คุณหมอครับ ผมมารับวิญญาณคนไข้ : เมื่อหมอกลายเป็นอาชีพที่ต้องสบตากับยมทูต!!

 

เป็นประจำทุกวันอาทิตย์ที่เราจะกลับมาพร้อมกับบทความแนะนำนิยายเด็กดีน่าอ่าน ซึ่งสำหรับสัปดาห์นี้ พี่นัทตี้ก็มีนิยายวายที่เรียกได้ว่าเป็นนิยายวายที่ไม่มีใครไม่รู้จัก! ถ้าจะให้ใบ้ คำใบ้ที่พี่คิดว่าเหมาะสมที่สุดก็น่าจะเป็น ‘นิยายวายที่มีตัวเอกเป็นคุณหมอกับยมทูต!’ ฮั่นแน่… น้องๆ หลายคนคงจะร้องอ๋อขึ้นมาเลยใช่ไหม ใช่แล้ว! สำหรับบทความนิยายเด็กดีน่าอ่านวันนี้ เด็กดีของเราขอนำเสนอ… “คุณหมอครับ ผมมารับวิญญาณคนไข้” นิยายวายสายน่ารัก ที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ของคุณหมอกับยมทูตในชุดฮาวาย (?) จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อหมอกลายเป็นอาชีพที่ต้องสบตากับยมทูต! มาติดตามอ่านต่อไปพร้อมๆ กันในบทความนี้ได้เลย…


 

คุณหมอครับ ผมมารับวิญญาณคนไข้
ผู้แต่ง : Hungrybird
หมวด : ฟรีสไตล์ / นิยายวาย
จำนวนตอน : 63 ตอน

 

คำโปรย

        ‘หมอ’ คืออาชีพที่ต้องสบตากับยมทูต จะว่าอย่างนี้ก็ได้ แต่… นายไม่ต้องมายืนสบตาจ้องฉันตอนผ่าตัดช่วยชีวิตคนไข้ได้ไหมวะ! มันกดดันนะโว้ย

แนะนำนิยาย

         ‘คุณหมอครับ ผมมารับวิญญาณคนไข้’ เป็นนิยายวายแนวคอเมดี้ ที่มีกลิ่นอายของวงการแพทย์แบบจัดเต็ม! ตั้งแต่ชื่อของตัวเอกอย่าง ‘ปราการ’ ที่มีความหมายว่าเป็นปราการด่านสุดท้ายของคนไข้ก่อนที่หัวใจจะหยุดเต้น ไหนจะจิตวิญญาณของความเป็นแพทย์ที่ทำให้นักอ่านอย่างเราเห็นอกเห็นใจและซาบซึ้งไปกับความรักในอาชีพของเขาเอามากๆ และถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็นนิยายวาย แต่ความเห็นส่วนตัวของพี่กลับไม่คิดว่าเนื้อหามันจะวายจ๋าขนาดนั้น ถ้าน้องๆ คนไหนไม่ถนัด หรืออยากเริ่มต้นอ่านนิยายวาย แนะนำเรื่องนี้เลยค่ะ เพราะนอกจากคู่วายๆ อย่างคุณหมอปราการกับยมทูตตั๋วผีแล้ว ยังมีคู่ชาย-หญิงอย่าง คุณหมอเมธากับคุณหมอนุชให้เราได้ฟินอีก รับรองว่านิยายเรื่องนี้เหมาะกับนักอ่านทุกประเภท แถมอ่านไปเรายังจะได้รับเนื้อหาสาระที่ไม่ได้มีแค่ความบันเทิงให้ได้สนุกสนานกันอย่างแน่นอน!


 

“ยามเมื่อสมุดโน้ตสีดำในมือยมทูตหนุ่มปิดลง
ตั๋วกระดาษสีแดงสดก็ปรากฎขึ้นกลางอากาศ”

 

 

..ปราการด่านสุดท้ายของเหล่าคนไข้ที่หัวใจกำลังจะหยุดเต้น..

        ได้เวลาทำความรู้จักกับตัวเอกคนแรกของเราอย่าง ‘คุณหมอปราการ พิทักษ์จิติ’ ศัลยแพทย์หนุ่มฝีมือดี (เหมือนหน้าตา) ผู้มีอุดมการณ์ตั้งมั่นในการรักษาแบบสุดฝีมือในทุกครั้ง! ถ้าไม่นับการถูกก่อกวนจากยมทูตไร้ชื่อเสียก่อน การถูกก่อกวนตรงนี้ทำให้ปราการแอบรู้สึกผิดหวังในตัวเองอยู่บ่อยๆ ว่าทำไมการรักษาของเขาถึงไม่ดำเนินไปด้วยดีเหมือนคุณหมอคนอื่นๆ บ้าง แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าผู้ที่มีหน้าที่นำพาวิญญาณอย่าง ‘ตั๋วผี’ ก็ไม่อยากที่จะให้มันเกิดขึ้นอย่างนั้นเช่นกัน ทว่าในเมื่อไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขอะไรได้แล้ว สิ่งที่ปราการทำต่อไปหลังจากนั้นก็คือการลงแรงลงใจให้กับการรักษาอย่างเต็มที่เหมือนเดิม การกระทำแบบนี้นี่แหละที่ทำให้นักอ่านอย่างเราซาบซึ้งในความรักในอาชีพของปราการมากๆ จนบางครั้งแอบหงุดหงิดแทนเลย ว่าทำไมโชคชะตาถึงต้องมาเล่นตลกกับชีวิตของเขาด้วย ฮือ..
 

...ตัวอย่างเนื้อหาบางตอน…

 

..หมอคืออาชีพที่ต้องสบตากับยมทูต..

        ถัดจากคุณหมอปราการ ตัวละครที่พี่อยากจะแนะนำให้ทุกคนรู้จักต่อไปก็คือ ‘ตั๋วผี (นามสมมุติ)’ ยมทูตไร้นาม ผู้มาพร้อมกับวลีเด็ดอย่าง “คุณหมอครับ ผมมารับวิญญาณคนไข้” การปรากฏตัวครั้งแรกของตั๋วผีทำให้นักอ่านหลายคนถึงกับงงว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ เพราะพี่แกเล่นปรากฏตัวมาในชุดเสื้อฮาวายลายดอกสีแสบตา แบบนี้ก็ได้เหรอ? คิดจะแต่งอะไรก็แต่งแบบนี้… ได้เหรอ? โชคดีที่เวลาเขาปฏิบัติหน้าที่ เขาจะแปลงโฉมก่อนทุกครั้ง จากเสื้อฮาวายก็เลยกลายเป็นเสื้อสูทสีดำดูภูมิฐานแทน ทำให้แฟนนักอ่านอย่างเราพอได้หายใจหายคอกันบ้าง โดยตั๋วผีนั้นเป็นยมทูตที่คอยตามติดอยู่ใกล้ชิดคุณหมอปราการตลอด ถ้าใครกำลังสงสัยว่าเอ๊ะ เขาไม่ยักจะไปหาคุณหมอคนอื่นๆ บ้างหรอ ตั๋วผีของเราได้แถลงไขเอาไว้ในเนื้อหาแล้วว่า นอกเหนือจากเขาแล้ว ยมทูตยังมีอีกหลายคน เพราะฉะนั้นทุกคนก็เฉลี่ยหน้าที่กันไป ซึ่งคุณหมอปราการก็โชคดี (รึเปล่า) ที่มาเจอตั๋วผีอย่างเขาเข้าพอดี...
 

...ตัวอย่างเนื้อหาบางตอน…

..คุณหมอครับ ผมมารับวิญญาณคนไข้..

        ‘นิยายวายที่ไม่ได้มีแค่เรื่องวายๆ’ คิดว่าคำนิยามนี้น่าจะเหมาะที่สุดแล้วสำหรับนิยายเรื่องนี้ และอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่า ‘คุณหมอครับ ผมมารับวิญญาณคนไข้’ เป็นนิยายวายที่ทุกคนสามารถอ่านได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่สาวกวายเองก็ตาม เพราะด้วยตัวเนื้อหาที่บอกเล่าความสัมพันธ์ในเชิงคุณหมอกับยมทูต ถึงแม้จะใกล้ชิดกัน แต่ทั้งสองคนถูกวางตำแหน่งให้เป็นปรปักษ์กัน ดังนั้นสิ่งที่นักอ่านทุกคนจะสัมผัสได้จากการอ่านนิยายเรื่องนี้ก็คือ พัฒนาการของทั้งสองตัวละคร คือทั้งสองคนจะได้เรียนรู้ รวมถึงเป็นการค่อยๆ เปิดใจให้กันและกัน และสุดท้ายก็สามารถยอมรับในความแตกต่างระหว่างกันจนได้
 

...ตัวอย่างเนื้อหาบางตอน…

 

“ถึงนายบอกว่าไม่รอดฉันก็ไม่สน
วันนี้ฉันไม่มีทางยอมให้นายพาคนไข้ของฉันไปแน่!”
 

        สรุปแล้วนิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายที่พี่อยากจะแนะนำให้น้องๆ ที่ยังไม่เคยอ่าน ลอง ‘เปิดใจ’ อ่านกันดูสักตอนสองตอน รับรองว่าน้องๆ ทุกคนจะสัมผัสได้ถึงความดีงาม และเนื้อหาสาระที่ผู้แต่งตั้งใจจะมอบให้เรากัน นับตั้งแต่เรื่องจรรยาบรรณของคนเป็นแพทย์ ความรักในอาชีพ การตัดสินใจ และความเชื่อมั่นในตนเอง ซึ่งสำหรับพี่ๆ คิดว่านิยายเรื่องนี้มันเปลี่ยนมุมมองความคิดหลายๆ อย่างในตัวได้จริงๆ และที่สำคัญที่สุดก็คือ เราไม่ควรนั่งรอแต่โชคชะตา เพราะถ้าเรามัวแต่รอ เราอาจจะพลาดโอกาสดีๆ ในชีวิตไปก็ได้

"พี่นัทตี้"