ต้องอ่าน! ความหมายของ LGBTQIA2S+ และธงสีรุ้ง

สวัสดีน้อง ๆ ชาว Dek-D.com ทุกคนค่ะ ในช่วงนี้กระแสซีรีส์วายในบ้านเรากำลังมาแรง และความเท่าเทียมทางเพศก็เป็นสิ่งที่พี่คิดว่าเราทุกคนควรนึกถึงเอาไว้อยู่ตลอด บทความวันนี้พี่ณัชชาเลยจะชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับที่มาของ “Pride Month” ความหมายของ “ธงสีรุ้ง” และความหมายตัวอักษรแต่ละตัวของคำว่า “LGBTQIA2S+” มาลองดูกันค่ะ

ประวัติศาสตร์ฉบับย่อ

       เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1969 (ในช่วงนั้นการเป็น LGBTQIA2S+ ยังไม่ได้รับการยอมรับและผิดกฎหมายในทุกรัฐ ยกเว้นรัฐอิลลินอยส์) ตำรวจบุกเข้าไปที่โรงแรม Stonewall, นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา มีการจับกุมผู้หญิงที่แต่งตัวเป็นผู้ชาย จับกุมพนักงานของร้าน และมีการยึดเหล้าที่ผิดกฎหมาย แม้ว่าการบุกเข้าไปในบาร์ที่มีกลุ่ม LGBTQIA2S+ จะเป็นเรื่องที่เห็นได้ทั่วไป แต่ครั้งนี้มีการต่อสู้กลับ เป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่คนจะไม่ยอมถอยอีกต่อไป ทนมามากพอแล้ว จะสู้กลับบ้างแล้ว

       Stonewall Riots (การจลาจลที่สโตนวอลล์) เริ่มต้นขึ้นและเกิดขึ้นต่อเนื่องไปอีกหลายวัน มีการใช้ความรุนแรงทั้งทางร่างกายและการใช้คำพูด เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้คนเริ่มเข้าใจถึงความหลากหลายทางเพศมากขึ้น ต่อมาในวันที่ 28 มิถุนายน 1670 เริ่มมีการเดินขบวนของกลุ่ม LGBTQIA2S+ โดยเริ่มเดินจากโรงแรมสโตนวอลล์ไปยัง Central Park คนหลายร้อยหลายพันคนเริ่มเดินไปตามถนน จากนั้นในรัฐอื่น (เช่น ชิคาโก บอสตัน ซานฟรานซิสโก) และขยายไปจนถึงประเทศอื่นก็เริ่มทำตาม (เช่น แคนาคา ฝรั่งเศส เยอรมนี) กลายเป็นการเดินขบวนของกลุ่ม LGBTQIA2S+ มาจนถึงปัจจุบัน (Pride Month ถูกจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน)

ธงสีรุ้ง (Rainbow Pride Flag)

       ธงสีรุ้งถูกออกแบบขึ้นโดย Gilbert Baker โบกสะบัดครั้งแรกที่การเดินขบวน Gay Freedom Parade เมืองซานฟรานซิสโก วันที่ 25 มิถุนายน 1978 และแท้จริงแล้วธงนี้มีทั้งหมด 8 แถบสี (ปัจจุบันมี 6 แถบสี) ได้แก่ ชมพู แดง ส้ม เหลือง เขียว เทอร์ควอยซ์ คราม และม่วง แต่สีชมพูถูกเอาออกไปเพราะความขาดแคลนของสีผ้า ต่อมาเมื่อธงของ Baker กลายเป็นสัญลักษณ์ของคอมมิวนิตี้ ทำให้สีเทอร์ควอยซ์และสีชมพูถูกตัดออก และสีครามถูกแทนที่ด้วยสีน้ำเงิน เพื่อให้ง่ายต่อการผลิตจำนวนมาก

       ชมพู – Sex (เพศ)                                                      เขียว – Nature (ธรรมชาติ)

       แดง – Life (ชีวิต)                                                     เทอร์ควอยซ์ – Art (ศิลปะ)

       ส้ม – Healing (การเยียวยา)                       คราม – Harmony (ความสามัคคี)

       เหลือง – Sunlight (แสงอาทิตย์)            ม่วง – Spirit (จิตวิญญาณ)

ความหมายของตัวอักษร LGBTQIA2S+

• L – Lesbian: คือ คนที่ระบุว่าตัวเองเป็นผู้หญิงผู้ซึ่งมีความชอบ อารมณ์ ความใคร่ ในผู้หญิงคนอื่นและคนที่นิยามตัวเองว่าเป็นเลสเบี้ยน
• G – Gay: คือ คนที่ระบุว่าตัวเองเป็นผู้ชายผู้ซึ่งมีความชอบ อารมณ์ ความใคร่ในผู้ชายคนอื่นและคนที่นิยามว่าตัวเองเป็นเกย์ นอกจากนี้เกย์ยังใช้นิยามคนที่ชอบเพศเดียวกันได้ด้วย
• B – Bisexual/Bi: คือ คนที่ชอบคนที่เป็นเพศเดียวกัน ต่างเพศ และคนที่นิยามว่าตัวเองเป็นไบเซ็กชวล
• T – Transgender/Trans: คือ คนข้ามเพศ คนที่มีอัตลักษณ์ทางเพศ(ความรู้สึกรู้อยู่ในใจว่าเราเป็นเพศอะไร)/การแสดงออกทางเพศแตกต่างจากเพศที่ตัวเองมีตั้งแต่เกิด ดังนั้นคนที่นิยามตัวเองว่าเป็นทรานส์ อาจเป็นได้ทั้งเกย์ ไบเซกชวล และอื่น ๆ เช่น ชายที่เปลี่ยนตัวเองเป็นหญิง (ผู้หญิงข้ามเพศ), หญิงเปลี่ยนเป็นชาย (ชายข้ามเพศ)
• Q – Queer: คือ เป็นได้ทุกอย่าง เป็นได้หมดทั้ง LGBTQ+++ ไม่จำกัด (ยิ่งไปกำหนดคำนิยามของเควียร์มากเท่าไร ยิ่งทำให้ความเป็นเควียร์หายไปมากเท่านั้น)
• Q – Questioning: คือ คนที่ยังตั้งคำถามกับรสนิยมทางเพศและอัตลักษณ์ทางเพศของตัวเองอยู่
• I – Intersex: คือ คนที่เกิดมาโดยไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าเป็นเพศอะไร (ไม่ว่าจะจากร่างกาย โครโมโซม หรือฮอร์โมน) ส่วนมากเด็กที่เกิดมาแล้วมีเพศกำกวมจะถูกกำหนดเพศให้เลยตั้งแต่แรกเกิดและถูกเลี้ยงดูตามเพศที่เป็น
• A – Asexual: คือ คนที่ไม่มีประสบการณ์หรือมีประสบการณ์น้อยในการชอบคนอื่น ไม่รู้สึกดึงดูดกับเพศไหนเลย สามารถตกหลุมรักได้ มีอารมณ์ทางเพศได้ มีเพศสัมพันธ์ได้ หรือบางคนเลือกที่จะไม่มีเพศสัมพันธ์เลยก็ได้ เช่น ผู้ชายที่เป็น Asexual บางคนจะไม่สามารถสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองได้ (Masturbation)
• 2S – Two-Sprit (2 Spirits): คือ คนที่ระบุว่าตัวเองมีจิตวิญญาณของทั้งผู้ชายและผู้หญิงอยู่ในตัว บางครั้งถูกใช้ในภาษาของชนเผ่าพื้นเมืองบางชนเผ่าที่ใช้เรียกคนที่ชอบเพศเดียวกัน (เนื่องจากบางภาษาไม่มีคำว่า Lesbian หรือ Gay)
• + (Plus): คือ รสนิยมและอัตลักษณ์ทางเพศอื่น ๆ เพิ่มเติม

       หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับน้อง ๆ ทุกคนนะคะ LGBTQIA2S+ ที่พี่เอามาแชร์ในวันนี้เป็นแค่คำเรียกหนึ่งในความหลากหลายทางเพศที่นอกเหนือจากชายชอบหญิง/หญิงชอบชายเท่านั้น เราจะเป็นเพศไหน จะนิยามตัวเองว่ายังไงเป็นสิทธิของเรา เป็นใครก็ได้ที่ไม่ทำให้สังคมเดือดร้อน ไม่ไปทำร้าย/ทำลายคนอื่นก็พอ แล้วพบกันใหม่บทความหน้า ลาแล้วสำหรับวันนี้ค่ะ : )