วิธีพิชิตใจบรรณาธิการ!!

                การที่น้องๆ ชาว Dek-D.Com นำจินตนาการที่ได้ขีดเขียนมาโพสต์ไว้ในบทความก็เพราะมีความฝันอยากเป็น “นักเขียน” ใช่ไหมจ๊ะ และพี่ปัดเชื่อว่าทุกคนต่างก็หวังว่าผลงานของตัวเองจะได้รับการตีพิมพ์ออกมาเป็นรูปเล่มเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ

                เพราะความฝันที่อยากจะเป็น “นักเขียน” นี่เอง ที่ทำให้น้องๆ ส่งผลงานของตัวเองไปให้สำนักพิมพ์พิมพ์พิจารณา ซึ่งก็มีบางส่วนได้เป็นไปอย่างที่หวัง แต่บางส่วนก็ต้องผิดหวัง ดังนั้นในวันนี้พี่ปัดจึงได้ไปสัมภาษณ์ “พี่ปุ้ย” บรรณาธิการสาวจากสำนักพิมพ์ชื่อดัง ถึงขั้นตอนการคัดเลือกผลงานแต่ละเรื่อง

พี่ปัด : ช่วยแนะนำตัวให้น้องๆ ชาว Dek-D.Com รู้จักหน่อยคะ ?

พี่ปุ้ย : สวัสดีค่ะ ชื่อพี่ปุ้ยค่ะ ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการของสำนักพิมพ์แจ่มใส ดูแลเรื่องการผลิตหนังสือทั้งหมดค่ะ แล้วก็ทำหน้าที่คัดเลือกต้นฉบับในซีรี่ส์ Jamsai Love Series ค่ะ

พี่ปัด : การส่งผลงานมาให้พิจารณานั้นควรที่จะต้องส่งอะไรมาบ้างคะ ?

พี่ปุ้ย : ควรส่งเรื่องเต็มทั้งหมดค่ะ พร้อมกับแนบเรื่องย่อมาด้วย จะมีประวัติตัวเองมาด้วยคร่าวๆ ก็ได้ค่ะ ชื่อจริง อีเมลหรือเบอร์ติดต่อ การศึกษาว่าเรียนอยู่ชั้นไหนแล้ว ถ้าเคยมีผลงานมาก่อนก็สามารถบอกได้ค่ะ

พี่ปัด : เมื่อได้รับผลงานของน้องๆ แล้ว สิ่งที่จะพิจารณาเป็นอันดับแรกคือ ?

พี่ปุ้ย : ก็ลงมืออ่านเรื่องเลยค่ะ ปกติจะดูเรื่องย่อคร่าวๆ ก่อน เพราะเรื่องย่อจะเป็นตัวบอกพล็อตเรื่องทั้งหมด อ่านดูแล้วก็จะรู้ว่าเรื่องนี้ของน้องๆ น่าสนใจมั้ย วางพล็อตมาเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากนั้นก็จะอ่านเรื่องเต็มต่อไป เพื่อดูการใช้ภาษา การดำเนินเรื่อง การวางตัวละครค่ะ

พี่ปัด : การคัดเลือกผลงานที่ส่งเข้ามาจะดูอะไรบ้างคะ ?

พี่ปุ้ย : ก็จะดูหลายอย่างประกอบกันนะคะ หลักๆ ก็จะมีเรื่องพล็อตเรื่อง ว่าควรจะแปลกใหม่ ไม่ซ้ำ ไม่ลอกมา มีความน่าสนใจที่จะชวนให้คนติดตามอ่านได้ค่ะ ถัดมาก็เป็นเรื่องการดำเนินเรื่อง คือ พอวางพล็อตแล้ว น้องๆ สามารถเอามาเรียบเรียงเหตุการณ์ให้น่าสนใจได้มากน้อยแค่ไหน การดำเนินเรื่องที่ดีจะไม่ช้าไป ไม่เร็วไป ตัดตอนได้น่าสนใจ ดึงดูดให้อยากอ่านต่อตลอดเวลา นอกจากนี้ก็เป็นเรื่องของการใช้ภาษา ทั้งในบทบรรยายและบทสนทนาค่ะ การใช้ภาษาถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเป็นตัวทำให้เรื่องดำเนินไป ถ้าใช้ภาษาได้ดี อ่านแล้วลื่นไหล ไม่ติดขัด ก็จะทำให้เรื่องของเราน่าสนใจขึ้น อ่านแล้วคนอ่านอินกับเรื่องได้ง่ายขึ้น

          อีกอันที่ดูก็คือเรื่องของตัวละครค่ะ ว่ามีเสน่ห์มั้ย การกระทำเข้ากับนิสัยที่วางไว้รึเปล่า มีมิติมั้ย ที่สำคัญในเรื่องราวของเราจะต้องดำเนินไปอย่างสมเหตุสมผลด้วยค่ะ ว่าเพราะแบบนี้จึงเกิดแบบนี้ หรือเพราะคิดแบบนี้ ตัวละครจึงทำแบบนี้ ตามหลักเกณฑ์แล้วก็ตามนี้ค่ะ แต่อีกอย่างที่พี่ๆ จะดูก็คือ อารมณ์ที่ได้จากการอ่านเรื่องนี้ ถ้าอ่านแล้วรู้สึกว่าสนุก ซึ้ง เศร้า หรืออารมณ์ที่เจ้าของเรื่องต้องการสื่อ สื่อมาถึงเราได้ชัดเจน ก็จะถือว่าเรื่องนี้โอเคค่ะ

{pic-desc}

พี่ปัด : ปัญหาที่พบบ่อยมากที่สุดในการคัดเลือก คือ ?

พี่ปุ้ย : ส่วนใหญ่จะพบปัญหาเรื่องพล็อตที่ค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จค่ะ คือจะไม่ค่อยมีความแปลกใหม่เท่าไหร่ ดำเนินไปตามสูตร อีกอย่างจะเป็นเรื่องของการใช้ภาษาที่ยังไม่ค่อยดีเท่าที่ควรค่ะ

พี่ปัด : จะใช้เวลาในการพิจารณาผลงานแต่ละเรื่องนานแค่ไหน ?

พี่ปุ้ย : ปกติใช้เวลา 2-3 เดือนค่ะ เนื่องจากมีต้นฉบับส่งเข้ามาให้พิจารณาเยอะมาก จึงต้องรอคิวกันนิดนึงค่ะ

พี่ปัด : ช่วยให้กำลังใจน้องๆ ที่อยากจะส่งผลงานมาให้พิจารณาหน่อยคะ ?

พี่ปุ้ย : อยากจะบอกว่าทุกอย่างต้องมีก้าวแรกค่ะ ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ ถ้าไม่กล้า ก็จะไม่มีทางประสบความสำเร็จ อยากให้น้องๆ ทุกคนที่มีความฝัน กล้าที่จะก้าว เพื่อทำให้ความฝันกลายเป็นความจริง วันนี้ถ้าทำแล้วยังไม่ได้ ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ได้ตลอดไป สักวันหนึ่งสิ่งที่เราพยายามก็สามารถประสบความสำเร็จได้ค่ะ

                พี่ปัดขอสรุปว่าเรื่องที่จะได้รับการพิจารณานั้นจะต้องมีพล็อตเรื่องที่มีความแตกต่างและโดดเด่น มีสำนวนภาษาที่ดีรู้จักเลือกใช้คำ เดินเรื่องได้กระชับมีหลักเหตุผล มีความไหลลื่น ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุด คือ น้องๆ ซึ่งเป็นผู้เขียนควรที่จะมีการอ่านทบทวนผลงานเขียนของตัวเองอีกสักครั้งว่ามีสิ่งใดขาดตกหล่นไปบ้างรึเปล่า ถ้ามีเราก็จะได้เพิ่มเติมได้ทันก่อนที่จะส่งให้ทางสำนักพิมพ์พิจารณา

โอกาสมักมารออยู่ข้างหน้าเสมอ หากเรารู้จักไขว่คว้าและกล้าเดินต่อไป