อาชีพสุดอ่อนไหว! เช็กกันหน่อย 6 อารมณ์ไหนที่นักเขียนทุกคนต้องเจอ


อาชีพสุดอ่อนไหว! เช็กกันหน่อย
6 อารมณ์ไหนที่นักเขียนทุกคนต้องเจอ

 
นักเขียนเป็นอาชีพที่ต้องใช้อารมณ์หลากหลายและเรานักเขียนเป็นพวกอ่อนไหว เนื่องจากนักเขียนต้องใช้อารมณ์ในการเขียนนิยายเยอะมาก หลายๆ ครั้งจึงมีคำกล่าวที่ว่าคนจะเขียนนิยายได้ต้องอ่อนไหวและเจ้าอารมณ์ นักเขียนยังเป็นบุคคลที่เข้าใจคนอื่น หงุดหงิดขี้โมโห มีความสุขมากกว่าทุกคน พวกเขาไปถึงครบทุกอารมณ์ ทั้งตื่นเต้น โกรธ หงุดหงิด เป็นห่วง ใส่ใจ เอาใจ พร้อมดูแล ยินดีไปด้วย ฯลฯ ทุกอารมณ์ที่หลากหลาย เรารับไว้เสมอ และสามารถนำมาปรับใช้กับการเขียนนิยายได้หมด
 
ไหนมาดูกันดีกว่าว่าไหนฐานะนักเขียน เราต้องเผชิญกับสถานการณ์และสภาพอารมณ์แบบไหนกันบ้าง


 
ความกังวลว่าจะหมดไฟ เขียนไม่ออก ไม่มีไอเดีย
เขียนเรื่องแรกๆ อาจมีฝืดบ้าง แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยหมดไฟกันหรอก อาการนี้มักจะเป็นในเรื่องหลังๆ ที่แบบ มุกนี้ใช้ไปแล้ว ไม่อยากใช้ซ้ำ เขียนแบบเดิมเดี๋ยวคนอ่านว่า จับได้ โดนบ่นแน่เลย แล้วจะจบเรื่องแบบไหนยังไงให้คนอ่านประทับใจหรือทึ่งดี คิดไม่ออก หลายหนเรากลัวไอเดียจะหมด กลัวว่าเขียนแล้วจะออกมาไม่ดี ฯลฯ การสร้างจุดเด่นในงานเขียน การคิดงานที่มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ หลายครั้งที่เรานอนไม่หลับเพราะคิดพล็อตไม่ออก เครียดสุดๆ เชื่อว่าทุกคนเคยเป็น
 
ฟังคำวิจารณ์แล้วเก็บมาคิดมาก คิดมาก มากๆ
ทำไมหาว่าเขียนไม่ดี ทำไมว่าไม่สนุก ทำไมไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่ทำไป ทำไมบอกว่าตัวละครไม่สมจริง อะไรกันนักหนา ไม่อยากอ่านก็ไม่ต้องอ่านสิ มาว่ากันทำไม บลาๆๆๆๆๆ เป็นเรื่องยากมากจริงๆ ที่จะยอมรับคำวิจารณ์ได้โดยไม่เจ็บปวด การเปิดใจรับฟังด้วยจิตใจที่ใสสะอาดช่างทำได้ยากมากๆๆๆๆๆ เพราะเราก็เป็นแค่ปุถุชนมีเลือดมีเนื้อ เวลาได้ยินคนว่างานของเราใจมันฝ่อ ไม่สบายใจเลย แต่ก็อยากให้เข้มแข็งและคิดเอาไว้ว่า ยิ่งคนอ่านชอบมากหรือตั้งใจอ่านมากเขายิ่งมีคำถามมาก และการที่เขาวิจารณ์มาเยอะๆ ก็แปลว่าเขาอ่านละเอียดมากนั่นเอง
 
รู้สึกว่าชีวิตเงียบเหงา เขียนแต่งานซ้ำๆ อยู่บ้านน่าเบื่อ 
ยิ่งถ้าเป็นนักเขียนที่เขียนอย่างเดียว มีแนวโน้มว่าคุณจะเบื่อ เหงา รู้สึกว่าชีวิตอับเฉามากๆ จนบางทีมันก็รู้สึกไม่อยากนั่งหน้าคอมแล้วเอาแต่เขียนๆๆๆ เลย อยากจะไปทำอย่างอื่นบ้างอะไรก็ได้ อยากจะเปิดประตูไปเจอใครสักคนจะได้มีเพื่อนมีสังคม นักเขียนมีชีวิตที่ต้องอยู่คนเดียวและพึ่งตัวเองเป็นหลัก ทำให้บางทีความรู้สึกโหวงๆ เหงาๆ ก็เกิดขึ้นได้
 
อารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจ หรือจริงๆ ฉันเขียนไม่เก่ง ไม่ดี 
เวลาเห็นผลงานมียอดวิวน้อย ยอดเม้นต์น้อย ยอดเฟบน้อย เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ที่เขายอดดีมากๆ อาจทำให้เรารู้สึกเศร้าๆ หรือน้อยเนื้อต่ำใจว่า เขียนไปก็ไม่มีคนอ่านเลย จะทำยังไงดีนะ ยิ่งถ้าคุณเป็นนักเขียนมีผลงานตีพิมพ์ และผลงานขายไม่ค่อยดี ขายไม่ค่อยออก คุณจะยิ่งรู้สึกกดดัน ไม่สบายใจจนแทบอยากเลิกอาชีพนี้ไปเลย 
 
ไม่มีใครเข้าใจอาชีพของฉัน ทุกคนคิดว่ามันง่ายและสบาย
นักเขียนอาชีพที่เขียนอยู่กับบ้านน่าจะเข้าใจดี เวลาไปเจอญาติพี่น้องหรือคนรู้จักถามว่าทำอาชีพอะไรนะ ได้เงินเท่าไหร่ เป็นนักเขียนเหรอ สบายจังแค่เขียนๆ ก็ได้เงิน เรานี่หน้าเจื่อนอยากจะบอกว่า… เอ่อ ไม่ง่ายนะ หาเงินก็ไม่ง่าย แต่อธิบายไปก็ยากที่คนไม่ได้อยู่ในวงการนี้จะเข้าใจ เผลอๆ ทะเลาะกันเปล่าๆ เลยได้แต่ก้มหน้าเงียบๆ และถอยออกมาเบาๆ
 
ความสุขแบบยิ้มไม่หุบ ตอนเขียนนิยายจบ นิยายผ่านการพิจารณา สนพ. ติดต่อมา ยอดวิวดี คนชม 
ไอ้ความรู้สึกฟินสุดๆ มันเป็นแบบนี้เอง แทบจะร้องไห้ออกมาตอนพิมพ์คำว่า จบแล้วจ้า จบบริบูรณ์ หรือจบอะไรก็ตามแต่ ยิ่งเวลาดูกล่องข้อความลับแล้วเห็นข้อความว่า ทางสนพ. สนใจนิยายของท่านค่ะ หรือแม้แต่ข้อความให้กำลังใจเล็กๆ น้อยๆ จากคนอ่านของเรา แค่นั้นบางทีก็ทำให้น้ำตารื้นๆ หรือยิ้มหน้าบานได้ทั้งวันแล้ว ขอแค่มีคนชอบนิยายของเราแค่นี้ก็มีความสุขสุดๆ ไปเลยว่าไหม
 
แม้จะเป็นอาชีพที่อ่อนไหวสุดๆ และใช้อารมณ์มากมายจริงๆ จนบางทีเหมือนอยู่บนรถไฟเหาะตีลังกาแต่อาชีพนักเขียนก็เป็นอาชีพที่น่าทึ่งและทำให้เราตื่นเต้นได้เสมอ รวมไปถึงสร้างความรัก ความสุขและสิ่งดีๆ ให้กับพวกเราได้มากมายจริงๆ รักอาชีพของเรามากๆ นะ ขอให้นักเขียนทุกคนจงเจริญ กิกิ
 
ทีมงานนักเขียนเด็กดี
 
ทีมงาน writer

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

2 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
Shadow_J Member 29 มิ.ย. 63 16:54 น. 2

อ่านมาถึงข้อสุดท้าย "ความสุขแบบยิ้มไม่หุบ ตอนเขียนนิยายจบ นิยายผ่านการพิจารณา สนพ. ติดต่อมา ยอดวิวดี คนชม" มันทำให้มีกำลังใจขึ้นมา ฮึบๆ


ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ครับ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด