spoil
- ชวนคุยจากเรื่องรอบตัว คำชม ประสบการณ์ในชีวิต
- คุยเรื่องความชอบ ครอบครัว โรงเรียน ข่าวใหม่ อาหาร
สวัสดีเพื่อนพ้องน้องพี่ชาว Dek-D.com ทุกคนค่ะ เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยเจอกับเหตุการณ์บทสนทนาเดินมาถึงทางตัน อยู่ ๆ ทุกคนก็เงียบ หรือไม่รู้จะเริ่มหรือต่อบทสนทนายังไงดี บทความนี้อาจจะช่วยได้ มาลองดูกันค่ะว่าจะมีวิธีการรับมือในเรื่องนี้ยังไงบ้าง!
1. หาเรื่องรอบตัวมาชวนคุย
ถ้าเราเปิดบทสนทนาด้วยเรื่องลบ ๆ เช่น พูด bully หรือเริ่มด้วยมุกตลกที่คนอื่นไม่ตลกด้วย บทสนทนาก็จะยิ่งกร่อยลงไปมากกว่าเดิม ดังนั้น ชวนคุยด้วยเรื่องดี ๆ แล้วลงท้ายบทสนทนาด้วยคำถาม เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามามีส่วนร่วม ลองมองรอบตัวดูว่ามีอะไรที่เราจะเอามาชวนคุยได้บ้าง
- อยู่ในงานปาร์ตี้ เราอาจจะพูดว่า เพลงนี้มันดีมากเลยเนอะ นายชอบมั้ย (อาจถามต่อว่าชอบเพลงแนวไหน)
- อยู่ในร้านอาหาร อาจจะพูดว่าเคยลองกินอาหารจานนี้ยัง อร่อยมากเลย หรือแพ้อาหารอะไรมั้ย
- พยายามหาสิ่งที่เรากับคนที่คุยด้วยมีร่วมกัน แล้วเอามาคุยต่อ สมมติชอบเรียนคณิตเหมือนกัน ก็อาจจะถามต่อไปว่า เออ ที่เรียนพิเศษที่นี่ดีมั้ย หรือว่ามีหนังสือเล่มไหนแนะนำมั้ย หรือจะชวนมาติวเลขกันที่ร้านกาแฟต่อก็ได้นะ
2. หาเรื่องชม
ใครจะไม่ชอบเวลาโดนชมบ้าง จริงไหม? แต่ทั้งนี้ก็ควรที่จะชมด้วยความจริงใจ เพราะไม่อย่างนั้นเขาอาจจะคิดว่าเรากำลังปลอม แล้วบทสนทนามันอาจจะยิ่งแย่ลงด้วย โดยอาจจะเริ่มชมจากเรื่องพวกนี้
- ผมสวยมาก ไปทำผมที่ร้านไหนมาเหรอ กระซิบบอกบุญหน่อย, สีผมสีนี้เรียกว่าสีอะไรเหรอ สวยจัง
- เธอเคยเล่นดนตรีที่โรงเรียนด้วยใช่ไหม เธอเล่นดีมากเลย นี่เล่นมานานหรือยัง สอนเราบ้างได้มั้ย
- เธอแต่งตัวดูดีจังเลย ซื้อเสื้อผ้าจากร้านไหนเหรอ เดี๋ยวไปตำบ้าง
- เธอผิวดีมากเลย ใช้สกินแคร์อะไรเหรอ เผื่อเราจะลองใช้ตามดูบ้าง
หัวข้อที่ควรหลีกเลี่ยงในบทสนทนา
ไม่ควรคุยเรื่องเกี่ยวกับ ศาสนา การเมือง การเงิน รายได้ อายุ ความสัมพันธ์ ปัญหาครอบครัว ปัญหาสุขภาพ หรือเรื่อง sex กับคนที่เราไม่ได้คุ้นเคยด้วย เพราะมันอาจจะทำให้เกิดความไม่ลงรอยกันบางอย่าง บรรยากาศในการคุยจะแย่ลง
3. ชวนคุยเรื่องความชอบ/งานอดิเรก
คนเรามีความสนใจ/มีสิ่งที่ทำตอนว่างต่างกัน ดังนั้นหัวข้อนี้ก็เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ดีในการเริ่มต้นบทสนทนาเพื่อให้เรารู้จักกันมากขึ้น ลองถามคนที่เราคุยด้วยดูก็ได้ว่าตอนเลิกเรียนเลิกทำงาน เขา/เธอชอบทำอะไร โดยน้อง ๆ อาจจะใช้คำถามต่อไปนี้
- เป็นคนชอบเล่นกีฬามั้ย ชอบเล่นกีฬาอะไร (ถามต่อไปถึงการกินด้วยก็ได้ ดูแลหุ่นยังไง ต้องกินอาหารก่อนเล่นกีฬายังไง)
- เป็นคนชอบอ่านหนังสือมั้ย ชอบอ่านแนวไหน เราก็ชอบ มีเรื่องแนะนำมั้ยสำหรับคนเริ่มอ่าน
- เวลาว่างชอบทำอะไร ชอบฟังเพลงแนวไหน
- ชอบดูหนังแนวไหน มีหนังแนะนำมั้ย มีซีรีส์แนะนำมั้ย อาจจะถามต่อชอบดาราคนไหน
- เล่นบอร์ดเกมมั้ย (อาจจะชวนไปเล่นต่อถ้าเขามีท่าทีสนใจอยากเล่น)
- เลี้ยงน้องหมามั้ย (หรือสัตว์ชนิดอื่น) น้องเป็นพันธุ์อะไร
4. ชวนคุยเรื่องครอบครัว
คุยเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวก็ทำได้ แต่ต้องระวังให้ดีนิดนึง ครอบครัวอาจจะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับบางคน เช่น เพิ่งเกิดเหตุการสูญเสียคนในครอบครัว (ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้ คำถามนี้ก็ไม่ควรถาม) แต่ถ้าอยากรู้จักกันมากขึ้น ลองถามคำถามพวกนี้ดูได้
- มีพี่น้องมั้ย มีกี่คน
- ถ้าไม่มีพี่น้อง ก็อาจจะถามต่อว่าการเป็นลูกคนเดียวมันรู้สึกยังไงบ้าง (เราอาจจะแชร์ในมุมของเราด้วยก็ได้)
- ถ้ามีพี่น้อง ชื่ออะไรกันบ้าง อายุเท่าไร หน้าเหมือนกันมั้ย
Tips
- ถ้าเราไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขา/เธอคนนั้นพูด เราควรจะพูดประโยคในทางบวก เช่น โห เราไม่เคยคิดถึงในมุมนี้มาก่อนเลย แต่เราเข้าใจที่แกเล่าให้ฟังนะ
- ถ้าเราไม่เข้าใจเลยว่าเขา/เธอคนนั้นกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่ เราอาจจะขอให้เขาอธิบายให้ฟังได้
- คำถามที่มันค่อนข้างเป็นเรื่องส่วนตัว เราไม่ควรไปถามคนที่เพิ่งรู้จักกันนะ เพราะมันจะดูแปลก
5. ชวนคุยเรื่องประสบการณ์ในชีวิต ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ
ถามประสบการณ์ชีวิต ถามไถ่ความเป็นมา ก็เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่เราจะหามาชวนคุยหรือต่อบทสนทนาให้มันยาวขึ้น โดยน้อง ๆ อาจจะลองพูดตามนี้!
- เป็นคนชอบไปเที่ยวมั้ย ถ้าเลือกได้อยากไปเที่ยวที่ไหนมากที่สุด
- สถานที่ไหนเป็นที่หนึ่งในใจมีแนะนำมั้ย เสาร์อาทิตย์นี้ว่างพอดีว่าจะไปเที่ยวสักหน่อย
- เคยไปที่นี้มั้ย ว่าจะชวนเพื่อนไปเที่ยวกัน แกไปด้วยกันมั้ย
- ชีวิตช่วงนี้เป็นไงบ้าง ไม่ได้เจอกันนานเลย (ทำนองเม้ามอยชีวิตกันสักหน่อย)
- เคยไปห้างเปิดใหม่ตรงนั้นยัง ไว้ว่าง ๆ เราไปกันมั้ย
6. ชวนคุยเรื่องอาหาร
อาหารก็เป็นหัวข้อที่มีเรื่องให้ชวนคุยเยอะเหมือนกัน ซึ่งเราอาจจะคุยถามไปถึงเครื่องดื่ม หรือขนมของหวานที่ชอบด้วยก็ได้ แต่ระวังอย่าให้บทสนทนามันกลายเป็นเรื่องในทำนองว่า อย่าไปกินเลยอาหาร กินแล้วอ้วน เพราะมันอาจจะทำให้บรรยากาศเสีย
- ถ้าให้เลือกกินอาหารได้ 1 อย่าง จะเลือกกินอะไร
- ชอบกินอะไรมากที่สุดถ้าเป็นพวกต้ม ๆ (อาจจะถามเพิ่มผัด ยำ ส้มตำ ของทอด)
- ทำอาหารเป็นไหม ชอบทำอาหารไหม
- ไม่ชอบกินอะไร แพ้อาหารอะไรมั้ย
- แนะนำร้านอาหารที่ชอบหน่อยได้มั้ย เดี๋ยววันหยุดจะชวนพ่อกับแม่ไปกินตาม หรือพรุ่งนี้ตอนกลางวันจะไปต่อแถวซื้อบ้าง
7. ชวนคุยเรื่องโรงเรียน/สถานที่ทำงาน
การชวนคุยเรื่องโรงเรียนเรื่องงานที่ทำอยู่ ก็เป็นอีกหนึ่งหัวข้อชวนคุยได้ โดยเราอาจจะถามเรื่องในโรงเรียน หรือถามไปถึงเรื่องคณะที่อยากเรียนต่อ ตัวอย่างคำถาม เช่น
- ตอนนี้เรียนอยู่ที่โรงเรียนไหนเหรอ เรียนอยู่สายอะไร ยากมั้ย (สมมติว่าเพิ่งรู้จักกัน)
- อยากเรียนต่อคณะไหน ถ้าเลือกแบบไม่มีเงื่อนไขอะไรเลย อยากเรียนคณะไหน
- อาหารที่โรงเรียนเป็นไงบ้าง ดีมั้ย
- ร้านป้าแตนหน้าโรงเรียน แกเคยกินปะ คนรอซื้อเต็มเลย แกชอบกินเมนูอะไร
- คุณครูสั่งงานโหดมั้ย โรงเรียนเรานะโหดมากเลย (สมมติ)
- ชอบเรียนวิชาไหนที่สุด เฮ้ย เรารู้จักกันแล้ว ว่าง ๆ มาติวหนังสือกันมั้ย
8. ชวนคุยแบบขอความคิดเห็นเรื่องจิปาถะ คุยเรื่องข่าวที่เกิดขึ้น
หมดมุกจะชวนคุยแล้ว น้อง ๆ อาจจะเอาหัวข้อเหล่านี้ไปถามต่อได้นะคะ ฮ่า ๆ
- ถ้าให้เลือกเป็นเจ้าของของสัก 10 ชิ้น จะเลือกอะไร
- ถ้ามีเงินเยอะ หรือถ้าได้เป็น Influencer จะเลือกทำอะไร เพราะอะไร
- จะทำอะไร ถ้าแกมีเสื้อคลุมล่องหน
- จะเลือกเป็นสัตว์อะไรถ้ามีคนสามารถเสกให้เราเป็นสัตว์ได้ 1 ชนิด
- ถ้าให้ขอความสามารถพิเศษได้ 1 อย่าง อยากมีความสามารถอะไร
- ถ้าพรุ่งนี้ถูกหวยรางวัลที่ 1 จะอยากทำอะไรเป็นอย่างแรก เพราะอะไร
- แกดูข่าววันนี้ยัง แกมีความคิดเห็นเรื่องนี้ยังไง
หวังว่าบทความเรื่องนี้จะช่วยให้บทสนทนาของทุกคนราบรื่นมากขึ้นนะ เจอเพื่อนเก่า เจอคนรู้จักใหม่ ก็ลองเอาประโยคพวกนี้ไปปรับใช้ตามสถานการณ์กันได้ แต่ก็ควรระวังด้วยนะ อย่าพูดแต่เรื่องของตัวเอง ควรเป็นผู้ฟังด้วย แล้วพบกันใหม่ค่ะ บ๊ายบาย : )
ที่มาของข้อมูลhttps://www.wikihow.com/Come-Up-with-Good-Conversation-Topicshttps://www.verywellmind.com/tips-to-cope-with-awkward-conversations-3024859https://www.wikihow.com/Start-a-Conversation-When-You-Have-Nothing-to-Talk-About
1 ความคิดเห็น
ขอแบบชวนคนคุยหน่อย