Spoil
- Toxic Relationship ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในความสัมพันธ์แบบคู่รัก แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน ครอบครัว หรือความสัมพันธ์อื่นๆ ก็สามารถ Toxic ได้
- "การปรับความเข้าใจ" คือทางออกที่ดีที่สุด หากต้องการรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ แต่ถ้าเปิดใจคุยกันแล้วยังไม่มีอะไรดีขึ้น การเดินออกมาก็เป็นอีกหนึ่งทางออก
- รักตัวเองให้มาก ใส่ใจตัวเอง ดูแลสุขภาพทั้งกายและใจให้ตัวเอง เป็นอีกวิธีที่ทำให้เรา move on จาก Toxic Relationship ได้
“ไปดูผีเสื้อที่ห้องฉันไหม”
กำลังเป็นกระแสฮิตเปรี้ยงสุดๆ กับประโยคกร๊าวใจจากซีรีส์ Nevertheless ที่สาวๆ ดูกันทั่วบ้านทั่วเมือง ด้วยพล็อตเรื่องอมตะอย่างการที่นางเอกตกหลุมรักพระเอกนิสัยเจ้าชู้ เจ้าเสน่ห์ เอาใจเก่ง จนทำให้นางเอกกลัวการตกหลุมรัก แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเล่นกับไฟ ปล่อยตัวปล่อยใจไปเลยจ้า
แต่แน่นอนว่าถ้าคบกันแล้วพระเอกยังมีนิสัยเดิมๆ มันต้องไม่ดีต่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่ๆ...
เกริ่นมาขนาดนี้ น้องๆ ต้องเดาได้แล้วล่ะว่าหัวข้อที่พี่นักเก็ตจะพูดถึงในวันนี้ก็คือ รูปแบบความสัมพันธ์แบบเป็นพิษ หรือ Toxic Relationship นั่นเอง
ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าครั้งหนึ่ง (หรืออาจจะตอนนี้!) เราต่างเคยตกอยู่ในสถานะนางเอกเรื่อง Nevertheless กันมาแล้ว คือเลือกรักคนที่ทำให้ตัวเองเสียใจ แม้จะยังไม่รู้ว่าตอนจบจะเป็นเช่นไร แต่มันช่างเสียเปรียบและเจ็บปวด จนแทบมองไม่เห็นปลายทางเลยว่ามีแสงสว่างรออยู่รึเปล่า
Toxic Relationship ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในความสัมพันธ์แบบคู่รักเท่านั้น แต่สามารถพบได้ทุกรูปแบบความสัมพันธ์ ทั้งเพื่อนสนิท ครอบครัว หรือความสัมพันธ์อื่นๆ เป็นความสัมพันธ์ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้สึกถูกเอารัดเอาเปรียบทางความรู้สึก จนทำให้เจ็บปวดทั้งใจและกาย แต่ก็ยังฝืนดันทุรังรักษาความสัมพันธ์นี้ต่อไป โดยไม่มีการพูดคุยหรือปรับความเข้าใจกัน จึงทำให้เกิดผลลบต่อสุขภาพจิต และมีความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่น
หลายครั้งคนที่ตกอยู่ใน Toxic Relationship จะคิดว่ายอมๆ ไปก่อนดีกว่า เพราะคิดว่าการประนีประนอมทำให้ไม่เกิดปัญหา หลายๆ ครั้งจึงยอมเป็นฝ่ายถูกต่อว่า โยนความผิด โดยไม่สู้หรือเถียงกลับ แม้แต่ในกลุ่มเพื่อนที่บางครั้งมีการพูดจาที่ทำให้ไม่สบายใจ เราก็ทำเป็นหัวเราะตามไปด้วยเหมือนกับไม่รู้สึกอะไร ทั้งที่ในใจมันค่อยๆ แย่ลงๆ ทุกวัน
Toxic Relationship นี้สามารถส่งผลต่อสภาพจิตใจ ทำให้ขาดความมั่นใจ มองตัวเองในแง่ลบ และไม่เห็นคุณค่าในตนเองได้ ทางออกที่ดีที่สุดคือการปรับความเข้าใจ พูดคุย และแสดงออกว่าเรารู้สึกอย่างไร เพื่อนำไปสู่การหาทางออก เพื่อให้ยังคงรักษาความสัมพันธ์ต่อไปได้
แต่หากพูดคุยหรือปรับความเข้าใจแล้วยังไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น เราอาจต้องตัดใจ ทิ้งความสัมพันธ์นี้ไป เพราะสุดท้ายแล้ว Toxic Relationship จะหันมาส่งผลร้ายต่อเราในอนาคต
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้เรากำลังตกอยู่ใน Toxic Relationship!?
จริงๆ Toxic Relationship มีหลายรูปแบบ ทั้งการเอารัดเอาเปรียบ ตำหนิ หวาดระแวง ไม่ไว้ใจ ออกคำสั่ง ทำให้เรารู้สึกเสียเปรียบในด้านความรู้สึก อยู่แล้วเจ็บปวด เสียใจ ไม่มีความสุข สภาพจิตใจถดถอย ซึ่งการแก้ปัญหานั้นย่อมเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ขอแค่เราเริ่มจากการตัดสินใจเดินออกมาจาก Toxic Relationship ก่อน หลังจากนั้นก็ต้องไม่ลังเลที่จะก้าวเดินต่อไป
5 วิธี Move on จาก Toxic Relationship!
- หันมารักตัวเอง ใส่ใจตัวเอง ดูแลสุขภาพ ทำกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ใช้เวลากับตัวเองให้เยอะๆ
- ยอมรับความจริง อาจจะเป็นไปได้ยากในช่วงแรก แต่เมื่อเรายอมรับความจริงว่าความสัมพันธ์นั้นจบลงแล้ว อาจมีความผิดหวัง เสียใจ แต่สุดท้ายการยอมรับความจริงจะทำให้เราเริ่มต้นใหม่ง่ายขึ้น
- อย่าโทษตัวเอง เป็นสิ่งที่ควรทำมากที่สุด เพราะไม่ใช่ความผิดของเราในเมื่อเราพยายามประคับประคองอย่างเต็มที่และดีที่สุดแล้ว จึงไม่มีอะไรต้องเสียใจในภายหลังเลยค่ะ
- หาที่พึ่งทางใจ อาจเป็นเพื่อนสนิท ครอบครัว หรือดาราที่เราชอบก็ได้ จะได้รู้ว่ายังมีสิ่งอื่นๆ ที่เรารัก และทำให้เราสบายใจได้อยู่
- ยอมรับความเปลี่ยนแปลง การจบความสัมพันธ์กับบางคนอาจเป็นก้าวใหม่ของชีวิต ในการไปเจอสิ่งที่ดีกว่า หรือเจอโอกาสใหม่ๆ นั่นเองค่ะ
ที่สำคัญที่สุด คืออย่าลืมให้รางวัลตัวเองด้วยนะคะ เพราะกว่าที่เราจะลุกขึ้นมาตัดสินใจ และก้าวผ่าน Toxic Relationship ไปได้นั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย พี่นักเก็ตก็ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคน ที่กำลังตกอยู่ในความสัมพันธ์แย่ๆ ขอให้ทุกคน move on กันได้ และพบเจอกับความสัมพันธ์ที่ดีและคู่ควรกับเราในสักวันค่ะ
ใครมีประสบการณ์เคยตกอยู่ใน Toxic Relationship บ้าง เป็นยังไง อยากเล่าหรือแชร์ให้ฟัง ก็สามารถคอมเมนต์บอกได้เลยนะคะ
รายการอ้างอิงhttps://www.psychologytoday.com/https://m1psychology.com/https://www.brides.com/
0 ความคิดเห็น