EN04 Timestopable - คนหยุดเวลา
เมื่อ 'โรเบิร์ต ไทมส์' ต้องการย้อนเวลากลับไปเพื่อช่วยภรรยาสุดที่รัก แต่การทดลองผิดพลาดและทำให้กระแสเวลาพุ่งเข้าสู่ตัวลูกชายของเขา 'รีส ไทมส์' ฮีโร่ผู้สามารถหยุดเวลาได้จึงถือกำเนิดขึ้น!!
Chapter 3: ชายผู้เร่งอายุขัย
“เวลา มันไม่สามารถเยียวยาอะไรได้
มันแค่ทำให้ทุกสิ่งดำเนินไปตามธรรมชาติของมัน ก็เท่านั้นแหละ”
-โรเจอร์ จูส์-
ความมืดบดบังทุกสิ่งในห้อง อากาศหนาวจัดและเหม็นอับ จนกระทั่งแสงของหลอดไฟที่ห้อยย้อยลงมาจากเพดานค่อยๆ สว่างขึ้น แต่ก็ไม่มากพอที่จะทำให้เห็นทุกอย่าง มีโต๊ะกระจกตัวยาว เก้าอี้เหล็กสองตัวตั้งอยู่ตรงหัวและท้ายโต๊ะ นอกจากนั้นมืดสนิท
ชายร่างผอมนั่งอยู่ที่ฝั่งหนึ่งของโต๊ะ หัวล้าน สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวดูยับยู่ ชื้นไปด้วยเหงื่อเพราะความกังวล เนคไทสีแดงที่เคยผูกไว้อย่างดีตอนนี้หลวมโพรก มือทั้งสองข้างถูกมัดวางไว้บนโต๊ะ เขานั่งก้มหน้าอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานาน จนกระทั่งใครบางคนเดินเข้ามา
เสียงฝีเท้าสม่ำเสมอ ร่างสูงในเงามืดเดินเข้าไปเลื่อนเก้าอี้ออกจนเกิดเสียงเสียดฟันดังลั่นห้อง เขานั่งลงห่างจากบริเวณที่แสงจากหลอดไฟจะสัมผัสได้ น้ำเสียงที่ผ่านเครื่องแปลงเสียงจนฟังไม่ชัดเอ่ยขึ้นเบาๆ
“คุณโรเจอร์ จูส์ ใช่ไหม”
“...แกต้องการอะไร?” เสียงแหบแห้งเอ่ยอย่างหมดแรง “จับฉันมาเรียกค่าไถ่เรอะ? หึ เป็นโจรที่ไม่มีสมองเอาซะเลยนะ พนักงานบริษัทกระจอกๆ อย่างฉันจะไปมีเงินมาให้แกได้ยังไง โง่จริงๆ”
“นี่ อย่าเพิ่งพูดเองเออเองสิ” เจ้าของเสียงในเงามืดลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปรอบห้อง “คุณโรเจอร์ จูส์ พนักงานบริษัทยูเอ็ม ตั้งใจทำงานหนักมาถึงสิบปีแต่ไม่เคยได้รับโบนัส ไม่เคยได้เลื่อนตำแหน่ง ถูกเด็กใหม่ใช้เส้นสายแย่งตำแหน่งระดับสูงไปหมด แต่ก็ต้องจำใจทำงานต่อ เพราะหางานจากบริษัทอื่นไม่ได้ ด้วยอายุที่มาก การศึกษาก็จบแค่มัธยมปลาย แล้วตอนนี้ยังมีภาระ ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ลูกสาวที่ป่วย...น่าเห็นใจจริงๆ”
“นี่แก...รู้ได้ไง?”
“มันไม่สำคัญหรอกว่าผมรู้ได้ยังไง” เสียงฝีเท้าหยุดลงด้านหลังชายร่างผอม ฝ่ามือที่สวมถุงมือสีขาวสนิทเอื้อมมาแตะบ่า “แต่สำคัญที่คุณจะรับข้อเสนอของผมรึเปล่า”
“ข้อเสนอ?” ชายร่างผอมหันกลับไปมอง เขาพบเพียงความมืดมิด
“ผมอยากให้คุณช่วยอะไรบางอย่าง มันเป็นงานที่ง่ายนิดเดียว และถ้าคุณยอมตกลง ผมจะจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดให้กับลูกสาวคุณ และจะให้เงินค่าตอบแทนเพิ่มอีกหากงานสำเร็จด้วยดี” มีเสียงกดปุ่ม ที่กลางโต๊ะกระจกเกิดช่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก แล้วเข็มฉีดยาที่เต็มไปด้วยของเหลวสีฟ้าสว่างก็ผุดขึ้นมาจากด้านล่าง
ชายร่างผอมจ้องมองเข็มฉีดยาประหลาดไม่วางตา เขาถามเสียงสั่น “แกอยากให้ฉันทำอะไร?”
“ง่ายนิดเดียว” เจ้าของถุงมือสีขาวเอื้อมไปหยิบเข็มฉีดยา “พูดคำว่าตกลงแล้วผมจะโอนเงินเข้าบัญชีให้คุณทันที”
ชายร่างผอมนิ่งเงียบ ดวงตาจ้องเขม็งไปที่เข็มฉีดยาซึ่งเรืองแสงสีฟ้าในเงามืด เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นที่ขมับ “แล้วถ้าฉันไม่ตกลงล่ะ?”
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็จะไม่ได้อะไรเลย” เจ้าของเสียงดูไม่สบอารมณ์ “ไม่ว่าทางไหนผมก็จะฉีดสารนี้ให้คุณอยู่ดี เลือกเอาแล้วกันว่าอยากให้ผมฉีดแบบได้เงิน หรือฉีดแบบฟรีๆ”
“นี่แก...แกมันบ้า!”
ชายร่างผอมตะคอกก่อนจะผุดตัวขึ้นจากเก้าอี้ เขากระโจนห่างจากโต๊ะ ก้าวเท้าเข้าไปในความมืด จนกระทั่งได้ยินเสียงโซ่ที่เสียดสีกับพื้น เขาเพิ่งรู้ตัวว่าถูกล่ามเอาไว้กับโต๊ะ สายโซ่เหยียดตึง กระตุกข้อเท้าของชายร่างผอมให้เสียหลักจนล้มกระแทกกับพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบอย่างแรง
สติเริ่มเลือนราง ดวงตาพร่ามัว ภาพที่เห็นเป็นสิ่งสุดท้าย...คือเข็มฉีดยาสีฟ้า ที่ปักลงบนต้นแขนของตน
“อ๊ากกกก!!”
“รีส ไทมส์ ใช่รึเปล่า?”
น้ำเสียงที่ผ่านเครื่องแปลงเสียงเอ่ยถาม ท่ามกลางผู้คนมากมายในงานนิทรรศการวิทยาศาสตร์ประจำปี บางส่วนเริ่มหันมาสนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชายร่างผอมในชุดสีดำสนิทกับหน้ากากสีขาวและผมสีบลอนด์สะดุดตา รีสได้แต่ยืนจ้องมองชายแปลกหน้าด้วยความงุนงง เขาไม่รู้ว่าชายคนนี้รู้ชื่อของเขาได้ยังไง และไม่รู้ว่าทำไมชายคนนี้ถึงพูดจาและเคลื่อนไหวได้ในตอนที่เขากำลังกลั้นหายใจ...ไม่เคยมีใครทำแบบนั้นได้มาก่อน
“ไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร” ชายแปลกหน้ายกมือขวาขึ้น พลันประกายสีฟ้าสว่างก็วนหมุนรอบมือเขา “เพราะฉันจะทำให้แกพูดเอง!”
สิ้นเสียงตะคอก ชายชุดดำสะบัดมือขวาไปทางรีส พลันก้อนพลังงานสีฟ้าสว่างก็พุ่งไปหาด้วยความเร็วสูง รีสกลั้นหายใจเพื่อหยุดเวลาทันที!
ทว่า!
“ไม่จริงน่ะ…!!”
ก้อนพลังงานไม่หยุดเคลื่อนไหว!
“หลบเร็ว!”
รีสตะโกนสุดเสียงก่อนจะกระโดดหลบสิ่งแปลกปลอมนั้นอย่างฉิวเฉียด มันเกือบโดนเพื่อนๆ ของเขาที่เพิ่งหลุดจากสภาวะหยุดเวลา จนพุ่งชนเข้ากับซุ้มด้านหลังที่กำลังจัดแสดงเครื่องผลิตกาแฟจากอากาศ ทันทีที่ก้อนพลังงานสีฟ้าแตะต้องมันก็สลายไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้น รีสเป่าปากด้วยความโล่งอก
“เฮ้ย! อะไรวะเนี่ย!?”
เจ้าของซุ้มตะโกนลั่น เพราะจู่ๆ ซุ้มที่ทำจากไม้ของเขาก็เกิดเสียงดังลั่นเอี๊ยดอ๊าด ตะปูที่ตอกติดทุกตัวเคลื่อนหลุดออกจากเนื้อไม้ พวกมันกลายเป็นสนิมและผุกร่อนจนสลายไป ไม้กระดานทุกชิ้นแตกหักจนทั้งซุ้มพังครืน เครื่องจักรที่นำมาแสดงก็กลายเป็นสนิมและกลายเป็นเศษเหล็กเก่าๆ
ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในสามวินาทีเท่านั้น!
“หลบเก่งดีนี่” ชายชุดดำเอ่ยชม เขาเดินเข้าไปใกล้รีสที่กำลังลุกขึ้นจากพื้น ท่ามกลางผู้คนที่ส่งเสียงฮือฮาด้วยความตกใจ “ไอ้หมอนั่นเตือนว่าเธอเคยเรียนศิลปการต่อสู้ แต่คล่องแคล่วขนาดนั้นคงไม่ใช่ธรรมดาแฮะ”
“นั่นใครอ่ะรีส คนรู้จักนายเหรอ?” แฟรงค์ถามขึ้นจากด้านหลัง ไดน่าและเธียมีสีหน้างุนงงไม่ต่างกัน “อ๋อ...นายคงเห็นว่างานทดลองของพวกเราไม่ได้เรื่อง ก็เลยแอบจ้างคนมาแสดงใช่มะ ไม่เชื่อใจเพื่อนเลยนี่หว่านาย...”
“หลบไป!”
รีสตะโกนพลางใช้แขนผลักแฟรงค์จนล้ม ตัวเขาเองก็ด้วย เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้นก้อนพลังงานแปลกปลอมคงพุ่งโดนตัวเขาแน่ และรีสไม่รู้เลยว่าหากมันโดนตัวมนุษย์จะเป็นอย่างไร
“นะ นี่มัน…เกิดอะไรขึ้นเนี่ย!?”
ไดน่าร้องเสียงหลง เพราะการที่รีสและแฟรงค์หลบทำให้ก้อนพลังงานพุ่งไปโดนไดน่าที่ยืนอยู่ข้างหลังแทน พลันส่วนสูงของเธอก็เพิ่มขึ้นจนเสื้อสเวตเตอร์กลายเป็นเสื้อเอวลอย กระโปรงก็ดูเหมือนจะสั้นลงอย่างเห็นได้ชัด เส้นผมยาวขึ้น ใบหน้าก็สวยคมดูมีอายุมากขึ้น
ไดน่ากลายเป็นสาวใหญ่ในชั่วพริบตา!
“ไดน่า นี่เธอ…” แฟรงค์หันไปจ้องตาค้าง “...หน้าอกใหญ่ขึ้นนะ?”
“พะ พูดอะไรของนายน่ะ!!”
เพียะ! ฝ่ามือเรียวฝากรอยแดงไว้บนใบหน้าของแฟรงค์ก่อนจะวิ่งหนีหายไปในฝูงชน ในตอนนี้ผู้คนเริ่มมุงเข้ามาดูเหตุการณ์มากขึ้น เสียงอื้ออึงดังระงมไปทั้งงาน
“เวรเอ้ย! พลาดอีกแล้ว!”
ชายชุดดำหัวเสีย เขาโจมตีรีสถึงสองครั้งแต่ก็พลาดตลอด ครั้งนี้เข้ายกมือขึ้นทั้งสองข้าง เรียกก้อนพลังงานสีฟ้าออกมา
“ลองดูซิว่าจะหลบได้อีกไหม!”
บุรุษชุดดำสะบัดมือซ้ายขวาอย่างรวดเร็ว ก้อนพลังงานสีฟ้าปลิวว่อนไปทั่วบริเวณ ไม่ใช่แค่สองลูก เขาปล่อยมันออกมาเรื่อยๆ โดยหวังว่าจะโดนสักครั้ง รีสเห็นดังนั้นจึงรีบดึงแขนแฟรงค์และเธีย ก่อนจะพากันวิ่งหนีอย่างสุดชีวิต พยายามหลบหลังต้นไม้และซุ้มต่างๆ อย่างยากลำบาก ผู้คนในงานที่โดนเข้ากับก้อนพลังงานนั้นต่างมีอายุเพิ่มขึ้น เด็กกลายเป็นวัยรุ่น วัยรุ่นกลายเป็นผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่กลายเป็นคนชรา คนชรากลายเป็นเถ้ากระดูก! เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจและหวาดกลัวดังระงม จนกระทั่งหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยสามนายเคลื่อนตัวเข้ามาในพื้นที่ด้วยเท้าที่เป็นล้อรถ พร้อมแขนปืนที่บรรจุกระสุนยางเอาไว้
“วางอาวุธ” เสียงสังเคราะห์จากหุ่นยนต์ตรงกลางสั่ง “ถ้าหากคุณไม่ยอมทำตามที่สั่ง เราจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที”
“หึ ไอ้พวกหุ่นยนต์โง่” ชายชุดดำหันไปมองหุ่นยนต์ทั้งสามอย่างท้าทาย “อาวุธของฉันมันวางได้ซะที่ไหน!”
สิ้นเสียงตะคอกอย่างเดือดดาล ชายชุดดำสะบัดมือขวาวาดเป็นเส้นยาวกลางอากาศ พลันประจุพลังงานสีฟ้าเส้นใหญ่ก็พุ่งตรงไปราวกับหัวลูกศร เฉือนผ่านร่างของหุ่นยนต์ทั้งสาม ก่อนจะสลายหายไปในอากาศ ในตอนนี้สมองกลของหุ่นยนต์ไม่สามารถประมวลผลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ พวกมันยืนนิ่ง ก่อนจะผุกร่อนขึ้นสนิมจนกลายเป็นเศษเหล็กอย่างรวดเร็ว
“แย่แน่ๆ แม้แต่หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยยัง...” แฟรงค์ที่แอบดูอยู่หลังซุ้มเอ่ยเสียงค่อยเพราะกลัวชายชุดดำได้ยิน “แบบนี้มีโอกาสถึงเก้าสิบจุดแปดศูนย์เปอร์เซ็นที่พวกเราจะ…!”
ฝ่ามือของรีสเอื้อมมาปิดปากเพื่อน เขากระซิบ “หยุดพูดก่อนสักสิบวิจะได้ไหม!”
“รีสสสส!” ชายชุดดำตะโกนเรียกสุดเสียง “ไปหลบอยู่ไหน ออกมาซะดีๆ ถ้ายังไม่รีบออกมาฉันจะทำให้ทุกคนที่นี่กลายเป็นเศษกระดูก ทีละคน ทีละคน...!” ชายชุดดำกระชากเส้นผมของหญิงชราที่นั่งตัวสั่นเทาอยู่บนพื้นขึ้นมา “เริ่มจากยายแก่นี่ ยายแก่ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่นี่แหละ เธอทนได้งั้นเหรอรีส หืม? ออกมาซะดี!ๆ”
รีสลุกขึ้นทันที เขาตัวสั่น เขากลัว แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้ใครต้องเดือดร้อนเพราะเขาได้ ทว่าแฟรงค์กลับฉุดแขนลงมา หนุ่มแว่นกระซิบถาม “นายจะทำบ้าอะไรน่ะ?”
“ก็ออกไปหามันไง ไม่เห็นเหรอว่ามันกำลังจะทำอะไร?” รีสหัวเสีย เขาไม่มีทางเลือก อีกทั้งพลังหยุดเวลาก็ใช้ไม่ได้ผลกับชายผู้นี้
“แต่มันจะฆ่าเธอนะรีส” เธียจ้องเขม็ง พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฉันปล่อยให้เธอทำอย่างนั้นไม่ได้”
“เธีย...แฟรงค์...ขอโทษนะ”
รีสกลั้นหายใจ
แล้วเวลาก็หยุดลงอีกครั้ง ผู้คนที่วิ่งหนีกันอย่างแตกตื่นหยุดนิ่งในท่าที่แตกต่างกันไป ใบหน้าเป็นห่วงของแฟรงค์และเธียค้างเติ่งดูปวดใจ รีสรู้และเข้าใจดีถึงเจตนาของทั้งสองคน แต่การที่จะต้องมีคนมาตายเพราะเขา นั่นเป็นสิ่งที่รีสทนไม่ได้ที่สุด
“ปล่อยยายแกไป...” เสียงแผ่วเอ่ยอย่างจำใจ ร่างกายที่สั่นเทายอมจำนน “ฉันยอมแล้ว”
“ปล่อยแล้ว นี่ไง” ชายชุดดำปล่อยมือออกจากร่างของหญิงชรา แต่เธอยังคงยืนค้างเติ่งอยู่แบบนั้น “อ้อ หยุดเวลาเอาไว้สินะ”
“ฉันยอมแกแล้ว ทุกอย่าง ขอแค่อย่างเดียว” น้ำเสียงของรีสดูหนักแน่นขึ้นมา “ทำให้ทุกคนที่นี่กลับเป็นปกติ ปล่อยทุกคนไป”
“อืม...” ชายชุดดำกอดอกครุ่นคิด “เดี๋ยวนะ ขอฉันลองอะไรหน่อย”
พูดจบเขาก็ยกนิ้วชี้ขึ้นมา ก้อนพลังงานสีฟ้าเล็กๆ ผุดขึ้น ชายชุดดำจิ้มมันไปที่ร่างของหญิงชรา เป็นเวลาเดียวกับที่รีสเริ่มหมดลม เขาสูดหายใจ ทุกอย่างกลับมาดำเนินตามปกติ ผู้คนแตกตื่นส่งเสียงกรีดร้องระงม ทันใดนั้นหญิงชราข้างๆ ชายชุดดำก็ล้มลงกับพื้น เธออายุมากขึ้นจนผิวหนังเหี่ยวย่นหนักกว่าเก่า ผมเผ้าสีขาวขาดหายไปเป็นหย่อมๆ ดวงตาสีฟ้าสดใสจู่ๆ ก็ฝ้าฟาง เกิดเยื่อสีขาวบางๆ ขึ้นปกคลุมนัยน์ตาจนดูน่ากลัว
“ไม่ได้แฮะ...” ชายชุดดำส่ายหน้า “ดูเหมือนว่าพลังของฉันคือการทำให้เวลาของทุกสิ่งก้าวกระโดด ในรายของสิ่งที่ไม่มีชีวิต พวกมันจะหมดสภาพทันที แต่ถ้าเป็นสิ่งมีชิวิต ฉันคิดว่าพลังจะทำให้อายุเพิ่มขึ้นประมาณยี่สิบปี แต่ย้อนกลับหรือทำให้น้อยลง...ดูเหมือนจะไม่ได้นะ”
“นี่แก...” รีสเสียงสั่น กำหมัดแน่น “แล้วทำไมแกต้องทดลองกับคนด้วย!?”
“เอ้า ช่วยไม่ได้ ก็เธออยากถามเองนี่” ชายชุดดำระเบิดเสียงหัวเราะ ดังก้องไปทั่วบริเวณราวกับคนโรคจิต
“ไอ้เวรเอ้ย!!”
รีสตะโกนอย่างเดือดดาล พุ่งเข้าใส่ชายชุดดำสุดฝีเท้า ง้างหมัดขวาสุดแขน พลันก้อนพลังงานสีฟ้าก็พุ่งสวนมา ทำให้เขาต้องก้มหลบอย่างฉับพลัน เสียจังหวะจนล้มกลิ้งไม่เป็นท่า ไถลไปบนพื้นคอนกรีตจนเกิดแผลถลอกทั่วตัว ชายชุดดำระเบิดเสียงหัวเราะด้วยความสมเพชเวทนา เขาก้าวเดินเข้าไปใกล้ร่างของรีสที่นอนแน่นิ่ง ก่อนจะเรียกก้อนพลังงานขึ้นมาเหนือมือขวา
“กระแสเวลาทั้งหมดในตัวเธอ...ขอให้ฉันก็แล้วกัน”
พูดจบ ฝ่ามือที่ห่อหุ้มไปด้วยพลังงานสีฟ้าก็ฟาดลงไปอย่างรวดเร็ว…ทว่า!
“แกพลาดแล้ว! “
รีสที่นอนแน่นิ่งอยู่เอี้ยวตัวหลบ ก่อนจะซัดหมัดขวาสวนขึ้นไปเต็มๆ เปรี๊ยะ! หน้ากากแตกร้าว ชายชุดดำตกใจเสียหลักจนล้มคะมำ ฝ่ามือที่เต็มไปด้วยพลังงานสีฟ้าแตะพื้น ทันใดนั้นพื้นคอนกรีตรอบตัวรีสและชายชุดดำก็เกิดเส้นแตกเป็นรูปวงกลม พวกเขาหันไปมองหน้ากันเพราะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก่อนจะกระโดดหนีไปคนละทิศทาง
ครืน! เสียงพื้นถล่มดังลั่นไปทั่วบริเวณ เกิดหลุมขนาดย่อมยาวประมาณสามเมตรและลึกมากพอดู รีสเกาะอยู่บนปากหลุมฝั่งหนึ่ง อีกฝั่งชายชุดดำกำลังดึงตัวเองขึ้นจากปากหลุม ก่อนจะนั่งหอบหายใจอย่างหมดแรง พร้อมกับที่เสียงไซเรนตำรวจดังลั่นมาจากปากทางเข้างาน
“ทางนี้!” เสียงตะโกนดังลั่นของทอร์น ชายผมบลอนด์วิ่งเข้าไปหารีสในชุดเสื้อกาวน์ของนักวิทยาศาสตร์ ฝ่าฝูงคนมากมายที่วิ่งสวนออกไปอย่างแตกตื่น “เขาอยู่ตรงนั้น!”
ด้านหลังของทอร์นเต็มไปด้วยหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยจำนวนกว่ายี่สิบตัว บริเวณส่วนหัวมีแสงไฟสีแดงส่องกระพริบพลางปล่อยเสียงไซเรนจนดังระงมไปทั่ว รีสมองภาพนั้นด้วยความหวัง ก่อนจะหันศีรษะไปมองหาชายชุดดำ
หายไปแล้ว…?
“รีส เป็นอะไรรึเปล่า?” ทอร์นคุกเข่าลง ยื่นมือไปดึงตัวรีสขึ้นจากหลุม โดยมีแฟรงค์ เธีย และไดน่าที่โตเป็นผู้ใหญ่คอยช่วยอยู่ข้างๆ “แล้วผู้ร้ายล่ะ”
รีสหอบหายใจด้วยความเหนื่อย เขาพูดอย่างยากลำบาก “หนี...หนีไปแล้ว”
“นี่รีส ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายทำได้ยังไง” แฟรงค์พูด หน้าตาดูตื่นตกใจกว่าตอนที่เห็นไดน่าอายุมากขึ้น “แต่ตอนที่ฉันกับเธียห้ามนายน่ะ...พอรู้ตัวอีกที จู่ๆ นายก็ไปโผล่อยู่ตรงหน้าไอ้ผู้ร้ายโรคจิตนั่นแล้ว”
“ใช่ ฉันเองก็รู้สึก” เธียบีบแขนทั้งสองข้างของรีสแน่น นัยน์ตาสีเขียวจ้องเขม็ง “เธอทำอะไรกันแน่ แล้วผู้ร้ายคนนั้นเป็นใคร ดูเหมือนว่าเขาจะรู้จักเธอดีเลยนะ”
“ฉัน...ฉันไม่รู้” รีสสับสนไปหมด อาการประหม่าเพราะกลัวคนรู้ความลับเผยออกมาทางสีหน้าและเหงื่อที่ผุดขึ้นทั่วกาย “ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่รู้ว่ามันต้องการอะไร”
“เดี๋ยวนะ แฟรงค์ เธีย” ทอร์นขยับแว่น หันไปจ้องทั้งสองคน “เธอบอกว่ารีสทำอะไรงั้นเหรอ”
“คือว่าผมก็ไม่แน่ใจ...” แฟรงค์เกาศีรษะ “แต่ผมรู้สึกว่ามีช่วงนึงที่จู่ๆ รีสก็หายไปต่อหน้าต่อตา พอรู้ตัวอีกทีรีสก็ไปโผล่ใกล้ๆ กับไอ้ผู้ร้ายชุดดำคนนั้น...ทั้งๆ ที่อยู่ห่างไปตั้งหลายเมตร”
“รีส...หรือว่าเธอ...?” ธอร์นถอนแว่น นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองรีสอย่างจริงจัง
“พวกเธอทุกคน ตามฉันไปที่ห้องทดลอง เดี๋ยวนี้เลยด้วย”
ผู้แต่ง : Rayndeer
ตอนที่ | ชื่อตอน | วันที่ลง |
1 | Chapter 1: วันที่เวลาหยุดเดิน | 25 ม.ค. 59 |
2 | Chapter 2: เด็กหนุ่มผู้หยุดเวลา | 08 มี.ค. 59 |
3 | Chapter 3: ชายผู้เร่งอายุขัย | 14 มี.ค. 59 |
4 | Chapter 4: เด็กหนุ่มผู้ย้อนเวลา | 21 มี.ค. 59 |
5 | Chapter 5: วันที่เวลาย้อนกลับ | 30 มี.ค. 59 |
สวัสดีค่ะ
อืม จบอีเวนท์แรกแล้วเนอะ กะจังหวะปิดและเปิดตัวละครใหม่ได้พอดีๆ เลย ตัวละครใหม่ก็เปิดได้น่าสนใจ :D
ที่จริงยังสงสัยการย้อนเวลาของตัวเอกอยู่นิดหน่อย คือย้อนแล้ว ตัวในอดีต ณ เวลานั้นก็หายไปด้วยใช่ไหม คือจะไม่มีกรณีรีสสองคนปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน
สู้ๆ เน้อ
ลวิตร์