ชวนอ่านเร็วๆ! 9 เทพนิยายน่ารักน่าอ่านรับเทศกาลคริสต์มาส

ชวนอ่านเร็วๆ! 9 เทพนิยายน่ารักน่าอ่านรับเทศกาลคริสต์มาส
 
ปลายปีแล้ว เทศกาลที่ใครๆ ชอบมากๆ คงไม่พ้นคริสต์มาส เป็นเทศกาลของการแจกของขวัญให้กัน สร้างรอยยิ้มให้ทุกคน และการคิดบวก คิดถึงสิ่งดีๆ และแน่นอน บรรยากาศที่ดีย่อมส่งเสริมให้เกิดเทพนิยายน่าอ่านในหลากหลายวัฒนธรรมทั่วโลก ทีมงานนักเขียนเด็กดีได้รวบรวมเทพนิยายน่าอ่านของเทศกาลนี้มาฝากกันค่ะ เผื่อจะช่วยให้เทศกาลนี้ของเราพิเศษมากขึ้นอีกนิด
 

 
ซานต้าคลอสกับเด็กๆ (Saint Nicholas and the Children)
ระยะเวลาการอ่าน 17 นาที

เซนต์นิโคลัสเป็นอีกชื่อหนึ่งของซานต้าคลอส เด็กชาวดัชต์เรียกเขาว่า “ซาน นิโคลาส” หรือ “Sankt Klous” จนกระทั่งแผลงมาเป็นเซนต์นิโคลัสในภายหลัง ตำนานของซานต้าคลอสเกิดจากเด็กชายคนหนึ่งชื่อว่านิโคลัส ถือกำเนิดที่หมู่บ้านไมร่า ใกล้ทะเลเมดิเตอเรเนียนในตุรกี นิโคลัสเป็นคนร่ำรวยแต่มีน้ำใจโอบอ้อมอารี ชอบแจกข้าวของให้คนยากจนเพราะเชื่อว่าเงินทองเป็นแค่ของนอกกาย ความสุขสำคัญกว่ามาก จนกระทั่งวันหนึ่งพ่อแม่ของนิโคลัสเสียชีวิต เขาก็ยังคงใช้ชีวิตช่วยคนอื่นมาตลอด เมื่อได้ยินว่าชายชราในหมู่บ้านลำบากยากจนไม่มีเงินจัดงานแต่งงานให้ลูก เขาก็เอาเงินทองไปทิ้งลงในปล่องไฟเพื่อช่วยเหลือ (เพราะประตูบ้านปิดหมด) หลังจากวันนั้น พ่อแม่หลายๆ บ้านก็ใช้วิธีเดียวกันคือนำของขวัญมาแขวนไว้ที่ปล่องไฟแล้วบอกว่าซานต้าคลอสนำของขวัญมาให้ Saint Nicholas and the Children เป็นเทพนิยายสัญชาติแคนาดา เล่าเรื่องเด็กกำพร้าฝาแฝดคู่หนึ่งที่เผชิญหน้ากับคนขายเนื้อสุดเจ้าเล่ห์ ที่ต้องการหลอกเด็กแฝดไปให้ยักษ์กิน แต่แน่นอนว่าซานต้าคลอสหรือเซนต์นิโคลัสรู้เรื่องเข้า จึงเข้ามาช่วย เนื้อเรื่องนั้นสั้นๆ ไม่ยาวมาก อ่านเพลินและทำให้เราได้ร่วมผจญภัยไปกับเด็กๆ และสัมผัสถึงความน่ารักของซานต้าด้วย
 
คืนก่อนวันคริสต์มาส (The Night Before Christmas)  
ระยะเวลาการอ่าน 3 นาที

หนึ่งในนิทานเกี่ยวกับคริสต์มาสที่เล่าถึงที่มาของซานต้าคลอส เขียนโดยคลีเมนต์ คลาร์ก มัวร์ในปี ค.ศ. 1823 มีอีกชื่อหนึ่งคือ A Visit from Saint Nicholas เป็นเรื่องสั้นๆ ที่อ่านสบายๆ แป๊บเดียวจบ เล่าถึงที่มาของซานต้าคลอสว่ามาจากขั้วโลกเหนือ และมีการบรรยายว่าสีเสื้อผ้าของซานต้าคลอสเป็นสีขาวสลับแดง ต่างจากตอนแรกที่ใครๆ เชื่อว่าซานต้าคลอสสวมเสื้อผ้าสีเขียว ภายหลังอับราฮัม ลินคอห์น ได้แต่งกลอนเพิ่มและนำไปเผยแพร่ ทำให้ซานต้าคลอสได้รับความนิยมมากในสหรัฐอเมริกา
 
ตำนานต้นคริสต์มาส (Pohutukawa)
ระยะเวลาการอ่าน 4 นาที

Pohutukawa คือต้นเอฟเวอร์กรีนจากนิวซีแลนด์ที่ถูกนำมาใช้ทำเป็นต้นคริสต์มาสในช่วงเทศกาล ดอกของมันมีสีแดงเข้มและจะบานในช่วงเดือนธันวาคมเท่านั้น นักเขียนเจ้าของเรื่องคือ อิซาเบล เอ็ม พีค็อก ยังเขียนถึงพิกคานินนี่ (Piccaninnies) หรือเด็กผิวดำตัวเล็กๆ ที่ใช้ดอกไม้มาตกแต่งประดับต้นไม้จนสวยงาม เป็นตำนานคริสต์มาสน่ารักๆ ที่อ่านแล้วจะทำให้เรารู้จักต้นคริสต์มาสมากขึ้นและเข้าใจที่มาของมัน
 
เด็กหญิงตัวน้อยกับสายลมแห่งฤดูหนาว (The Little Girl and the Winter Whirlwinds)
ระเวลาการอ่าน
8 นาที

เทพนิยายที่ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นผู้แต่ง แต่ได้มีการเล่าต่อๆ กันมา และได้มีการรวบรวมเนื้อเรื่องเอาไว้กับตำนานต่างๆ เล่าถึงแม่มดแห่งฤดูหนาวผู้ร้ายกาจที่พยายามจะทำให้ฤดูหนาวครอบครองโลก เด็กหญิงตัวน้อยที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญ ตัดสินใจที่จะไปขอร้องคุณพ่อคริสต์มาส หรือซานต้าคลอสให้ช่วยฤดูกาลอื่นๆ ให้ได้กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง เธอได้รับการท้าทายจากสายลมและต้องทำตามข้อตกลงยากๆ หลายอย่าง แต่ก็ยังมุ่งมั่นเดินทางไปจนสุด หัวใจที่เข้มแข็งของเธอทำให้ซานต้าคลอสศรัทธาและคอยช่วยเหลือเธออยู่ข้างๆ สมเป็นเรื่องสั้นวันคริสต์มาสที่สอนให้เด็กๆ เข้าใจคำว่าน้ำใจและความโอบอ้อมอารี การนึกถึงผู้อื่นก่อนตัวเอง
 
เจ้าแมวบนภูเขา Dovrefjell (The Cat on the Dovrefjell)  
ระยะเวลาการอ่าน
3 นาที

นิทานสั้นๆ อ่านแป๊บเดียวจบ เทพนิยายนอร์วีเจี้ยนที่เขียนโดย Peter Christen Asbjørnsen และ Jørgen Engebretsen Moe เล่าถึงเรื่องของโทรลล์ หมี และภูเขาในช่วงคริสต์มาสอีฟ ชื่อที่คุ้นเคยมากกว่าคือ The Cat on the Dovre-Mountain และ The Trolls and the Pussycat ชายคนหนึ่งได้นำหมีขาวไปมอบให้กับพระราชาของเดนมาร์ก เขาเดินทางผ่านภูเขา Dovre ในวันคริสต์มาสอีฟ และขอพักที่บ้านของชายที่มีชื่อว่าฮัลเวอร์ ฮัลเวอร์เล่าว่าโทรลล์จะมาที่บ้านทุกๆ คืนวันคริสต์มาสอีฟจึงไม่อยากให้เขาค้างคืน แต่ชายคนนั้นยืนยันว่าจะค้าง คืนนั้น โทรลล์ก็มาจนได้และกินอาหารที่เหลือจากเทศกาลอย่างเอร็ดอร่อย ทันใดนั้น หนึ่งในพวกโทรลล์ก็เห็นหมีเข้า และเข้าไปดูใกล้ๆ เรียกมันว่า “แมว” หมีอารมณ์บูดขับไล่โทรลล์ไปจนหมด ปีต่อมาโทรลล์ก็แวะมาและถามว่า “เจ้าแมว” ยังอยู่หรือเปล่า ภรรยาเจ้าของบ้านหัวไวเลยหลอกไปว่ามีอยู่อีก 7 ตัว และโทรลล์ก็หายหน้าไปไม่กล้ามาที่บ้านของฮัลเวอร์อีกเลย
 
รองเท้าไม้ของวูฟฟ์น้อย (The Wooden Shoes of Little Wolff)
ระยะเวลาการอ่าน
8 นาที

ฟรานซิส คอปป์ เล่าถึงเทศกาลคริสต์มาสในฝรั่งเศสผ่านเรื่องราวของเด็กชายกำพร้าที่มีจิตใจงดงาม หลังพ่อแม่เสียชีวิต วูฟฟ์อาศัยอยู่กับป้าใจร้ายผู้ซึ่งไม่เคยมอบเสื้อผ้าอุ่นๆ หรือดูแลเขาอย่างที่เขาสมควรจะได้รับ แต่เด็กชายก็ยังคงมีน้ำใจ นึกถึงคนอื่นเสมอ ในคืนวันคริสต์มาสอีฟ ครูใหญ่ได้ชวนนักเรียนทุกคนมาเรียนในช่วงตอนดึก เด็กคนอื่นๆ มาพร้อมเสื้อผ้าอบอุ่น แต่วูฟฟ์มาด้วยเสื้อผ้าบางๆ เพราะป้าไม่ใส่ใจ วูฟฟ์ได้พบเด็กชายขอทานตัวน้อยที่หนาวสั่นและไม่มีรองเท้าใส่ ด้วยความสงสารเขามอบรองเท้าไม้ของตนให้เด็กคนนั้น ในขณะที่เพื่อนๆ ที่มีเสื้อผ้าอบอุ่นเลือกที่จะไม่ใส่ใจ เมื่อกลับบ้าน วูฟฟ์ถูกป้าดุด่าอย่างมากมาย แต่ที่ไหนได้เมื่อตื่นขึ้นมา เขากลับพบว่ามีของเล่น เงินทองและข้าวของมีค่ามากมายกองเต็มบ้าน แท้จริงแล้ว เด็กชายคนนั้นคือนักบุญตัวน้อยที่ถูกส่งมาจากพระเจ้า และต้องการทดสอบจิตใจว่าจะมีใครมีน้ำใจต่อเขาหรือไม่ และวูฟฟ์ได้พิสูจน์ตัวเองแล้ว
 
ตำนานของต้นโอ๊คสายฟ้า (The Legend of the Thunder Oak)
ระยะเวลาการอ่าน
3 นาที

ต้นโอ๊คสายฟ้าก็คือต้นไม้ของธอร์ เทพเจ้าสายฟ้านั่นเอง เทพนิยายเรื่องนี้อาจมีเรื่องโหดๆ หน่อย เช่นการเสียสละของต้นไม้ ที่ทำลายตัวเองเพื่อให้กลายเป็นต้นคริสต์มาสให้คนทั่วโลกได้มีความสุข แต่ก็สนุกในแบบตำนานเทพนอร์สที่คนสายมาร์เวลน่าจะชอบ
 
บาบุชก้า (Babouscka)
ระยะเวลาการอ่าน
9 นาที

ในรัสเซีย เด็กๆ จะไม่ได้ฟังเรื่องของซานต้าคลอส แต่จะได้ฟังเรื่องของหญิงชราที่แต่งตัวยากจนชื่อว่าบาบุชก้าแทน นางไม่ได้ปรากฎตัวแค่ในคืนวันคริสต์มาส แต่จะมาในทุกวันที่อากาศหนาวเย็นมากๆ เมื่อเด็กๆ ไม่สามารถออกนอกบ้านได้ก็จะเกาะที่หน้าต่างและเฝ้ามองหาบาบุชก้า แต่น้อยคนมากที่จะได้เห็นนาง นางจะมาพร้อมของขวัญให้กับเด็กๆ ซึ่งต่างจากซานต้าคลอสตรงที่ของขวัญของนางไม่ใช่ของมีค่ามีราคา กล่องใหญ่โตสวยงาม ส่วนใหญ่จะเป็นลูกกวาดหรือของเล่นราคาถูก ทว่าเด็กๆ ก็รักนางมาก บาบุชก้ารักเด็กทารก ถ้าหากแม่คนไหนเหนื่อยจนเผลอหลับไป นางจะมาช่วยโอบกอดเด็กๆ ไกวเปลและทำให้พวกเขาหลับสนิท และทุกครั้ง นางจะจ้องมองใบหน้าของเด็กทารกใกล้ๆ เพื่อมองหาใครสักคน : นางมองหาใคร ตามตำนานเล่าว่ากาลครั้งหนึ่ง บาบุชก้าได้พบกับกษัตริย์สามองค์ ที่มาขอร้องให้นางช่วยตามหาทารกผู้จะเติบโตมาเป็นพระเยซู ทว่าบาบุชก้าปฏิเสธ จนกระทั่งกษัตริย์ทั้งสามจากไปแล้ว นางจึงคิดได้และเปลี่ยนใจออกตามหาเด็กทารกผู้นั้น และแน่นอนว่านางไม่สามารถหาเขาพบ ผ่านไปสองพันปี นางยังคงไล่ตามหาเขา และยังคงตามหาต่อไปจนกว่าชีวิตของนางจะหาไม่
 
ตำนานต้นคริสต์มาสแห่งชตราสบวร์ค (The Christmas Fairy of Strasburg)
ระยะเวลาการอ่าน
5 นาที

เทพนิยายจากฝั่งเยอรมัน เขียนโดยฟรานส์ เจนกินส์ โอลคอตต์ บรรณารักษ์และนักเขียน เล่าเรื่องของเคานต์ออตโต้ผู้ตกหลุมรักราชินีแห่งแฟรี่ และแต่งงานกับนาง โดยมีข้อแม้ว่าห้ามพูดแม้แต่คำเดียว เมื่อเขาทำผิด นางก็หายตัวไป และเขาเลือกที่จะจุดไฟบนต้นคริสต์มาสเพื่อขอร้องให้นางกลับมา ชาวชตราสบวร์คเชื่อว่า นี่คือต้นกำเนิดของต้นคริสต์มาส
   
 

ทีมงานนักเขียนเด็กดี
 
Deep Sound แสดงความรู้สึก
ทีมงาน writer

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น