สวัสดีครับ..นอกจากจะเร่งมืออ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบแอดมิชชั่นกันแล้ว..อีกสิ่งหนึ่งที่น้องๆ ม.6 ไม่ควรพลาดนั้นคือ การเลือกคณะ การเล็งคณะที่อยากจะเข้าเรียน..เหตุผลในการเลือกคณะนั้นก็ขอให้เลือกตามความสนใจ ความถนัด หรือความชอบเป็นหลัก แต่ก็อาจจะเพิ่มปัจจัยทางบ้าน ทางเศรษฐกิจในอนาคตเข้าไปด้วย.. วันนี้ พี่ลาเต้ เลยมีข้อมูลของสาขาที่วิชาที่ทาง สกอ. ประเมินไว้ว่ามีสิทธิ์ตกงานในอนาคตมาฝากกันครับ..โดยจำนวนผู้ที่ตกงานนั้น..ในปี 2552 เพียงปีเดียวถูกตั้งไว้สูงถึง 3 แสน 6 หมื่นคนเลยทีเดียว..เห็นจำนวนแล้วขนลุกครับ..มากจริงๆ โดยเขาได้แบ่งเปอร์เซนต์ความเสี่ยงต่อการตกงาน เป็นสัดส่วนดังนี้ครับ..
- คณะทางด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ 70% - คณะทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี 23% - คณะทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์ความงาม 7% จากข้อมูลจะเห็นว่า คณะทางด้านสายศิลป์นั้นมีโอกาสเสี่ยงสูงมากเลยนะครับ..ซึ่งคณะทางด้านสังคมศาสตร์ ก็ครอบคลุมหลายคณะเหมือนกัน น้องๆคงต้องเลือก และตัดสินใจให้ดีอีกครั้งหนึ่งนะครับ..และหลังจากข้อมูลสถิตินี้ออกมาทางด้านมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็เร่งออกมาประชุมกันยกใหญ่เลยหละครับ.. โดยทางมหาวิทยาลัยต่างๆก็ได้มีแนวทางในการแก้ไขไม่ให้บัณฑิตใหม่ที่จะจบออกมาต้องตกงาน โดยการจะสนับสนุนให้เรียนต่อด้านประกาศนียบัตรบัณฑิต หรือปริญญาโท เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับตัวเอง..อีกทั้งเพื่อเป็นการฆ่าเวลาในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำครับ.. ได้ยินแบบนี้แล้ว..พี่ลาเต้ ก็อดเป็นห่วงน้องๆไม่ได้นะครับ..แต่พี่เชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า "คนเราหากมีความถนัดที่ชัดเจน มีความสามารถที่ดี และไม่เลือกงานจนเกินไป รับรองไม่ตกงานแน่นอนครับ"..ในฐานะที่ พี่ลาเต้ เคยผ่านสนามสอบแอดมิชชั่นมา..ขอฟันธงเลยว่า..การสอบแอดมิชชั่นที่ว่าเครียดแล้ว ไม่ได้ครึ่งหนึ่งของความเครียดจากอารมณ์ตกงานครับ.. สุดท้ายนี้ ฝากน้องๆ ม.6 ทุกคนจงเต็มที่กับปัจจุบันนะครับ..แม้จะทำได้ไม่ดีมาก แต่ขอให้ทำให้ดีที่สุดเท่าที่กำลังกาย และใจของเราจะทำได้..หากวันนี้เต็มที่แล้ว อนาคตจะเป็นแบบไหน คงเดาได้ไม่ยากครับ..สู้ๆๆครับ.. |
เศรษฐกิจแย่..เรียนคณะไหนไม่ตกงาน..
พี่ลาเต้ ขอขอบคุณข้อมูลประกอบจาก ไทยรัฐออนไลน์ ครับ
65 ความคิดเห็น
แล้วอย่างงี้เด็กสายศิลป์จาทำยังงายดีล่ะนี้
กลัวมั๊กมาย
จะลงคณะไรดีเนี้ย
เครียดเรื่องไม่มีงานยิ่งกว่าเรื่องเอนท์อีก
- -
สงสัยจะแย่
เราว่าที่มันจะตกงานคงเป็นพวกวิศวะมากกว่าในเมื่อเศรษฐกิจไม่ดีไม่มีเงินลงทุนแล้วจะเอาทุนที่ไหนมาจ้างวิศวกรทำงานอ่ะ-*-
ปล.รู้สึกว่าโลกนี้ไม่ยุติธรรมเลยโลกนี้มีไว้ให้เฉพาะคนเก่งเท่านั้นดูอย่างอาชีพที่ไม่ต้องตกงานซิ หมอ บัญชี ทนาย ฯ ล้วนต้องเก่งจริงๆเท่านั้นถึงจะเรียนจบได้ แล้วคนที่หัวกลางๆไม่สามารถจะท่องตำราหมอ นั่งคิดเลข และจำกฏหมายได้จะทำยังไง แล้วยังคนที่มีความถนัดทางด้านศิลปะอีก ยุคนี้ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ยกย่องศิลปิน จึงทำให้คนที่เีรียนทางศิลป์ต้องตกงาน(ยกเว้นคนที่มีทุนจะเปิดร้านเอง) แล้วยังมีเรื่องอคติทางสังคมอีก ที่มองว่าทำงานทางศิลป์จะไส้แห้ง จน ไร้อนาคต มันเป็นความเลื่อมล้ำทางสังคมที่กว้างมากๆอ่ะ (ที่บ่นมาก็ไม่มีไรมากหรอกคะ แค่จะบอกว่าโลกนี้มันจะไปหาความยุติธรรมได้จากไหน )
หมอ - มีคนเป็นน้อย ขาดแคลน
พยาบาล - ก็ขาดแคลน
นักบัญชี - อาชีพดีมากเพราะทุก ๆ ที่ ทุก ๆ หน่วยงานต้องมี บริษัทกำลังจะเจ้งก็ยังต้องจ้างนักบัญชี เป็นตำแหน่งสุดท้ายที่จะถูกไล่ออก
ทนายความ - อันนี้ก็ต้องมีความสามารถหน่อย มีคดีฟ้องร้องกันแทบทุกวัน
ชอบเรียนวิทย์อยู่แล้ว
อีก รุ่นที่จะตกงานคือรุ่นที่จะจบปีหน้าครับ สำหรับน้องที่จะเข้าใหม่นั้น อีกตั้ง 4 ปี กว่าจะทำงานกัน ถึงเวลานั้น เศรษฐกิจ คงจะฟื้นตัวแล้วหล่ะครับ
กำลังขาดแคลน เพิ่งเปิดได้ไม่กี่ปี
สนใจwww.hcu.ac.th
แต่เรียนเฮงซวยล่ะก้อ
ตกงานชัวร์ !!!
กัด แกว่ง แย่ง ชิง ก้อนเงิน
ไปเรียนช่างเชื่อมโลหะ กับพี่ดีกว่า
ไม่ตกงาน แต่ลำบากงานหนักดี
รัฐอ้าแขนรองรับ ไปเป็น อบต เต็มเลย
แง...ถึงแม้ หนูไม่ได้เรียนเกี่ยวกะคณะที่พี่บอกมา
แต่เหมือนจะมีส่วนด้วย T^T
ประเทศไทยดูถูกคณะสายทางนี้เยอะเกินไปเองต่างหาก อย่าไปเชื่อให้มันมากค่ะ
เดี๋ยวเด็กก็ไม่กล้าเลือกคณะ เพราะกลัวตกงานอ่ะ
ปล.ที่เลือกไม่มีในนี้หรอกแต่เป็นห่วงเค้า
ปล2.ไม่ว่าจะเลือกอะไร เลือกที่เราชอบแล้วค่อยว่ากัน ทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอ
http://www.bu.ac.th/th/academic/undergrad/program.php
สังคมศาตร์เจอเข้าไป
แล้วจะเอางานไหนทำเนี้ย
เรียนแพทย์..จบไปมีงานทำชัวร์
แต่เหมือนกับว่าความสุขมันน้อยนะคะ
เราอยากเรียนวารสารศาตร์มากๆ
กะว่าเรียนจบแพทย์แล้วจะไปเป็น เฟรชชี่ วารสารศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ไม่รู้ว่าอายุจะเกินรึป่าวอ่ะค่ะ
ไม่เกี่ยวกับโลกยุติธรรม/ไม่ยุติธรรมหรอกคับ บุคคลที่คุณว่ามาไม่ขวนขวาย ไม่พยายามเองมากกว่า
ถ้าตั้งใจเรียนไหนเลยจะกลายเปนคนไม่เก่ง
แต่ก้อไม่ได้สนใจเรื่องนี้หรอก ชีวิตผมไม่ได้เกิดมาเพื่อเปนคนรวย
ไม่ได้เปนคนมียศ มีเกียรติ
ชีวิตผมแค่จะทำในสิ่งที่ชอบก็พอล่ะ เกิดมาใช้ชีวิตให้คุ้มดีกว่า
ไม่ต้องมาเรียนๆ จบไปทำงาน เช้าไปเย็นกลับ จบ
ว่าจะเรียนศิลปศาสตร์
ยังไงก็ สู้ตายแหละค๊าา ^---^
kka
มีเกียรติ มีกิน ไม่อดตาย
ทุกวันนี้ภาษาที่สองสำคัญมาก จากความสามารถพิเศษกลายเป็นความสามารถพื้นฐานไปแล้ว
ตอนเรียนให้น้องๆใช้เวลา 4 ปีให้คุ้มนะ แน่นอนถ้าน้องเอาเเต่เรียน(จนได้เกียรตินิยม)
แต่ไม่มีความสามารถด้านอื่น นั้นคือเครื่องการันตีว่าน้องเก่ง แต่เก่งแค่ในเรื่องที่เรียน
เวลา 4 ปีพยายามทำกิจกรรมในมหาลัยไว้ เพราะมันจะเพิ่มประสบการณ์และความสามารถของน้องเอง
พี่ฝึกงาน 2 ซัมเมอร์ ที่ได้เรียกเพราะกิจกรรมที่เคยทำมานี่แหละที่พี่เค้าพิจารณา
เพราะคุณสมบัติอื่นๆมันไม่ต่างกันหรอก เกรด อายุ ประสบการณ์ทำงาน ทุกคนมีเหมือนๆกัน
แต่หาน้องได้ทำกิจกรรมอื่นๆ มันจะชาวยเพิ่มความโดดเด่นของ Profile น้องเอง
และแต่ละที่ๆพี่ได้งาน เค้าก็พิจารณาจากผลงานที่เราเคยทำมา เรื่องคณะ เกรด มันแค่เกณฑ์ขั้นต่ำ
แต่ถ้าอย่างอื่นมันเด่นจนลบจุดด้อยของเรา เค้าก็สนใจ
อย่าลืมนะว่าบริษัทเค้าต้องการคนทำงาน ไม่ได้ต้องการคนเรียนยอดเยี่ยมหรือคนที่จะมากจากคณะดังๆมาประดับองค์การ
เรียนสิ่งที่ชอบ ทำสิ่งที่รัก แล้วอย่างทิ้งการเรียนนะครับ
พยาบาล
ไม่ตกงานชัว
ป. ตรีอาจจะต้องเรียนอะไรก็ได้ที่มีงานทำ
จากนั้นเลี้ยงตัวเองได้ค่อยเบนไปสายอาชีพอื่นก็ได้
อะไรอะไรก้อตกงาน
ถ้าคิดถึงแต่แบบนี้
แล้วจะเรียนอะไรล่ะคะ
เลือกเรียนที่ชอบที่ถนัดไปเหอะ
อะไรก้อไม่สำคัญเท่ากับ
ความสุขของเรา
ก็ยังจะทำในสิ่งที่ชอบค่ะ^^
รัฐศาสตร์ - IR
กำลังเรียนอักษร
รู้สึกว่าเรียนแล้วมีความสุขมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เอาวะ
ยังอีกไกล อีกตั้ง 5 ปี
กว่าจะได้เข้ามหาลัย
กว่าจะจบ
หวังว่าตอนนั้น เศรษฐกิจคงดีขึ้น
อยากทำไรก็ทำ
ทำให้มันมีความสุขในการเรียนมากๆ
อย่าไปทรมานตัวเอง
มันเป็นเรื่องของอนาคต
เรียนให้จบก่อน ค่อยว่ากัน
ดีกว่ามานั่งเซ็งในห้องแลคเชอร์เหมือนพี่
ที่ตัดสินใจแบบนี้แหละ กลัวตกงาน เลยไม่เรียนดนตรีอย่างที่ชอบ
แต่ ปีนี้ ก็ ซิ่ว แห้ะๆ เสียเวลาฟรีเป็นปีเล๊ย
เจ้ย ....
ตอนนี้เรียนอยู่ศิลปศาสตร์ด้วย
หงิงๆๆ
แล้วแนวโน้มปี 53-54 ล่ะคะ
จะหนักกว่าเดิมมั้ย
พอดี กำลังจะจบ
ปล. ชอบคห. 3 มากเลยค่ะ
แสดงความเห็นได้น่ารักมากมาย ถูกใจเด็กสายศิลป์ค่า
เรียนอะไรก็ได้ที่เราชอบและสนใจดีกว่าค่ะจบไปมันก็มีงานทำหมดแหละขอแต่อย่าเลือกงานก็แล้วกัน
อยู่ประถมก็ต้องแย่งกันเข้าโรงเรียนดังๆ
มัธยมก็ต้องแย่งกันเข้าโรงเรียนดังๆ
มหาลัยยิ่งหนักเข้าไปใหญ่
พอจบมาก็ต้องแย่งงานกันอีก
ชีวิตนี้เมื่อไหร่จะมีความพอดีเนี่ย
สู้ต่อไป Fight For University
ถ้าน้องไม่เลือกงาน
จบไปก็มีงานทำ
ต่อให้น้องเรียนจบแพทย์แล้วไม่มีประสิทธิภาพ
ขี้เกียจ ไม่ตรงต่อเวลา
จบไปก้อไม่มีใครรับหรอก
ของอย่างนี้มันอยู่ที่ประสิทธิภาพของเรา
ไม่เกี่ยวกับงาน
ถ้าเราดีมีประสิทธิภาพจบไปก้อมีคนรับทำงาน
พาณิชย์นาวี
พาณิชย์นาวี
พาณิชย์นาวี
พาณิชย์นาวี
พาณิชย์นาวี
พาณิชย์นาวี
เรียนที่ตัวเองรักดีกว่า ผลการเรียน+ประสบการณ์จะช่วยเราเองครับ
จากพี่สิงห์เขียว
เรียนนั่นก็ไม่ดี
เรียนนี่ก็ไม่มีงาน
ทำไงอ่ะ
เรามันหัวไม่ดีอ่ะ
เลือกไม่ได้
แต่เราจะสู้ต๊ายยยยยยยยยยยย>O<!!!!
55
+
แต่ถ้าเรียนแต่ภาษา โดยไม่มีความรู้ทางอื่นเลย
โอกาสตกงานก็สูงมากนะคะ
เพราะทางเลือกของทางมนุษย์ศาสตร์มีน้อยมาก
ผมรียนคณะบริหารธุระกิจมีโอกาสเสี่ยงตกงานมั้ย เซ็งเป็ดเลย
ทำเพราะใจรักอ่ะ ยังไงถ้าเรารักงาน และตั้งใจกับมันจริงๆ
ไม่ตกงานอยู่แล้ว
หนูเป็นเด็กสายวิทย์ค่ะ
แล้วหนูก็เคยเรียนคณะวิทย์ด้วย
แล้วปีนี้ หนูก็จะซิ่วเข้าสายศิลป์
เหตุผลเดียวคือ
หนูรักสายศิลป์คะ
ไม่ว่าอนาคตจะเป็นัยไงก็ตาม
แต่ต้องเรียนในสาขาที่เป็นสาขาที่ขาดแคลนนะ
ได้แก่
สาขาคณิตศาสตร์
สาขาวิทยาศาสตร์ทั่วไป
สาขาฟิสิกส์
สาขาเคมี
สาขาชีววิทยา
สาขาภาษาอังกฤษ
เรียนครูสาขาเหล่านี้ ขาดแคลนมากในประเทศไทย
อย่ารังเกียจว่าครูได้เงินเดือน
ถึงได้เงินเดือนน้อยก็ยังดีกว่าไม่มีเงินเดือนให้กิน
จริงหรือเปล่า????????
อย่าลืมว่า
- ครูมีรายได้ประจำ
- ครูมีปิดเทอมแต่ก็ได้เงินเดือน
- ครูเป็นที่นับหน้าถือตาในสังคม
- ใครๆก็ต้องมีครู
- ที่สำคัญ เงินเดือนครูไม่ได้น้อยถ้าหากครูขยันทำผลงานทางวิชาการ ซึ่งค่าประจำตำแหน่งจะได้เยอะกว่าหลายอาชีพด้วยซ้ำ
ในอนาคตอีกไม่เกิน 5 ปี
ครูในเมืองไทยจะเกษียณกว่าหลายพันคน
อ่านบทความแนะนำการเรียนครูได้ที่
"เรียนครูที่ไหน ไม่ภูมิใจเท่า มศว"
http://my.dek-d.com/pk473/story/view.php?id=346764
อย่างน้อยก็เรียนจบ
อยากให้ลองมองมุมกลับหน่อยนะ คนที่บอกว่า "สาขานี้ยังไงก็ต้องใช้ สาขานั้นยังไงก็ต้องใช้"
ลองมองไปที่ตลาดสด ทุกร้านขายของจำเป็นในการดำเนินชีวิต
แต่ทำไมถึงมีร้านที่เจ๊งล่ะ? ทำไมถึงมีของค้างสต๊อกล่ะ?
แต่ผมไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไหร่ว่าสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะมีโอกาสตกงานได้
จริงๆแล้ว อยากให้พี่ลาเต้ ยกข้อมูลอ้างอิงขึ้นมาด้วย
ว่าใครเป็นคนรวบรวมสถิติ ใครทำการคำนวณ
อย่ายึดติด
อีกความเห็นหนึ่ง
จริงมั๊ย???
ถึงความเห็นที่ 9
เรียนบัญชี ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่เก่งเสมอไปนะ
คนที่ไม่เก่งก็สามารถเรียนได้ ขอให้มีใจรักก็พอ
และก็คนที่เรียนบัญชีจบไปแล้วใช่ว่าจะต้องเป็นคนที่ทำบัญชีอย่างเดียว
สามารถทำงานสายอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็น นักวางระบบ หรือผู้บริหาร ก็สามารถทำได้
เพราะพี่สาวของผม ก็จบบัญชีแต่ไม่ได้ทำทางด้านบัญชี แต่ทำทางด้านวางระบบแทน
เพราะ พี่เค้าเรียนบัญชี ที่ ม.กรุงเทพ และเค้าเค้าโครงการ pilot มั้ง เห็นบอกว่า
เป็นโครงการที่ดีมาก ทำให้เราไม่ได้รู้บัญชีอย่างเดียว แต่จะให้เราเรียนทางด้าน computer และ ภาษาอังกฤษ เพิ่มเติมด้วย
ซึ่งจะทำให้เราได้เปรียบกว่ามหาวิทยาลัยอื่น ๆ
เด็กซิ่ว
ผมก้อเรียนอยู่คณะสังคมศาสตร์ ภาควิชา รัฐศาสตร์ ของ ม.เกษตร อ่าคับ
ผมว่านะ การจะได้งานหรือไม่ได้ มันอยู่ที่จังหวะเวลาและโอกาศ ของแต่ละคน อ้ะคับ
ไม่ต้องขาย ไม่ต้องขอ ไม่ต้องง้อ ไม่ต้องตื้อ ต้องการผลตอบแทนที่เป็นธรรม อยากได้เงิน อยากมีโบนัส อยากไปเที่ยว อยากมีรถ อยากมีบ้าน อยากเป็นายตัวเอง อยากได้คำปรึกษาดี มีอยู่จริง งานง่ายๆแค่ลงทุนแล้วชวนคนอื่นมาร่วมลงทุน ถ้าไม่อยากชวนคนรู้จักเราก็ชวนคนไม่รู้จักสิ อยากให้มองในแง่ของการลงทุน เพราะมันดีกว่าเอาเงินไปฝากธนาคารโดยดอกเบี้ยที่ติดลบเพราะเงินเฟ้อ ดีกว่าเล่นหุ้นเพราะผันผวนตลอดเวลาต้องตามข่าวนู่นนี้นั้น ดีกว่าเล่นทองเพราะมันแพงอะลงทุนสูง ดีกว่าเล่นหวยเพราะอาจถูกกินถ้าเจ้าแม่เจ้าพ่อของคุณไม่เซียนพอ สมัยยุคเกษตรกรรม เราทำนา สมัยอุตสหกรรมเน้นผลิต สมัยยุคเครือข่ายทางข้อมูล ก็ต้องทำเครือข่ายสิเพราะเหมือนมีหลายหุ้นส่วนร่วมลงทุน ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจได้ แต่ถ้าคุณชอบความมั่นคงคุณอาจไม่สามารถข้ามไปสู่ชีวิตแบบpassive ได้เลย หากคุณต้องการเป็นเจ้าของกิจการคุณต้องใช้เงินทุนที่สูง มีระบบที่ดี มีฝ่ายบริหารที่เก่งและอีกมากมาย เราว่าMLMเหมือนกับหลายธุรกิจ หรืออาชีพอื่นๆนั้นแหละมันก็มีทั้งด้านบวกและลบ แต่ที่คนส่วนใหญ่กลัวเพราะอาจได้ยินจากคนที่เคยทำและลองแล้วไม่work ก็เลยใส่เป็นภาพรวมๆไปว่ามันไม่ดี ต่างคน ต่างวาระ ต่างบริษัทก็มีมุมต่างๆที่ไม่เหมือนกัน มีดีมีเลวปะปนกันทุกวงการแหละ มันเหมือนดาบสองคมไง ทุกคนมีทัศนคติที่ต่างกันได้แต่เราก็ทำไงจึงไม่อยากให้มองแบบอคติอย่างเดียว ต้องยอมรับว่าเมื่อกระแสมันแรงและออกไปทางลบ คนที่ทำต้องมีความอดทนมากพอ มีเส้นทางวิธีการที่ดีพอ และสุดท้ายมีเป้าหมายที่ชัดเจนพอ และถ้าคุณมีแล้วจะไปกลัวมันทำไม ท่านใดสนใจ มองเห็นว่ามันคือโอกาส หรืออยากจะแชร์ประสบการณ์กัน ติดต่อ 0876537561{M&M} สายเดียวกับgolf mike ยินดีรับใช้ค่ะ
โทรศัพท์: 02-552-3500-9, 02-970-5820 email :http://www.krirk.ac.th/
ขอบคุณ