ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย (คณะนิเทศฯ)

คณะนิเทศฯ วารสารฯ และสื่อสารฯ Issue 002 week1, March 2009
คณะนิเทศฯ วารสารฯ และสื่อสารฯ
ตอนที่ 2/4 : จากรุ่นพี่ถึงรุ่นน้อง : ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
เสียงจากคนที่อยู่คณะนิเทศฯ วารสารฯ และสื่อสารฯ
        เมื่อคราวที่แล้ว พี่ยีนบอกแฟนๆ คอลัมน์คณะในฝันที่สนใจคณะนิเทศฯ วารสารฯ สื่อสารฯ ว่าจะนำกุญแจดอกโตๆ มาไขปริศนาที่ยังคาใจน้องๆ มาแล้วครับพี่น้องๆ 4 สาว 4 สไตล์จาก 4 สถาบัน แต่ละคนเป็นใคร มีประสบการณ์โชกโชนเพียงใด ไปรู้จักกันเลยครับ...
สาวนิเทศคนที่ 1: ต้นหลิว สาขาประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
นิเทศ
พี่ยีน: แนะนำตัวหน่อยให้น้องๆ รู้จักหน่อยครับ?
น้องหลิว: สวัสดีค่ะ ชื่อ ต้นหลิว ชุติมา วิอังศุธร ตอนนี้กำลังจะขึ้นปี 2 คณะนิเทศศาสตร์ เอกประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัย
หอการค้าไทยค่ะ
พี่ยีน: ทำไมถึงเลือกเรียนคณะนิเทศศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยครับ?
น้องหลิว: จริงๆ แล้วตัดสินใจที่จะเรียนคณะนิเทศศาสตร์อยู่แล้วค่ะ อยากเรียนที่ๆ ไกลจากบ้านหน่อย เลยเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยค่ะ ซึ่งจริงๆ แล้ว ต้นหลิวเองมั่นใจในชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยในด้านการเรียนอยู่แล้ว และพอได้มาเรียนก็ไม่ผิดหวังค่ะ
พี่ยีน: ต้นหลิวเรียนสาขาอะไรในคณะนิเทศศาสตร์ครับ??
น้องหลิว: คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดการสอนอยู่ 4 สาขาวิชาค่ะ คือ
      วารสารศาสตร์
      วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์
      การประชาสัมพันธ์
      การโฆษณา

 
      สำหรับต้นหลิวเองเลือกเรียนสาขาการประชาสัมพันธ์ค่ะ   เพราะโดยส่วนตัวคิดว่า สาขาวิชาที่กำลังฮิตอยู่ก็คงจะเป็นการประชาสัมพันธ์และการโฆษณาค่ะ แต่จริงๆ แล้วหลิวว่า
ทุกสาขาน่าเรียนหมดนะ แต่เราควรที่จะเลือกสาขาวิชาที่เราชอบและถนัดมากกว่าการที่จะไปเรียนตามคนอื่นๆ เพราะ
แต่ละคนต่างก็ไม่เหมือนกัน เลือกตามที่ตัวเองต้องการดีที่สุด
แล้วค่ะ
นิเทศ
พี่ยีน: การเรียนของคณะนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ?

น้องหลิว: ต้นหลิวว่าไม่หนักมากค่ะ ถ้าหากว่าให้เทียบกับสมัยที่ยังเรียน
ม.ปลายนะ เพราะสมัยนั้นโหดกว่าเยอะ

    
ที่นี่เรียนแบบสบายๆ  แต่ว่าก็ต้องใส่ใจด้วยนะ อาจารย์จะไม่ตามบอกตามจิกเหมือน ม.ปลาย เราต้องช่วยเหลือตัวเอง (แต่ไม่ถึงขนาดต้องเครียดมาก) คะแนนเก็บของแต่ละวิชาที่เรียนนั้นไม่เท่ากัน ถ้าอยากได้คะแนนเก็บมาก ก็ต้องขยันเข้าห้องบ่อยๆ เพราะแต่ละชั่วโมง อาจารย์
จะมีการเก็บคะแนน แต่ที่สำคัญมากๆ คือต้องอ่านหนังสือค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่
ต้นหลิวจะเน้นการขยันอ่านหนังสือช่วงก่อนสอบเยอะๆ ค่ะ

    
ส่วนเรื่องกิจกรรมนั้น ที่คณะนิเทศฯ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมีกิจกรรมหลายอย่างเลยค่ะ เช่น วันรับน้อง (เข้าค่ายลูกแม่ไทร) ซึ่ง
ต้นหลิวเองไม่ค่อยได้ร่วมกิจกรรมในช่วงปี 1 เลย  แต่อย่างไรก็ตาม
นักศึกษาทุกคนต้องตามเก็บกิจกรรมให้ครบในช่วงปีที่เหลือนี้ เพราะ
มันจะมีผลต่อการจบการศึกษาค่ะ

พี่ยีน: ต้นหลิวมีความภูมิใจในคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยในด้านใดบ้างครับ?
น้องหลิว: ทุกมหาวิทยาลัยล้วนมีชื่อเสียงและมีจุดเด่นในตัวเองอยู่แล้ว และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเป็นสถาบันชั้นนำด้านธุรกิจในเอเชีย
ซึ่งมีคณะต่างๆ ให้เลือกหลายสาขา เมื่อได้มีโอกาสมาเป็นลูกแม่ไทร
เราก็ดีใจและภูมิใจที่ได้มาเรียนในมหาวิทยาลัยในฝันที่เราเป็นคนเลือก
ที่จะเรียนเองค่ะ
นิเทศ
พี่ยีน: คณะนี้จบไปแล้วทำงานอะไรได้บ้างครับ?
น้องหลิว: เรียนคณะนี้ จบไปก็สามารถทำงานเกี่ยวกับด้านการสื่อสารได้หลากหลายนะคะ เช่น พรีเซนเตอร์ นักประชาสัมพันธ์
พิธีกร ผู้ติดต่อประสานงาน โอเปอเรเตอร์ พริตตี้ และดารา
นอกจากนี้ ยังสามารถทำงานเกี่ยวกับการใช้บุคลิกท่าทางลักษณะต่างๆ การพูด การเจรจา เพื่อสื่อสารกับผู้อื่น รวมไปถึงการออกแบบโลโก้ ออกแบบตัวอักษร ออกแบบหนังสือ แมกกาซีน เว็บไซต์ และงานโฆษณา ซึ่งส่วนตัวต้นหลิวเอง ชอบที่จะทำงานเบื้องหน้ามากกว่าเบื้องหลังค่ะ
นิเทศ
นิเทศ
สาวนิเทศคนที่ 2: บี สาขาสื่อสารมวลชน นิเทศศาสตร์ จุฬาฯ
พี่ยีน: แนะนำตัวหน่อยครับ?
น้องบี: บีค่ะ อยู่นิเทศศาสตร์ จุฬาฯ เอกสื่อสารมวลชน ปี 4 ค่ะ
พี่ยีน: ช่วงสอบเข้ามหาวิทยาลัยเตรียมตัวอย่างไรบ้างครับ?
น้องบี: ตอนสอบเอนทรานซ์จะเน้นคณิตศาสตร์เป็นพิเศษค่ะ เพราะจบสายวิทย์มา เลยคิดว่าไทย สังคม อังกฤษ คงสู้สายศิลป์ไม่ค่อยได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่อ่านนะคะ ก็มีไปเรียนพิเศษภาษาอังกฤษคอร์สเตรียมเอนท์ทั่วไปค่ะ ส่วนไทยกับสังคมไม่มีเวลาเรียน เลยอาศัยทำข้อสอบย้อนหลังเอา ทำย้อนประมาณ10ปีค่ะ ก็จะพอเห็นแนวข้อสอบอยู่บ้าง ส่วนคณิตศาสตร์นี่ไม่ต้องพูดถึง ทำแบบฝึกหัดทุกวันเลยค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าจะฝากถึงน้องๆ ก็คงเป็นให้หมั่นทบทวนเยอะๆ ทั้งที่เรียนมาในห้องและที่เราไปเรียนพิเศษกันมา และการลองทำข้อสอบเก่าๆ ก็สามารถช่วยได้ ถึงแม้แอดมิชชั่นจะเพิ่งมีมาไม่กี่ปีก็ตาม แต่อย่างน้อยข้อสอบเก่าก็จะสามารถช่วยให้เราเห็น แนวข้อสอบได้ไม่มากก็น้อย ที่ควรเน้นสำหรับคณะนิเทศก็คงไม่พ้นไทย สังคม อังกฤษ แต่ก็ต้องระวังค่ะ เพราะคนที่เข้าคณะนี้ก็ได้คะแนนส่วนนี้กันสูงๆ ทั้งนั้น อาจต่างกันไม่กี่คะแนนเอง
พี่บี (หน้าม้าคนกลางชูสองนิ้ว)
พี่ยีน: บีมีวิธีการเลือกสาขาที่เรียนอย่างไรครับ?
น้องบี: ตอนนี้เรียนเอกสื่อสารมวลชนค่ะ เกี่ยวกับการผลิตรายการวิทยุและโทรทัศน์ สำหรับวิธีการเลือกเอกของคณะนิเทศศาสตร์ ซึ่งจะให้เลือกตอนขึ้นปี 3 ส่วนใหญ่ก็เลือกกันตามที่ชอบค่ะ ที่นิยมที่สุดก็คงไม่พ้นสาขาโฆษณาประชาสัมพันธ์ ซึ่งถือว่าเป็นสายงานที่ค่อนข้างกว้าง ส่วนเอกอื่นๆ ก็จะได้ได้รับความนิยมรองลงมาไม่ต่างกันมากค่ะ อย่างสื่อสารมวลชน วารสารสนเทศ (เกี่ยวกับสิ่งพิมพ์) ภาพยนตร์ วาทวิทยา และสื่อสารการแสดง การที่เราจะเลือกว่าเราจะเรียนสาขาไหน บางคนก็อาจมีสาขาวิชาที่คิดเอาไว้อยู่แล้วตั้งแต่เข้ามาตอนปี1 แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยนะคะที่มาเปลี่ยนตอนเลือกจริงๆ นี่ถือเป็นข้อดีของการเลือกตอนปี3ค่ะ เพราะเราจะมาเวลาตั้ง 2 ปี เพื่อศึกษาและให้เวลาตัวเองในการตัดสินใจ ส่วนวิธีการเลือกภาคที่ดีที่สุดก็คือ อยากเรียนอะไรก็เลือกเลยค่ะ
พี่ยีน: การเรียนของคณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
น้องบี: ตอนปี 1-2 จะเป็นการเรียนรวมซะส่วนใหญ่ค่ะ และที่สำคัญคือเราจะได้เรียนวิชาพื้นฐานของทุกสาขา ซึ่งจะทำให้เราได้รู้จักสาขานั้นๆ อย่างคร่าวๆ และพอปี 3 แต่ละสาขาที่เราเลือกก็จะมีลักษณะการเรียนการสอนที่แตกต่างกันไปค่ะ อย่างโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ก็จะมีวิชาเลกเชอร์เยอะ ที่พิเศษก็คือจะได้เรียนเกี่ยวกับการตลาด มีการคิดเคมเปญ วางแผนประชาสัมพันธ์องค์กร ฯลฯ อย่างสื่อสารมวลชนที่บีเรียนอยู่ จะเน้นการปฏิบัติเป็นส่วนใหญ่ค่ะ เวลาไม่ต่ะกว่าร้อยละ 80 จะอยู่ที่ห้องภาคหรือไม่ก็สตูดิโอ ไม่ก็ออกกองถ่ายรายการค่ะ ส่วนภาคฟิล์ม (ภาพยนตร์) ก็จะมีการออกกองกันสนุกสนาน มีการดูหนังแล้วมาวิจารณ์กัน วาทวิทยาก็จะเรียนเกี่ยวกับการสื่อสารอย่างล้ำลึก (ลึกมากจริงๆ) วารสารสนเทศก็จะเรียนเกี่ยวกับข่าว/หนังสือพิมพ์เป็นส่วนใหญ่ มีการออกไปที่นู่นที่นี่แล้วกลับมาเขียนคอลัมน์กัน ส่วนภาคสื่อสารการแสดงก็จะอยู่ในโลกจินตคดี มีความสุขอยู่กับโลกของการเสดงจริงๆ ค่ะ ถามว่าเรียนหนักไว้ คงไม่โกหกว่าหนักค่ะ ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อเข้าภาคแล้ว (แต่ส่วนใหญ่เกรดจะดีขึ้นนะคะ มีข้อเสียก็จะมีข้อดีแลกกันค่ะ) ส่วนในเรื่องของกิจกรรมไม่ต้องพูดถึง นิเทศศาสตร์ของเราเป็นตัวแม่ของกิจกรรมค่ะ ทั้งเทอมต้นเทอมปลาย ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คงไม่พ้นละครคณะนิเทศศาสตร์ ที่ถือเป็นกิจกรรมที่จะรวมเอาพี่น้องทั้ง 4 ชั้นปีมาทำกิจกรรมร่วมกัน นอกจากนี้กิจกรรมภายในคณะอื่นๆ ก็มีแทบทุกประเภทค่ะ ทั้งกีฬาชั้นปี ดนตรี (คณะเราชอบร้องรำทำเพลงมากค่ะ มีทั้งแบบร็อคๆ และแบบโรแมนติกชิลล์ๆ ในหน้าหนาว) และเราก็ยังมีกิจกรรมค่ายอาสาของคณะที่มีรูปแบบไม่เหมือนใคร เป็นโอกาสให้เราได้ตอบแทนสู่สังคมค่ะ
พี่ยีน: บีมีความภูมิใจในคณะด้านไหนบ้างครับ?
น้องบี: คณะนิเทศศาสตร์เป็นคณะที่มีเอกลักษณ์มากจริงๆ มันจะมีลักษณะของเด็กนิเทศที่เราจะเหมือนกันและไม่เหมือนใคร ไม่ได้จะอวดอ้างถึงความเจ๋ง ความแรง ความมีอีโก้จัดนะคะ แต่หากใครที่ได้สัมผัสแล้ว จะรู้จริงๆ ค่ะว่าเรามีสิ่งหนึ่งที่ยึดเราไว้ด้วยกัน เป็นนิเทศศาสตร์เหมือนกัน
พี่ยีน: จบคณะนี้ไปแล้วทำงานอะไรได้บ้างครับ?
น้องบี: งานของนิเทศศาสตร์มีได้หลากหลายมากค่ะ ทั้งงานเฉพาะทางที่ตรงกับสาขาที่เราเรียนอย่างวิทยุ โทรทัศน์ ภาพยนตร์ ฯลฯ หรือเราสามารถทำงานที่มีความเกี่ยวข้องแบบไม่จำเป็นต้องตรงสาขาที่เรียนมาก็ได้ค่ะ งานที่เกี่ยวกับการสื่อสาร เราสามารถทำได้ทั้งหมดค่ะ เพราะไม่ว่าเราจะเรียนเอกอะไร แต่หลักๆ แล้วคือ เรามีความเข้าใจในเรื่องการสื่อสารเป็นอย่างดีไม่ต่างกันค่ะ
สาวนิเทศคนที่ 3: นก สาขาวิทยุและโทรทัศน์ คณะวารสารฯ มธ.
พี่ยีน: แนะนำตัวหน่อยครับ?
น้องนก: สวัสดีค่ะ นก ศศิลักษณ์ อินแสน ค่ะ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 เอกวิทยุและโทรทัศน์ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ค่ะ
พี่ยีน: ช่วงสอบเข้ามหาวิทยาลัยเตรียมตัวอย่างไรบ้างครับ?
น้องนก: ตอนสอบแอดมิชชั่น เนื่องจากเป็นปีที่นกสอบเป็นปีแรกที่เปลี่ยนระบบจากเอนทรานซ์เป็นแอดมิชชั่น ทุกอย่างใหม่หมดจึงไม่สามารถหาแนวทางจากใครได้ ดิ้นรนต่อสู้กันด้วยตัวเองมาตลอด สำหรับการเตรียมตัวของนก ไม่ได้มีอะไรมากค่ะ ก็พยายามอ่านหนังสือ ทบทวนเนื้อหาที่มีทั้งหมดให้ครบถ้วน หลังจากนั้นก็อาศัยกวดวิชาเสริมด้วย นอกจากนี้ก็ต้องมีการทำแบบฝึกหัด รวมถึงข้อสอบปีก่อนๆ เพิ่มเติมเข้าไปด้วยนะคะ อย่าคิดว่าไม่สำคัญนะคะ ข้อสอบเก่าๆ เนี่ยช่วยเราได้จริงๆ ค่ะ ยิ่งน้องๆ รุ่นนี้ที่มีข้อสอบในระบบแอดมิชชั่นให้ทำตั้ง 3 ปี อย่างนี้ต้องทำกันให้ครบเลยค่ะ กอบโกยมากยิ่งได้มากค่ะ และเทคนิคของนกอีกอย่างหนึ่งนะคะ เรารู้ว่าเราถนัดและน่าจะทำคะแนนได้ดีในวิชาไหนก็ทุ่มให้เต็มที่ อ่านให้แน่นปึ๊กไปเลยค่ะ อย่างนกนี่ทุ่มให้กับสังคมและภาษาไทย ผลคะแนนออกมาก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเลยทีเดียวค่ะ แต่สำหรับวิชาที่เหลือซึ่งเราก็ต้องประเมินแล้วว่าเป็นวิชาที่เราขุนไม่ขึ้นจริงๆ หรือถึงเราเต็มที่แต่คะแนนก็อาจจะไม่ดีเท่าไหร่ก็ไม่ต้องไปหัวปรักหัวปรำมาก แต่ก็ห้ามทิ้งเด็ดขาดนะคะ ถ้าถามว่า เข้าคณะนี้ควรเน้นคะแนนวิชาไหน ตอบได้เลยว่าทุกวิชามีผลทั้งนั้นค่ะ เพราะคณะนี้ใช้คะแนน O-net อย่างเดียว ดังนั้นสัดส่วนคะแนนแต่ละวิชาก็เท่าเทียมกันค่ะ
พี่ยีน: นกมีวิธีการเลือกสาขาที่เรียนอย่างไรครับ?
น้องนก: ตอนนี้นกเป็นส่วนหนึ่งในเอกวิทยุและโทรทัศน์ค่ะ ตอนที่เลือกเอกก็ตั้งใจมาตั้งแต่แรกแล้วว่าจะเลือกเอกนี้ เนื่องจากใฝ่ฝันที่จะประกอบอาชีพเป็นพิธีกร และเคยมีประสบการณ์ในด้านงานโทรทัศน์ท้องถิ่นมาบ้างก็เลยเดินตรงดิ่งไปลงชื่อในเอกนี้เลยค่ะ ตั้งแต่วินาทีแรกที่เลือกจนถึงตอนนี้ก็ไม่เคยผิดหวังเลยที่เลือกเอกวิทยุและโทรทัศน์ค่ะ สำหรับเอกสุดฮิตของคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คงหนีไม่พ้นเอกวิทยุและโทรทัศน์นี่แหละค่ะ ปีนึงก็รับไม่เคยต่ำกว่า 70 – 80 คน รองลงมาคงเป็นเอกโฆษณา ต่อมาก็ประชาสัมพันธ์ ตามมาด้วยสื่อสิ่งพิมพ์และภาพยนตร์ที่ดูสูสีกัน และตบท้ายด้วยเอกบริหารสื่อ เอกที่จบไปเป็นเจ้าคนนายคนนี่แหละค่ะ โดยส่วนตัวนกแล้ว สาเหตุที่ทำให้เอกวิทยุและโทรทัศน์ได้รับความนิยม น่าจะมาจากที่เราเห็นและติดตามข่าวสารจากโทรทัศน์และวิทยุมากกว่าสื่ออื่น ๆ และนอกจากนี้ ในปัจจุบันโทรทัศน์และวิทยุมีอิทธิพลต่อผู้ชมมากโดยเฉพาะวัยรุ่น
พี่ยีน: การเรียนของคณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
น้องนก: สำหรับการเรียนของคณะนี้ในช่วงแรก คือ ปี 1 ถึง ปี 2 ส่วนใหญ่จะเป็นทฤษฎีค่ะ ไม่ใช่แค่ทฤษฎีของวิชาในคณะวารสารฯ เท่านั้น แต่เราถูกกำหนดให้เรียนวิชาพื้นฐานของคณะอื่นๆ ด้วยค่ะ เช่น เศรษฐศาสตร์ บัญชี จิตวิทยา และอีกหลาย ๆ วิชาค่ะ ค่อนข้างเยอะนะคะ เพราะคณะเราเชื่ออย่างนึงว่า นักสื่อสารมวลชนที่ดีควรมีความรู้พื้นฐานหลายๆ เรื่อง ทำให้หลายคนที่เข้ามาเรียนในคณะช่วงแรกๆ อาจจะมีคำถามค้างคาใจว่า จะเรียนไปทำไม ไม่เห็นเกี่ยวข้องกับคณะเราเลย แต่จริงๆ แล้วถ้าจบออกไปนกมั่นใจว่าน่าจะได้ใช้ค่ะ หลังจากที่เราผ่านวิชาทฤษฎีเหล่านี้ไปได้ ปี 2 เทอม 2 เป็นต้นมา ก็จะเริ่มมีวิชาปฏิบัติมากขึ้น คราวนี้แหละได้รู้ว่าใครเป็นหมู่หรือเป็นจ่า ในความรู้สึกของนกการเรียนทฤษฎีไม่หนักเท่าการเรียนปฏิบัติ เพราะทฤษฎียังมีหนังสือช่วยเราอยู่ แต่ปฏิบัติเราต้องใช้ความคิดของเรา ถ้าคิดไม่ออกก็จบ ช่วงนี้แทบจะเรียกได้ว่าใช้ความคิดออกแบบงานทุกวินาทีเลย เพราะถ้าคิดไม่ออก งานก็ไม่ถูกผลิต แล้วก็จะส่งไม่ทัน ช่วงนี้ก็หนักหนาสาหัสเหมือนกัน แต่ยังดีที่มีงานกลุ่มบ้าง งานเดี่ยวบ้าง คละเคล้ากันไปค่ะ สำหรับการทำกิจกรรมในคณะ เราจะทำกิจกรรมร่วมกันเป็นประเพณีอยู่แล้วตั้งแต่อาทิตย์แรกของการเรียนปี 1 รุ่นพี่ปี 2 ก็จะมอบหมายภารกิจให้เราทำ เพื่อให้เรารู้จักกันมากขึ้นในปี 1 และรู้จักรุ่นพี่มากขึ้นด้วย นอกจากนี้ก็จะมีงานอื่นๆ ต่อมาเรื่อยๆ ค่ะ อย่างเช่น งาน JC Night งานจ๊ะเอ๋ลูกนก ที่ร่วมกันจัดกับนิเทศฯ จุฬาฯ และงานคณะอื่นๆ ค่ะ ใครที่ชื่นชอบการทำงานให้กับคณะก็ต้องพิสูจน์ฝีมือให้ทุกคนเห็นในช่วงแรกๆ นี่แหละคะ แล้วหลังจากนี้ไปเราก็จะได้เป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับ สำหรับนกแล้วในคณะก็มีช่วยงานบ้างในฝ่ายที่นกถนัด แต่ส่วนมากนกจะทำกิจกรรมข้างนอกมากกว่าค่ะ ตอนนี้ก็รับงานพิธีกรของ NBT อยู่ค่ะ ก็สนุกสนานดี ที่สำคัญได้ประสบการณ์ด้วยค่ะ เพราะเราเรียนคณะนี้ไม่ใช่แค่เรียนในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว ต้องออกไปหาประสบการณ์ด้วยค่ะ
พี่ยีน: นกมีความภูมิใจในคณะด้านไหนบ้างครับ?
น้องนก: ความภูมิใจในคณะคือ ความภูมิใจที่คณะคอยปลูกฝังให้เป็นบุคลากรที่ดีในวงการสื่อสารมวลชน อาจารย์ทุกท่านคอยย้ำอยู่เสมอในเรื่องจริยธรรมของวิชาชีพสื่อมวลชน และคณะเรามีประสิทธิภาพที่จะผลิตนักศึกษาที่มีคุณภาพ จะพบว่าเด็กวารสารฯ ได้รับการยอมรับให้ทำงานในทุกๆ วงการ ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ ภาพยนตร์ หรือแม้กระทั่งวงการข่าว อีกความภาคภูมิใจหนึ่ง อาจจะเป็นเปลือกภายนอก แต่ก็เหมือนเป็นความเท่อ่ะคะ คณะเราเป็นคณะในสายนิเทศศาสตร์คณะเดียวที่ใช้ชื่อว่า วารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ดังนั้น เมื่อเราเรียนจบ วุฒิที่เราจะได้คือ วส.บ. ซึ่งมีที่เดียวในประเทศไทย ซึ่งที่อื่นอาจจะเป็น นศ.บ. นอกจากนี้มหาวิทยาลัยก็จะสนับสนุนให้เราเป็นคนดีและทำประโยชน์แก่ส่วนรวมโดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนค่ะ จุดเด่นของคณะที่เราเห็นได้อย่างเด่นชัดคือ คณะเราจะสอนให้พวกเราทำได้ทุกอย่างในงานสื่อสารมวลชน จนทำให้นักศึกษาทุกคนดูลุยๆ ไม่ไฮโซ แต่จะถึกและบึกบึนค่ะ รุ่นพี่ก็จะกันเองมากค่ะ ที่สำคัญคณะเรา ไม่มีห้องเชียร์ ไม่มีว๊าก ไม่มีการแบ่งเป็นโต๊ะ เพราะเรารวมกันเป็นหนึ่ง แต่ทุกคนก็ต้องมีสำนึกในตัวเอง มีความเคารพให้แก่รุ่นพี่ มีความรักกันภายในรุ่น นอกจากนี้เราให้เกียรติกัน ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันค่ะ
พี่ยีน: จบคณะนี้ไปแล้วทำงานอะไรได้บ้างครับ?
น้องนก: สำหรับนกเรียนเอกวิทยุและโทรทัศน์ งานที่สามารถทำได้ก็มีงานวิทยุและงานโทรทัศน์โดยทั่วไปเลยค่ะ แต่ที่นกหวังไว้คือ นกอยากทำงานโทรทัศน์ อยากเป็นพิธีกรค่ะ (แต่ไม่รู้จะสวยพอหรือเปล่านะคะ อิอิ) นกวางแผนเอาไว้ในอนาคตว่า อยากทำงานด้านพิธีกร และจะพยายามทำให้ได้ดีจนเป็นที่ยอมรับ แต่ด้วยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวแบบนี้ ถ้าหางานทำไม่ได้ก็คงจะเรียนต่อปริญญาโทอ่ะคะ ไม่เรียนในประเทศไทย ก็จะพยายามสอบทุนไปเรียนต่างประเทศให้ได้ค่ะ
พี่ยีน: อยากฝากอะไรกับน้องๆ ที่สนใจอยากเรียนคณะวารสารฯ บ้างไหมครับ?
น้องนก: น้องๆ คนไหนที่กำลังอยากเข้าคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน พี่นกก็เป็นกำลังใจให้นะคะ ไม่ยากเกินความตั้งใจของเราแน่นอนค่ะ แต่ถ้ามีปัญหาหรือว่าสงสัยอะไรเกี่ยวกับคณะวารสารฯ ก็แอด msn มาคุยกันได้ค่ะที่ sasilak_nok@hotmail.com
สาวนิเทศคนที่ 4: พี่เมธ์ สาขาวิทยุโทรทัศน์ คณะการสื่อสารมวลชน มช.
พี่ยีน: แนะนำตัวหน่อยครับ?
น้องเมธ์: สวัสดีค่ะ ชื่อเมธ์วดี ประวัติเรืองศรี ชื่อเล่น เมธ์ กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะการสื่อสารมวลชน เอกวิทยุโทรทัศน์ ชั้นปีที่ 4 ค่ะ
พี่ยีน: ช่วงสอบเข้ามหาวิทยาลัยเตรียมตัวอย่างไรบ้างครับ?
น้องเมธี: ตอนสอบเอนทรานซ์ก็เตรียมตัวทั่วไปค่ะ มีเรียนกวดวิชาและอ่านหนังสือด้วย แต่ของเมธ์จะเน้นไปที่กวดวิชามากกว่าค่ะ เพราะว่าเมธ์เป็นคนไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือ แต่เวลาเรียนเมธ์จะตั้งใจเรียนและที่สำคัญคือต้องจด lecture ตามไปด้วยนะคะ เพราะจะทำให้เราเข้าใจง่ายขึ้นเวลาเรากลับมาอ่านเองที่บ้าน นอกจากนี้แล้วก็ทำแบบฝึกหัดและทำข้อสอบเก่า 10 ปีย้อนหลัง ทำซ้ำไปมาหลายๆ รอบช่วยให้เราจำได้และก็เป็นการช่วยทวนบทเรียนไปในตัวได้อีกด้วยค่ะ การอ่านหนังสือเราควรอ่านทุกวันสม่ำเสมอ แต่ต้องอย่าหักโหมมากเกินไป มิฉะนั้นแล้วร่างกายเราจะเพลียและจำสิ่งที่เราอ่านไม่ได้เลย เราควรมีการวางแผนก่อนอ่าน อาจทำตารางอ่านหนังสือว่าวันไหนอ่านวิชาอะไร กี่บท จะช่วยทำให้เราอ่านหนังสือได้ทันค่ะ และสิ่งสำคัญที่เราห้ามลืม คือ บำรุงสุขภาพร่างกาย กินของที่มีประโยชน์เพื่อไปบำรุงสมอง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้สมองปรอดโปร่ง เมื่ออ่านหนังสือแล้วจะทำให้จำได้ วิชาที่สำคัญเมธ์คิดว่าเป็นวิชาภาษาอังกฤษ เพราะว่าคะแนนจะทิ้งห่างกันมากในวิชานี้ และเมื่อเข้ามาเรียนในคณะนี้แล้ว วิชานี้สำคัญมากค่ะ เพราะในบางวิชาหนังสือที่เราเรียนจะเป็นหนังสือเรียนภาษาอังกฤษ
พี่ยีน: เมธ์มีวิธีการเลือกสาขาที่เรียนอย่างไรครับ?
น้องเมธ์: สาขาในคณะการสื่อสารมวลชนในปีที่เมธ์เรียนมีทั้งหมด 4 สาขาค่ะ คือ วิทยุโทรทัศน์ ประชาสัมพันธ์และโฆษณา วิทยุกระจายเสียง และหนังสือพิมพ์ แต่ในปีนี้มีเพิ่ม คือ สื่อใหม่ (New Media) การแสดง (Dramatic) และนิตยสาร (Magazine) วิธีการเลือกสาขาที่เรียนนั้นก็เลือกตามความชอบว่าใครชอบแนวไหน และในอนาคตอยากทำงานอะไร ในเทอมแรกเราอาจยังอาจหาไม่ได้ว่าเราชอบอะไร แต่เมื่อเข้าเทอมที่ 2 เราก็จะรู้เอง เพราะว่าจะมีเรียนวิชาเฉพาะมากขึ้นทำให้เรารู้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบ ก็ง่ายๆ ค่ะไม่ต้องคิดมาก เราก็ดูว่าเราสนุกกับวิชาอะไรเราก็เลือกเรียนสาขานั้นแหละค่ะ ในปีที่เมธ์เรียน เอกที่ฮิตที่สุดก็โทรทัศน์นี่แหละค่ะ แต่การคัดเลือกเข้าเรียนต่อเอกนี้อาจารย์จะดูเกรดและมีการสัมภาษณ์ก่อนด้วยค่ะ เพราะทางคณะต้องมีการเฉลี่ยให้แต่ละสาขามีจำนวนนักศึกษาไม่ต่างกันมากจนเกินไปด้วยค่ะ
พี่ยีน: การเรียนของคณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
น้องเมธ์: การเรียนของคณะนี้ก็สนุกค่ะ เพราะเราต้องเรียนพื้นฐานของเกือบทุกคณะในสายศิลป์ อย่างเช่น บริหาร การตลาด จิตวิทยา สังคมวิทยา และมนุษยวิทยา รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ปรัชญา แล้วก็มีอีกเยอะค่ะ ซึ่งวิชาเหล่านี้จำเป็นมากต่อพื้นฐานอาชีพของเราในอนาคต เพราะบางทีเราอาจได้เป็นนักข่าวสายการเงินก็จำเป็นต้องใช้ความรู้ในวิชาเศรษฐศาสตร์ และวิชาที่เราเรียนในตอนมัธยมแทบไม่ได้ใช้เลยค่ะ วิชาในสายคณะนี้ต้องมาเรียนรู้ใหม่หมด แต่ต้องอาศัยใจรักและความอดทนนะคะ เพราะส่วนมากแล้วจะเป็นวิชาแบบที่ต้องลงมือปฎิบัติค่ะ เราไม่สามารถกำหนดเวลาเลิกเรียนได้เลย บางครั้งเราเข้าห้องเรียนไป เลิกเรียนออกมา อ่าวฟ้ามืดแล้ว สำหรับเมธ์ เมธ์ว่าเรียนไม่หนักมากนะคะ แต่จะไปเน้นหนักตรงที่ทำรายงานและภาคปฎิบัติค่ะ คือทฤษฎีเราเรียนไปเพื่อเป็นพื้นฐานความรู้ แต่เราจะเน้นหนักไปที่ภาคปฎิบัติ คือเราต้องทำจนคล่องในทุกๆ ด้านเลยค่ะ แต่ก็สนุกดีนะเมธ์ว่า เพราะจะได้ไม่ต้องไปลำบากตอนสอบมากเกินไป (เหมาะกับคนที่ชอบทำรายงานมากกว่าอ่านหนังสือสอบ) ด้านกิจกรรม คณะการสื่อสารมวลชนมีกิจกรรมเยอะมากค่ะ จะมีกิจกรรมหลักๆ ทุกปีเลยก็คือ "ขยับปีก" คือละครเวทีเมธ์ก็จะไปช่วยทำงานทุกปีค่ะ แสดงหน้าม่านบ้าง เต้นเปิดบ้าง เป็นฝ่าย Make up บ้าง ช่วย Back stage (งานกำกับเวที) คือการทำงานของเราจะช่วยกันในทุกๆ ด้านค่ะ นอกจากนี้ เมธ์ยังเป็นเชียร์ลีดเดอร์ เมื่อผ่านปี1ไป เมธ์ก็จะเข้าไปซ้อมให้น้องๆ ค่ะ และยังมีประเพณีรับน้องขึ้นดอยที่นับได้ว่าเเป็นเอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่อีกด้วย
พี่ยีน: เมธ์มีความภูมิใจในคณะด้านไหนบ้างครับ?
น้องเมธ์: เมธ์ภูมิใจในด้านการเรียนการสอนที่อาจารย์มีวิธีการสอนให้นักศึกษามีความคิดที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์ ทำให้นักศึกษาทุกคนจบออกมาอย่างมีคุณภาพค่ะ
พี่ยีน: จบคณะนี้ไปแล้วทำงานอะไรได้บ้างครับ?
น้องเมธี: จบไปแล้วสามารถทำงานได้หลากหลายอาชีพมาก อย่างเมธ์เรียนจบโทรทัศน์ ก็สามารถไปทำงานเป็นผู้กำกับรายการโทรทัศน์ คนเขียนบทรายการ ตัดต่อรายการ ประสานงาน และอื่นๆ ที่เป็นสายอาชีพสื่อสารมวลชนได้ทั้งหมดค่ะ ไม่จำเป็นว่าจบโทรทัศน์แล้วต้องทำงานสายโทรทัศน์เพียงอย่างเดียว อย่างที่ผ่านมา เมธ์ไปฝึกงานโฆษณา ไปทำการวางแผนสื่อโฆษณา ก็สนุกดีค่ะ ได้อัพเดทเรื่องราวข่าวสารใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา
พี่ยีน: วางแผนสำหรับอนาคตไว้อย่างไรบ้างครับ?
น้องเมธี: ในอนาคตเมธ์เรียนจบแล้วเมธ์ก็จะทำงานต่อ ยังไม่เรียนค่ะ เพราะเมธ์คิดว่าจะทำงานหาประสบการณ์และหาอาชีพที่เราชอบก่อนว่าเราอยากทำงานอะไร จากนั้นเราค่อยเรียนต่อยอดวิชาสายอาชีพนั้นก็ยังไม่สาย เมธ์คิดว่ายังดีอีกด้วย เพราะเราสามารถนำประสบการณ์การทำงานไปประยุกต์ใช้ในห้องเรียนให้เข้าใจการเรียนได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างครับ คงจุใจกันล่ะสิท่า แต่ถ้าใครยังตะหงิดๆ ไม่แน่ใจว่าจะจบแล้วจะมีงานทำจริงเหรอ คราวหน้าพี่ยีนจะพากุญแจสำรองดอกโตมาไขอีกรอบ พี่ๆ ที่จะแนะนำให้รู้จักในครั้งต่อไปเป็นบัณฑิตที่จบจากคณะนิเทศฯ วารสารฯ สื่อสารฯ ครับ แต่ละคนหน้าที่การงานจะเริ่ดเพียงใด คอยติดตามกันนะครับ...

พี่ปอน
พี่ปอน - Webmaster Chief Commercial Officer (CCO)

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

40 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
เข้มข้นเฉยๆ 6 มี.ค. 52 03:52 น. 2
นิเทศศาสตร์ ม.มหาสารคามก็น่าเรียนคับ
ใครอยากเรียนก็เลือกแอดมาได้นะคับ

พี่จะๆจะรอรับน้องทุกคน
ยินดีตอนรับนกน้อยในไร่ส้มรุ่นต่อไป

: )
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
รัน 6 มี.ค. 52 12:39 น. 5
อยากเรียนนิเทศ [สื่อสารการเเสดง] คะ

เข้าต้องเอาเเต่ o-net รึป่าวคะ

เเละคะเเนนที่จะเข้ามันสูงเยอะรึป่าว
0
กำลังโหลด
ลงหน่อยนะคะ 6 มี.ค. 52 12:42 น. 6
พี่ยีนคะ

เอาคณะศิลปกรรม [สาขาการละคร] + ม.ธรรมศาสตร์ . , ม.ศรีนครินทรวิโรฒ

มาลงหน่อยได้ไหมคะ

อยากรู้คะ อยากเข้า
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เด็กแมสคอม 51 20 มี.ค. 52 10:57 น. 9
ผมก็เรียนสื่อสารมวลชน ม.เชียงใหม่เหมือนกันครับ

เด็กที่เรียนสื่อสารมวลชนที่นี่จะถูกเรียกว่า เด็ก แมสคอม

ตอนนี้ผมอยู่ปีหนึ่งคับ กำลังจะขึ้นปีสองแล้ว

สื่อสารมวลชนที่ ม.เชียงใหม่ จะรับแอดมิสชั่น ประมาณ 40 คน

ละจะรับโควตาของภาคเหนือ+โครงการพิเศษ ของมหาวิทยาลัยอีกประมาณ 80 คน

รวม ๆ แล้วในหนึ่งปีจะมีนักศึกษาประมาณ 120-130 คน ไม่เกินจากนั้น

ส่วนสขาที่เรียนก็มี

วิทยุกระจายเสียง รับ 25 คน

วิทยุโทรทัศน์รัย 25 คน

หนังสือพิมพ์ รับ 25 คน

โฆษณาและประชาสัมพันธ์ รับ 25 คน

แม็กกาซีน รับ 25 คน

ดราม่า รับ 10 -12 คน

สื่อใหม่(new media) รับ 25 คน

ซึ่งจำนวนรับในแต่ละปีจะไม่เกินจากนี้ครับ

เพราะจำนวนนักศึกษาในแต่ละปีจะไม่เกินจากนี้คับ

ส่วนละครเวที ขยับปีก ปีนี้สนุกมากคับ

ผมยังได้ช่วยทำเลย

I love masscomm cmu
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
hijamaru Member 12 เม.ย. 52 12:33 น. 11
เหอๆๆๆ


ยิ่งอ่านยิ่งอยากเรียน

คะแนนไม่ดีก็ไม่กล้าหวังซักเท่าไรแล้ว

แต่ก็ยังจะยื่นอยู่ดี  อยู่ที่ดวงแล้วแหละ   สำหรับหนูอ่ะนะค่ะ  ฮือๆๆ   (จะร้องแล้ว)
0
กำลังโหลด
The blue rose^_^ Member 15 เม.ย. 52 13:21 น. 12
ถ้าหากฉันเกิดเป็นนกที่โผบิน

ติดปีกบินไปให้ไกลไกลแสนไกล

จะขอเป็นนกพิราบขาว

เพื่อชี้นำชาวประชาสู่เสรี

าหากฉันเกิดเป็นเมฆบนนภา

จะนำพาความร่มเย็นเพื่อท้องนา

หากฉันเกิดเป็นเม็ดทราย

จะถมกายเป็นทางเพื่อมวลชน

ชีวา ยอมพลีให้มวลชนที่ทุกข์ทน

ขอพลีตนไม่ว่าจะตายกี่ครั้ง


คณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
0
กำลังโหลด
The blue rose^_^ Member 15 เม.ย. 52 13:22 น. 13
คณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เป็นคณะสายนิเทศอันดับสามของประเทศนะจ๊ะ ีใครสนใจบ้างเอ่ย


พี่กำลังจะขึ้นปีสอง


การ รับน้อง

สื่อ สาลมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีการรับน้องที่ไม่เคร่งเครียด คณะเราดูเหมือนจะเป็นคณะที่รับน้องแบบสบายที่สุดแล้ว ที่สำคัญคณะเรารับนักศึกษาจำนวนน้อยแค่ชั้นปีละร้อยกว่าคน ทำให้นักศึกษามีความสนิทสนมกัน รู้จักกันเป็นอย่างดี กลมเกลียวกัน ทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้อง ไปที่ไหนก็พึ่งพากันได้ นี่คือเสน่ห์จากการมีคนไม่มากนัก

กิจกรรมในคณะ

ที่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะการสื่อสารมวลชนมีกิจกรรมมากมายให้ทำ ต้องบอกตรงนี้เลยว่าคนที่มาเรียนสายนิเทศเเล้วหวังวิชาการอย่างเดียว คุณไม่รุ่งหรอกค่ะ เพราะคุณต้องเก่งกิจกรรมด้วย เรียนไปพร้อมๆกับกิจกรรม ที่ มช ก็มี กิจกรรมเปิดโลกพิราบขาว กาดหมั้วแมสคอม ขยับปีก (ละครเวที) และอื่นๆมากมาย

สนุกๆทั้งนั้นเลยค่ะ ทำให้้เราได้รู้จักเืพ่อนๆมากขึ้น ได้เเสดงคุณค่าในตัวของเรา วิชาที่เรียน วิชาที่เรียน

ต้องบอก ตรงนี้ว่านักศึกษาในสายนิเทศนั้น ถ้าไม่ได้มาเพื่อเป็นคนดังในวงการบันเทิง ก็ต้องมาเพื่อเป็นนักสื่อสาร นักนิเทศที่มีจรรยาบรรณและคึวามรอบรู้ เราจะได้เรียนในทุกสาขาของวิชาของเกือบทุกคณะ เพื่อให้เราเป็นคนรอบรู้ มีความรู้กว้างไกลไม่คับเเคบอยู่เเต่ทฤษฎี

บรรยากาศการเรียน

ที่ มช บรรยากาศเป็นกันเอง และอาจารย์ใจดีมากค่ะ ทำให้รู้สึกเหมือนเรียนมัธยมตรงที่อาจารย์ไม่ได้ทิ้งศิษย์เหมือนมหาวิทยาลัย อื่นๆ



บรรยากาศมหาลัย

มช อยู่ที่เชียงใหม่ มีบรรยากาศดีมกๆค่ะ โดยเฉพาะหน้าหนาวตอนเช้าๆจะเรียกได้ว่าเดินฝ่าสายหมอกบางๆไปเรียนเลยก็ได้ มีต้นไม้เขียวชอุ่ม เพราะอยู่ใกล้เชิงดอย ทำให้บรรยากาศบริสุทธิ์

สำหรับคณะสื่อสารตั้งอยู่ที่ที่ดินตรงเชิงดอยที่สวยที่สุดในมหาวิทยาลัยเลย ค่ะ ตึกเพิ่งสร้างเสร็จ

นอกจากนี้นะคะ

แม้คณะเราจะไม่ได้เป็นที่หนึ่ง แต่ว่าทุกคนมีควาเมป็ฯตัวของตัวเอง เเละรุ่นพี่หลายคนก็ได้สร้างสรรผลงานให้น้องๆได้เห็นทางจอทีวี


คณะ สายนิเทศถือว่าเป็นคณะที่จบมาเเล้วไม่ตกงานค่ะ สามารถประยุกต์ได้กับทุกสาขชาอาชีพเลย เพราะพวกเรามีความรู้ที่ค่อนข้างกว้างขวางทีเดียว


สุดท้ายก็ขอให้มีคนมาเรียนสื่อสาร มช มากๆนะคะ ขอให้โชคดีทุกคนค่ะ
0
กำลังโหลด
The blue rose^_^ Member 15 เม.ย. 52 13:26 น. 14
ขอแถมนิดหน่อยนะคะ


คณะสื่อสารมวลชน

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

มีสัญลักษณ์คือ นกพิราบขาว

สีประจำคณะคือ สีเทา

เปิดสอน สาขาวิชาดังนี้


1. วิทยุโทรทัศน์ สำหรับคนที่อยากเป็นนักจัดรายการโทรทัศน์ ผู้ประกาศข่าว นักจัดรายการข่าว ผู้กำกับ งานเบื้องหลังรายการโทรทัศน์

2. วิทยุกระจายเสียง สำหรับคนอยากเป็นดีเจ นักจัดรายการวิทยุค่ะ มช มีสถานีวิทยุของตัวเองนะคะ คือ FM 100

3. นิตยสารและสื่อสิงพิมพ์ สำหรับคนที่อยากทำ นสพ หรือนิตยสารค่ะ

4 การแสดง ก็ตามชือ่เลยค่ะ สอนการแสดง และคนที่อยากเป็นผู้กำกับการแสดง หรือ นักเขียนบทโทรทัศน์ ก็มาเรียนสาขานี้ได้

5. สื่อใหม่ หรือ New media สำหรับคนที่อยากเป็นครีเอทีฟ เวบ ดีไซด์เนอร์ ฯลฯ

6. การโฆษณาและการประชาสัมพันธ์ สาขาน้งานทำเยนอะหน่อยนะคะ
0
กำลังโหลด
นู๋ตูน ^0^ Member 24 เม.ย. 52 01:33 น. 15
นิเทศ
แต่ก่อนตูนก้ออยากเข้านะคะ
แต่พอขึ้น ม.ปลายแล้วความคิดเปลี่ยน
อยากเรียนเกี่ยวกับภาษา
ตอนนี้เลยเรียนเกี่ยวกับภาษา
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
casanava Member 24 มิ.ย. 52 23:49 น. 18

เราจบมาจากมหาลัยศรีปทุมบางเขน คณะนิเทศ สาขาวิทบุและทีวี ตอนนี้กำลังสมัครงานอยู่ครับ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด