Spoil
- การดูดวงทำให้เกิด Sense of Control ทำให้เรามีความมั่นใจในการทำสิ่งต่างๆ มากขึ้น เพราะรู้สึกว่าตัวเองควบคุมได้
- The Barnum Effect เป็นปรากฎการณ์ที่เราได้รับคำทำนายกว้างๆ แต่รู้สึกว่ามันแม่นมาก เพราะเราเอาไปคิดตีความเข้ากับประสบการณ์ต่างๆ ของตัวเอง
- แต่ทั้งนี้ การดูดวงเป็นความเชื่อส่วนบุคคล หากดูแล้วสบายใจก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรเลย
ช่วงนี้ราศีใดมีเกณฑ์จะปัง
เปิดไพ่ประจำวัน วันนี้ควรระมัดระวังเรื่องอะไรบ้าง
ตารางเสื้อสีมงคล เบอร์มงคล
ทั้งหมดที่พี่นักเก็ตว่ามา ใครเคยผ่านการ “อิน” เรื่องไหนมาแล้วบ้าง? เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่วงนี้กระแส มูเตลู กำลังมาแรงมากกก จนวัยรุ่นหลายคนก็ผันตัวไปเป็น “สายมู” กับเขา สาเหตุหลักๆ ก็เพราะมันทำให้หลายคนสบายใจ เป็นที่พึ่งทางใจ เพิ่มความมั่นใจ และคลายความกังวลใจบางอย่างได้ สังเกตสิว่ามูเตลูนี้เล่นกับ “ใจ” ของเราล้วนๆ เพราะโดยปกติ มนุษย์เราต่างพยายามหาวิธีสานอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของตนเองจากเป้าหมายและความคาดหวัง การดูดวงจึงเป็นทั้งคำตอบและคำอธิบายที่ชัดเจน ทำให้หลายคนเห็นภาพตัวเองชัดขึ้น และได้รับการตอบสนองเป้าหมายบางอย่างในจิตใจที่แตกต่างกัน
แม้วิทยาศาตร์และเทคโนโลยีปัจจุบันจะพัฒนาไปไกล มีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นเยอะมาก แต่การดูดวงหรือ “มูเตลู” ก็ยังได้รับความนิยม แม้กระทั่งในเด็กรุ่นใหม่! มีงานวิจัยจากประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า แม้ปัจจุบันความเชื่อเรื่องศาสนาและโหราศาสตร์จะลดลงไป แต่คนก็ยังชอบดูดวงชะตาและสนใจคำทำนายจากราศีอยู่ เฉพาะสถิติในประเทศสหรัฐอเมริกา ก็มีวัยรุ่นที่ชื่นชอบเรื่องนี้มากเกินกว่า 50% (แหล่งอ้างอิง : https://www.nsf.gov/statistics/seind14/index.cfm/chapter-7/c7h.htm) ส่วนใหญ่มักดูดวงเพื่อให้ตนเองรู้สึกดีขึ้น ไม่โทษตัวเองเกี่ยวกับความผิดพลาดต่างๆ เพราะมองว่าความผิดคือปัจจัยที่เราไม่สามารถควบคุมได้ หรือเกิดจาก ดวง นั่นเอง
บางครั้งการดูดวงก็สามารถทำนายลักษณะนิสัยของเราได้ด้วย ทำให้รู้ว่าตนเองเป็นคนยังไง มีบุคลิกภาพแบบไหน ซึ่งไปตรงกับความต้องการของมนุษย์ ที่มองหาความเป็นปัจเจก หรือต้องการแตกต่างจากผู้อื่น แต่ยังสามารถอยู่ร่วมกับคนในสังคมได้ ซึ่งนี่แหละเป็นสาเหตุที่ทำให้การจัดกลุ่มคนตามราศี กรุ๊ปเลือด หรือแม้แต่แบบวัดบุคลิกภาพอย่าง MBTI เป็นที่นิยม นอกจากนี้งานวิจัยยังพบว่า คนเรามักดูดวงเพื่อตอบสนองความเครียดหรือความวิตกกังวล เพราะเราต่างอยู่ในโลกที่ไม่แน่นอน สามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ทุกวัน เป็นปัจจัยก่อให้เกิดความเครียด การดูดวงจึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดี
ยกตัวอย่างง่ายๆ ของการมูฯ เพื่อคลายเครียด เช่น เวลาต้องพรีเซนต์งานหน้าห้อง สอบแอดมิชชัน หรือตอนกดบัตรคอนเสิร์ต มันจะเป็นยังไงไม่รู้แต่ขอเชื่อไว้ก่อน ใส่สีไหนโชคดี พกเครื่องรางอะไรแล้วเสริมดวง เอาหมด! เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิด Sense of Control หรือ อำนาจในการควบคุม เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกมั่นใจในการควบคุมตัวเองหรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น เวลาทะเลาะกับเพื่อนแล้วไปปรึกษาแม่หมอ แล้วแม่หมอแนะนำว่าอย่าเพิ่งเลิกคบเพื่อนคนนี้เลย เราก็จะเกิดแรงบันดาลใจในการปรับความเข้าใจและพูดคุยกับเพื่อนขึ้นมา เช่นเดียวกับถ้าดวงบอกว่าเราจะสอบติดคณะในฝัน ก็จะยิ่งเสริมแรงให้เรามุ่งมั่นตั้งใจมากขึ้น โอกาสในการสอบติดจริงๆ ของเราก็จะเพิ่มขึ้นตามมา
แล้วน้องๆ เคยสงสัยมั้ย? ว่าทำไมแม่หมอถึงได้รู้จักเราดีมากๆ ทายได้ทะลุปรุโปร่งเหมือนรู้จักกันมานาน วันนี้พี่นักเก็ตจะพาไปรู้จักอีกปรากฎการณ์หนึ่งที่ชื่อว่า The Barnum Effect ค่ะ
ก่อนจะเล่าว่า The Barnum Effect คืออะไร พี่นักเก็ตขอเล่าที่มาสั้นๆ ให้ฟังก่อน โดยย้อนกลับไปเมื่อปี 1948 ช่วงเวลานั้นมีนักจิตวิทยาชื่อ Bertram R. Forer ทำการทดลองเกี่ยวกับการทำนายลักษณะของผู้คน โดยใช้ตัวแทนทั้งหมด 39 คนในการทดลอง Forer บอกตัวแทนเหล่านี้ว่าเขาจะวิเคราะห์นิสัยเฉพาะตัวให้แต่ละคนเป็นข้อๆ จำนวน 13 ข้อ จากนั้นให้ทุกอ่านและประเมินว่าตรงกับความเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน ผลคือ คำทำนายของ Forer ถูกให้คะแนนสูงถึง 4.26 คะแนน (จาก 5) ทั้งที่ทุกคนได้รับข้อความเหมือนกันทั้งหมด
ตัวอย่างคำทำนาย สไตล์ Barnum
- บางครั้งคุณก็สับสน ว่าสิ่งที่ตัดสินใจนั้นถูกหรือไม่
- คุณอยากให้คนอื่นชื่นชอบ แต่หลายครั้งก็ตำหนิตนเอง
- ภายนอกคุณดูควบคุมอารมณ์ได้ แต่จริงๆ คุณเก็บความกังวลไว้ในใจ
ปรากฎการณ์บาร์นัม (The Barnum Effect) หรือปรากฎการณ์ฟอเรอร์ (Forer Effect) จึงเป็นปรากฎการณ์ที่ใช้อธิบายว่ามนุษย์เรามักจะเอนเอียงหาข้อมูลที่มีบางส่วนตรงกับตนเอง (แม้จะไม่ทั้งหมด) จากการนำข้อมูลในส่วนที่ตรงมาเชื่อมโยงกับประสบการณ์ต่างๆ ในชีวิต จน “คลิก” และรู้สึกว่าข้อมูลนี้แม่นมากๆ เชื่อไหมว่าหลังจากการทดลองนั้น ฟอเรอร์ยังจัดการทดสอบอีกครั้ง โดยคราวนี้นำกลุ่มตัวอย่างมาประเมินลักษณะนิสัยจริงๆ โดยนักวิจัย แล้วเขียนสรุปใหม่โดยให้เลือกระหว่างผลสรุปจากการประเมินจริงๆ และจากผลทำนายแบบ Barnum พบว่า กลุ่มตัวอย่าง 59% ก็ยังเลือกผลทำนายแบบ Barnum อยู่ดี
แต่ทั้งนี้ The Barnum Effect จะได้ผลหรือไม่ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวผู้ทำนายด้วย หากผู้ทำนายมีความน่าเชื่อถือ ก็จะทำให้เกิดความเชื่อมั่น และยิ่งคำทำนายนั้นเป็นไปในเชิงบวก ก็จะถูกยอมรับได้ง่ายกว่าคำทำนายในเชิงลบ ซึ่งปรากฎการณ์นี้ยังถูกนำไปอธิบายเพิ่มเติมในการประเมินแบบวัดบุคลิกภาพได้ด้วย
ก่อนไป พี่นักเก็ตขอทิ้งท้ายไว้ว่า การดูดวงเป็นเรื่องของความเชื่อและวิจารณญาณส่วนบุคคล ใครที่ชื่นชอบเพราะดูแล้วรู้สึกมั่นใจ สบายใจ เป็นกำลังใจในการใช้ชีวิตได้ ก็ถือเป็นเรื่องดีเลยค่ะ แค่ต้องระมัดระวังอย่าหมกมุ่นหรือยึดติดกับคำทำนายที่ได้รับมากเกินไปจนทำให้ตัวเองหรือคนรอบข้างเดือดร้อน เพราะยังไงอนาคตก็เป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึงและไม่แน่นอน อะไรๆ ก็สามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดนะคะ
รายการอ้างอิงhttps://www.independent.co.ukhttps://theswaddle.com https://michaelgearon.medium.com/https://www.youtube.com/
0 ความคิดเห็น