สวัสดีมีนา
สวัสดีเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆชาวเด็กดีที่เคารพรักทุกคนนะครับ
ขอระบายความในใจนะครับว่า หลังจากสอบแกท เสร็จแล้วออกจากห้องสอบลงมารวมตัวโต้เถียงกันของ 4 กัปตัน พบข้อบกพร่องที่ทำให้ต้องขำตัวเองว่า พลาดอีกแล้วหรอ คิดผิดอีกแล้วหรอ ทำไมประมาทขนาดนั้น ตลกมากที่นั่งทำข้อสอบเยอะพอสมควร แต่กลับพลาดจุดที่ง่ายๆ 55555555
เพราะคำตอบแกท เชื่อมโยงที่ออกมาไม่ตรงกับใครสักคนใน 4กัปตัน เลยกังวลว่า เฮ้ย!!!เราจะผิดหรือใครผิด ใครได้เต็ม ใครไม่เต็ม ใครพลาดตรงไหนอะไรยังไง ยังไม่มีใครตอบได้ เพราะ สทศ.เท่านั้นที่รู้คำตอบที่ถูกต้อง แท้จริงและเชื่อถือได้ (sivv???)
แต่พยายามไม่เครียดครับ เพราะเครียดไปก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ผ่านไปแล้วก็ต้องให้มันผ่านไป อย่าจมอยู่กับอดีต แต่เอาอดีตมาเป็นบทเรียนไม่ให้ซ้ำรอยดีกว่า !!!!!
พอนึกถึงอดีตก็อยากจะเตือนน้องๆว่า ข้อสอบรู้สึกจะยากขึ้นเกือบทุกปี แล้วการเรียนในโรงเรียนอาจจะไม่เพียงพอในการสอบ เพราะบางข้ออาจารย์บางคนยังทำไม่ได้เลย หรือให้อาจารย์แต่ละคนทำคำตอบยังมีหลายคำตอบเลย บางทีอาจารย์ยังไม่ค่อยทราบระบบการแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงบ่อย และซ้ำซ้อนมากจนน่าเบื่อ
เลยอยากให้รุ่นน้องเริ่มเรียนพิเศษตั้งแต่ม.4เลยก็ดี เรียนเรื่อยๆอย่าปล่อยเวลาว่างผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ เพราะมันเรียกคืนมาไม่ได้แล้ว
วิชาที่สำคัญที่สุดสำหรับทุกแผนการเรียนก็คือ ภาษาอังกฤษ กับ คณิตศาสตร์ อันนี้เรื่องจริง!!!!!!!
คณิตศาสตร์ ตลอดชีวิตคิดผิดมาตลอดว่า ยังไงก็ต้องหนีคณิตให้พ้น เหมือนเวลาเจอโจทย์แล้วจำฝังใจว่าทำไม่ได้ พอเจอโจทย์อีกก็เลยไม่พยายามที่จะทำ จนในที่สุดสิ่งที่เคยทำได้ก็ทำไม่ได้ สิ่งที่ทำไม่ได้ก็ไม่ฝึกทำ จนตอนนี้คณิตศาสตร์เหมือนเป็นฝันร้ายมากๆ ไม่น่าหนีเลยยยยยยยย!!!!!!
ภาษาอังกฤษ อันนี้สำคัญที่ว่าใช้ยังไงให้เป็น ไม่ใช่จำๆๆๆๆเข้าห้องสอบออกมาก็ลืม อิ้งเป็นวิชาที่เน้นทักษะการใช้ การทำโจทย์ การฝึกบ่อยๆ การเรียนเมืองไทยนักเรียนต่อห้องเยอะมาก จนแทบจะขี่คอกันเรียน ครูไม่สามารถจี้ให้ทุกคนฝึกพูดออกมาได้หรอก มันอยู่ที่ตัวเราว่าเรากล้าที่จะเผชิญกับมันขนาดไหน มีเพื่อนที่กลับมาจากอเมริกา กลับมาไทยได้ประมาณ2อาทิตย์ กลับมาพูดภาษาไทยเกือบตลอดเวลา สรุปว่าลืมคำศัพท์บางคำไปเลย ซึ่งปกติก็ใช้อยู่บ่อยๆตอนอยู่เมืองนอก
อยากจะเตือนอีกว่าเลิกความคิดที่ว่า อีก 2ปี 3ปี กว่าจะสอบเข้า เดี๋ยวค่อยเรียน คิดแบบนั้นมาจนถึงม.6 เร่งเรียนสุดๆ อัดเรียนสุดๆ จนร่างกายเราไม่ไหว ไม่ค่อยได้นอน ไหนจะงานที่ รร.อีก อ่านหนังสืออีก กว่าจะได้นอน ตื่นเช้าไปเรียน เรียนพิเศษต่อ เป็นอย่างนี้เกือบทุกวันของช่วงชีวิตม.6 เรียนจนกระทั่งวันก่อนสอบแกท จนตอนนี้คอร์สยังเหลืออยู่เลย มันเร็วมากทุกอย่าง
ขอระบายความในใจนะครับว่า หลังจากสอบแกท เสร็จแล้วออกจากห้องสอบลงมารวมตัวโต้เถียงกันของ 4 กัปตัน พบข้อบกพร่องที่ทำให้ต้องขำตัวเองว่า พลาดอีกแล้วหรอ คิดผิดอีกแล้วหรอ ทำไมประมาทขนาดนั้น ตลกมากที่นั่งทำข้อสอบเยอะพอสมควร แต่กลับพลาดจุดที่ง่ายๆ 55555555
เพราะคำตอบแกท เชื่อมโยงที่ออกมาไม่ตรงกับใครสักคนใน 4กัปตัน เลยกังวลว่า เฮ้ย!!!เราจะผิดหรือใครผิด ใครได้เต็ม ใครไม่เต็ม ใครพลาดตรงไหนอะไรยังไง ยังไม่มีใครตอบได้ เพราะ สทศ.เท่านั้นที่รู้คำตอบที่ถูกต้อง แท้จริงและเชื่อถือได้ (sivv???)
แต่พยายามไม่เครียดครับ เพราะเครียดไปก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ผ่านไปแล้วก็ต้องให้มันผ่านไป อย่าจมอยู่กับอดีต แต่เอาอดีตมาเป็นบทเรียนไม่ให้ซ้ำรอยดีกว่า !!!!!
พอนึกถึงอดีตก็อยากจะเตือนน้องๆว่า ข้อสอบรู้สึกจะยากขึ้นเกือบทุกปี แล้วการเรียนในโรงเรียนอาจจะไม่เพียงพอในการสอบ เพราะบางข้ออาจารย์บางคนยังทำไม่ได้เลย หรือให้อาจารย์แต่ละคนทำคำตอบยังมีหลายคำตอบเลย บางทีอาจารย์ยังไม่ค่อยทราบระบบการแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงบ่อย และซ้ำซ้อนมากจนน่าเบื่อ
เลยอยากให้รุ่นน้องเริ่มเรียนพิเศษตั้งแต่ม.4เลยก็ดี เรียนเรื่อยๆอย่าปล่อยเวลาว่างผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ เพราะมันเรียกคืนมาไม่ได้แล้ว
วิชาที่สำคัญที่สุดสำหรับทุกแผนการเรียนก็คือ ภาษาอังกฤษ กับ คณิตศาสตร์ อันนี้เรื่องจริง!!!!!!!
คณิตศาสตร์ ตลอดชีวิตคิดผิดมาตลอดว่า ยังไงก็ต้องหนีคณิตให้พ้น เหมือนเวลาเจอโจทย์แล้วจำฝังใจว่าทำไม่ได้ พอเจอโจทย์อีกก็เลยไม่พยายามที่จะทำ จนในที่สุดสิ่งที่เคยทำได้ก็ทำไม่ได้ สิ่งที่ทำไม่ได้ก็ไม่ฝึกทำ จนตอนนี้คณิตศาสตร์เหมือนเป็นฝันร้ายมากๆ ไม่น่าหนีเลยยยยยยยย!!!!!!
ภาษาอังกฤษ อันนี้สำคัญที่ว่าใช้ยังไงให้เป็น ไม่ใช่จำๆๆๆๆเข้าห้องสอบออกมาก็ลืม อิ้งเป็นวิชาที่เน้นทักษะการใช้ การทำโจทย์ การฝึกบ่อยๆ การเรียนเมืองไทยนักเรียนต่อห้องเยอะมาก จนแทบจะขี่คอกันเรียน ครูไม่สามารถจี้ให้ทุกคนฝึกพูดออกมาได้หรอก มันอยู่ที่ตัวเราว่าเรากล้าที่จะเผชิญกับมันขนาดไหน มีเพื่อนที่กลับมาจากอเมริกา กลับมาไทยได้ประมาณ2อาทิตย์ กลับมาพูดภาษาไทยเกือบตลอดเวลา สรุปว่าลืมคำศัพท์บางคำไปเลย ซึ่งปกติก็ใช้อยู่บ่อยๆตอนอยู่เมืองนอก
อยากจะเตือนอีกว่าเลิกความคิดที่ว่า อีก 2ปี 3ปี กว่าจะสอบเข้า เดี๋ยวค่อยเรียน คิดแบบนั้นมาจนถึงม.6 เร่งเรียนสุดๆ อัดเรียนสุดๆ จนร่างกายเราไม่ไหว ไม่ค่อยได้นอน ไหนจะงานที่ รร.อีก อ่านหนังสืออีก กว่าจะได้นอน ตื่นเช้าไปเรียน เรียนพิเศษต่อ เป็นอย่างนี้เกือบทุกวันของช่วงชีวิตม.6 เรียนจนกระทั่งวันก่อนสอบแกท จนตอนนี้คอร์สยังเหลืออยู่เลย มันเร็วมากทุกอย่าง
"A man who dares to waste one hour of time has not discovered the value of life"
- Charles Darwin -
- Charles Darwin -
ขอให้ทุกคนโชคดี
กัปตันโบนัส
กัปตันโบนัส
ความคิดเห็น
เด็กซิ่วคะแนนน้อยมาลงแข่งไม่ได้ ปีแล้วคะแนนเยอะเลยมาแห่กันซิ่ว
ก็จะได้แข่งกันแฟร์ๆ
ยังเอาเวลาไปเรียนอีกหลายๆวิชาได้อีกค่ะ
พ่อแม่ส่งลูกหลายคน เงินเรียนพิเศษไม่มีละ ไม่เป็นไร
เราจะอ่านหนังสือ เข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ด้วยตัวเองให้ได้
มันทำให้เราตื่นตัว และรู้ว่าเราต้องทำอะไรต่อไป
อย่างเมื่อหลายวันก่อน ไปสอบเตรียมสายศิลป์-คำนวณ มา
ไม่ติดคะ แต่ลำดับดีมากๆ ลำดับที่ 202 คะ
ทั้งๆที่ไม่ได้เรียนพิเศษเลย แทบจะไม่ได้ทบทวนด้วย
แต่ก็มานึกเสียดายคะ ว่าทำไมเราไม่ตั้งใจมากกว่านี้ ไม่งั้นคงติดไปแล้ว
พอมาอ่านบทความนี้+ที่สอบไม่ติด เลยหึกเหิมมากๆ
ตอนนี้ก็หาที่เรียนพิเศษไปเรื่อยๆคะ
ขอบคุณที่มาแชร์เรื่องแบบนี้นะคะ ต่อไปนี้ก็ต้องตั้งใจให้มากขึ้นกว่าเดิมมากๆ!!
ก็ภาวนาให้มีสอบตรงเภสัชออกมาสักที จะลองไปวัดความรู้ดูค่ะ เรียนพิเศษก็ไม่ได้เรียนนะค้ะ ไปหาติวกับเพื่อนที่เขาเรียนพิเศษเอาในวันว่างๆแบบนี้ :)
ค่ายถาปัตย์ จุฬาฯ สาขาภูมิสถาปัตยกรรม
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.facebook.com/Landsummercamp?ref=hl
เห็นด้วยกับ คห.5 เพราะว่ายังไงปีนี้จะขึ้นม.4แล้วจะลองพยายามด้วยตนเองเพื่อเข้ามหาลัยให้ได้ค่ะ