เล่าเรื่องอย่างไรให้คนอ่านติดหนึบ

 

        น้องๆนักเขียนชาวDek-d.com เคยอ่านหนังสือเรียนแล้วหลับกันบ้างหรือเปล่าจ๊ะ อ๊ะๆ พี่นัทเห็นนะว่า หลายคนแอบอมยิ้ม หนูเป็นบ่อยค่ะพี่นัท ฮ่าๆ พี่นัทก็เป็นเหมือนกันจ๊ะ แต่ทำไมเวลาอ่านนิยายเราถึงอ่านได้ทั้งวัน แถมบางครั้งวางหนังสือเล่มนั่นไม่ลงด้วยซ้ำ ก็เพราะว่าการเล่าเรื่อง หรือการดำเนินเรื่องของเค้าทำให้เราอยากติดตามต่อไปไงล่ะจ๊ะ วันนี้พี่นัทจึงมีเคล็ดลับดีๆที่จะทำให้น้องๆนักเขียนชาวDek-d.com ดึงดูดผู้อ่านให้ติดหนึบอยู่กับนิยายของน้องเลยจ้า


เคล็ดลับการเขียนเรื่องเล่าให้น่าอ่าน

         เมื่อ เขียนมากขึ้นๆ พร้อมทั้งอ่านบันทึกของคนอื่นๆมากขึ้น ก็พบว่า การเขียนบ่อยๆทำให้กระบวนการเขียนเป็นระบบระเบียบไปเองโดยธรรมชาติ เขียนเองอ่านเองก็ยังรู้สึกว่า มีบางบันทึกที่ชอบการเขียนและการเรียบเรียงความคิดและมีของหลายๆคนที่เราได้ เห็นพัฒนาการความเปลี่ยนแปลงจากบันทึกแรกๆมาถึงปัจจุบัน ทำให้รู้แล้วว่าการเขียนเป็นสิ่งที่ใครๆก็ทำได้

        สิ่งที่เรียนรู้จากการเขียนและการอ่านบันทึกต่างๆมาตลอด ก็คือ การเขียนที่ดี ที่เราอ่านแล้วชอบ (แม้แต่สิ่งที่ตัวเราเองเขียน) ก็คือ การเขียนสิ่งที่คิด ในขณะที่ทำเรื่องนั้นๆ ไม่ว่าจะเล่าเรื่องอะไร หากใส่สิ่งที่ตัวเองคิดในระหว่างการทำ การเห็น การฟัง เรื่องนั้นๆลงไปด้วย จะทำให้บันทึกเรื่องเล่านั้น มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร

        สำหรับคนเขียน เราก็จะได้พัฒนาวิธีการคิด กระบวนการคิด และได้ทบทวนสิ่งที่เราเขียนเล่า เป็นการพัฒนาตนเองที่เป็นธรรมชาติและให้ประโยชน์อย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับคนอ่าน เราก็ได้เรียนรู้วิธีคิด ที่บางครั้งเหมือน บางครั้งแตกต่างหลากหลาย เป็นการสอนให้รับฟัง รับรู้ความคิดของคนอื่น เป็นการรับรู้ที่เราไม่สามารถโต้แย้งได้โดยตรงทันที ทำให้เราใคร่ครวญกว่าการรับรู้ผ่านการฟัง

        สรุปแล้ว หนึ่งในเคล็ดลับที่สำคัญในการเขียนเรื่องเล่าให้น่าอ่าน ก็คือ เขียน “สิ่งที่คิด” ไปพร้อมๆกับเล่าเรื่องที่ทำ เพราะ สิ่งที่เราคิดเป็นของเรา ไม่มีใครมาตัดสินได้ว่าถูกหรือผิด ทุกคนมีสิทธิคิดและแสดงความคิด ตราบเท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ไม่จำเป็นต้องเหมือนหรือแตกต่างกับใคร และโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าเราจะทำอะไร การ”คิด”ระหว่างที่ทำก็คือการฝึก”สติ”นั่นเอง ซึ่งเราทำกันอยู่แล้วเป็นประจำ เพราะฉะนั้น การเขียนเล่าเรื่องที่เราทำ เราเห็น เราฟังมาพร้อมกับความคิดของเราระหว่างที่ทำ ระหว่างที่เห็น ระหว่างที่ฟังเรื่องนั้นๆ

 
        เคยมีหลายคนถามเทคนิคการเขียนเรื่องเล่า ฉันเองก็บอกจริงๆว่าไม่ทราบเหมือนกัน (ถึงจะเคยอ่านการสอนใช้เรื่องเล่าจากเรื่องบริษัทกระรอกน้อยมาบ้าง…แต่ก็ไม่เคยได้นำมาใช้) นึกอยากเขียนอะไรก็เขียน ในสิ่งที่ต้องการถ่ายทอด และพยายามให้ครอบคลุมประเด็นสำคัญ รวมถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ประทับใจ

        เขียนเสร็จแล้วก็ลองมานั่งอ่านดู อ่านแล้วไม่เหย่นเย้อมากเกินไป อ่านแล้วไม่รู้สึกว่ามันเป็นพรืด อ่านแล้วรู้สึกเหนื่อย ลายตาก็ใช้ได้ ที่สำคัญอ่านแล้วเรารู้สึกสนุกด้วย ขำตัวเอง ก็ใช้ได้แล้ว คือนอกจากจะมองในแง่คนเขียนแล้ว ยังมองในแง่ของคนอ่านด้วย แต่ที่สำคัญคือต้องเขียนมาจากใจจากความรู้สึกข้างในจริงๆ ซึ่งสิ่งนี้ฉันคิดว่าสำคัญมาก

        ทำให้เห็นว่า…อะไรที่เขียนมาจากใจจริง…สิ่งนั้นทรงพลังมากที่สุด ส่วนสำนวนภาษาก็เป็นความสามารถหรือพรสรรค์ของส่วนบุคคลนั้นๆไป ซึ่งพัฒนากันได้ ถ้าหากมีการอ่านการเขียนบ่อยๆ…ดูได้จากเรื่องเล่ามากมายของชาวสถาบันฯ หลายคนในสถาบันฯบ่นไม่รู้จะเขียนอย่างไร สำหรับฉันคิดว่าทุกท่านเขียนได้ เพียงแต่อาจจะไม่ค่อยมีเวลาเท่านั้น วันหนึ่งๆหมดไปกับการทำงานประจำ คงไม่อยากจะคิดอะไรให้มากอีก เพียงขอให้มีเวลาอยู่กับตัวเองสักนิด ได้มีเวลาครุ่นคิดสำรวจความคิดตัวเอง เชื่อว่าทุกคนก็สามารถเขียนเรื่องที่กลั่นออกมาจากใจได้สนุกไม่แพ้กันทุกคน

คำคมนักเขียน

" การเขียนหนังสือเป็นการผจญภัยอย่างหนึ่ง โดยเริ่มจากของเล่นและสิ่งสนุกสนาน
ต่อไปก็มักจะเจอด่านต่างๆให้เราผ่านเข้าไปพบกับความอยากยิ่งขึ้น
 แต่มันก็คุ้มไม่ใช่หรอ หากทางข้างหน้าเราจะเห็นแสงสว่าง และชัยชนะ "

(วินสตันเซอร์ชิล)
 

        วันนี้ดูดเคล็ดลับดีๆกันไปแล้วก็อย่าลืม เอากลเม็ดเด็ดๆไปดูดคนอ่านให้ติดหนึบอยู่กับนิยายเลยนะจ๊ะ น้องๆนักเขียนชาวDek-d.com สู้ๆต่อไป สัปดาห์หน้าอยากให้พี่นัทลงเรื่องอะไร หรือมีเคล็ดลับอะไรดีๆอยากบอกต่อเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆนักเขียนชาวDek-d.com  ก็แวะเข้ามาฝากไว้ใน My id พี่นัทนะจ๊ะ อาจตอบช้าไปบ้าง แต่รับรองว่าได้อ่านทุกข้อความจ๊ะ


พี่นัทขอขอบคุณข้อมูลจาก gotoknow.org , medicine.swu.ac.th ,
หนังสือ Quotations For Our Time by Dr. Laurence J. Perter, Magnum Books 1977

และ ภาพประกอบจาก baidu.com, nipic.com



พี่นัท

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

30 ความคิดเห็น

karupin Member 24 ต.ค. 52 11:22 น. 1

" การเขียนหนังสือเป็นการผจญภัยอย่างหนึ่ง โดยเริ่มจากของเล่นและสิ่งสนุกสนาน
ต่อไปก็มักจะเจอด่านต่างๆให้เราผ่านเข้าไปพบกับความอยากยิ่งขึ้น
 แต่มันก็คุ้มไม่ใช่หรอ หากทางข้างหน้าเราจะเห็นแสงสว่าง และชัยชนะ "

(วินสตันเซอร์ชิล)



ชอบอ่าค่ะ  พออ่านปุ๊บรุ้สึกถึงพลังอะไรบางอย่าง(เวรอ์)

พลังที่มันบอกให้เรา ต้องเปนนักเขียนที่ดีให้ได้เล้ยย

0
กำลังโหลด
me,dae Member 24 ต.ค. 52 13:07 น. 2

ขอบคุณมากๆ ค่ะ
เวลาหนูเขียนก็จะชอบคิดไปเรื่อยๆ เหมือนกัน
แต่ก็มีบ้างที่ความคิดมันตันอ่ะค่ะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
แป้งโกกิ Member 24 ต.ค. 52 14:04 น. 4

ชอบตรงที่บอกว่า "เขียนมาจากใจข้างในความรู้สึกจริงๆ"

เหมือนกับเป็นการให้ความสำคัญทั้งต่องานเขียนของตัวเอง และคนอ่านด้วยเลยค่ะ

ขอบคุณนะคะ สำหรับความรู้ดีๆ ^ ^

0
กำลังโหลด
ppad Member 24 ต.ค. 52 14:23 น. 5

ขอบคุณค่ะแพรเองก็มีนิยายใหม่แต่ไม่มีใครอ่านเลยฝากหน่อยได้ไหมเอ่ย ชื่อ รักป่วนใจนัยตัวร้ายกับยัยจอมจุ้นลองไปดูกันนะคะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
คุณปลายฝน © Member 27 ต.ค. 52 13:03 น. 14
ก็คือการเขียนสิ่งที่ตัวเองคิดโดยไม่เสแสร้งนั่นเอง





คุณเสกสรรค์ ประเสริฐกุล กล่าวไว้ค่ะ
0
กำลังโหลด
┼Hanaςάn37 Member 28 ต.ค. 52 14:30 น. 15
 จะรับฟังคำสอน ดีๆไว้นะคร๊าบบบบ
 ขอบคุณคร๊าบบบบบบบ~~!!!
- [] - การพัฒนาทุกๆสิ่งไปพร้อมกันก็เป็นอีกทางเลือกน้าาา~
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด