10 ทักษะพิเศษที่นักอ่านทุกคนมีโดยไม่รู้ตัว



10 ทักษะพิเศษที่นักอ่านทุกคนมีโดยไม่รู้ตัว
 

สวัสดีค่ะน้องๆ นักเขียนนักอ่านเด็กดี^^ ช่วงนี้พี่หวานวนเวียนอยู่กับการหาอ่านงานวิจัยเกี่ยวกับการอ่านมากเลยค่ะ เพราะสงสัยอยากรู้เหมือนกันว่ามีใครทำการวิจัยอะไรเกี่ยวกับนิสัยการอ่านของคนบ้างมั้ย ก็เลยมานั่งคิดว่าเราต่างก็เป็นนักอ่านที่อ่านทุกสิ่งอย่างขนาดนี้ เเล้วการอ่านให้อะไรกับเราบ้าง ไม่ว่าน้องๆ จะชอบอ่านนิยายออนไลน์ หรืออ่านหนังสือเป็นเล่ม พี่หวานคิดว่าอย่างน้อยเราเป็นคนรักการอ่านก็คงจะมีบางอย่างติดตัวมาอย่างเเน่นอนเเต่เราอาจจะไม่รู้ตัว วันนี้พี่หวานก็เลยลองสรุปมาให้ค่ะว่าคนที่รักการอ่านจะมีทักษะอะไรเพิ่มมาบ้าง

 

1. ทักษะในการพิสูจน์อักษร 


คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยคิดว่าการอ่านจะเป็นทักษะจำเป็นในชีวิตประจำวัน อาจจะเพราะว่าการอ่านไม่ได้แสดงผลที่ชัดเจนว่าเราจะได้รับอะไรถ้าเป็นคนที่ชอบอ่าน เเต่ความจริงเเล้วพี่หวานบอกได้เลยว่าคนที่อ่านหนังสือมาเยอะ ๆ จะมีความสามารถในการพิสูจน์อักษรค่ะ ไม่จำเป็นต้องเรียนในคณะที่สอนเรื่องการใช้ภาษาเท่านั้น เเต่เมื่อเราเริ่มอ่านมากสิ่งที่ตามมาคือเราจะจดจำได้ว่าการเขียนเเบบไหนคือแบบที่ถูก ทั้งคำศัพท์ การแบ่งวรรค หรือเเม้กระทั่งการวางตำแหน่งเครื่องหมายต่างๆ อย่างถูกต้องซึ่งทักษะนี้จะช่วยให้น้องๆ กลายเป็นคนที่มีระเบียบเเละละเอียดรอบคอบมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ

 

2. ทักษะในการรู้คำศัพท์



อย่างที่บอกไปในข้อเเรก การที่เราจะมีทักษะพิสูจน์อักษรได้นั้น เราจะต้องเป็นคนที่รู้เยอะ เเละเเม่นยำเรื่องคำศัพท์ด้วยค่ะ สิ่งที่จะช่วยเราในเรื่องนี้ได้ก็คือการอ่านให้มาก คนที่อ่านหนังสือมาเยอะจึงเป็นคนที่มีคลังคำศัพท์เยอะกว่าคนอื่น เหมือนที่มีคำพูดบอกไว้ว่ายิ่งอ่านมากก็ยิ่งรู้มาก พี่หวานเห็นด้วยมากๆ เลยค่ะ เวลาที่เราอ่านสมองจะมีการบันทึกคำศัพท์ต่างๆ เอาไว้ก็เหมือนการคัดลายมือถ้าเราคัดซ้ำๆ เราก็จะจำได้ว่าคำนี้ต้องเขียนยังไง การอ่านจึงเป็นวิธีพื้นฐานที่ทำให้เหล่านักอ่านกลายเป็นคนที่รู้จักคำศัพท์เยอะมากโดยไม่รู้ตัว

 

3. ทักษะในการอ่านระหว่างบรรทัด



เคยเป็นมั้ยคะเวลาที่อ่านนิยายสักเรื่องเราจะกวาดสายตาได้เร็วมาก เเละนั่นก็ทำให้เราได้รับทักษะในการอ่านระหว่างบรรทัดหรือการคาดเดาติดมาด้วยค่ะ หลายครั้งพี่หวานก็เป็นนะคะบางทียังไม่ทันได้อ่านจนจบย่อหน้าเเต่ก็สามารถเดาได้ว่าบรรทัดต่อไปจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ซึ่งทักษะนี้จะช่วยให้เราเป็นคนที่หูตาว่องไว เเละสมองก็จะประมวลผลได้เร็วขึ้นด้วยเพราะว่าเราได้กวาดตาไปก่อนเเล้วเเละยังทำให้เราเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสิ่งที่จะตามมาได้ดียิ่งขึ้น อย่างพี่หวานถ้าเป็นสมัยเรียนทักษะการอ่านระหว่างบรรทัดจะช่วยในเรื่องการนำเสนอรายงานหน้าชั้นอย่างมากเลยค่ะ เวลานำเสนองานอาจารย์ไม่ค่อยให้รายงานแบบอ่านบทค่ะ เเต่ด้วยความเนียนพี่หวานก็จะมีการกาดสายตาไปก่อนเเล้วเงยหน้ามาพูด เเละค่อยแอบก้มมองอีกครั้งซึ่งถ้าไม่ใช่คนที่อ่านมาเยอะมากๆ ก็คงจะไม่สามารถทำแบบนี้ได้อย่างเเนบเนียนเเน่นอน

 

4. ทักษะในการจินตนาการ



เป็นทักษะที่พี่หวานเชื่อว่าทุกคนต้องมีเเน่นอน โดยเฉพาะเมื่อเป็นนักอ่านของเว็บเด็กดีเเล้วด้วยพี่หวานคิดว่าน้องๆ ต้องมีทักษะนี้เต็มร้อยเเน่นอน>< การอ่านเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เราเป็นคนมีจินตนาการค่ะ ตัวอักษรทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ เท่านั้นเเต่ความสมจริงอื่นที่ตามมาจะต้องเป็นหน้าที่ให้เเต่ละคนจินตนาการต่อกันเอง เคยเป็นมั้ยคะที่อ่านหนังสือเรื่องเดียวกันเเต่การรับสารกลับไม่เหมือนกัน บางคนคิดอย่างนี้ เเต่บางคนกลับมองต่าง โดยเฉพาะเมื่อเป็นหนังสือที่ได้นำไปทำภาพยนตร์พี่หวานเห็นได้ชัดเจนเลยว่าเมื่อเป็นตัวอักษรนักเขียนสามารถกำหนดให้เกิดอะไรขึ้นก็ได้ในนิยายของตัวเอง เเต่พอนำมาทำเป็นภาพยนตร์จะมีบางจุดที่ถูกลดทอนออกไป นั่นเพราะว่าความสามารถในการจินตนาการของคนเราไม่เท่ากัน จินตนาการเป็นการคิดที่ไม่มีที่สิ้นสุด เเต่การลงมือทำยังมีข้อจำกัดอยู่มาก สิ่งสำคัญที่ทักษะในการจินตนาการจะมอบให้แก่นักอ่านก็คือการทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์ตามมาด้วยค่ะ 

 

5. ทักษะด้านไวยากรณ์



 

นอกเหนือไปจากทั้งหมดข้างต้นยังมีอีกหนึ่งทักษะที่เหล่านักอ่านจะไม่รู้ตัวว่าเป็นผลมาจากการอ่านมากนั่นก็คือทักษะในการใช้ไวยากรณ์ จากที่พี่หวานรู้มาถ้าไม่ใช่คณะหรือวิชาที่เฉพาะจริงๆ ก็ยากที่จะมีการมาสอนเรื่องการใช้ไวยากรณ์ หลายคนอาจจะมองว่ามันก็เเค่ประโยครึเปล่าคะพี่ ไม่เห็นมีอะไรแปลกเลยต้องเรียนด้วยหรอ ความจริงเเล้วทุกภาษามีไวยากรณ์ที่เราควรเรียนรู้เพื่อการนำไปใช้ให้ถูกค่ะ ดังนั้นคนที่อ่านมากๆ เมื่อเจอประโยคหรือการเขียนที่วกไปวนมาจะไวต่อความรู้สึก ทำให้เป็นคนที่รู้จักเลือกใช้คำเเละสร้างประโยคที่สละสลวยได้มากกว่าคนอื่น ยิ่งถ้าใครอ่านหนังสือภาษาอังกฤษมากๆ จะยิ่งเห็นความเเตกต่างชัดเจนเลยว่าประโยคไหนมีการใช้ผิดหลักไยากรณ์ หรือประโยคไหนที่ควรแก้ไข 

 

6. ทักษะในการทำสมาธิ



 

น้องๆ เคยสังเกตตัวเองมั้ยคะว่าเวลาที่อ่านอะไรสักอย่างเราจะเหมือนหลุดเข้าไปในอีกโลกหนึ่งที่มีเเค่เรากับจินตนาการของเรา นั่นเพราะว่าการอ่านกำลังหล่อหลอมให้เหล่านักอ่านทุกคนเป็นคนมีสมาธิค่ะ หลายคนอาจจะไม่สามารถอยู่นิ่งได้ หรือจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นานๆ เเต่เวลาที่อ่านเราจะโฟกัสไปที่เนื้อหาเพียงอย่างเดียว ทำให้นักอ่านส่วนมากมีความใจเย็นเเละมีสมาธิทำงานต่างๆ ได้นานกว่าคนทั่วไป ถ้าใครคิดว่าตัวเองเป็นคนสมาธิสั้นพี่หวานอยากลองเเนะนำให้เริ่มอ่านหนังสือสักเล่ม หรือลองเลือกนิยายสักเรื่องที่อยากจะอ่านเเล้วตั้งเป้าหมายกับตัวเองว่าต้องอ่านให้จบภายในระยะเวลานี้ ก่อนจะไปทำอย่างอื่น น่าจะเป็นการฝึกทำสมาธิที่ดีอีกทางเหมือนกันนะคะ นอกจากการอ่านในสิ่งที่เราสนใจจะทำให้เราเพลิดเพลินเเล้วยังเป็นการฝึกกำหนดสมาธิส่งผลให้เราจะเป็นคนมีความอดทนตามมาด้วยค่ะ

 

7. ทักษะในการหาข้อมูล



 

น้องๆ เคยเป็นเหมือนพี่หวานมั้ยคะบางทีเราอ่านนิยายเรื่องหนึ่งเเล้วเจอชื่อสถานที่ หรือชื่ออะไรแปลกๆ ก็อดไม่ได้ที่จะต้องลองไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อดับต่อมความอยากรู้อยากเห็น ยิ่งเดี๋ยวนี้นิยายหลายเรื่องมีการอ้างชื่อโรคหรืออาการแปลกๆ มาเป็นปมในนิยายสิ่งเหล่านี้จึงทำให้บรรดานักอ่านทั้งหลายเกิดความอยากรู้ เเละทางออกที่จะทำให้เราหายสงสัยได้ก็คือต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ เมื่อเราหาข้อมูลบ่อยขึ้นเป็นความเคยชินจนอาจจะกลายมาเป็นพันธมิตรกับกูเกิ้ลโดยไม่รู้ตัวไปเลยค่ะ เเต่ข้อดีของการหาข้อมูลบ่อยๆ ก็คือเราจะรู้ว่าแหล่งข้อมูลไหนที่น่าเชื่อถือ หรือถ้าต้องการข้อมูลส่วนนี้จะต้องใช้คีย์เวิร์ดด้วยคำว่าอะไร ซึ่งพี่หวานคิดว่ามันเป็นอีกทักษะที่เป็นประโยชน์ในการทำงานมากๆ เลยค่ะ

 

8. ทักษะในการพึ่งพาตนเอง



 

เนื่องจากการอ่านเป็นกิจกรรมที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเองคนเดียว เพราะฉะนั้นนักอ่านส่วนมากจะรู้สึกสบายใจเเละไม่เป็นปัญหาเมื่อต้องทำอะไรด้วยตัวเองคนเดียว พี่หวานเห็นด้วยกับข้อนี้มากเลยค่ะ ในปัจจุบันผู้คนเป็นปัจเจกกันมากขึ้น การมัวเเต่รอเเละพึ่งพาคนอื่นอาจจะถูกมองว่าเป็นคนที่ขาดความรับผิดชอบในตัวเองได้ เเต่สำหรับเหล่านักอ่านผู้เคยชินกับการใช้เวลาจดจ่ออยู่กับตัวเองมาเเล้วก็เหมือนกับเรามีเวลาได้ขบคิดเเละตัดสินใจด้วยตัวเอง จึงส่งผลให้มีทักษะในการพึ่งพาตนเองตามมา เเละยังเป็นข้อดีที่ทำให้เราสามารถทำอะไรได้รวดเร็วอีกด้วย

 

9. ทักษะในการเห็นอกเห็นใจ



 

สำหรับทักษะข้อนี้พี่หวานคิดว่านักอ่านหลายคนคงจะไม่รู้ตัวเเต่ลองสังเกตดูได้เลยค่ะว่าเราจะมีความอินมากเวลาที่อ่าน นั่นเพราะเรามีความอ่อนไหวในแบบของนักอ่านเเละจะเริ่มเห็นอกเห็นใจในตัวละคร ความอิน ความฟินที่เรารู้สึกกันอยู่อย่างนี้อาจจะถูกมองว่าเป็นเเค่อารมณ์ทั่วไปหลังอ่าน เเต่จริงๆ เเล้วสิ่งเหล่านั้นช่วยพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์(EQ)ได้ เเม้ว่าจะไม่ใช่ทักษะที่ส่งผลโดยตรงในการใช้ชีวิต เเต่การอ่านจะช่วยขัดเกลาจิตใจให้เรากลายเป็นคนที่มีความเห็นอกเห็นใจ รู้จักวิธีที่จะควบคุมจิตใจของตัวเอง เเละเข้าใจธรรมชาติของสิ่งรอบตัวได้ชัดเจนมากขึ้น

 

10. ทักษะในการเล่าเรื่อง


 

มาถึงทักษะสุดท้ายที่รวมเอาทุกๆ ข้อที่กล่าวไปข้างต้นมากลั่นกรองใหม่ได้เป็นทักษะนี้ เพราะการเป็นนักเล่าเรื่องที่ดีจะต้องเป็นคนที่รู้จักใช้คำถ่ายทอดได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังต้องรู้ด้วยว่าเราพูดแบบไหนคนรับสารถึงจะเข้าใจ ซึ่งนักอ่านที่ผ่านการอ่านมาอย่างโชกโชนจะซึมซับการสื่อสารมาจากตัวอักษรที่นักเขียนเขียน พี่หวานรู้สึกว่าคนที่พูดรู้เรื่องเเละพูดให้เราเข้าใจได้จะดูเป็นคนที่น่าสนใจขึ้นมาอีกระดับเลยค่ะ เพราะนอกจากจะทำให้เราอยากคุยต่อด้วยเเล้ว เรายังอยากรู้อีกว่าเขาจะถ่ายทอดอะไรมาให้เราฟังบ้าง เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่นักอ่านทั้งหลายจะมีความสามารถในการเล่าเรื่องเป็นอีกทักษะพิเศษที่เพิ่มมา ยิ่งถ้าลองให้เล่าฉากฟินๆ ในนิยายนี่คงเล่าได้เป็นวันๆ ไม่มีขาดตกบกพร่องเลยล่ะค่ะ ><
 


จาก 10 ทักษะที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นมีใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับพี่หวานบ้างมั้ย เเต่ก็จริงนะคะถ้าไม่สังเกตดูดีๆ คงไม่รู้เลยว่าหลังจากที่เรากลายมาเป็นนักอ่านเเล้วเรามีทักษะเหล่านี้เพิ่มมาด้วยจริงๆ ถ้าใครคิดว่ามีอะไรนอกเหนือจากนี้ที่เราได้จากการอ่านก็มาเเชร์พี่หวานได้นะคะ เเล้วพบกันในบทความต่อไปนะคะ ^___^

 
พี่หวาน

พี่หวาน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

4 ความคิดเห็น

Fiona Annabelly Member 4 ธ.ค. 60 12:00 น. 1

จริงแท้แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์เลยค่ะ พี่หวาน

ยิ่งจินตนาการนี่... ล้ำเลิศประเสริฐศรีมณีเด้ง 555

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
namhom25636-ACT Member 10 ธ.ค. 60 13:11 น. 3

จริงหมดเลยค่ะ จนตอนนี้กลายเป็นนักเขียนเองแล้ว พิมพ์ก็เร็ว แถมยังทำให้เราเรียนเก่งขึ้นด้วย จนเมื่อก่อนเป็นที่1 แต่ยังสูสีกับเพื่อน ตอนนี้้เพื่อนเทียบไม่ติดเลยค่ะ เพราะอ่านหนังสือสอบไวมาก วันนึงได้เป็นหลายวิชามาก 555

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด