแหละมันจึงทำให้ธุรกิจโดนัทในอเมริกาเลยเป็นอะไรที่ใหญ่โตมโหฬารมาก! จึงไม่แปลกเลยที่ทำให้กำลังการผลิตโดนัทต่อปีของอเมริกาถึงได้สูงลิบลิ่วกว่า 1 หมื่นล้านชิ้นต่อปีไปเลย เพราะใครๆ ก็ชอบกินโดนัท ธุรกิจเองก็แข่งขันกันสูงด้วย
ในส่วนของแคนาดาประเทศเพื่อนบ้านของอเมริกา แม้จะผลิตโดนัทน้อยลงในช่วงหลังมานี้ ประมาณ 1 พันล้านชิ้นต่อปี แต่กลับกลายเป็นประเทศที่มีร้านโดนัทเยอะที่สุดตามเมืองต่างๆ มากที่สุดในโลกไปโดยปริยาย เรียกได้ว่าแถบโซนนั้นโดนัทคือของกินแสนอร่อยจริงๆ
4.มีกว่า 10 คนในอเมริกาที่มีชื่อ หรือนามสกุลว่า Doughnut หรือ Donut
เป็นตัวตอกย้ำเข้าไปอีกว่าโดนัทสำคัญสำหรับชาวอเมริกันขนาดไหน ก็ขนาดเอาไปตั้งเป็นนามสกุลกันไปเลยยังไงล่ะ จากข้อมูลในปี 2011 แม้จะยังไม่ชัดเรื่องที่ว่าเป็นนามสกุลแต่กำเนิด หรือมาเปลี่ยนเอาเองตามใจชอบทีหลัง แต่ก็มีกว่า 10 ครอบครัวที่มีนามสกุลว่าโดนัท รวมไปถึง 13 คนที่ใช้ชื่อจริงตัวเองว่าโดนัทเองก็มีเหมือนกัน จึงทำให้ชื่อโดนัทนี้กลายเป็นอันดับที่ 245,396 ชื่อที่นิยมที่สุดในอเมริกาไปเลย
แต่อเมริกานี่ยังเด็กๆ ต้องบ้านเราสิถึงของจริง อาจจะไม่ได้เป็นชื่อจริงแต่ในฐานะชื่อเล่น ชื่อว่าโดนัทนี่เจอได้บ่อยมากเลย อย่างพี่เบสเองก็มีเพื่อนที่ชื่อโดนัทอยู่ถึง 2 คนด้วยกันเลยล่ะ
5.Washington Irving คือนักเขียนคนแรกที่เขียนเกี่ยวกับโดนัทลงสื่อสิ่งพิมพ์
Washington Irving เป็นที่รู้จักกันในฐานะผู้เขียนหนังสือ The Legend of Sleepy Hollow ซึ่งเขาได้เขียนรีวิวโดนัทเอาไว้ในปี 1809 ในสมัยที่มันยังไม่ได้กลายเป็นโดนัทฟูลเวอร์ชันอย่างทุกวันนี้ด้วยซ้ำ โดยเขาเขียนเอาไว้ว่า บอลแป้งกลมที่เต็มไปด้วยความหวาน ทอดด้วยน้ำมันหมูจนทำให้ชุ่มฉ่ำ มันถูกเรียกว่า Olykoeks โดยมันเป็นชื่อแรกเริ่มของโดนัทที่ถูก และมันก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นที่รู้จักของโดนัทนั่นเอง
6.ครั้งหนึ่งถูกเรียกว่า Olykoeks (โอลี่กุ๊กส์) มาก่อน
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าโดนัทมีจุดเริ่มต้นมาจากการทอดขนมปังในน้ำมันของกลุ่มชาวดัตช์ผู้อพยพมายังอเมริกา มันเลยทำให้ชื่อดั้งเดิมของมันมีที่มาจากภาษาดัตช์ นั่นก็คือคำว่า Olykoeks ที่แปลว่าเค้กมันๆ นั่นเอง
7.ร้าน Voodoo Doughnut วางขายโดนัทรสยาที่ทำมาจากยาลดกรด และยาแก้หวัด
มันคือโดนัทรสชาติยาสามัญประจำบ้านอย่างยาลดกรด และยาแก้หวัด มีขายอยู่ในร้าน Voodoo Doughnut ในเมือง Portland รัฐ Oregon ที่มีชื่อเสียงรสชาติโดนัทแบบแปลกๆ อย่างโดนัทป่าก็มีให้เห็นมาแล้ว โดยพวกเขาผลิตโดนัทรสยาลดกรด กับยาแก้หวัดขึ้นมาด้วยไอเดียที่ต้องการจะให้ของว่างรองท้องนี้เป็นตัวช่วยในการกินยาได้ด้วย แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดก็ต้องปิดการขายโดนัทรสยาลงเพราะการเข้ามาตรวจสอบของคณะกรรมการอาหารและยา
8.โดนัทจากหัวมัน!
Spudnuts นี่คือชื่อของแฟรนไชส์โดนัทที่ทำมาจากมันฝรั่งบด ต่างจากโดนัทปกติที่ทำมาจากแป้งสาลี ก่อตั้งโดยสองพี่น้องที่เป็นพนักงานขายเครื่องใช้ไฟฟ้า และเสมียนร้านขายยาในปี 1940 โดยพวกเขาได้ชื่อว่าเป็นร้านโดนัทแห่งแรกของ Los Angeles เลยทีเดียว หากแต่น่าเสียดายที่มันเคยเป็นที่นิยม แต่ปัจจุบันนั้นชื่อของร้าน Spudnuts ได้หายไปจากวงการโดนัทไปเป็นที่เรียบร้อย เหลือไว้เพียงแต่โดนัทมันฝรั่งบดที่พวกเขาคิดตั้งทิ้งเอาไว้จนทำให้มันมีชื่อเรียกว่า Spudnuts อย่างเป็นทางการนั่นเอง
9.Boston เมืองแห่งโดนัท
ในเมือง Boston ถือเป็นเมืองที่มีร้านโดนัทเยอะที่สุดตามค่าเฉลี่ยต่อคน เรียกได้ว่ามีร้านโดนัทต่อทุก 2,480 คน อ้างอิงจากนิตยสารทางการค้าอย่าง Adweek แสดงให้เห็นถึงความชื่นชอบในโดนัทของชาว Boston ที่มีมากขนาดนี้
10.NUN'S FARTS โดนัทของชาวฝรั่งเศส
ขนมปังชุบแป้งทอดแผ่นบางเฉียบนี่คือความแตกต่างของโดนัทแห่งฝรั่งเศส และโดนัทของอเมริกัน พวกเขาตั้งชื่อเมนูนี้ว่า Pets de nonne แปลได้แบบขำๆ ว่าแม่ชีผายลม จึงกลายมาเป็น Nun’s Farts นั่นเอง
11.ตำรวจอเมริกาชอบกินโดนัทจริงหรือไม่?
เป็นภาพจำที่มักจะเห็นกันในภาพยนตร์ของอเมริกาที่เรื่องไหนมีตำรวจ แทบทุกเรื่องพวกเขาต้องพกกล่องโดนัทไปกิน ทั้งในห้องทำงาน สถานีตำรวจ หรือกระทั่งในรถปฏิบัติหน้าที่ส่วนตัวก็ตาม จนทำให้เป็นจุดสังเกตว่าที่อเมริกาตำรวจชอบกินโดนัทจริงๆ สินะ? คำตอบมันเป็นอย่างนี้ครับ
เพราะร้านอาหารที่เปิดดึกๆ มันมีน้อย นายตำรวจที่มักจะประจำกะดึกจึงไม่ค่อยมีทางเลือกมากนัก เลยต้องไปพึ่งพาร้านโดนัทที่เปิดดึกละแวกนั้นรองท้องจนกว่าจะเช้า ซึ่งมันก็กลายเป็นวงจรความสัมพันธ์ที่พัฒนากันขึ้นไปโดยไม่รู้ตัว ร้านโดนัทก็แฮปปี้เพราะตำรวจมานั่งกินจะทำให้ร้านดูปลอดภัยขึ้น แล้วตำรวจเองก็มีที่สังสรรค์เปลี่ยนบรรยากาศจากในออฟฟิศได้อีกด้วย และหลังจากนั้นก็เลยกลายเป็นเหมือนภาพจำไปแล้วว่าตำรวจ กับร้านโดนัทกลายเป็นของคู่กัน และเป็นมาตั้งแต่ปี 1950 แล้วเสียด้วย
12.Renée Zellweger เพิ่มน้ำหนักของตัวเองด้วยการกินโดนัท 20 ชิ้นต่อวัน
Renée Zellweger นักแสดงสาวมากฝีมือชาวอเมริกันเคยต้องเพิ่มน้ำหนักตัวเองเพื่อรับบทในตำนานที่ทำให้เธอโด่งดัง นางเอกของเรื่อง Bridget Jones: The Edge of Reason ในปี 2004 โดยการวิธีการเพิ่มน้ำหนักที่เธอบอกมาก็คือ เธอกินแฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่า เฟรนช์ฟรายส์ทอดราดเนย และโดนัท 20 ชิ้นทุกวันเพื่อเพิ่มน้ำหนักให้ทันต่อการถ่ายทำนั่นเอง แสดงให้เห็นว่าโดนัทเป็นหนึ่งในอาหารที่แคลอรีสูง และไม่ควรทานมากเกินไปต่อ 1 วัน
13.Clark Gable สอนวิธีกินโดนัทให้กับคนที่ดูหนังเรื่อง It Happened One Night
ในช่วงปี 1934 ที่หนังเรื่องนี้ออกฉายหนึ่งในตัวละครที่ Clark Gable รับบทอยู่ได้สอนให้กับตัวละครอีกตัวที่แสดงโดย Claudette Colbert ได้รับรู้วิธีการกินโดนัทอย่างอร่อยที่สุดโดยพูดว่า"โดนัทจุ่มเครื่องดื่ม คือศิลปะ แต่อย่าจุ่มนานล่ะ เพราะเดี๋ยวท็อปปิ้ง และหน้าโดนัทจะหลุดออกหมด แถมยังทำให้เนื้อแป้งพองกินไม่อร่อยอีกต่างหาก ต้องกะเวลาให้พอดิบพอดี อ่า ฉันว่าฉันน่าจะเขียนหนังสือเกี่ยวกับมันนะเนี่ย” นี่คือประโยคสนทนาดังกล่าวที่เป็นการแนะนำให้อีกตัวละครได้ลองกินโดนัทจุ่มกับอะไรสักอย่างดู และมันก็กลายเป็นอีกวิธีกินที่น่าสนใจไปเลยเหมือนกัน
14.โดนัทสำหรับทหารในสงครามโลกครั้งที่ 1
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 คนงานของ Salvation Army จะนำเอากาแฟ และโดนัทเข้าไปในสนามเพลาะของทหารอเมริกันที่กำลังรบกับฝรั่งเศสอยู่ เพื่อให้พวกเขาได้ทานขนมอร่อย และย้ำเตือนให้หวนคิดถึงบ้านด้วยโดนัท
15.ร้านโดนัทแห่งหนึ่งใน California ได้ไปอยู่ในหนังชื่อดัง
ร้าน Randy's Donuts มีรูปปั้นโดนัทขนาดใหญ่สูง 32 ฟุต หรือกว่า 9.7 เมตร บนหลังคาของร้านทำให้มันเป็นจุดโดดเด่น และเป็นที่ที่หนัง Hollywood ส่วนใหญ่มักจะไปใช้ถ่ายทำกัน โดยร้านถูกเปิดตัวในช่วงปี 1950 ในฐานะเครือข่ายลูกของ Big Donut Drive-In แต่ปัจจุบันก็ล้มเลิกไปแล้ว แต่มันก็ยังปรากฏตัวในหนังอยู่หลายเรื่อง เช่น Earth Girls are Easy (1988) , Get Shorty (1995) , The Golden Child (1986) , Crocodile Dundee (1986) และ Iron Man 2 (2010) เป็นต้น
16.นี่คืออาหารแห่งศตวรรษ
ในงาน Chicago World’s Fair ปี 1933 จะมีการมอบรางวัล A Century of Progress แล้วโดนัทก็ไปคว้ารางวัล Hit Food of the Century of Progress ไปครองมาได้สำเร็จ มาจากเพราะความอร่อย ความเข้าถึงง่าย ราคาที่ถูก ผลิตได้ง่าย เพราะมีเครื่องจักรคอยผลิตเลยทำให้มันผลิตได้ไวด้วย จึงกลายเป็นอาหารขวัญใจชนชั้นแรงงานที่มีจำนวนมาก โดยเฉพาะในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำภายในยุคนั้นด้วย และนั่นเลยเป็นที่มาของการได้รางวัลนี้ของโดนัท อันนี้เป็นข้อสันนิษฐานที่คุณ Levitt Steinberg ผู้คิดค้นเครื่องผลิตโดนัทได้กล่าวเอาไว้
เป็นยังไงกันบ้างครับทุกคนกับเรื่องราวที่น่าสนใจของโดนัทที่บางเรื่องก็ไม่คาดคิดสุดๆ ไปเลยว่าแบบนี้ก็มีด้วยเหรอ? ทั้งประวัติเอย ความนิยมเอย เกร็ดน่ารู้ต่างๆ เอย ขนาดพี่เบสไม่ได้เป็นคนที่ชอบกินโดนัทมากขนาดนั้นพอรู้ว่าโดนัทผ่านการเดินทางอันยาวนานมาด้วยเรื่องราวแบบนี้มันก็ยังอดที่จะชื่นชมถึงความสุดยอดของมันไม่ได้เลยเหมือนกัน
เพื่อนๆล่ะครับคิดเห็นยังไงบ้างกับเจ้าขนมชิ้นนี้ ส่งความเห็นเข้ามาพูดคุยกันในคอมเมนต์ได้เหมือนเคยเลยนะครับ
ข้อมูลจาก:https://www.smithsonianmag.com/history/the-history-of-the-doughnut-150405177/https://www.mentalfloss.com/article/71300/15-delicious-facts-about-doughnuts?
0 ความคิดเห็น