ศิลปินสาวสุดจี๊ด ‘tsunari’ กับผลงานเพลงใหม่ ‘ได้ป่าว’ และเส้นทางนักร้องโกอินเตอร์ที่กรุงลอนดอน!

Spoil

  • "ถึงเวลาแล้วที่ต้องเสี่ยง ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า"
  • เคยไม่มั่นใจ แต่กลับมาคิดได้ว่าจะเอาคำพูดไม่ดีมาทำร้ายตัวเองทำไม
  • ไปอยู่ลอนดอน เคยเจอเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ
  • กำลังจะปล่อยเพลงใหม่ แอบกระซิบว่าจะมีทำงานร่วมกับศิลปินชาย!

สวัสดีชาว Dek-D.com ทุกคนค่ะ บทสัมภาษณ์ในวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ “tsunari” หรือ สุนารี คัมมิ่งส์ ศิลปินสาวสุดแซบลูกครึ่งไทย-ตรินิแดดและโตเบโก ที่เริ่มเส้นทางการเป็นนักร้องตั้งแต่ยังเด็ก จนในปัจจุบันสร้างชื่อเสียงทั้งในไทยและต่างประเทศ พร้อมกับแนะนำผลงานเพลงใหม่และแอบกระซิบผลงานในอนาคต!

รู้ว่าตัวเองชอบอะไรตั้งแต่เด็ก

       พี่นารีเกิดที่ประเทศอังกฤษ จนอายุประมาณ 7 เดือนก็ย้ายกลับมาอยู่ประเทศไทย เริ่มเข้าโรงเรียน และใช้ชีวิตไป ๆ กลับ ๆ ระหว่างไทยกับประเทศซาอุดิอาระเบีย จนกระทั่งขึ้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก็ย้ายมาอยู่ไทยยาวจนเรียนจบมหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1 วิชาเอกมิวสิก มหาวิทยาลัยรังสิต จากนั้นก็ย้ายไปที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

       “เป็นคนที่รู้ว่าตัวเองอยากทำอะไรมาตั้งแต่เด็ก ๆ เลย คือชัดเจนตั้งแต่เด็กเลยว่าอยากจะเป็นศิลปิน อยากจะเป็นนักร้อง อยากจะเป็นนักแต่งเพลง อยากจะเป็น Artist แต่ว่าไม่ได้ลองทำจริง ๆ จนตัวเองอายุ 13-14 ที่เพิ่งมาเริ่มประกวดร้องเพลง เพิ่งมาเริ่มเขียนเพลงอีกทีหนึ่ง”

ตอนอยู่ไทย เคยประกวด The Star และ AF

       ตอนอายุ 16 พี่นารีเคยไปประกวดรายการ The Star และรายการ AF เพราะความฝันที่อยากเป็นนักร้อง นอกจากนี้ยังมีไปประกวดงานวัด/ประกวดร้องเพลงลูกทุ่งแม้ว่าจะร้องไม่ค่อยเป็น “ได้ไม่ได้ก็เออ ขอให้ได้ไปก่อน” พี่นารีเล่าต่อว่าตอนจะไปประกวด The Star มีทั้งเพื่อนที่สนับสนุนและเพื่อนที่ไม่ “เขาก็จะพูดว่าจะไปทำไม ไปก็ไม่ติด ตอนเพื่อนพูด ถามว่าเสียใจไหมก็เสียใจ แต่ชังมากกว่า ก็เลยแบบอ้อเหรอ โอเค แสดงว่า you ไม่ใช่เพื่อนเราถ้าพูดจาแบบนี้”

       ช่วงคัดเลือกของรายการ The Star และ AF ก็จะมีการให้แสดงความสามารถทั้งการร้องและความสามารถพิเศษอื่น ๆ พี่นารีเล่าว่าไม่ได้เตรียมตัวแสดงความสามารถพิเศษไป ก็เลยตัดสินใจเต้น! “ก็เต็มที่ ไม่เข้ารอบแต่ก็ไม่เสียใจ เพราะว่าอย่างน้อย มันเป็นครั้งแรกที่นารีไป นารีคิดว่ามันเป็นประสบการณ์มากกว่า ไปดูลาดเลา ไปดูสนามรบว่าเป็นยังไง”

ไปตายเอาดาบหน้า, เริ่มเส้นทางศิลปินในลอนดอน

       พี่นารีบอกว่า ตอนอยู่ประเทศไทยเคยทำเพลง ทำดนตรี แต่เหมือนว่ามันไม่ขับเคลื่อนไปไหน บวกกับใจที่อยากไปลองหาประสบการณ์ อยากมีความรู้มากขึ้น นอกจากนี้ตอนเรียนอยู่ปี 1 เคยมีรุ่นพี่ชวนไปร้องเพลงแถวทองหล่อ/เอกมัย พี่นารีเลยเก็บเงินจากตรงนั้นใช้เดินทางมาลอนดอน “คิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราควรจะต้องเสี่ยง ณ ชีวิตที่เรามีอยู่ตอนนี้ไปตายเอาดาบหน้าเลยดีกว่า คือ ถ้ามันนิ่งแล้วมันไม่ไปไหน เราก็ลองไปหาแผ่นดินใหม่ ดีกว่าจะมาเสียดายทีหลัง”

       “ตอนมาที่อังกฤษ คือเพื่อที่จะมาลอง X-factor แต่เหมือนพอไปแล้วเราก็รู้สึกว่าการประกวดทีวีมันอาจจะไม่ใช่ทาง ก็เลยเอางี้แล้วกัน เราออกมาเป็นศิลปินอิสระไปเลย แล้วก็ปล่อยเพลง สร้างฐานแฟนคลับเองเลยดีกว่า เพราะนารีชอบที่จะมีอิสระในการ create ผลงาน ชอบที่จะมีส่วนร่วมในผลงานทุกชิ้นที่ตัวเองปล่อยออกมา” พี่นารีไม่ชอบที่จะให้คนมาจำกัดสิ่งที่ต้องทำมากเกินไป

       ตอนมาอยู่ลอนดอน ช่วง 6 เดือนแรกพี่นารีทำงานทุกอย่างจนเริ่มตั้งตัวได้มากขึ้น จากนั้นก็เริ่มไป casting นักแสดง นักแสดงตัวประกอบ นางเอก MV เริ่มเข้าสังคมให้ตัวเองรู้จักคนให้มากขึ้น มีไปออดิชันกับค่ายเพลงเยอะมาก ต่อมาผู้จัดการ (ที่ช่วยทำเพลงอยู่ในปัจจุบัน) ก็มาเจอโปรไฟล์ของพี่นารีในเว็บไซต์ของนักร้องนักดนตรี จึงเริ่มมีการพัฒนาเขียนเพลงมาตั้งแต่นั้น

เจอการเหยียดเชื้อชาติ, ข้อความถึงชาวเหยียด

       พี่นารีเล่าเรื่องการเหยียดเชื้อชาติให้ฟังว่า เคยโดนเหยียดตอนกำลังเดินไปทำงานที่สตูดิโอ ระหว่างทางจะต้องผ่านสนามฟุตบอล ซึ่งในตอนนั้นมีชายอายุมากคนหนึ่งคล้ายว่าจะเมายืนอยู่ พอเดินผ่านไปชายคนนั้นก็ถุยน้ำลายไล่หลัง “เราแบบ OMG! ทำไงดี เราเอาตัวเองให้เซฟไว้ก่อน ผ่าน ๆ ไปดีกว่า แต่ในใจตอนนั้นคือเดือดมาก”

       “พระเจ้าสร้างเราขึ้นมา ไม่ว่าเราจะเป็นมนุษย์ หรือจะเป็นต้นไม้ หรือจะเป็นสัตว์ประเภทไหน คือ เราเกิดมาจากโลกเดียวกัน แล้วความแตกต่างมันเป็นเรื่องที่สวยงาม มันเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้นการที่เราจะไปเหยียดหรือดูถูกคนใดคนหนึ่งหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง นารีว่ามันเป็นเรื่องที่ล้าหลังมาก มันไม่ใช่แล้ว เธอ It’s 2022 now ตอนนี้เราน่าจะเปิดใจ เปิดสมอง เปิดหัวใจยอมรับกับสิ่งที่มันเป็นธรรมชาติ”

ศิลปินเป็นเหมือนน้ำ, ความท้าทายของการทำเพลง

       พี่นารีบอกพร้อมกับรอยยิ้มว่า ชีวิตการเป็นศิลปินมันเหนื่อย แต่มันก็มีความสนุกปนอยู่ในความเหนื่อยนั้น สนุกที่บางครั้งตัวศิลปินเองจะไม่รู้เลยว่าเพลงหรือศิลปะที่ปล่อยออกมาจะพาเขาไปอยู่ตรงจุดไหน เหมือนกับว่ากำลังเดินอยู่บนเส้นด้าย

       “มันไม่มี how to ว่าเราทำแบบนี้แล้วเราจะไปจากจุด A ไปจุด B แน่นอน มันไม่ตายตัว ชีวิตวงการบันเทิงหรือการเป็นศิลปินเหมือนเป็นน้ำ ถึงแม้ว่าเราจะมีแพลนอะไรต่าง ๆ แต่บางครั้งมันไปในทางที่เราอยากจะให้เป็นไม่ได้”

       ตอนปล่อยเพลงออกมา พี่นารีปลื้มมาก เพราะกระแสเพลงค่อนข้างดี ถึงแม้จะมีเนื้อเพลงภาษาไทยปนอยู่ด้วยก็ตาม “เพลงส่วนมากที่ปล่อยจะเป็นเพลงภาษาไทย 80% พอคนย่านฝั่งนี้เขาได้ยิน เขาก็จะแบบ ฉันฟังไม่ออก ฉันไม่รู้ว่าเธอพูดอะไร แต่มันฟังแล้วชอบ มันได้ feel ซึ่งเราดีใจ”

“You’re The Boss of Your Life” ประโยคที่อยากสื่อผ่านเพลง

       ถามว่าเอกลักษณ์ของ tsunari คืออะไร พี่นารีตอบว่า ไม่ชอบที่จะจำกัดตัวเองอยู่กับแค่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือแนวเพลงใดแนวเพลงหนึ่ง ชอบที่จะเปิดใจและฟรีสไตล์ในการทำเพลง “นารีชอบทั้งการร้องเพลงและการแร็ป ชอบทำอะไรที่มัน quirky มีความ creative มีความแปลก ๆ บ้าบอนิด ๆ”

       โดยข้อความหรือแนวคิดที่พี่นารีอยากสื่อผ่านเพลงก็คือประโยคที่ว่า ‘You are the boss of your life’ หรือ คุณเป็นเจ้าของชีวิตของตัวเอง “ไม่ว่าคุณจะเป็นคนมั่นหรือเป็นคนขี้อายก็ไม่เป็นไร ขอให้เป็นตัวของตัวเอง อย่าฝืนที่จะไปเป็นในแบบที่สังคมอยากให้เป็น เราเป็นในสิ่งที่เราอยากเป็น เราพอใจ เราดีใจดีกว่า”

จะเอาคำพูดไม่ดีมาใส่ใจทำไม ชีวิตเป็นของเรา

       พี่นารีเล่าว่า เคยโดนเพื่อนที่โรงเรียนล้อตอนเพิ่งจะย้ายมาประเทศไทยในตอนเด็กหลังจากเกิดที่ประเทศอังกฤษ (โดนล้อตั้งแต่ ป.2-ม.3) ทำให้กลายเป็นคนขี้อาย ไม่มั่นใจในตัวเอง กลายเป็นคน Introvert ไม่กล้าร้องเพลง ไม่กล้าทำอะไร เพราะทำแล้วก็จะถูกคนมองว่าไม่ดี ใส่เสื้อผ้าก็โดนพูดว่าใส่ไม่ขึ้น “ความมั่นใจไม่รู้ไปอยู่ไหน คือ ไปอยู่ตรงตาตุ่ม” จนมาถึงวันหนึ่งที่คิดบางอย่างกับตัวเองได้

       “เราจะเอาคำพูด negative (ด้านลบ) ของคนรอบข้างมาทำลายชีวิต ทำลายความมั่นใจ ทำลายความเป็นตัวเราทำไม ในเมื่อชีวิตอยู่ในมือของเรา เราสามารถจะเป็นอะไรก็ได้ อยากทำอะไรทำเลย ทำให้เต็มที่ เพราะเราทำไปเต็มที่แล้ว ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง ไม่ว่าคนจะชอบหรือไม่ชอบ แต่จากภายในเราเป็น your own best friend (เป็นเพื่อนสนิทกับตัวเอง)”

       พี่นารีบอกว่า หลังจากที่คิดได้แบบนี้ชีวิตก็มีความสุขมากขึ้น ใครจะพูดดูถูกยังไงก็พูดไป “มีคนบอกว่าเราทำไม่ได้ คอยดูแล้วกัน เราจะทำให้ได้มากกว่าอีก 10 เท่า”

Remix, Rap, Inspiration

       พี่นารีเริ่มเส้นทางเพลงแร็ปจากการลองเขียน remix เพลงเองเล่น ๆ แล้วผลตอบรับออกมาดี พี่นารีก็เลยทำต่อมาเรื่อย ๆ ประกอบกับความอยากลองทำสิ่งใหม่ ๆ ด้วย ร้องเพลงได้แล้วก็ขอแร็ปดูบ้าง

       ส่วนช่วงที่แต่งเพลงไม่ออก หรือที่เรียกว่า “ช่วงตัน” พี่นารีก็แนะนำในประเด็นนี้ว่า ถ้าแต่งเพลงไม่ออกจะ ใช้วิธีออกไปหาแรงบันดาลใจ ซึ่งน้อง ๆ ชาวเด็กดีอาจจะเอาเทคนิคของพี่นารีไปปรับใช้ตามกันได้นะ ก็คือ ให้ออกไปข้างนอก ออกจากห้องอัด สังเกตและมองหารายละเอียดจากสิ่งต่าง ๆ แล้วเอามาปรับใส่ความเป็นตัวเอง หรืออาจจะมองหาจากคนที่อยู่รอบตัวก็ได้

มือใหม่ไม่มีคำว่าถูกหรือผิด

       ใครที่กำลังอยากเริ่มเส้นทางนักร้อง พี่นารีแนะนำว่า อยากให้ลองค้นหาตัวเองก่อนว่าชอบเพลงแนวไหน (Pop, Rock, R&B, Rap) โดยใช้การฟังเพลงเยอะ ๆ ฟังแล้วก็ลองทำ ลองดูว่าอันไหนที่เป็นตัวเรา เช่น อาจจะ cover เพลงลงยูทูบ จากนั้นก็รอดูผลตอบรับว่าเพลงแนวไหนคนชอบ เพลงแนวไหนที่เราชอบ แล้วถ้าสองสิ่งนี้มันไปด้วยกันได้ ก็ลุยไปในทางนั้นเลย

       “เราใหม่ มันไม่มีอะไรที่มันผิดหรือถูกหรอกค่ะ เพราะมันเป็นการหาตัวเอง เป็นการฝึกฝน”

       พี่นารียังบอกอีกว่า การใช้สื่อโซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์จะช่วยทำให้เป็นที่รู้จัก และช่วยสร้างฐานแฟนคลับให้มากขึ้น เช่น การลงศิลปะที่สร้างเอง/การแสดงความสามารถที่ตัวเองมีลงบน TikTok, YouTube หรืออย่างที่บอกไปเรื่องการ cover เพลงก็ดี หรือการ remix เพลงใหม่เองก็ดี ซึ่งการ remix ก็อาจจะเริ่มจากเอาเพลงที่กำลังเป็นกระแสมาทำดนตรีใหม่แล้วผสมผสานความเป็นตัวเองลงไปในผลงาน “ความเป็นศิลปิน คือ การที่เราขายความเป็นตัวเรา”

       “นารีคิดว่าการขึ้นรายการประกวดต่าง ๆ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลมากเหมือนกัน เพราะมันเป็นการสร้างโปรไฟล์ที่ดี และ exposure (การมีคนรู้จัก) จะได้เร็วกว่าการเป็น independent artist (ศิลปินอิสระ) ที่ค่อย ๆ สร้างไป”

อยากเป็นศิลปินที่ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองจะเป็นได้

       ถามไปถึงเรื่องแผนในอนาคต พี่นารีบอกว่าอยากเป็นศิลปินที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ อยากเป็นตัวอย่าง เป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินชาวไทยรุ่นต่อไปเห็นว่า พี่นารีเป็นคนไทยแต่สามารถออกจากประเทศไทยไปเดินตามความฝันได้ “you ทำได้เหมือนกัน like how I did it as well”

       นอกจากนี้ พี่นารียังมีแผนจะทำเพลงภาษาอังกฤษให้มากขึ้นควบคู่ไปกับเพลงภาษาไทย ซึ่งผลงานเพลง ‘ได้ป่าว’ เพลง ‘Since Young’ และเพลงอื่นที่กำลังที่ปล่อยออกมาในอนาคต พี่นารีก็ตั้งใจทำเพื่อมอบให้กับคนไทย

ผลงาน, ช่องทางการติดตาม

       ในปีนี้มีปล่อยผลงานเพลงล่าสุดชื่อว่า ได้ป่าว และเพลง Since Young สามารถไปฟังกันได้ในทุกช่องทางสตรีมมิ่ง และพี่นารีแอบกระซิบมาว่า ช่วง 2-3 เดือนนี้จะมีปล่อยเพลงใหม่ และจะมีการทำเพลงร่วมกับศิลปินชายสุดหล่อในปีนี้ด้วย ฝากติดตามผลงานกันด้วยนะคะ

       โดยน้อง ๆ สามารถติดตามพี่นารีต่อได้ในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น IG: tsunari, Facebook: Tsunari, YouTube: Tsunari 

พี่ณัชชา
พี่ณัชชา - Columnist นักเขียนฝึกหัดใกล้จะเรียนจบที่ชอบอ่านงานแฟนตาซีเป็นชีวิตจิตใจ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น