คณะศิลปกรรมศาสตร์ Issue 003 week3,September 2009
 
คณะคณะศิลปกรรมศาสตร์
ตอนที่ 3/4 : จากรุ่นพี่ถึงรุ่นน้อง : ชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัย
 
เสียงจากศิษย์เก่าคณะศิลปกรรมศาสตร์
        สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com สัปดาห์ที่สามของคณะในฝันประจำเดือนนี้ พี่เป้จะพาน้องๆ มาพูดคุยกับ รุ่นพี่คนเก่งชาวศิลปกรรมศาสตร์ที่ตอนนี้เรียนจบและกำลังทำงานตามความฝันของตัวเอง ตอนนี้พี่ๆ เค้าจะทำงานอะไรกันอยู่นั้น เราไปติดตามกันเลยค่ะ
รุ่นพี่คนที่ 1: พี่นริศา อารีรักษ์ (หนึ่ง) : แฟชั่นดีไซเนอร์ บริษัท Morgan
 
พี่เป้: ช่วยแนะนำตัวให้น้องๆ รู้จักหน่อยค่ะ?
พี่หนึ่ง: ชื่อหนึ่งค่ะ มัธยมต้นจบจาก ร.ร. พระหฤทัยคอนแวนต์ มัธยมปลายจาก ร.ร.สตรีมหาพฤฒารามในพระบรมราชินูปถัมป์ แล้วก็เพิ่งจบจากจุฬาฯ คณะศิลปกรรมศาสตร์ ภาควิชานฤมิตศิลป์ สาขามัณฑณศิลป์(แฟชั่นและสิ่งทอ)
 
พี่เป้: ทำไมถึงสนใจเรียนนฤมิตศิลป์คะ
พี่หนึ่ง: คิดว่าเป็นความฝันตั้งแต่เด็กๆนะ ชอบประดิษฐ์ของขึ้นมา เย็บเสื้อผ้าให้ตุ๊กตาเอง ชอบวาดรูป อยากมีร้านเสื้อผ้าเป็นของตัวเองด้วยนะ ^^
 
พี่เป้: ตอนที่สอบเข้ายังเป็นเอนทรานซ์ระบบเก่า มีการสอบวิชาอะไรบ้างคะ?
พี่หนึ่ง: ตอนนั้นยังเป็นแบบเก่า ปีสุดท้ายด้วย แต่ตอนม.ปลายเรียนสายวิทย์-คณิตนะ พอตอนสอบก็เลยสอบเยอะกว่าปกติหน่อย ที่พอจะจำคะแนนได้ ก็มี ไทย 77 สังคม 67.5 อังกฤษ 89 คณิต40 ทฤษฎีนฤมิตศิลป์65 ปฏิบัตินฤมิตศิลป์ 55
 
พี่เป้: การเรียนฤมิตศิลป์ของจุฬาฯ เป็นยังไงบ้างคะ
พี่หนึ่ง: เป็นการเรียนที่หนักมาก เพราะจริงๆแล้วงานที่คณะค่อนข้างมาก โปรเจคท์ที่อาจารย์ให้มาต้องใช้เวลาในการทำงานเยอะ แต่ว่าก็สนุกที่ได้ใส่ความเป็นตัวเองลงไป ได้ค้นหาตัวเอง เพื่อนๆ ก็เหมือนกัน ทำให้แต่ละคนจะมีคาแรกเตอร์ของตัวเองที่ชัดเจนขึ้นตลอด จนเพื่อนๆ จำได้ว่างานใครเป็นของใคร พอถึงเวลาที่ส่งงานการวิจารณ์งานของอาจารย์ก็เป็นอะไรที่ทำให้ต้องลุ้นตลอด อาจจะมีที่โดนวิจารณ์หนักๆ บางครั้งเสียใจก็มี แต่พอมาถึงจุดนี้ก็จะเข้าใจว่านั่นเป็นสิ่งที่ดี
 
 
 
 
 
 
 
พี่เป้: คิดว่าเสน่ห์ของนฤมิตศิลป์คืออะไรคะ?
พี่หนึ่ง: เสน่ห์ของนฤมิตศิลป์เป็นอะไรที่แตกต่างจาก fine arts หรือทัศนศิลป์เล็กน้อย เพราะเราเป็น applied arts ความหมายก็บอกว่าต้องดัดแปลง ต้องประยุกต์ แต่จะประยุกต์ยังไงให้ออกมาลงตัว และต้องตามทันกระแสโลก เพราะงานนฤมิตศิลป์เป็นงานที่ต้องตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคด้วย ต้องมีเป้าหมายทีค่อนข้างชัดเจน และที่สำคัญต้องใส่ความตัวเองลงไปด้วย การที่จะสร้างงานขึ้นมาก็ถือเป็นเรื่องท้าทาย และงานที่ออกมาก็ถือว่าเป็นงานของเรา คนเห็นแล้วก็ต้องพอเดาได้ว่าของดีไซเนอร์คนนี้ เราก็จะภาคภูมิใจว่า นี่หละงานของเรา คิดว่าตรงนี้คือเสน่ห์ของนฤมิตศิลป์
 
พี่เป้: แล้วตอนนี้ทำงานอะไร ที่ไหนคะ?
พี่หนึ่ง: ตอนนี้เป็นดีไซเนอร์ของมอร์แกน (Morgan)ค่ะ
 
พี่เป้: เนื้อหาของงานมีอะไรบ้างคะ?
พี่หนึ่ง: หลักๆ ก็จะออกแบบในส่วนของชุดชั้นใน อาจจะเริ่มจากการรับเทรนด์มาจากทางฝรั่งเศส และปรับให้เข้ากับความต้องการของตลาดบ้านเรา สร้าง theme ขึ้นมา เพื่อวางสีและโครงร่างหลักๆ ของคอลเลคชั่น หลังจากนั้นก็จะเริ่มหาวัตถุดิบเพื่อออกแบบและขึ้นต้นแบบ มีการปรับแบบเพื่อให้ออกมาลงตัวที่สุด สุดท้ายก็จะส่งให้กับฝ่ายผลิตได้ผลิตจริงต่อไป
 
พี่เป้: ความยากง่ายของการเป็นดีไซเนอร์อยู่ตรงไหนคะ?
พี่หนึ่ง: ตรงที่ต้องหาสิ่งใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคอยู่เสมอ เพราะเราเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ ก็ต้องตามให้ทันกระแสโลก และงานที่ค่อนข้างละเอียดในการเลือกทั้งด้านความสวยงามและความสบายเมื่อสวมใส่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเสมอๆ
 
พี่เป้: สุดท้ายนี้ช่วยฝากถึงน้องๆ ที่อยากเรียนคณะนี้หน่อยค่ะ?
พี่หนึ่ง: อยากให้น้องๆ ตั้งใจกันมากๆ เพราะหนึ่งเองก็ตั้งใจเรียนในวิชามาตลอด และมันได้ผลมากกว่าการที่ต้องมาเร่งอ่านหนังสือในตอน ใกล้ๆ สอบ และอยากให้หาตัวเองให้เจอ เพราะถ้าได้มาเรียนในสิ่งที่ตัวเองรักไม่ว่างานจะหนักเราก็ยังจะสู้ไหว ภาพลักษณ์ของคณะศิลปกรรมศาสตร์ อาจจะดูเล่นๆ งานไม่ค่อยมี แต่จริงๆ แล้วงานหนักมากพอสมควรเลย ถ้ารักทางด้านนี้ก็ต้องตั้งใจจริงนะคะ
 
รุ่นพี่คนที่ 2: พี่นาเดีย ประทีปสุวรรณ (นาเดีย) : Compositor บริษัท Animated Storyboards
 
พี่เป้: แนะนำตัวแก่น้องๆ หน่อยค่ะ?
พี่นาเดีย: ชื่อนาเดีย ประทีปสุวรรณค่ะ ชื่อเล่นชื่อเดีย จบจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกออกแบบสื่อสาร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒค่ะ
 
พี่เป้: ตอนที่สอบเข้านั้นนั้นยังเอนทรานซ์รุ่นเก่า ยังพอจำวิชาที่สอบไปได้มั้ยคะ?
พี่นาเดีย: ตอนที่พี่สอบเอนทรานซ์ พี่สมัครสอบวิชาทางด้านศิลปะไปหลายวิชาเลย เพราะพี่ชอบทุกด้านเกี่ยวกับศิลปะ พี่เล็งคณะที่อยากเข้าไว้ 3-4แห่ง แล้วสมัครทุกวิชาที่ต้องใช้เข้าคณะเหล่านั้น ที่จำได้ก็อย่างเช่น วิชาทัศนศิลป์ นฤมิตศิลป์ ทั้งที่เป็นทฤษฎีและปฏิบัติ วิชาประยุกต์ศิลป์ ดรออิ้ง และอีกหลายๆตัว และยังสมัครสอบตรงที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกออกแบบสื่อสาร มศว ด้วย การสอบเข้าที่มศว นอกจากต้องใช้วิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ภาษาอังกฤษแล้ว ต้องสอบพวกวิชาดรออิ้ง วิชาความถนัดทางด้านการออกแบบ และเท่าที่จำได้ก็จะมีข้อสอบที่เป็นเหมือนการวัดไอคิวรวมอยู่ด้วย การแข่งขันที่นี่ค่อนข้างสูง ในปีที่พี่สอบ เฉพาะเอกออกแบบสื่อสารมีคนสมัครหลายร้อยคนมาก แต่ปีนั้นรับเพียง 30 คนเท่านั้น ซึ่งพี่ก็ได้เป็นหนึ่งในนั้น พี่จึงมุ่งมั่นที่จะเรียนที่นี่ และได้สละสิทธิ์การสอบเอนทรานซ์รอบสองไป
 
พี่เป้: ก่อนเข้ามาเรียนและหลังเข้าเรียน แตกต่างกันมากน้อยแค่ไหนคะ?
พี่นาเดีย: ก่อนที่จะเข้ามาเรียนเอกออกแบบสื่อสารนี้ พี่คิดว่าเอกนี้คงจะเป็นการออกแบบสื่อต่างๆ โดยใช้มือวาดเท่านั้น เหมือนตอนทำข้อสอบที่สอบเข้ามา แต่พอได้มาเรียนจริงๆ เอกออกแบบสื่อสารนั้นจะครอบคลุมถึงการออกแบบกราฟิก ออกแบบสิ่งพิมพ์ ออกแบบงานโฆษณา ออกแบบสื่อทุกประเภท เรียกได้ว่าใช้คอมเป็นหลักเลยก็ว่าได้ ใครไม่เก่งคอมก็จะเก่งขึ้นอย่างอัตโนมัติ ขอให้มีความคิดสร้างสรรค์เป็นหลักก็พอ
 
 

 
 

 
พี่เป้: การเรียนในตอนนั้นยากหรือง่ายยังไงบ้างคะ?
พี่นาเดีย: บรรยากาศตอนเรียนถือว่าสนุกมากเลย เพราะได้ทำงานด้านที่เราชอบ ได้อยู่กับเพื่อนๆ ที่ชอบอะไรคล้ายๆ เรา ทำให้เข้ากันง่ายขึ้น คุยกันรู้เรื่องขึ้น ส่วนด้านการเรียน เอกนี้ไม่เน้นการท่องจำ เน้นปฏิบัติมากกว่า แต่ในบางช่วงจะมีงานที่ต้องทำเยอะมาก วิชานั้นชนวิชานี้ จนงานแบบจะล้นมือเลยทีเดียว สิ่งสำคัญที่สุดนั่นคือการแบ่งเวลาให้เป็น ถ้าแบ่งเวลาไม่เป็นเรียนเอกนี้ลำบากเลย ถ้าถามพี่ว่ายากไหม พี่ว่าไม่มีงานชิ้นไหนยาก มีเพียงจะทำทันหรือไม่ทันเท่านั้นเอง

 

พี่เป้: แล้วตอนนี้ทำงานอะไรอยู่คะ?
พี่นาเดีย: เป็น Compositor บริษัท Animated Storyboards
 
พี่เป้: รับผิดชอบงานในส่วนไหนบ้างคะ?
พี่นาเดีย: ตำแหน่งที่พี่ทำคือการจัดวางองค์ของเอนิเมชั่น (composite) รวมไปถึงการทำเอฟเฟคต่างๆ เช่นไฟ ควัน ฝน หิมะ และอื่นๆ โดยใช้โปรแกรม Adobe AfterEffects
 
พี่เป้: ฟังดูท่าจะยากไม่ใช่เล่นเลย แล้วยากจริงๆ มั้ยคะ?
พี่นาเดีย: ตอนแรกก็ยากค่ะ ยากกับการทำความเข้าใจระบบการทำงาน เพราะเรายังใหม่มาก และยังไม่มีประสบการณ์เลย ก็อาศัยเรียนรู้จาก พี่ๆ ที่ทำอยู่ก่อนแล้ว ไม่เข้าใจอะไรก็ถาม จนค่อยๆ เป็นขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังคงต้องเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆเพื่อพัฒนาความสามารถของตัวเองให้ ดียิ่งขึ้นไปค่ะ ส่วนตอนนี้ก็มีความสุขกับการทำงานมากๆ เลย
 
พี่เป้: อยากให้ช่วยฝากถึงน้องๆ ที่อยากเรียนคณะนี้หน่อยค่ะ?
พี่นาเดีย: ก่อนอื่นอยากให้น้องๆ ค้นหาตัวเองให้เจอว่าเราชอบด้านอะไร เพื่อที่จะกำหนดเป้าหมายในเรื่องการเรียนและ การทำงานในอนาคตได้อย่างแน่วแน่ พี่เชื่อว่าการได้ทำงานตรงสายวิชาที่เราจบออกมา จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้นค่ะ ส่วนน้องๆคนไหนที่สนใจด้านศิลปะแขนงต่างๆ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มศว มีสาขาวิชาให้น้องๆ เลือกเรียนมากมาย อย่างเช่น นาฏศิลป์ไทย-สากล การแสดง ออกแบบเพื่อการแสดง ดุริยางค์ ศิลปจินตทัศน์ เซรามิก ออกแบบแฟชั่น ออกแบบเครื่องประดับ ออกแบบผลิตภัณฑ์ และส่วนใครที่สนใจด้าน computer design เอกออกแบบสื่อสารก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของน้องๆ เช่นกันค่ะ
 
 
รุ่นพี่คนที่ 3 : พี่ชัยรัตน์ มงคลนัฏ (ฟายราย) : นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยศิลปากร
คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ เอกศิลปะไทย
     

พี่เป้: แนะนำตัวแก่น้องๆ หน่อยค่ะ?
พี่ฟายราย: ชื่อชัยรัตน์ มงคลนัฏ ชื่อเล่นชื่อฟายราย อายุ 24 ปี จบคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ เอกจิตรกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร

พี่เป้: ตอนเรียนมีอะไรที่ประทับใจบ้างคะ?
พี่ฟายราย: ประทับใจเพราะ ชอบครับ ชอบไลฟ์สไตล์ของที่นี่ เพราะมีอิสระดี ได้ปลดปล่อย บรรยากาศดี เรียนในวังเก่า บรรยากาศคลาสสิค แต่งตัวธรรมดาๆ ได้ มีกิจกรรมเฮฮาสนุกสนาน

พี่เป้: แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่ที่ไหนคะ
พี่ฟายราย: เรียนโทอยู่ที่ศิลปากร คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ เอกศิลปะไทยครับ

พี่เป้: แล้วลักษณะหรือสไตล์การเรียนและการทำงานส่งอาจารย์ ของพี่ฟายรายเป็นยังไงคะ?
พี่ฟายราย: Mix media ครับ คือจับโน้นนี้มารวมกัน เอาศิลปะแบบต่างๆ มาสร้างเป็นผลงานด้วยวิธีหลายกหลาย เช่น ปั้น เพ้นท์ อะไรทำนองนี้ครับ แล้วตอนนี้พี่ก็สนใจพวกงานปูนปั้นของช่านสิบหมู่อยู่ครับ

 



 
พี่เป้: แล้วความยากง่ายของการเรียนจิตรกรรมคืออะไรคะ?
พี่ฟายราย: ยากครับ เพราะต้องใช้เวลาในการทำงาน ต้องมีพื้นฐานทางศิลปะ และทักษะจากการที่เราต้องฝึกฝน
 
พี่เป้: สุดท้ายอยากให้ฝากถึงน้องๆ ที่อยากเรียนคณะนี้ด้วยค่ะ?
พี่ฟายราย: ต้องฝึกฝนเยอะๆ ครับ ฝึกให้มากๆ และศึกษาทฤษฎีให้มากๆ ด้วยนะครับ
 

 

 

 

รุ่นพี่คนที่ 4: พี่พีรนันท์ จันทมาศ (ขุนคลัง) : นักศึกษาปริญญาโท
มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ เอกจิตรกรรม

 
พี่เป้: แนะนำตัวแก่ชาว Dek-D.com หน่อยค่ะ?
พี่ขุนคลัง: ชื่อพีรนันท์ จันทมาศ (ขุนคลัง) จบคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ เอกจิตรกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากรจ้ะ
 
พี่เป้: บรรยากาศการเรียนในตอนนั้นเป็นยังไงบ้างคะ?
พี่ขุนคลัง: ช่วงแรกๆ ก็รับน้องมันส์อย่างเดียว แต่ก็ไม่เหลวไหลมาก เพราะทำงานแล้วต้องส่งในคาบ
พอปี 3 เลือกเอก เริ่มมีภาระมากขึ้นเพราะงานเยอะแต่ก็สนุก
พอปี 4 งานก็ยังเยอะแล้วทำกิจกรรมด้วย (ประธานคณะ)
พอปี 5 เบาลงหน่อย เพราะทำแต่งาน thesis ล้วนๆ แต่ไม่ได้ทำกิจกรรมในคณะแล้ว
 
พี่เป้: แล้วตอนนี้พี่ขุนคลังกำลังทำอะไรอยู่คะ?

พี่ขุนคลัง: ตอนนี้ก็เรียนต่อปริญญาโทที่คณะเดิม คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ เอกจิตรกรรม เอกเดิมเลยครับ

พี่เป้: ทำไมถึงตัดสินใจเรียนต่อคะ?
 พี่ขุนคลัง: เป็นการหาเพิ่มความรู้ เพื่อเพิ่มเนื้อหาในวิชาชีพ เพราะเราจบ ปริญญาตรีมา ก็คือมีพื้นฐานมาพร้อมแล้ว ตอนนี้มาเรียนต่อปริญญาโท เพราะเราจะความรู้และทักษะนี้มาสร้างผลงานทางศิลปะที่มีแก่นสารเนื้อสาระ
ที่เป็นประโยชน์ต่อไป
 
พี่เป้: อยากให้ฝากถึงน้องๆ ที่อยากจะเรียนคณะศิลปกรรมศาสตร์ หรือจิตรกรรมฯ หน่อยค่ะ
พี่ขุนคลัง: เด็กเรียนอาร์ทมี 2 แบบ คือเพราะกระแส และ เพราะใจรัก อยากให้น้องหาตัวเองให้พบว่าอยากเรียนกันเพราะอะไร เพราะสมัยนี้ ศิลปะก็มีเป็นศิลปะประยุกต์ กับศิลปะบริสุทธิ์ (Pure Art) น้องต้องหาตัวเองให้เจอแล้วก็ไปให้ถูกทาง ซึ่งทางสมัยนี้ก็มีเยอะมาก
 
 
       โอ้โห พี่เป้สัมภาษณ์ไปก็อึ้งไป พี่ๆ แต่ละคนนี่เก่งกันไม่ใช่เล่น แถมงานของแต่ละคนที่กำลังทำอยู่ก็เรียกได้ว่าเป็นอาชีพในฝันที่น่าอิจฉาซะจริงๆ เอาล่ะ ใครอยากเป็นนิสิตนักศึกษาศิลปกรรมศาสตร์หรือกำลังเป็นอยู่ ก็ถึงเวลาที่จะต้องขยันกันแล้ว เพื่อในอนาคตจะได้ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับพี่ๆ เค้านะคะ ^^
 
 

 

พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

21 ความคิดเห็น

อาย...จัง Member 17 ก.ย. 52 19:09 น. 1

อ่า..........น่าจะมีพวกเอกการแสดง นาฏศิลป์ อะไรแบบนี้บ้างอ่ะคะ

หนูอยากรู้มากๆว่าพวกพี่เค้าจบมาแล้วทำงานอะไรบ้าง

ต้องเป็นครู นักแสดงอย่างเดียวรึเปล่า

พอดีหนูสนใจจะเข้าด้านนี้

ถ้าไม่รบกวนพี่เกินไปช่วยเอามากบอกด้วยนะคะ

ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ

ขอบคุณค๊า.....

^____________^

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
@แว่นจัง@ Member 17 ก.ย. 52 21:33 น. 4

ในที่สุดก็มาซะที รอตั้งนาน
เห็นรุ่งพี่บอกแบบนี้ค่อยโล่งใจว่าคณะที่เลือกสอบตรงกะอาชีพที่เราอยากทำ
ขอบคุงมากๆน่อ ^_^

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
45555 19 ก.ย. 52 02:08 น. 6
พี่เดีย ตระกูลหนูค่า
เอกออกแบบ สื่อสาร มศว ดีจริงนะ
งานเยอะเว่อ แต่สู้ๆต่อไป 5555555555555555555

เหนว่าแนวข้อสอบปีนี้น่าจะสนุกก *
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เมเม 20 ก.ย. 52 16:31 น. 9
อยากเรียนเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์กราฟฟิก ออกแบบแอนิเมชั่นในคอม

หรือไม่ก็เกี่ยวกับภาพยนตร์อ่ะ

ควรเข้าคณะไหน สาขาไหนดีคะ


ปล.วาดรูปไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่แต่ก็อยากเข้าศิลปกรรม
0
กำลังโหลด
O_indy Designer 22 ก.ย. 52 11:28 น. 10

ตอบ ความคิดเห็นที่ 9 

แนะนำ ICT สาขาออกแบบ เอกแอนิเมชั่น  หรือสาขานิเทศศาสตร์ เอกภาพยนต์ อิอิ โปรโมท

0
กำลังโหลด
TutoI2.* Member 10 ต.ค. 52 10:25 น. 11

พี่คะ วาดรูปไม่เก่ง แต่อยากออกแบบ แม่เคยบอก ให้เป็น จำพวก Organize Graphic Design เรียนอันไหนไม่ตกงานอ่ะพี่ 

เครียดมากเลยค่ะ T^T กลัวเข้า แผนการเรียนไม่ตรงอ่ะค่ะ

0
กำลังโหลด
Nuddss Member 11 ต.ค. 52 21:18 น. 12
อยากเป็น Animator หรือ ได้ทำงานเกี่ยวกับพวก Animation นี่แหละ

ยากแต่จะทำ เหนื่อยแต่จะทน

ก็นี่เป็นความฝันแรก และ สุดท้ายของเรานี่นะ

( เริ่มฝันตอนป.3 แล้วก็เปลี่ยนฝันไปเรื่อย

จนม.4 หันมาสนใจอีก

ม.5 เริ่มมุ่งมั่น

ม.6 เอาแน่ๆ อิอิ )
0
กำลังโหลด
กวนTEEN Member 28 ธ.ค. 52 20:13 น. 14

___________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
joey 15 มี.ค. 53 21:25 น. 18
พี่

คับ

คณะศิลปสาดเนี่ย

จบมาทำอะไรอะ

รึว่า

ต้องมาแสดง วาดรูป

ขอเงิน

ชาวบ้านเขากินเหรอคับ

ตอบด้วยๆๆๆๆ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด