กว่าจะมาเป็น เซ้นต์ ศุภพงษ์ : นักแสดงควบนักธุรกิจที่เส้นทางชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

spoil

  • เรื่องราวชีวิตตั้งแต่วัยเด็ก จนมาถึงการเป็นนักแสดงและนักธุรกิจควบคู่กันในปัจจุบัน
  • ความยากลำบากในเส้นทางบันเทิง ต้องไปคัดตัวนักแสดงหนักมาก ถูกหลอก
  • 'ชาวหมิงเอ๋อ'  เป็นครอบครัวเพิ่มขึ้นมา  และหน้าที่รับผิดชอบที่มากขึ้น
  • อยากเรียนรู้บทบาทใหม่ อยากดันเศรษฐกิจ อยาก raise ประเด็น LGBTQ+

เด็กมัธยมที่ชีวิตเผชิญกับวิกฤตมาแล้วหลายครั้ง

       เซ้นต์เกิดและโตที่จังหวัดตราด ชอบงานช่างมาตั้งแต่เด็ก ชอบไปวัด เป็นประธานชมรมแนวอาสา ทำสภาองค์การต่าง ๆ จนมาเรียนชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนอัสสัมชันบางรัก เรียนมหาวิทยาลัยในคณะเศรษฐศาสตร์ และเรียนจบมาเป็นนักแสดงเขาก็ยังทำงานอาสาอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าความแตกต่างระหว่างตอนนี้กับตอนที่ยังเป็นเด็ก อยู่ที่เรื่องทุนทรัพย์และเสียง สมัยก่อน เขามีเวลา มีแรง แต่ไม่มีทุนทรัพย์ แต่ปัจจุบันที่เซ้นต์เริ่มโด่งดังมากขึ้น เขาไม่มีเวลา แต่มีทุนทรัพย์และเขาสามารถเป็นกระบอกเสียงได้

       เซ้นต์เล่าว่าช่วงมัธยมต้นจะเข้ามาศึกษาต่อในกรุงเทพฯ แต่ดันเกิดวิกฤตทางการเมืองทำให้มาเรียนที่กรุงเทพฯ ไม่ได้ ต่อมาช่วงกำลังจะเข้าศึกษาต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 วิกฤตทางการเมืองก็กลับมาอีกครั้ง ทำให้เกิดการเลื่อนสอบ “มันลุ้น มันบีบหัวใจมาก เราตั้งใจอ่านหนังสือมา พอถึงวันนี้เราไม่ได้สอบ”

       “เด็ก ๆ มันเป็นช่วงที่เขากำลังจะเติบโต เขาควรได้รับสิ่งที่ควรได้ แต่มันก็ไม่ได้ เพราะว่าบางครั้งคุณพ่อคุณแม่ต้องเจียดเงินไปดูแลธุรกิจ หรือดูแลเรื่องอื่น ๆ”

       จากนั้นในช่วงกำลังจะเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ก็เกิดวิกฤตทางการเมืองอีกครั้ง จนมาถึงตอนใกล้จะเรียนจบชั้นปีที่ 4 ในระดับมหาวิทยาลัย ก็เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เศรษฐกิจพัง เพื่อนที่จบการศึกษาใน 1-2 ปีที่ผ่านมา ต้องเจอกับปัญหาไม่ได้ทำงานที่ชอบและตกงาน แต่แม้ว่าชีวิตจะเจอกับมรสุมมากมาย ในมุมมองของเซ้นต์ เขามองว่าควรรีบมองหาโอกาสและช่องทางของตัวเอง เขาเชื่อว่ามันจะมีเรื่องราวดี ๆ ซ่อนอยู่ในสิ่งที่ไม่ดีหรือในช่วงเวลาที่อึดอัดเสมอ

รู้ตัวเองว่าอยากเป็นอะไรตั้งแต่เด็ก

       “อยากเป็นนักธุรกิจ” (ยิ้มกว้าง) เซ้นต์เริ่มเดินเส้นทางนี้ตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษา เริ่มจากการขายสติ๊กเกอร์ในโรงเรียน ไปจนถึงการจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างการขายที่ดินหรือคอนโดมิเนียม เขาเรียนรู้และฝึกงานมาเรื่อย ๆ ประกอบกับการค้นพบว่าตัวเองเป็นคนชอบมองภาพรวม ชอบจัดการเวลา จัดสรรสิ่งต่าง ๆ ให้ออกมาสมบูรณ์ จึงมาจบที่การเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ เพราะรู้สึกว่าศาสตร์นี้ตอบโจทย์ตัวเองมากที่สุด

ก้าวแรก และก้าวต่อมาในวงการบันเทิง

       เซ้นต์เริ่มแตะงานในวงการบันเทิงตั้งแต่เรียนอยู่มัธยมปลายจากการมีคนชักชวน แต่เขาไม่ได้เข้าวงการเต็มตัว จนกระทั่งเรียนมหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 2 ด้วยความที่เป็นคนทำงานอาสา เขาจึงตัดสินใจเข้าวงการบันเทิงด้วยเป้าหมายที่ว่า เขาอยากเป็นกระบอกเสียง อยากพาคนไปทำบุญทำความดีให้มากขึ้น ด้วยเหตุผลนี้เซ้นต์จึงไปคัดตัวเป็นนักแสดง (casting) ซีรีส์วายเรื่องบังเอิญรัก และมีโอกาสได้เป็นนักแสดงหลัก หลังจากนั้นเขาก็อยู่ในวงการบันเทิงเรื่อยมา

       เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่วงการบันเทิง Passion ต่าง ๆ ในการทำงานก็เกิดขึ้น เขาเริ่มศึกษาลักษณะของวงการ เริ่มค้นหาตัวเองว่าต้องการทำงานแบบไหน งานที่ทำจะสามารถต่อยอดไปสู่เรื่องใดได้บ้าง และด้วยความฝันในวัยเด็กที่อยากเป็นนักธุรกิจยังคงลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน เซ้นต์จึงเปิด Production เป็นผู้ผลิตซีรีส์วายเรื่อง ‘แอบหลังรัก The Series’ และด้วยเป้าหมายที่ต้องการผลักดันเรื่อง LGBTQ+ ซีรีส์วายเรื่องต่อมาที่เขาจะผลิต อาจจะเป็นซีรีส์ที่ใช้นักแสดงผู้หญิงเป็นตัวแสดงหลักเรื่องแรกของประเทศ (หญิง-หญิง)

ด้วยความที่ไม่อยากรบกวนเงินของครอบครัว ตอนที่เขาแสดงซีรีส์เรื่องบังเอิญรัก เขาไม่ได้เรียนการแสดง แต่อาศัยการ workshop ของซีรีส์และการเปิดดูวีดิโอตามยูทูบ ฟังนักแสดงท่านอื่น ดูเบื้องหลังการแสดงเพื่อจะได้ทราบถึงความคิดของพวกเขา นอกจากนี้เซ้นต์ยังเล่าว่า ตอนที่แสดงเป็น ‘พีท’ ในบังเอิญรัก เขาเอาตัวละครพีทมาสวมในชีวิตจริงเป็นอาทิตย์ คุยกับเพื่อนแบบ ‘พีท’ เพื่อทำให้ตัวเองเข้าใจตัวละครตัวนี้มากที่สุด    

ความลำบาก ความพยายาม และความไม่รู้

       เซ้นต์เล่าว่ากว่าจะมาถึงจุดที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเขาต้องใช้ความพยายามอย่างหนักและต้องก้าวผ่านเรื่องราวมากมาย “ผมเคย cast งานหนักมาก หรือมีคนชักชวนเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิง ก็จะมีทั้งแบบชักชวนมาเพื่อมาเป็นตัวจริงบ้าง ไม่ใช่ตัวจริงบ้าง ชักชวนมาเพื่อจะหลอกเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินเอง หรือเรื่องอื่น ๆ เราเจอมาหมดแล้ว”

       เคยมีครั้งหนึ่งที่เซ้นต์ไปคัดตัวนักแสดง นั่งรอตั้งแต่บ่ายถึงเที่ยงคืน ตอนเดินเข้าไปคัดตัวเขาได้ยินว่าทางกองได้นักแสดงแล้ว “ผมจำได้ว่าภาพนั้นที่ผมเดินเข้าไป แล้วผมก็บอกเขาว่า ผมรู้ครับว่าพี่ได้คนแล้ว แต่พี่ช่วยดูผม cast ก่อนได้ไหมครับ พี่ไม่ต้องเลือกผมก็ได้ เพราะพี่ได้คนในใจแล้ว แต่พี่ช่วยดูผมหน่อยว่าผมจะต้องปรับปรุงอะไร” เซ้นต์เล่าว่า เนื่องจากเขาไม่เคยมีประสบการณ์การแสดง สิ่งที่ทำได้ คือ การรับฟังคำแนะนำจากคนรอบข้าง

เมื่อชีวิตเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยน

       การติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ยอดผู้ติดตามที่เพิ่มขึ้น และการเจอแฟนคลับในทุกครั้งที่ไปออกงาน ทำให้เขารู้ตัวว่ากำลังมีคนให้ความสนใจ แต่ถ้าถามว่าคิดว่าตนเองดังหรือไม่ เซ้นต์ตอบว่า เขาไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนดังหรือมีชื่อเสียงอะไรขนาดนั้น “เรารู้สึกว่าเราก็ใช้ชีวิตปกติ เราไม่รู้ว่าคำว่าดังหรือมีชื่อเสียงมันจะต้องอยู่ในรูปแบบไหน กรอบแบบไหน”

       เซ้นต์บอกว่า ปัจจุบันเขาทำงานทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพิธีกร นักแสดง หรือเป็นผู้ผลิตผลงานก็ตาม “ทั้งอาชีพนักแสดงทั้งในแง่การทำธุรกิจ เราทำทั้งสองทาง active เต็มที่”

ชีวิตยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีคนของใจและหน้าที่

       เซ้นต์รู้สึกว่าชีวิตของเขายังคงเหมือนเดิม แต่มีแฟนคลับอย่าง ‘ชาวหมิงเอ๋อ’ เป็นครอบครัวเพิ่มเติมขึ้นมา มีคนอยู่ข้าง ๆ ร่วมแบ่งปันในช่วงเวลาที่สุขและทุกข์ “ผมเป็นคนชอบเล่าเรื่อง เรื่องที่เล่าก็เล่าให้แฟนคลับฟัง สิ่งที่เราเจอ เรามีความสุข เราแชร์ให้กับเขา มันเป็นรอยยิ้มซึ่งกันและกัน ผมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่มาเติมเต็มกันและกัน” นอกจากนี้เขายังมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเพิ่มขึ้นด้วย ต้องพัฒนาตัวเอง ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี เซ้นต์บอกว่าถ้าเขาเป็นตัวอย่างที่ดี และ อย่างน้อยเด็ก ๆ นำไปปรับใช้ตาม เขาอาจจะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้น้อง ๆ เติบโตขึ้นมาเป็นคนดีของสังคมได้

       แต่ในท้ายที่สุดไม่ว่าสิ่งต่าง ๆ จะเปลี่ยนไปแค่ไหน เซ้นต์ก็ยังคงเป็นเซ้นต์คนเดิม กลับบ้านถอดชุดนักแสดงออกใส่เสื้อยืด นอนที่เดิม ดูหนังเหมือนเดิม คุยเล่นสนุกกับเพื่อนเหมือนเดิม “ความแตกต่างมันไม่แตกต่างครับ มีแค่หน้าที่”

เป้าหมายธุรกิจ คือ อยากผลักดันเรื่องเพศและเศรษฐกิจไทย

       เป้าหมายหลักในการทำธุรกิจตอนนี้ คือ ต้องการให้อุตสาหกรรมบันเทิงเป็นตัวผลักดันเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า เขาอยากเห็นเลข GDP ที่สูงขึ้น อยากเห็นประเทศไทยขยับจากประเทศกำลังพัฒนาเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว มากไปกว่านี้ เซ้นต์ยังส่งเสริมการค้าอีกด้วย โดยในเร็ว ๆ นี้ เขากำลังจะเปิดตัว unit ใหม่ที่ชื่อว่า Idol Mart ที่จะให้ผู้ผลิตนำสินค้ามาร่วมแบ่งปันกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้แนวคิดที่ว่า หากเศรษฐกิจในระดับชุมชนและจังหวัดมีความเข้มแข็งแล้ว เศรษฐกิจในระดับประเทศก็จะมั่นคงและขับเคลื่อนไปได้ไวมากขึ้น

       “เราไม่รู้หรอกว่ามันจะสำเร็จเมื่อไร แต่อย่างน้อยเราได้เริ่ม สิ่งที่สำคัญคือได้เริ่ม และสิ่งที่สำคัญอันที่สอง คือ เราอาจจะทำไม่สำเร็จหรอก แต่มันอาจจะมีคนรุ่นหลังต่อจากเรา เขาเรียนรู้จากเราแล้วเดินหน้าต่อไปแทนเรา”

       เส้นทางการทำธุรกิจของเซ้นต์มีทั้งได้กำไรและขาดทุน แต่สิ่งหนึ่งที่เขาได้เรียนรู้ คือ เขาขอบคุณทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมันเป็นบทเรียน ทำให้มีประสบการณ์ ทำให้เข้มแข็ง ทำให้รู้ว่าเส้นทางที่สมควรเดินคือเส้นทางไหน

       นอกจากนี้ อีกเป้าหมายหนึ่งในการทำธุรกิจ คือ เซ้นต์ต้องการผลักดันประเด็น LGBTQ+ อยากให้เกิดความเท่าเทียม อยากผลักดันการสมรสเท่าเทียม และเรื่องอื่น ๆ

เป้าหมายในวงการบันเทิง

       อยากพัฒนาในทุกด้านของการทำงานวงการบันเทิง อยากท้าทายตัวเอง อยากหลุดออกจากกรอบเดิม ๆ ด้วยบทบาทใหม่ที่ยังไม่เคยทำ

โตขึ้นไม่อยากเป็นผู้ใหญ่แบบไหน

       ไม่อยากให้ใครบอกว่าตัวเองเป็นคนไม่ดี ไม่อยากถูกเด็กตัดสินว่าตัวเองไม่ดี ‘เราอยากเป็นผู้ใหญ่ที่เข้าใจเด็ก’ อยู่ในกรอบของความถูกต้อง ตักเตือนเมื่อเด็กทำความผิด และช่วยกันหาทางออกของปัญหา “สมมติ มีรุ่นน้องคนหนึ่ง รุ่นน้องคนนี้ค้ายา แล้วเราจะไปเดินบอก ค้ายาดีมากนะ คุณจะได้รวย มันก็ไม่ใช่ มันผิด เราควรจะเดินไปแล้วก็บอกว่าสิ่งที่คุณทำมันไม่ดีนะ หนูควรปรับปรุงตัว มันมีอาชีพสุจริตมากมายกว่านี้ให้ทำ ถ้าหาทางไม่ได้เรามาคุยกัน เราแค่รู้สึกว่าเรามีความสุขกับตรงไหน แล้วเราก็เป็นตัวอย่างที่ดี ไม่เบียดเบียนใคร ก็ Happy แล้ว”

กำลังใจจากเซ้นต์ถึงน้อง ๆ ที่กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤต

       อยากให้น้อง ๆ ไม่คิดว่าวิกฤติที่กำลังเจออยู่เป็นปัญหา อยากให้มองหาโอกาสในการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง โอกาสในการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ถ้ารู้สึกท้อแท้ ไม่มีกำลังใจ อยากให้ลองค้นหาเรื่องราวดี ๆ ที่ซ่อนอยู่ แม้ว่าช่วงเวลานี้มันจะหนักและยากลำบาก แต่ถ้าผ่านไปได้แล้วมองย้อนกลับมา เราจะรู้สึกว่าเราเก่งมากเลยที่ผ่านมันมาได้ “ขอเป็นกำลังใจให้น้องทุกคนนะครับ สู้ ๆ”

ผลงานในวงการบันเทิง

  1. ซีรีส์ที่ผลิตเอง ชื่อ ‘แอบหลงรักเดอะซีรีส์’ จะฉายครั้งแรกวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ โดยสามารถรับชมได้ผ่านช่อง 3 HD หรือรับชมผ่านโทรศัพท์ทางแอปพลิเคชัน 3 Plus และสามารถรับชมฉาก uncut พิเศษได้ทางยูทูบ
  2. รายการ T-POP STAGE SHOW ทุกวันเสาร์ เวลา 21.30 น.
  3. JOOX ROOMS ทุกวันอังคาร เวลา 20.00 น.
  4. ซีรีส์เรื่อง Sing Again ซีรีส์ละครที่นำมาทำใหม่จากประเทศเกาหลี สามารถรับชมได้ประมาณกลางปีนี้
  5. ซีรีส์ผี ผลงานจาก Netflix

       สามารถติดตาม ‘เซ้นต์ ศุภพงษ์’ เพิ่มเติมได้ที่ Instagram: saintsup, Twitter: Saint_sup และYouTube ช่อง Saintsup TV

พี่ณัชชา
พี่ณัชชา - Columnist นักเขียนฝึกหัดใกล้จะเรียนจบที่ชอบอ่านงานแฟนตาซีเป็นชีวิตจิตใจ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น