ชวนดู นิยายแฟนตาซี 17 แนวที่พบบ่อยเหลือเกิน
(ภาคจบ)
สวัสดีค่ะน้องๆ ชาวเด็กดีทุกคน เมื่อครั้งที่แล้วพี่น้ำผึ้งได้พูดถึงประเภทของนิยายแฟนตาซีไว้ในบทความเรื่อง “ชวนดู นิยายแฟนตาซี 17 แนวที่พบบ่อยเหลือเกิน (ภาคแรก)” ซึ่งได้นำเสนอแนวนิยายแฟนตาซีไปแล้วทั้งหมด 8 แนว! เพราะงั้นกลเม็ดเคล็ดลับฉบับนี้เลยขอพูดถึงอีก 9 แนวที่ติดค้างกันไว้ค่ะ กระซิบก่อนว่ากลิ่นอายของแนวนิยายรอบนี้ไม่ได้หลายหลายเหมือนเมื่อครั้งที่แล้วเท่าไหร่นัก แต่มันจะออกโทนหม่นๆ หน่อย ขอให้น้องๆ เตรียมใจไว้ให้ดีเลยค่ะ เอาล่ะ... จะเป็นยังไงบ้างนั้น ตามมาดูเลยดีกว่าจ้า
Fairy Tale Retellings
ในบางครั้งเราก็เรียก Fairy Tale Retellings ว่า “เทพนิยายสมัยใหม่ (Modern Fairy Tale)” เป็นจินตนาการที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเทพนิยาย โครงเรื่องของนิยายแฟนตาซีประเภทนี้จึงมีส่วนที่คล้ายคลึงกับเทพนิยายค่ะ อย่างไรก็ตาม เทพนิยายสมัยใหม่แตกต่างจากเทพนิยายหรือนิทานพื้นบ้านตรงที่ว่า เทพนิยายสมัยใหม่มีความเรียล มีชีวิตชีวาและมีเรื่องราวที่แปลกใหม่กว่า อีกทั้งพล็อตเรื่องยังซับซ้อนกว่าด้วย
องค์ประกอบ
Fairy Tale Retellings มักประกอบด้วย
- การทำลายคำสาป
- แม่มด
- ป่า
- เจ้าชายและเจ้าหญิง
- ราชินีหรือราชาชั่วร้าย
- ปีศาจ
- หมาป่า
- ความโรแมนติก
ตัวอย่าง
- Daughter of the Forest
- Uprooted
- The Wrath and the Dawn
- Cinder
- Ella Enchanted
- Beastly
(via: amazon)
วีรยุรุษแฟนตาซี (Sword and Sorcery / Heroic Fantasy)
นิยายวีรบุรุษแฟนตาซีอาจเรียกอีกอย่างหนึ่งได้ว่า “นิยายประเภทดาบและเวทมนตร์” เป็นส่วนหนึ่งของนิยายแฟนตาซีระดับสูง เพียงแต่โฟกัสไปที่ตัวเอกซึ่งเป็นวีรบุรุษมาดเท่, การต่อสู้ด้วยดาบ, การต่อสู้ที่น่าตื่นเต้น รวมทั้งความขัดแย้งที่รุนแรง ต้องยอมรับว่าวีรบุรุษแฟนตาซีเป็นนิยายแฟนตาซีที่คลาสสิคและไม่เคยตายเลยค่ะ เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เราก็ยังเห็นนิยายแฟนตาซีแนวนี้ออกมาให้ได้อ่านเรื่อยๆ ค่ะ
องค์ประกอบ
- วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่
- การต่อสู้
- เวทมนตร์
- ดาบ
- สังคมยุคกลาง
- ความโรแมนติก
- ศีลธรรม
- ความขัดแย้ง
ตัวอย่าง
- Conan the Barbarian
- Elric of Melniboné
- The Blade Itself
- The Lord of the Rings Trilogy
(via: amazon)
แฟนตาซียุคกลาง (Medieval Fantasy)
แฟนตาซีประเภทนี้ได้รับอิทธิพลจากสังคมหรือสภาพแวดล้อมยุคกลาง รวมทั้งอาจตั้งอยู่ในช่วงยุคกลาง โดยเรื่องราวมักดึงมาจากนิทานปรัมปราหรือตำนานจากประวัติศาสตร์ในยุคนั้นๆ นอกจากนี้แฟนตาซียุคกลางยังสามารถแยกย่อยเป็นอีกประเภทได้ด้วย นั่นคือ Arthurian fantasy ซึ่งเป็นนิยายแฟนตาซีที่อิงเรื่องราวจากตำนานกษัตริย์อาเธอร์ รวมทั้งดึงคาแร็กเตอร์ต่างๆ มาใช้ เช่น พ่อมดเมอร์ลินและอัศวินโต๊ะกลม เป็นต้น ส่วนมากแล้วเราไม่ค่อยเห็น Arthurian fantasy ในไทยหรอกค่ะ แต่ทางฝรั่งบอกเลยว่ามาแรงแซงทางโค้งจริงๆ
องค์ประกอบ
- ราชวงศ์
- การจัดงานแต่งงาน
- สังคมปรมาจารย์การต่อสู้มังกรวิเศษเควสอัศวินดาบในตำนาน
- สังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ (Patriarchal Societies)
- การต่อสู้
- มังกร
- พ่อมด
- การทำภารกิจ
- อัศวิน
- ตำนานดาบ
ตัวอย่าง
- The Mists of Avalon
- The Once and Future King
- A Game of Thrones
- Assassin’s Apprentice
(via: amazon)
แฟนตาซีประวัติศาสตร์ (Historical Fantasy)
แฟนตาซีประวัติศาสตร์เป็นนิยายที่ผสมผสานนิยายอิงประวัติศาสตร์และแฟนตาซีเข้าด้วยกัน นิยายประเภทนี้มักเขียนขึ้นโดยอิงยุคต่างๆ และเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ของโลกเราเป็นหลัก ส่วนมากแล้วโครงเรื่องจะเน้นความถูกต้องทางหลักประวัติศาสตร์ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ใดๆ เพียงแต่เพิ่มเวทมนตร์หรือสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติเข้าไปด้วยค่ะ นอกจากนี้นิยายแนวกำลังภายในเองก็จัดว่าเป็นแฟนตาซีประวัติศาสตร์ด้วยนะคะ
องค์ประกอบ
- องค์ประกอบ
- นิยายแฟนตาซีประวัติศาสตร์มักประกอบด้วย
- มังกร
- ผู้วิเศษ
- อิทธิพลจากตำนานหรือนิทานปรัมปรา
- การต่อสู้หรือเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์
- การเดินทางข้ามเวลา
ตัวอย่าง
- His Majesty’s Dragon
- Daughter of the Forest
- Jonathan Strange & Mr. Norrell
- Outlander
- The Mists of Avalon
- The Golem and the Djinni
(via: amazon)
การ์ตูนแฟนตาซี (Comic Fantasy)
การ์ตูนแฟนตาซีในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการ์ตูนหรือมังงะที่เราอ่านกันนะคะ แต่นิยายประเภทนี้เกิดจากการผสมผสานระหว่างความเป็นแฟนตาซีและคอมเมดี้เข้าด้วยกัน โทนเรื่องจึงออกแนวตลกปนกับการเสียดสีล้อเลียนสิ่งต่างๆ ทำให้ผู้อ่านรู้สึกขบขัน เนื้อเรื่องเบาสมองเหมือนกับการอ่านการ์ตูน
องค์ประกอบ
การ์ตูนแฟนตาซีมักประกอบด้วย
- ตัวละครที่ไร้สาระหรือตัวน่าสงสาร
- ฉากแปลกๆ
- เวทมนตร์ กฎ และสิ่งมีชีวิตพิลึกพิลั่น
- หักล้างความเป็นแฟนตาซีแบบ clichés
- การเขียนแบบมีไหวพริบ อ่านแล้วดูฉลาด รวมทั้งเสียดสีด้วย
ตัวอย่าง
- The Colour of Magic
- The 13½ Lives of Captain Bluebear
- Warm Bodies
- Dark Lord of Derkholm
(via: amazon)
ไซไฟแฟนตาซี (Science Fantasy)
เป็นการผสมผสานของนิยายวิทยาศาสตร์และแฟนตาซีเข้าด้วยกัน สำหรับนิยายประเภทนี้มักมีเทคโนโลยีล้ำๆ สิ่งเหนือธรรมชาติ และยังมีการใช้ศัพท์เฉพาะด้วยค่ะ แต่หลักๆ แล้วไซไฟแฟนตาซีจะค่อยข้างต่างจากแฟนตาซีทั่วไปตรงที่ นิยายแฟนตาซีมักเน้นเรื่องของเวทมนตร์ ฉากหลังมักเป็นยุคอดีต ส่วนไซไฟจะเน้นเรื่องราวที่เป็นจริง มีเหตุมีผล ฉากหลังส่วนใหญ่มักเป็นโลกอนาคตค่ะ อันที่จริงนิยายแนว Steampunk เองก็เป็นส่วนหนึ่งของไซไฟแฟนตาซีด้วย เพียงแต่มีความวินเทจและโทนเรื่องจะออกแนวดิสโทเปียค่ะ
องค์ประกอบ
นิยายไซไฟแฟนตาซีมักประกอบด้วย
- ดาวเคราะห์มหัศจรรย์
- เอเลี่ยน
- เทคโนโลยีล้ำๆ
- พลังเหนือธรรมชาติ
- อิทธิพลจากยุควิกตอเรีย
ตัวอย่าง
- The Knife of Never Letting Go
- Blightborn
- Perdido Street Station
- Shadows of the Self
- Clockwork Angel
- Cinder
(via: amazon)
กริมม์ดาร์คแฟนตาซี (Grimdark Fantasy)
กริมม์ดาร์คแฟนตาซีเป็นนิยายแฟนตาซีระดับสูง แต่เน้นเรื่องความสมจริงเป็นหลัก โทนเรื่องจะกดดันและรุนแรง มักโฟกัสไปที่สภาวะสังคมที่เลวร้าย สยองขวัญและน่าสะพรึงกลัว ส่วนมากแล้วตัวละครมักไร้ศีลธรรมและโหดเหี้ยม อ่านแล้วก็จะรู้สึกเครียดอยู่ระดับนึง
องค์ประกอบ
กริมม์ดาร์คแฟนตาซีมักประกอบด้วย
- โจร
- ฆาตกร
- ความทรมาน
- การจัดการอาชญากรรม
- เมืองสกปรก
- ฆาตกรรม
- การข่มขืน
- ความรุนแรง
- คอร์รัปชั่น
ตัวอย่าง
- Prince of Thorns
- The Lies of Locke Lamora
- The Blade Itself
- A Game of Thrones
- Daughter of the Blood
- Perdido Street Station
- The Black Company
(via: amazon)
ดาร์คแฟนตาซี (Gothic Fantasy / Dark Fantasy)
ในบางครั้งเราก็เรียกดาร์คแฟนตาซีว่าเป็นโกธิคแฟนตาซี เนื่องจากเป็นนิยายที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างนิยายแฟนตาซีและสยองขวัญค่ะ โทนเรื่องจะออกหม่นๆ อ่านแล้วรู้สึกแย่ หดหู่ ไม่สบายใจ แต่ระดับความหดหู่ยังไม่สามารถเทียบเท่ากับนิยายแนวกริมม์ดาร์คแฟนตาซีค่ะ
องค์ประกอบ
ดาร์คแฟนตาซีมักประกอบด้วย
- ผี
- สุสาน
- ที่เก็บศพ
- กระดูก
- ซอมบี้
- ปีศาจ
- ซากปรักหักพัง
- ปราสาทผีสิง
- อาคารร้าง
ตัวอย่าง
- Sabriel
- Grimoire
- The Graveyard Book
- Coraline
- Perdido Street Station
(via: amazon)
The New Weird
แอนน์และเจฟฟ์ วานเดเมียร์ นักเขียนชาวอเมริกาได้นิยามนิยายแฟนตาซีแนว “The New Weird” ไว้ว่าเป็นนิยายที่ทันสมัย แม้จะเป็นนิยายแฟนตาซีแต่ก็มีความสมจริง ผสมผสานด้วยวิทยาศาสตร์ โกธิค สยองขวัญและโรแมนติก รวมทั้งฉากหลังส่วนใหญ่มักเป็นโลกที่สร้างขึ้นค่ะ หลายคนมองว่า The New Weird เป็นการคืนชีพของนิยายคลาสสิคที่แปลก อย่างเช่นนิยายของ H.P. Lovecraft
องค์ประกอบ
นิยาย The New Weird มักประกอบด้วย
- ฉากหลังที่สมจริง
- เมืองที่น่าขยะแขยง
- คำศัพท์เฉพาะ
- ความสยองขวัญ
- องค์ประกอบที่มีความเป็นโกธิค
- ตัวละครเทาๆ มีดีและเลวอยู่ในคนเดียว
- ดิสโทเปีย
ตัวอย่าง
- Perdido Street Station
- Annihilation
ครบแล้วนะคะกับนิยายแฟนตาซีทั้ง 17 แนวที่พี่น้ำผึ้งหยิบมาฝาก ถ้าใครอ่านแล้วรู้สึกว่านิยายของเรามีมากกว่า 1 แนวก็ไม่ต้องตกใจไปนะคะ เพราะมันมีสิทธิ์เป็นไปได้แน่นอนอยู่แล้ว บางคนเขียนแนวแฟนตาซีระดับสูงแต่เนื้อเรื่องออกแนวดาร์คๆ มีฆ่าล้างแค้น อ่านแล้วรู้สึกหดหู่งี้ ก็เป็นทั้งแฟนตาซีระดับสูงและดาร์คแฟนตาซีเลยค่ะ (หรือกริมม์ดาร์คแฟนตาซีก็ได้ ขึ้นอยู่กับเลเวลความดาร์ค ถ้าดาร์คมากๆ ก็คือกริมม์ดาร์คแฟนตาซีค่ะ) แล้วนิยายของน้องๆ ล่ะคะ เป็นแนวไหนกันบ้าง อย่าลืมเล่าให้พี่น้ำผึ้งฟังด้วยนะคะ ^^
พี่น้ำผึ้ง :)
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก
thoughtsonfantasy.com
4 ความคิดเห็น
พอมาอ่านบทความภาคจบก็มีเข้าข่ายอีกล่ะ
นิยาย 1 เรื่องเข้าข่าย
1.แฟนตาซีระดับสูง
2.แฟนตาซีระดับต่ำ
3.แฟนตาซีข้ามโลก
4.พารานอมอล แฟนตาซี
5.แฟนตาซีร่วมสมัย
6.ไซไฟแฟนตาซี - เฉพาะไซไฟอย่างเดียว
แต่พล็อตเรื่องหลักเป็นแนวสยองขวัญ ระทึกขวัญ ภูตผีปีศาจ
ของเราเข้าข่าย
1.ไซไฟแฟนตาซี
2.แฟนตาซีระดับสูง(เรื่องการผจญภัยนะ ไม่มีเวทมนต์)
3.the new weird
4.แฟนตาซีร่วมสมัย
5.กึ่งๆการ์ตูนเพราะใส่มุขตลกลงไปค่อนข้างเยอะ
พล๊อตเรื่องหลักเป็นแนวผจญภัย ปริศนา สัตว์ประหลาด
อันที่จริงบางประเภทมันก็คล้ายๆกันอยู่นะครับ อย่าง dark กับ grimdark ดูแล้วมันก็แนวเดียวกันต่างกันแค่ระดับความโหดเอง
เคยส่งนิยายไปให้สนพ.พิจารณาแต่ไม่ผ่านแต่ก็ทำให้เรารู้แนวนิยายของตนเองว่านิยายเป็นแนวแฟนตาซีใส ๆ เฮฮา(คนเขียนมึนตึ๊บ--นิยายตูมันเฮฮาตรงไหนฟ่ะ?) ผสมกับดาร์คแฟนตาซี ซีเรียส สมจริง...(ข้อนี้พอเข้าใจเพราะเราเขียนแนวลึกลับ ระทึกขวัญ)