Kev.Uthayanaka
ดู Blog ทั้งหมด

นรก สวรรค์ก็อยู่ที่ที่เดียวกันได้เหมือนกันนะ

เขียนโดย Kev.Uthayanaka
         สวัสดีครับชาวเด็กดีทุกคน บล็อกนี้ จะมาบอกถึงความสนุก ความพิศวง ความน่าเบื่อ และความสบายของชีวิตบนเขาชนไก่ครับ บางคนอาจจะไม่เชื่อว่า เพียงแค่สถานที่ที่เดียว จะสามารถรวมความรู้สึกไว้ทั้งหมดนี้ได้เลยหรอ ใครไม่เชื่อ มาอ่านบล็อกนี้กันเลยครับ แล้วจะรู้ว่า นรกและสวรรค์ก็สามารถอยู่ที่เดียวกันได้เหมือนกัน 5555555
 
       เรื่องทั้งหมดผมจ้ะล่ายาวไล่ไปเลยให้เพื่อนๆได้รู้ว่า แต่ละวันทำอะไรบ้างตั้งแต่ก่อนออกจากกรุงเทพ จนกระทั่งกลับเข้ามากรุงเทพเป็นยังไงนะครับ
 
{pic-alt}
 
       วันแรก : ผมตื่นตีสามครับ(จากที่บ้านนะครับ)ได้นอนประมาน 4 ชั่วโมงครับ วันก่อนออกเพราะกว่าจะนอนหลับก็ประมาณห้าทุ่มกว่าๆ เพราะมันตื่นเต้น 555555 พอตื่นมาตอนตี 3 ก็พยายามรีบอาบน้ำรีบออกจากบ้านให้เร็วที่สุด เพราะกลัวไปไม่ทัน แล้วจะไม่ได้นั่งรถคันเดียวกัน แต่ผมก็พยายามอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันให้สะอาดที่สุดเท่าที่จะทำได้ตั้งแต่ที่บ้านแล้วครับ เพราะรู้ว่าไปที่นู้นต้องได้อาบน้ำได้แปรงฟันน้อยแน่ๆ 555555 

        เมื่อถึงสวนเจ้าเชตุเวลาประมาณตี 5 พอดีครับ เพราะเขาจะเรียกรวมประมานตี 5 ถึงตี 5 ครึ่งครับ ส่วนเทคนิคที่ผมได้มาจากปีที่แล้วคือ ถ้าใครอยากนั่งรถคนเดียวกับเพื่อน ให้ยืนแถวหน้ากระดานแถวเดียวกันครับ แต่ต้องระวังอย่าให้แถวตัวเองที่เราอยู่เกิน 25 คน เพราะถ้าเกิน 25 คน คนที่อยู่คนสุดท้ายของแถว จะโดนไล่ไปอยู่ด้านหลัง แล้วจะทำให้ไปอยู่กับโรงเรียนอื่น ซึ่งเราไม่รู้จักเลย 

       เนื่องจากเวลาไปเขาชนไก่ ระบบทางทหารจะจัดเป็นกองพันครับ ผมไปกองพันที่ 33 ครับ ซึ่งกองพันผมมีทั้งหมด 9 โรงเรียน ทั้งหมดประมาน 600 กว่าๆคนครับ ซึ่งโรงเรียนผมโรงเรียนเดียวก็เกือบ 200 คน ซึ่งก็เยอะที่สุดถ้าเทียบกับอีก 8 โรงเรียนที่เหลือครับ ตอนก่อนเข้าแถว ผมก็ได้แต่นั่งลุ้นว่ารถจะเป็นรถแอร์ไหม แล้วถ้าเป็นรถแอร์ แอร์จะเย็นไหม ปรากฏว่าพอขึ้นไปบนรถ ความประทับใจแรกก็เกิดขึ้นทันทีเลยครับ ทั้งแอร์เย็น นั่งสบาย และ หลับสบายด้วยครับ 555555 เมื่อออกจากสวนเจ้าเชตุ เค้าก็วิ่งยาวไปจนถึงจังหวัดกาญจนบุรีเลยครับ ซึ่งที่ที่จอดที่แรกก็คือที่ อุทยานสงคราม 9 ทัพครับ แวะที่นี่ก็ให้เด็กลงไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตา ประมาณ 20 นาที จากนั้นจึงเรียกรวมแล้วไปนั่งฟังบรรยายเรื่องอุทยานแห่งนี้ครับ ว่ามีประวัติศาสตร์เป็นมาอย่างไร ซึ่งโดยปกติแล้ว มันจะค่อนข้างน่าเบื่อและไม่น่าฟังครับ แต่ครั้งนี้ไม่รู้ทำไม เพื่อนๆทุกคน และตัวผมเอง นั่งตั้งใจฟังกันเป็นส่วนใหญ่อาจจะเป็นเพราะว่าทหารที่เล่าให้พวกเราฟัง ใช้น้ำเสียงที่น่าฟังครับ ทุกคนจึงนั่งตั้งใจฟังกันส่วนใหญ่ นั่งฟังประมาณ 1 ชั่วโมงจากนั้นจึงออกเดินทางเข้าสู่เขาชนไก่จริงๆแล้ว ซึ่งใช้เวลาไม่นานครับ ไม่ถึง 1 ชั่วโมง
 

         เมื่อถึงเขาชนไก่ เค้าให้เราไปลงที่สนามยิงปืนก่อนครับ ไม่ได้ไปลงที่กองพันก่อน เพื่อทำการฝึกฝนวิธีการยิงปืนที่ถูกต้อง ซึ่งค่อนข้างเข้มงวดเป็นอย่างมาก เพราะเป็นปืน M16 ที่ใช้กระสุนจริง จากนั้นก็รับประทานอาหารที่สนามยิงปืนเลยครับ อาหารมื้อแรก ก็ประเดิมด้วยถาดหลุมก่อนเลยครับ ซึ่งก็เป็นไปตามที่คิดไว้อยู่แล้ว55555 จากนั้นช่วงเย็นๆก็เดินกลับไปที่กองพัน ซึ่งการเดินนั้น ถึงแม้ว่าการมาเขาชนไก่ครั้งนี้ จะไม่ได้มีภารกิจเดินทางไกลเหมือนตอนปีที่แล้ว แต่ การที่เราต้องเดินไปเดินกลับระหว่าง กองพัน กับ สนามฝึกยิงปืน หรือ กองพัน กับ สถานที่อื่นๆที่เราไปทำการเรียนนั้น โดยรวมแล้ว ไกลกว่าการเดินทางไกลเมื่อปีที่แล้วเยอะครับ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบเลย การเดินไกลๆค่อนข้างหน้าเบื่อ
 
          วันที่สอง : 4.00 น. ปรี้ดดดดดดด!!! เสียงทหารเป่านกหวีดปลุกครับ 555555 แล้วก็บอกว่า ให้เวลาแต่งตัว ทำภารกิจส่วนตัว 1 ชั่วโมง ผมก็คิดว่า ตั้ง 1 ชั่วโมง น่าจะทันอยู่แล้วให้เวลาเยอะผิดปกติ เลยนอนต่อ 555555 ปรากฏว่าตื่นอีกทีคือ เหลือ 20 นาที เลยไม่ได้อาบน้ำไม่ได้แปรงฟันไม่ได้ทำไรทั้งสิ้น 555555 ละผมก็ลุกขึ้นมาแต่งตัวใส่คอมแบทพร้อม จากนั้น เสียงที่ทุกคนเกลียดก็ดังขึ้น!! 5 นาทีรวม!! 5 นาทีรวม!! 5 นาทีรวม!! ได้ยินปั้ป ทุกอย่างต้องเสร็จแล้ววิ่งไปที่รวมพลโดยด่วน แล้วเข้าแถวให้เป็นหมวด ใครมาช้า หมอบบ!!!55555555 จากนั้นพอเข้าแถวรวมครบทุกคน ก็ทำการเช็คยอดว่าครบหรือไม่ แล้วปล่อยให้ไปรับประทานข้าว ซึ่ง มื้อไหนที่ได้ทานข้าวที่กองพัน ส่วนใหญ่ที่กองพันจะมีร้านข้าวข้างนอกซึ่งต้องใช้ตังตัวเองซื้อ แล้วเด็กบางส่วนก็จะเดินไปทานอาหารตรงนั้น เพราะไม่ชอบอาหารหลุม แต่บางส่วนก็ไม่ได้ไป เพราะรับกับการที่ทานอาหารหลุมคลุกฝุ่นได้ (ซึ่งตัวผมเองก็มักจะทานอาหารหลุม เนื่องจากเพื่อนๆผมส่วนใหญ่มักจะทานอาหารหลุมกันมากกว่า) ผมว่าภาพรวมของอาหารหลุมที่ได้ไปมา ผมถือว่ารสชาติของอาหารค่อนข้างดีและอร่อยครับ ถ้าหากตัดเรื่องการที่ถาดหลุมมันขี้ฝุ่นเยอะไปได้เนี้ย จะเป็นอะไรที่ดีมาก เพราะถาดเนี้ย เพียงแค่เราลองเอานิ้วปาดไปที่ถาด ขี้ฝุ่นดำสุดๆติดมือเราขึ้นมาทันทีเลยนะครับ
 
{pic-alt}
 

          ซึ่งผมว่าถ้าบางคนที่ไม่เคยไปเขาชนไก่เนี้ย ถ้าเจอแบบนี้ ผมว่าได้มีอาการอดข้าวแน่ๆ 5555555 หลังจากทานข้าวเสร็จ เขาก็เรียกรวมตัวรวมเพื่อที่จะเดินไปสนามยิงปืน (ซึ่งผมก็ไม่ชอบอีกแล้ว ยิ่งเป็นตอนเช้าซึ่งมันจะรู้สึกไม่ค่อยมีแรงแบบเหนื่อยๆล้า แล้วต้องมาเดินไกลๆเป็นความรู้สึกที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกเลย55555) เมื่อถึงสนามยิงปืน เราก็ต้องอยู่ตามชุดยิง ซึ่งผมเป็นชุดยิงที่ 1 แนวยิงที่ 61 ซึ่งการที่ได้เป็นชุดยิงแรกเนี้ยค่อนข้างดี เพราะเมื่อเราเป็นชุดแรกเรายิงเสร็จแล้ว กองพันผมมีทั้งหมด 11 ชุดยิง เมื่อชุดยิงแรกเสร็จแล้ว เค้าจะให้ชุดยิงที่ยิงเสร็จแล้วไปพักก่อน ผมจึงได้ไปพักก่อน แล้วพักยาวเลยด้วย เพราะตอนยิง เขาให้ยิงถึง 24 นัด จึงใช้เวลานาน สำหรับความรู้สึกตอนที่ผมได้ยิงนั้น ผมไม่คิดว่าการที่ยิงปืน M16 จะมีแรงถีบเยอะขนาดนี้ เพราะปกติผมยิงแต่ปืนพกเท่าที่เคยยิงมา แล้วแรงถีบมันไม่แรงเท่า M16 ผมจึงตกใจเล็กน้อย ที่มันมีแรงถีบเข้ามาที่ไหล่ผมแรงขนาดนั้น แต่สถานีนี้เป็นสถานที่ผมชอบและสนุกมากที่สุด เพราะปกติเป็นคนเล่นบีบีกัน และ ชอบยิงปืนอยู่แล้ว จึงสนุกสนานไปกับมัน
 
{pic-alt}
 

          หลังจากยิงปืนเสร็จ กิจกรรมหลังจากนั้นภายในวันที่ 2 ก็ไม่ค่อยมีอะไรที่น่าตื่นเต้นแล้ว แต่ก็มีสิ่งที่ผมประทับใจอีกอย่างหนึ่งในวันนี้คือ ผมได้อาบน้ำ!!! 555555555 ตอนก่อนอาบน้ำความรู้สึกจะแบบ ตัวเหนียวๆ ร้อนๆ คันๆ แต่พออาบน้ำเสร็จนี่เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ชัดๆ ถึงแม้ว่าน้ำที่อาบ จะทั้งดำ ทั้งขุ่น ทั้งเย็น แต่นั่นไม่เป็นอุปสรรคต่อการอาบน้ำของผมเลย เพราะตอนนั้น น้ำยิ่งเย็นยิ่งสบาย และเรื่องความดำของน้ำก็ไม่มีใครไปคิดถึงมันอยู่แล้ว เพราะขณะอาบเราก็ไม่ได้ดูสีของน้ำเลย เราก็ตักราดๆๆใส่ตัวเราไป เท่านั้นก็เสร็จแล้ว 555555

 
       วันที่สาม : วันนี้เป็นวันที่ต้องเดินทางไปเข้าป่า อารมณ์เดิมๆมันก็มาถึงอีกรอบครับ ตื่นเช๊าเช้า เพลียๆ ไม่มีแรง ละก็ต้องมาเดินขึ้นไปบนป่า ซึ่งระยะทางที่เดินไปป่า ไกลกว่าเดินไปสนามยิงปืนอีกครับ ยิงทำให้ผมรู้สึกเบื่อและไม่ชอบมากยิ่งขึ้นไปอีก พอเดินขึ้นไปถึงบนเขา ฟ้าก็สว่างพอดี ทั้งๆ ที่ตั้งแต่ก่อนเริ่มเดินทางฟ้ายังไม่สว่าง แต่พออกเดินทางจนถึงฟ้าก็สว่างแล้ว (คิดดูละกันนะครับว่าใช้เวลานานแค่ไหน55555) เมื่อถึงก็จัดแถวตามหมวดหมู่แล้วผู้บังคับกองพันก็บอกให้ฟังว่าสถานีที่ได้เจอวันนี้จะเป็นอย่างไรได้เจอกับอะไรบ้าง เค้าก็บอกว่า ครูที่จะมาฝึกให้เราวันนี้ในภาคเช้าเป็นครูฝึกที่มาจากจังหวัดประจวบ โดยปกติครูฝึกส่วนใหญ่จะมาจากศูนย์ฝึกศูนย์ใหญ่ ซึ่งพวกเราก็มันจะรู้ดีว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร แต่พอได้เจอครูฝึกที่แปลกหน้าแปลกตา เราก็จะไม่รู้ว่าคนนี้เป็นอย่างไร แต่พอได้สัมผัส ก็รู้เลยทีเดียว ว่าความโหดมันมีจริง เอ๊ะอะ อะไรก็จะส่งเรากลับบ้านอย่างเดียว แบบฝึกไม่ผ่านอะครับ ต้องมาผลัดต่อไป เป็นอะไรที่เด็กกลัวที่สุด เพราะไม่อยากมาหลายๆรอบ แต่ทั้งหมดที่เจอมานั้นล้วนเป็นอะไรที่เป็นคำขู่ทั้งนั้น ผมกล้าพูดเต็มปากเลยครับ เพราะผมได้ยินเขาพูดว่า ถ้าเจอเด็กทำผิดอีก ให้ส่งทั้งกองพันกลับเลย แต่หลังจากนั้นพวกเราก็ยังทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่นั่นก็ยังแค่โดนลงโทษหรือหมอบอะไรพวกนั้น ไม่มีใครโดนส่งกลับบ้านทั้งสิ้น
 
{pic-alt}
 

         สถานีนี้ก็เป็นสถานีที่เกี่ยวกับการเข้าโจมตี ว่าในหนึ่งหมวดหนึ่งหมู่จะแบ่งเป็นกี่คนอะไรบ้าง ใครมีหน้าที่เป็นอะไร โดยทุกคนต้องทำตามหน้าที่ของตนเองเท่านั้น ไม่ต้องทำหน้าที่ของคนอื่น สถานีนี้ผมคิดว่าค่อนข้างหนัก เพราะต้องคลานต่ำชนิดที่เรียกว่าแก้มแนบพื้นดินเลยครับ ทั้งเจ็บศอก เจ็บเข่า ร้อน เมื่อยขา เมื่อยคอ เนี้ยแหละครับ นรกบนดินของจริง (หากใครได้ดูในคลิปของผมแล้ว สถานีนี้จะเป็นสถานีที่ผมมุดลอดลวดหนามอะครับ ละก็พรางหน้าดำๆ ดำจนเข้าไปถึงในปากเลย55555) พอจบจากสถานีนี้ ก็ไปเข้าสู่สถานี เคมี ชีวะ รังสีนิวเคลียร์ บอกเลยว่า สถานีก็เป็นสถานีที่ทรมานที่สุดแล้วครับเนื่องจากเป็นสถานีที่สอนเกี่ยวกับการใช้หน้ากากการป้องกันแก๊สน้ำตา (ที่ใช้ในการสลายการชุมนุมอะครับ) แล้วเขาจะให้ทุกคนเข้าไปอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยแก๊สน้ำตาครับซึ่งเป็นห้องทดลองที่ปิดมิดชิด มีอากาศเข้าและอากาศออกน้อยมาก เมื่อเข้าไป ผมก็เข้าไปตัวปล่าวแต่ถือหน้ากากเข้าไปแล้วเค้าก็ให้ผมเข้าไปใส่หน้ากากข้างใน ซึ่งเมื่อตอนซ้อม ผมก็ซ้อมด้วยความมั่นใจนะครับว่าเข้าไปจะสามารถใส่หน้ากากจนมิดชิดทำให้แก๊สน้ำตาไม่สามารถเข้ามาได้ แต่พอเข้าไปถึง มันตื่นเต้นเล็กน้อย ทำให้ใส่ได้ไม่มิดชิดพอครับ จึงทำให้แก๊สน้ำตาสามารถเข้าไปได้ ทำให้ความทรมานมาเยือนผมทันทีครับ แบบว่า มันไม่ได้เจ็บปวดทางร่างเหมือนสถานีที่แล้วอะครับ แต่มันหายใจยากแบบทรมาน อารมณ์ประมาณแบบ ถ้าใครที่เคยหั่นหอมแดงด้วยตัวเอง หั่นไปเรื่อยๆจะรู้สึกว่ามันจะแสบตา นั่นแหละครับความรู้สึกประมาณนั้นแต่หนักกว่าประมาณ 3 เท่าครับ แล้วหอมแดงมันจะแสบแค่ตา แต่แก๊สน้ำตาเนี้ย มันแสบไปทั้งตัวทั้งผิวหนังครับ ทุกส่วนที่ไม่มีผ้าคลุมตัวเนี้ย แค่แก๊สโดนผิวหนังเท่านั้นก็แสบแล้วครับ ผมบรรยายมาขนาดนี้ ทุกคนคงจะรู้กันแล้วว่าความทรมานมันมีจริงนะครับ 5555555 แต่ทั้งหมดที่ได้ฝึกนั่น ถึงแม้มันจะหนักหนาสาหัส แต่มันก็เป็นความรู้สึก ประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ที่จะได้เจอแบบนี้อีกแล้ว
 
{pic-alt}
 

          วันที่สี่,วันที่ห้า : เนื่องจากกองร้อยผมเป็นกองร้อยที่ได้รับคัดเลือกให้ไปรับผู้บัญชาการทหารบกครับ วันที่สี่และวันที่ห้า จึงเป็นสองวันที่ผมต้องไปซ้อมพิธีต้อนรับท่านครับ ซึ่งเป็นพิธีการที่ค่อนข้างจริงจังมากครับ ต้องยืนนิ่งแบบห้ามขยับแม้แต่ศรีษะก็ห้าม นั่นก็ทำให้เพื่อนในโรงเรียนผมบางคน ถึงขั้นปากซีด ตัวซีด เป็นลมกันไปหลายคนอยู่เหมือนกันครับ ทหารหน่วยพยาบาลหลายๆคนก็ต้องเข้ามาดูแล เอาแอมโมเนียมาให้ดมกันเป็นแถว เอาน้ำมาฉีดเพื่อระบายความร้อนให้ทุกๆคนครับ หลังจากจบพิธี ทุกคนก็ต่างดีใจ เพราะถึงเวลาที่จะได้กลับบ้านแล้ว!!! เมื่อได้ขึ้นรถ ผมจำได้ว่า ไม่เกิน 10 นาทีครับ รถนี่เงียบกริบบบ!! มีแต่เสียงแอร์และพัดลมบนรถ...ทุกคนนี่หลับเป็นตายครับ!! 5555555555 เมื่อถึงที่สวนเจ้าเชตุแม่ผมก็มารับกลับบ้านอย่างราบรื่น ไม่ได้มีปัญหาใดๆ ไม่ได้เจ็บตัวเหมือนเพื่อนๆผมหลายๆคนที่ได้แผลคนละแผลสองแผล จากลวดหนามมั่ง จากแก๊สน้ำตามั่ง5555
 
        ทั้งหมดนั่นก็เป็นหน้าที่ที่เด็กชายไทยทุกคนจำเป็นต้องทำ หากสมัครใจที่จะเข้ามาเป็นนักศึกษาวิชาทหารครับ แต่ผมคิดว่าสิ่งที่ผมได้ทำมาทั้งหมด 3 ปีตั้งแต่ปี1-3 ผมคิดว่า ทุกๆคนที่ได้ทำเหมือนผม ก็คงคิดเหมือนกันว่า ไม่ได้ดีใจที่ได้เป็นนักศึกษาวิชาทหารครับ แต่ก็ไม่ได้เสียใจเช่นกัน ที่ได้เป็นนักศึกษาวิชาทหารครับ

ความคิดเห็น

FLORA(พฤกษา)
FLORA(พฤกษา) 2 มี.ค. 58 / 16:15
ถึงไม่ได้ไปเข้าค่ายที่เขาชนไก่แต่ที่ไปเข้าค่ายสงขลาก็สนุกมากเลยค่ะ ผู้หญิงเค้่าเข้าแค่สามวันเอง แต่สนุมากกกเลยค่ะ ครูฝึกจะใจดีกับผู้หญิมากกกกกเลยยยยย
ˋ Cheeze | ☆
ˋ Cheeze | ☆ 2 มี.ค. 58 / 17:59
เราว่าที่น่าเบื่อที่สุดคือเข้าเวรง่ะ นี่โดน 2300 - 0100 ในวันแรกไป หงิดเลย วันแรกนอนไม่พอแต่แรกเพราะตื่นเต้น เหนื่อยมาทั้งวันยังมาโดนเข้าเวรอีก โอ่ยยยยยย TwT
เอ็ม
เอ็ม 6 มี.ค. 58 / 14:16
ผมเป็นนักเรียน ร.ร.วิสุทธรังษี จ.กาญจนบุรี
อยากจะบอกว่า เด็ก ร.ร.ในจังหวัดกาญจน์ ฝึกเบามาก รูปที่เห็นการฝึกบางรูปเรายังไม่ได้ทำเลย555 เด็กจังหวัดกาญจน์ส่วนมากจะเข้าเป็นผลัดแรกๆ สิ่งที่จะทำส่วนมากก็คือนั่ง นอน บำเพ็ญประโยชน์555
foeii
foeii 8 มี.ค. 58 / 20:48
อ่านแล้วเพลินอ้ะ มีประการณ์ที่หายากนะ 555
พ.แพทตี้ เด็กดีทิงนองนอย
สนุกเบย เคยโดนหนักแค่เข้าค่ายยังอยากกลับบ้านเลย เข้าใจความรู้สึกแปป555
คนที่ไปมาก่อนไม่กี่ผลัด
อยากบอกจขกท.ว่าพลาดมากกกกก...
วันที่4ไม่ได้เจอกับจ่านรก!!
อันนี้อ่ะของจริง มีตั้งกะคลุก กลิ้ง คลานต่ำ หมอบ แถกปลาหมอบลาๆๆ
แถมแดดยังโคตรจะไม่เป็นใจ
แต่ตอนที่จ่ามาส่งพวกเรากลับกองพันเป็นโมเม้นต์ที่ทรงคุณค่ามากจริงๆ
นายไอที
นายไอที 3 เม.ย. 58 / 00:34
ผมปี 2 ก็ไปเขาชนไก่มาก็สนุกนะครับ โหดแบบพอดี ฝึกแบบไม่ยากมาก แต่เกือบ 80% ของการฝึกไม่เจอฝุ่น เพราะผลัดผมไปเย็นวันแรกฝนตกเลยครับ หนักมากด้วย ตกนานเกือบ 4 ชม.ครับ แต่น้ำก็ซึมลงดินเร็วมากๆ (สงสัยเป็นดินทราย ไม่ค่อยอุ้มน้ำ) ประมาณวันที่ 3 ฝุ่นเริ่มมา แต่ลองขุดดินก็พบว่าใต้ดินก็ยังคงอุ้มน้ำอยู่ครับ แต่แดดเป็นสิ่งที่ไม่ผลาดเลยครับ กลับไปนี่ดำเลยครับ แดดแรงสุดๆ
อ่านของ ปี 3 แล้วท่าทางโหดจริง ผมก็ทำใจไว้แล้วละครับ พบกันปีหน้านะ เขาชนไก่ ^^