สวัสดีเพื่อน ๆ ชาว Dek-D ทุกคนค่ะ จากประเด็นเรื่องอุทยานแห่งชาติทับลานที่หลายคนได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเดี่ยวกับสถานะการเป็นป่าอนุรักษ์ของพื้นที่ดังกล่าว วันนี้เราจะมานำเสนอประเด็นเกี่ยวกับ ‘ป่าอนุรักษ์’ ในประเทศไทยที่หลายคนอาจจะยังสงสัยว่าประเภทของป่าอนุรักษ์มีอะไรบ้าง แต่ละประเภทแตกต่างหรือคล้ายคลึงกันอย่างไร และมีความสำคัญอย่างไรบ้าง? รวมถึงประเด็นสถานการณ์ป่าไม้ในประเทศไทย และปมส.ป.ก.กับอุทยานฯ ทับลานด้วยค่ะ
ก่อนอื่นเรามาเริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ ‘ป่า’ กันก่อนดีกว่าค่ะ
ความหมาย
ป่าไม้ (อังกฤษ: Forest, Jungle)
ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ หมายถึง ที่ดินที่ไม่มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ครอบครองตามกฎหมายที่ดิน
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและสงวนป่า หมายถึง สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ประเภทรกร้างว่างเปล่า
โดยทั่วไป หมายถึง บริเวณที่มีต้นไม้หลายชนิด ขนาดต่าง ๆ ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นและกว้างใหญ่พอที่จะมีอิทธิพลต่อสิ่งแวดล้อมในบริเวณนั้น เช่น ความเปลี่ยนแปลงของลมฟ้าอากาศ ความอุดมสมบูรณ์ของดินและน้ำ มีสัตว์ป่าและสิ่งมีชีวิตอื่นซึ่งมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
ป่าอนุรักษ์
ป่าอนุรักษ์ หมายถึง ป่าที่รัฐได้กำหนดไว้เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งพื้นที่เหล่านี้อาจเป็นพื้นที่ป่าไม้ ชายฝั่งทะเล หรือลักษณะอื่น ๆ ที่มีระบบนิเวศดั้งเดิมหรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเพื่อให้ประโยชน์ในการอนุรักษ์
กำหนดไว้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ดิน น้ำ พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ที่หายากหรือเสี่ยงสูญพันธุ์ และป้องกันภัยธรรมชาติ ตลอดจนเพื่อประโยชน์ในการท่องเที่ยว นันทนาการ และการศึกษาวิจัย
ในการประชุม The World Congress on National Parks and Protected Areas ครั้งที่ 4 ณ กรุงคาราคัส ประเทศเวเนซุเอลา เมื่อปี ค.ศ. 1992 องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ได้ให้คำจำกัดความพื้นที่คุ้มครองหรือพื้นที่อนุรักษ์ (Protected Areas) ในลักษณะรวมว่า “เป็นพื้นที่บกหรือพื้นที่ทางทะเลที่จัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะเพื่อการคุ้มครองและบำรุงรักษาความหลากหลายทางชีวภาพและทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งทรัพยากรทางวัฒนธรรม พร้อมมีระบบการจัดการที่ตั้งอยู่บนฐานของกฎหมายหรือวิธีการอื่นใดที่มีประสิทภาพ”
สถาบันทรัพยากรโลก (World Resources Institute - WRI) ให้คำจัดกัดความว่า พื้นที่คุ้มครอง หมายถึง “พื้นที่ทางบกหรือทางทะเลที่ได้รับการจัดตั้งตามกฎหมายภายใต้ความเป็นเจ้าของของสาธารณชนหรือเอกชน ซึ่งถูกวางระเบียบให้และจัดการให้บรรลุวัตถุประสงค์พิเศษเฉพาะการอนุรักษ์”
ประเภทของป่าอนุรักษ์ในประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติ (National Park)
อุทยานแห่งชาติ เป็นที่ดินซึ่งรวมพื้นที่ดินทั่วไป ภูเขา บึง ทะเลสาบ เกาะ หนอง ห้วย บึง คลอง และชายทะเลที่ได้รับการกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ถือเป็นพื้นที่ที่สงวนและคุ้มครองรักษาทรัพยากรธรรมชาติโดยเฉพาะป่าไม้และสัตว์ป่า สงวนไว้เพื่อให้คงสภาพธรรมชาติดั้งเดิม
อุทยานแห่งชาติตามมาตราฐานต้องมีพื้นที่อย่างน้อย 10 ตารางกิโลเมตร บริหารโดยรัฐบาลกลาง ค่าบริการสำหรับเข้าอุทยานแห่งชาติเป็นไปตามที่กรมอุทยานฯ กำหนด
7 อุทยานแห่งชาติในประเทศไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก: อุทยาน 3 แห่งในกลุ่มป่าแก่งกระจาน (อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน) และอุทยาน 4 แห่งในกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ (อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติทับลาน อุทยานแห่งชาติปางสีดา และอุทยานแห่งชาติตาพระยา)
วนอุทยาน
วนอุทยาน เป็นพื้นที่ที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงาม เช่น ถ้ำ น้ำตก หาดทราย โดยทำการปรับปรุงตกแต่งสถานที่ให้เหมาะสมในการพักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชน เป็นสถานที่ซึ่งไม่อยู่ห่างไกลจากชุมชนมากนัก สะดวกแก่การเดินทางไปพักผ่อน
วนอุทยานตามมาตรฐานต้องมีพื้นที่ประมาณ 500 - 5,000 ไร่ ใช้พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และพรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 เป็นกฏหมายหลัก มีค่าบริการ (บางแห่ง) สำหรับการเข้าวนอุทยาน
ตัวอย่างวนอุทยานในประเทศไทย: วนอุทยานแพะเมืองผี (แพร่), วนอุทยานพระแท่นดงรัง (กาญจนบุรี), วนอุทยานบึงสามพัน (พิษณุโลก) และวนอุทยานสระนางมโนราห์ (นครศรีธรรมราช) เป็นต้น
อุทยานแห่งชาติ VS. วนอุทยาน
อุทยานแห่งชาติ: จัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาและประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา เป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงได้ แต่ให้คงไว้ในสภาพเดิมให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นการคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติ
วนอุทยาน: จัดตั้งขึ้นตามประกาศกรมอุทยาน หรือกรมป่าไม้ เป็นพื้นที่ที่สามารถปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงพื้นที่วนอุทยานบางส่วนได้ เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ใช้เพื่อการพีลักผ่อนหย่อนใจ
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หมายถึง พื้นที่ที่กำหนดขึ้นเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าโดยปลอดภัย เพื่อว่าสัตว์ป่าในพื้นที่ดังกล่าวจะได้มีโอกาสสืบพันธุ์และขยายพันธุ์ตามธรรมชาติได้มากขึ้น ทำให้สัตว์ป่าบางส่วนได้มีโอกาสกระจายจำนวนออกไปในท้องที่แหล่งอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
ตัวอย่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในประเทศไทย: เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ (จังหวัดสุรินทร์), เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว (จังหวัดเชียงใหม่) และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร (จังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี ตาก) เป็นต้น
เขตห้ามล่าสัตว์ป่า
เขตห้ามล่าสัตว์ป่า (non-hunting area) หมายถึง พื้นที่คุ้มครองเพื่อการจัดการที่อยู่อาศัย/ชนิดพันธุ์ จัดตั้งขึ้นเพื่ออนุรักษ์พื้นที่ที่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าบางชนิดหรือเป็นที่ที่สัตว์ป่าต้องการใช้สำหรับกิจกรรมบางอย่างในการดำรงชีวิต เช่น ผสมพันธ์ุ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน แหล่งอาหาร ที่พักระหว่างเดินทางย้ายถิ่นฐาน เป็นต้น
ตัวอย่างเขตห้ามล่าสัตว์ป่าในประเทศ: บึงบอระเพ็ด (นครสวรรค์), หมู่เกาะลิบง (ตรัง), แหลมตะลุมพุก (นครศรีธรรมราช) และคุ้งกระเบน (จันทบุรี) เป็นต้น
การเข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า
ต้องยื่นหนังสือขออนุญาตเข้าพื้นที่อย่างน้อยก่อน 5 วันทำการ
สวนพฤษศาสตร์
สวนพฤษศาสตร์ เป็นแหล่งรวมพรรณไม้ประจำถิ่นหรือนำมาปลูกจากต่างถิ่นเพื่อใช้ในการศึกษาค้นคว้าวิจัยให้ได้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ของพรรณไม้ ภายในสวนพฤษศาสตร์มีการปลูกพรรณไม้อย่างมีระบบเป็นหมวดหมู่ เช่น ด้านอนุกรมวิธาน ภูมิศาสตร์พืชพรรณ ประเภทของการจัดสวน การใช้ประโยชน์และสมุนไพร เป็นต้น มีทั้งพรรณไม้ถิ่นเดียว หายาก และใกล้สูญพันธุ์
ปัจจุบันประเทศไทยมีสวนพฤษศาสตร์จำนวน 18 แห่ง และอยู่ภายใต้การดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ตัวอย่างสวนพฤษศาสตร์ในประเทศไทย: สวนพฤษศาสตร์ 100 ปี (สระแก้ว), สวนพฤษศาสตร์เขาช่อง (ตรัง), สวนพฤษศาสตร์ดงฟ้าห่วน (อุบลราชธานี), สวนพฤษศาสตร์เขาหินซ้อน (ฉะเชิงเทรา) เป็นต้น
สวนรุกขชาติ
สวนรุกขชาติ เป็นแหล่งรวบรวมพรรณไม้ท้องถิ่นที่มีค่าทางเศรษฐกิจ หายาก และใกล้สูญพันธุ์ พื้นที่สวนใหญ่เป็นพื้นที่หย่อมป่าสงวนดั้งเดิม ใกล้แหล่งชุมชน มีต้นไม้เดิมหรือเป็นพื้นที่สวนป่าเดิมที่ไม่มีการบำรุงต่อไปแล้วจึงได้เปลี่ยนเป็นสวนรุกขชาติ
ปัจจุบันประเทศไทยมีสวนรุกขชาติจำนวน 53 แห่ง และอยู่ภายใต้การดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ตัวอย่างสวนรุกขชาติในประเทศไทย: สวนรุกขชาติเขาดินไพรวัน (เชียงราย), สวนรุกขชาติกาญจนกุมาร (พิจิตร), สวนรุกขชาติผาเมือง (เพชรบูรณ์), สวนรุกขชาติภูข้าว (เลย) เป็นต้น
สวพฤษศาสตร์ VS. สวนรุกขชาติ
สวนทั้ง 2 แบบ เหมือนกันที่เป็นสวนเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ต่างกันที่การเลือกพรรณไม้ปลูก คือ สวนพฤกษศาสตร์ ปลูกเพื่อการอนุรักษ์พรรณไม้ทั้งในและต่างประเทศ มีการจัดหมวดหมู่ตามหลักอนุกรมวิธาน ( taxonomy )เพื่อศึกษาวิจัยการปลูกพรรณไม้ในสวน ส่วนสวนรุกขชาตินั้น ปลูกเฉพาะไม้ยืนต้นขนาดใหญ่และไม้ดอกในท้องถิ่นเท่านั้น
สถานการณ์ป่าไม้ในประเทศไทย
“เพิ่มพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ให้ได้ร้อยละ 25 ของพื้นที่ในประเทศ ภายในปี 2569”
(วิสัยทัศน์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช)
วิสัยทัศน์ดังกล่าวของกรมอุทยานฯ สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ที่มีความต้องการให้ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศไทย เพื่อการการอนุรักษ์และนำมาใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
ตัวเลข 40% แบ่งออกเป็น การเพิ่มพื้นที่ป่าเพื่อการใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 15% และการเพิ่มพื้นที่ป่าอนุรักษ์ให้ได้ 25% ของพื้นที่ประเทศไทย
ป่าอนุรักษ์ vs. ป่าเศรษฐกิจ
ป่าอนุรักษ์อยู่ภายใต้การดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป้าหมายหลักคือเพื่ออนุรักษ์ ส่งเสริม และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยควบคุมพื้นที่ป่าอนุรักษ์เดิมที่มีอยู่และพื้นที่เสื่อมโทรมให้กลับมาสมบูรณ์
ป่าเศรษฐกิจอยู่ภายใต้การดูแลของกรมป่าไม้ เป้าหมายหลักคือ ควบคุม ดูแล จัดทำแผนกลยุทธ์ในการป้องกันการบุกรุกป่าและการกระทำผิดในพื้นที่ป่าไม้ โดยอนุรักษ์ คุ้มครอง ดูแลรักษา และจัดการให้มีการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าไม้และการอนุญาตที่เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ อุตสาหกรรมที่ดินป่าไม้ และผลผลิตป่าไม้
ปัจจุบัน รายงานสถานการณ์ป่าไม้ไทย โดย มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ระบุว่า จากปี 2566 ถึงปี 2567 พบว่า ผืนป่าของไทยลดลงมากที่สุดในรอบ 10 ปี มีการสูญเสียพื้นที่ป่าไม้ถึง 317,819.20 ไร่ ปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ป่าไม้ “101,818,155.76 ไร่ หรือคิดเป็น 31.47%” ของพื้นที่ประเทศไทย
สาเหตุการเพิ่มขึ้นและลดลงของป่าไม้ในประเทศไทย
สาเหตุพื้นที่ป่าไม้เพิ่มขึ้น ได้แก่ การขยายตัวของพื้นที่ป่าไม้ตามธรรมชาติ (Natural Forest Expansion) การปลูกป่าเพื่อประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ เช่น สวนป่า (Planation) หรือการปลูกป่าเพื่อการอนุรักษ์ความหลากหลายของต้นไม้และสิ่งมีชีวิต
สาเหตุพื้นที่ป่าไม้ลดลง ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน (Land Use Change) จากพื้นที่ที่มีสภาพเป็นป่าไปเป็นพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ชุมชนหรือสิ่งปลูกสร้าง หรือเกิดจากปัญหาไฟป่าที่มีความรุนแรงขึ้น (Forest Fire)
ที่ดิน ส.ป.ก. กับป่าไทย
ที่ดิน ส.ป.ก. คืออะไร?
ที่ดิน ส.ป.ก. หรือที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 คือ เอกสารแสดงการครอบครองที่ดินที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกให้กับประชาชนเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน โดยมีหลักว่า ที่ดินในเขตปฏิรูปนั้นใช้ทำเกษตรกรรมได้อย่างเดียวเท่านั้น ทำประโยชน์อย่างอื่นไม่ได้ และผู้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 จะต้องมีฐานะยากจน
ที่ดิน ส.ป.ก ซื้อขายได้ไหม?
พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 มาตรา 39 ระบุว่า “ที่ดินที่บุคคลได้รับสิทธิโดยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจะทำการแบ่งแยก หรือโอนสิทธิในที่ดินนั้นไปยังผู้อื่นมิได้ เว้นแต่เป็นการตกทอดทางมรดกแก่ทายาทโดยธรรม หรือโอนไปยังสถาบันเกษตรกร หรือ ส.ป.ก. เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง”
หากมีการซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดิน ส.ป.ก. กฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้กำหนดมาตรการหรือโทษตามกฎหมาย โดยผู้ขายต้องเสียสิทธิทำกินในที่ดินที่ได้รับอนุญาต ในขณะที่ผู้ซื้อก็ไม่อาจอ้างการซื้อขายเข้าครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก.ได้ นอกจากนั้นผู้ซื้อและผู้ขายอาจต้องรับโทษอาญาถึงจำคุกด้วย
ที่ดิน ส.ป.ก. โอนให้ใครได้บ้าง?
ที่ดิน ส.ป.ก. สามารถโอนสิทธิและตกทอดทางมรดกสิทธิให้ทายาท ต้องเป็นเกษตรกรหรือผู้ประสงค์จะประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักเท่านั้น ดังนี้
- การโอนสิทธิ เกษตรกรที่ได้รับที่ดิน ส.ป.ก. ยังมีชีวิตออยู่ สามารถโอนสิทธิให้ทายาทได้ ต่อเมื่อมีเหตุผลและความจำเป็น เช่น แก่ชรา เจ็บป่วย เป็นต้น
- ตกทอดทางมรดกสิทธิ เกษตรกรที่ได้รับที่ดิน ส.ป.ก. เสียชีวิต ทายาทสามารถยื่นคำร้องขอรับมรดกสิทธิได้
ปม ส.ป.ก กับ ป่าทับลาน
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในกรณี #Saveทับลาน เป็นเรื่องของการอนุรักษ์และการจัดสรรที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เนื่องมาจาก การประกาศเขตอุทยานเมื่อปี พ.ศ.2524 ซึ่งมีเขตที่ทับซ้อนกับพื้นที่ที่ชาวบ้านอาศัยอยู่ก่อน การปรับเขตพื้นที่จึงเกิดขึ้นในพื้นที่อุทยาน โดยแนวทางการในการลดความขัดแย้งนี้ คือ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ซึ่งเป็นหลักการแผนที่หน่ึงแผนที่ซึ่งหน่วยงานของรัฐใช้ร่วมกันเป็นแผนที่เดียว มาตราส่วนเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดเป็นข้อถกเถียงเรื่องแนวเขตของแต่ละหน่วยงาน
โดยกระบวนการแก้ปัญหานี้ต้องมุ่งเน้นให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ตามสิทธิของตน ทั้งฝ่ายประชาชนที่ต้องได้รับการจัดสรรพื้นที่อย่างชอบธรรม และฝ่ายกรมอุทยานแห่งชาติที่จะสามารถรักษาผืนป่าและป้องกันการหาประโยชน์ในทางมิชอบจากพื้นป่าได้
ที่มาhttps://www.dnp.go.th/Research/Knowledge/B_forest1.htmlhttps://greennews.agency/?p=19202https://botany.dnp.go.th/garden/index.htmlhttps://km.dmcr.go.th/c_61/s_65https://www.facebook.com/SeubNakhasathienFD/photohttp://legacy.orst.go.th/?knowledgeshttps://www.ddproperty.com/https://www.thaipbs.or.th/now/content/1371สถาการณ์ป่าไม้ในไทยเป็นเรื่องที่เรายังต้องจับตามองและพูดคุยกันในรายละเอียดอีกหลายประเด็น การอนุรักษ์ป่าไม่ใช่เพียงแค่การปลูกป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการรักษา ดูแล ป้องกันเพื่อให้คงอยู่ให้มนุษย์ได้พึ่งพิงต่อไป
0 ความคิดเห็น