ขอร่วมกิจกรรมด้วยคนค่า

สำหรับความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องนี้นะคะ เรียกได้ว่าเตะตาเตะใจในรูปลักษณ์ในแวบแรก555555

ตอนไปงานหนังสือเดินผ่านบูธแจ่มใส เห็นปุ๊บก็ตกใจในความหนาก่อนเลย ปลื้มมากค่ะ เห็นนิยายหนาๆไม่ได้อยากอ่านทุกที (พอหยิบมาดูเรื่องย่อปรากฎว่าหนักค่ะ ยกมือเดียวไม่ไหว5555555เลยต้องประคองด้วยสองมือมาค่อยๆพลิกอ่าน)

อ่านเรื่องย่อยังไม่ถูกใจเท่าไร เหลือบไปเห็นสแตนดี้ โหหววววมีสแตนดี้เรื่องนี้ด้วย แสดงว่าดังใช่ย่อย ทำไมไม่รู้จัก ใจนึงอยากได้แล้ว คิดว่าขนาดนี้ต้องสนุกแน่ แต่ซื้อหนังสือไปเยอะแล้วค่ะตอนนั้น แถมยังมีเล่มในลิสต์ที่ยังไม่ซื้ออีกTT ตอนเดินผ่านบูธอีกรอบ ก็อดมองอีกไม่ได้ คิดว่าจะกลับไปหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ดู (พูดกับเพื่อนด้วยว่าน่าอ่านจังเนอะ เพื่อนก็ยุบอกซื้อเลย ถ้าไม่ซื้ออย่างอื่นไปแล้วนะคงได้หอบกลับบ้านแน่ ฮืออออ)

พอกลับมาหาข้อมูล (จำชื่อเรื่องแม่นมากๆ) ปรากฎว่ามีทดลองอ่าน เลยกะจะลองเข้าไปอ่านเล่นๆว่าถูกจริตมั้ย ได้ยินข่าวมาว่าบางคนชอบ บางคนไม่ชอบภาษาก็มี อ่านไปอ่านมา ก็อ่านครบที่มีในเว็บซะแล้วค่ะ55555555555555555ชอบฟีล ชอบบรรยากาศในเรื่องมาก ภาษาอ่านเข้าใจง่ายไม่จีนจ๋าเกินไป คิดว่าคนที่ไม่เคยอ่านจีนมาก่อนน่าจะเข้าใจได้ง่าย เราชอบที่เขาเล่นกับการพัฒนาของตัวละคร ด้วยความมองโลกในแง่ดีของโหยวเหมี่ยว (อารมณ์โลกสวยนิดๆ) กับอารมณ์ที่เจ้าไปไหน ข้าไปตาม เจ้าสั่งไปตาย ข้าจะตายของจื้อเฟิง ทำให้เราลุ้นไปกับการร่วมด้วยช่วยกันก่อร่างสร้างตัวสร้างครอบครัว(?)ของทั้งสองคนนี้มากๆ อยากให้พวกเขาประสบความสำเร็จที่ตั้งใจไว้ ชอบที่พวกเขาค่อยๆสนิทสนมกันจนหาใครแทรกได้ยาก

นี่อ่านไปก็แอบจินตนาการไปถึงช่วงกู้บัลลังก์ แต่ยังไง๊ยังไงก็คิดยังไม่ออกค่ะเพราะตอนนี้เค้ายังขุดล่อบ่อปลากันอยู่เลย ฮือ5555555แต่น่ารักนะเราชอบช่วงนี้มาก

นี่ขนาดอ่านไปแค่ห้าตอนยังหวีดได้ขนาดนี้ ขอเป็นพื้นที่กรีดร้องระบายความรู้สึกสักนิดนะคะ ถึงแม้จะกรี๊ดไปในทวิตแล้วก็ตาม5555555 ขอบคุณสำหรับกิจกรรมนะคะ <3

ความรู้สึกที่มีต่อนิยายเรื่องนี้คือ เป็นนิยายที่มีเสน่ห์ทั้งในด้านเนื้อหาและรูปภาพ ปกติแล้วเราชอบอ่านนิยายแปลจีนทั้งแบบช-ช แล้วก็ช-ญ เพราะนิยายแปลจีนจะมีการใช้การบรรยายสำนวนที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น และในนิยายนอกจากจะพูดถึงเรื่องความรักแล้ว ยังมีเรื่องการเมือง สงคราม ประวัติศาสตร์ ทำให้เนื้อเรื่องมีความเข้มข้น น่าติดตาม และในเรื่องยังสอดแทรกข้อคิดดีๆไว้อีกด้วย เรียกได้ว่าอ่านไปแล้วได้ทั้งความสนุก สาระน่ารู้ และข้อคิด

และอีกอย่างที่เราชอบคือ ตัวละคร เราชอบการวางตัวละครแต่ละตัวมาก ตัวละครแต่ละคนพอมารวมๆกัน ทำให้เรื่องสมบูรณ์ เพราะแต่ละคนทั้งดีและไม่ดี จะมีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเอง ถ้าใครคนใดคนหนึ่งไป เรื่องนี้ก็คงหมดสนุก

จากที่พูดรวมๆมา คือ เราชอบเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่เพราะว่าเป็นวาย แต่เพราะเนื้อเรื่อง ตัวละคร ทำให้เราอยากอ่านเรื่องนี้แบบเต็มๆมาก ตอนไปงานหนังสือเกือบจะซื้อแล้ว แต่มาเห็นกิจกรรมเลยมาเล่นก่อน ถ้าไม่ได้นี่จะรีบไปหาซื้อเลย

อ่านแค่ตัวอย่างแล้วก็ติดเลย ตอนนี้้นิยายYaoiมีเยอะ จีนก็เยอะ แต่ส่วนใหญ่จะติดกับแนวเบาสมอง น้ำเน่า และมีมิติเรื่องไม่กว้าง ส่วนตัวเป็นคนชอบอ่านแบบซีเรียส เรื่องราวมีหลายมุม เหมือนการ์ตูนกีฬา ที่สอดแทรกมุมมอง แง่อื่นนอกจากการแข่งอย่างเดียว เรื่องนี้ไม่ได้รักจ๋าาา เต็มเรื่อง (แม้อ่านแค่ตัวอย่างมาแต่ก็เดาแนวได้เลย) นิยายที่มีความหลากหลายมีมุมมองต่างๆ ใส่มา หายากกมาก ทำให้ไม่มีตรรกะป่วยๆ และเรื่องสมเหตุสมผล

เป็นคนที่ชอบอ่านนิยายจีนอยู่แล้ว และยิ่งบวกความวายเข้าไปอีกทำให้รู้สึกอยากอ่านมากกว่าเดิม จนได้ไปทดลองอ่านตัวอย่างดูก็รู้สึกสนุกมากๆๆ ทำให้อยากที่จะได้มาอ่านเล่มจริงมากขึ้นไปอีก

นอกจากจะชอบความวายของเรื่องแล้วยังชอบเนื้อหาของเรื่องที่ประกอบกันหลายๆอย่างจนทำให้นิยายมีความน่าสนใจ บางเรื่องที่เคยอ่านมาเน้นวายจนขาดความสมเหตุสมผลไป แต่เรื่องนี้มีความพอดี อ่านแล้วลื่นไหลไม่ติดขัด

หวังว่าการร่วมเล่นกิจกรรมนี้จะทำให้ได้อ่านนิยายเรื่องนี้อย่างที่หวังไว้ ถ้าไม่ได้คงได้แต่เก็บเงินอีกหลายเดือน 5555 ขอบคุณเว็บเด็กดีมากๆที่นำกิจกรรมมาให้ร่วมสนุกนะคะ

ปราชญ์กู้บัลลังก์ เป็นนิยายเรื่องนึงที่มีความพิเศษและน่าสนใจกว่านิยายเรื่องอื่นๆ ที่ออกพร้อมกันในช่วงนี้ เรื่องแรกเลย คือ การเป็นทั้งนิยายแปลจีนโบราณ และเป็นนิยายวาย (เพราะปัจจุบันนิยาย 2 สไตล์นี้เป็นที่นิยมมาก) นอกจากนั้นพอได้ทดลองอ่าน ก็รู้สึกว่าพล็อตดีมากกก การดำเนินเรื่องเข้มข้น มีชั้นเชิง สนุกชวนติดตามบรรทัดต่อบรรทัด อ่านแล้วไม่อยากหยุด อยากอ่านต่อให้จบ รู้สึกว่าเป็นนิยายแนวสงครามรบที่ผสมผสานกับสงครามรักได้อย่างกลมกลืน การทำสงครามในเรื่องมีการวางแผนก่อนออกรบ ได้อย่างแยบคาย มีชั้นเชิง (ความรู้สึกเหมือนอ่านวรรณกรรมมหากาพย์อย่างสามก๊กเลยนะ)

ต่อมาคือเรื่องความรัก ให้ตายเถอะ มันละมุนมาก ! ความรักของทั้งคน เป็นรักที่บริสุทธิ์ รักที่ค่อยๆ เติบโตงอกงาม จากที่ช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคด้วยกัน เป็นกำลังใจให้กันตลอด จนในที่สุดก็กลายเป็นความรัก

ไม่ว่าจะเรื่องเชิงรบที่เข้มข้น

หรือเชิงรักที่จับใจ

ก็หาได้จาก "ปราชญ์กู้บัลลังก์"

เปด

ขอบอกตามตรงก่อนเลยนะคะ ว่าหนูไม่ได้ชอบอ่านนิยายแนววายเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้พี่สาวหนูชอบอ่านมาก พี่เขาเลยมาแนะนำให้หนูอ่าน หนูก็อ่านตามใจพี่เขาไป แต่พอได้อ่านเรื่อง ปราชญ์กู้บัลลังก์ หนูก็รู้สึกชอบเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้ได้ให้อะไรหลายๆอย่างกับหนู เรื่องนี้ได้เป็นนิยายวายจ้าที่เน้นแต่ความรักของพระ-นาย แต่ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับจีนโบราณ การทำศึกทำสงคราม การเมือง ทำให้เรื่องราวสนุกเข้มข้นจนหยุดอ่านไม่ได้เลยค่ะ แล้วการบรรยายเรื่องก็สนุกมากจริงๆค่ะ การเล่าเรื่องเล่าออกมาได้เห็นภาพมาก ช่วยในการจินตนาการเรื่องได้ดีมาก ทำให้หนูมีความสุขในการอ่านทุกๆครั้ง

ก่อนหน้านี้เราเห็นคนรีวิวปราชญ์กู้บัลลังก์ในทวิตเตอร์มาค่ะ

จากการได้สัมผัสบทนิยายมาเล็กน้อยก็พบว่านิยายเรื่องนี้ให้อะไรมากกว่าที่คิด

หากตัดส่วนที่เป็นความรักระหว่างชาย-ชายออก นิยายเรื่องนี้สอนแง่คิดให้มากรวมทั้งสอดแทรกประวัติศาสตร์ได้อย่างเหมาะสม เป็นนิยายที่สามารถแสดงพลังของทุกตัวละครออกมา เพื่อขับเคลื่อนเรื่องราวให้เดินหน้าต่อไป ความรักของตัวหลักในเรื่องก็ไม่ได้เป็นความรักชั่ววูบ เป็นรักจากข้างใน ความห่วงใยจากข้างในจริงๆ จนเรารู้สึกว่าเรื่องนี้เสนอมุมมองได้ดีมากเลย

จากการได้อ่านตัวอย่าง สำนวนนิยายจัดว่าดีเยี่ยมเลยค่ะ! ทุกถ้อยคำทำให้เราได้คิดว่าความนัยที่ตัวละครต้องการสื่อคืออะไร มันแสดงให้เห็นถึงสติปัญญากับความรู้สึกของตัวละครจากข้างในจริงๆ

พออ่านตัวอย่างแล้วก็ชวนอยากอ่านต่อค่ะ

ขอบคุณกิจกรรมร่วมสนุกนะคะ!

ปราชญ์กู้บัลลังก์ เป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ที่เล่าเรื่องราวความรักความแค้นและการต่อสู้เพื่อสิ่งที่ยึดมั่นของคนกลุ่มหนึ่ง โดยเล่าเรื่องผ่านตัวละครเอกโหยวเหมี่ยวที่ต่อมาได้พบความรักอันลึกซึ้งกับหลี่จื้อเฟิง เป็นการเติบโตของวีรบุรุษแห่งยุคจากเด็กหนุ่มเจ้าสำราญที่เคยเอาแต่เที่ยวเล่นสนุกไปวันๆ สู่บุคคลสำคัญที่ช่วยพลิกชะตาแผ่นดิน

คนบางกลุ่มมักจะมองนิยายวายเป็นนิยายที่เน้นเรื่องรักหรือเรื่องบนเตียงเป็นหลัก แต่เรื่อง ปราชญ์กู้บัลลังก์ เป็นตัวอย่างนิยายวายชั้นดีที่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า นิยายเรื่องนี้เป็นวรรณกรรมที่ตัวละครเอกมีความรักกับเพศเดียวกัน ซึ่งไม่ได้บั่นทอนข้อคิดที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอให้ผู้อ่านเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็น

1 หลักการใช้ชีวิตแบบเดินทางสายกลาง ที่นำเสนอโดยตัวละครเอกที่เป็นพระเอกของเรื่องคือ โหยวเหมี่ยว การรู้หนักเบา ยืดหยุ่นไหวเอนให้ได้เหมือนไผ่ลู่ลมที่ไม่ว่าลมแรงแค่ไหนก็ไม่ล้ม ไม่ใช่ทุกปัญหาที่จะใช้แรงเข้าต้านทานได้ รวมไปถึงเมื่อเจอความผิดพลาดก็หาวิธีแก้ไข ไม่ยึดแต่ความคิดตนเอง รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เพราะคนเราแม้มีปัญญาแต่ก็ไม่อาจฉลาดรอบรู้ไปเสียทั้งหมด

2 พัฒนาการของตัวละครโดยมีความรักเป็นพลังสนับสนุน เห็นได้จากตัวละคร หลี่จื้อเฟิง เป็นตัวละครที่ช่วยผ่อนคลายสถานการณ์กดดันในเรื่อง ความรักของโหยวเหมี่ยวและหลี่จื้อเฟิงไม่ใช่ความรักที่ร้อนแรง เป็นความรู้สึกอ่อนหวานและละเอียดลออที่แฝงอยู่ในการกระทำเล็กๆน้อยๆ ทำให้เห็นว่าความรักเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าที่ใครจะคาดคิดเมื่ออยู่ในทางที่ถูกที่ควร สามารถม้วนแผ่นดินพลิกแผ่นฟ้า เปลี่ยนสิ่งที่เคยคิดว่าเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เป็นตัวอย่างของความรักที่ดีนั่นคือความรักนั้นต้องทำให้ชีวิตของทั้งสองคนเปลี่ยนไปเป็นคนที่ดีขึ้น