เปิดใจ !! กว่าจะเข้าศิลปกรรม ต้องเตรียมตัวอย่างไร

        
        มาแล้วครับ DreamCampus Weekly วันนี้เราจะพามาพบกับนิสิตชั้นปีที่ 1 ที่เพิ่งสอบเข้าคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการแสดงและกำกับการแสดง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒกัน เรามาดูกันว่ากว่าจะสอบเข้าคณะศิลปกรรมศาสตร์ พี่เขามีแนวคิดหรือมีการเตรียมตัวอย่างไรกันบ้าง ตามมาครับ ...

ก่อนอื่นขอให้พี่ช่วยแนะนำตัว ให้ชาวเด็กดีเรารู้จักหน่อยนะครับ

       - สวัสดีค่ะ ชื่อนางสาวพรรณราย สิงหทัต ชื่อเล่น เดอะเบสท์ อายุ 18 ปี กำลังจะเข้าศึกษาต่อในชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยศรีครินทรวิโรฒ คณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกการแสดงและกำกับการแสดงค่ะ

ถ้าพูดถึงคณะศิลกรรมศาสตร์ สาขาการแสดงและกำกับการแสดง แรกเริ่มเลยแรงบันดาลใจอะไรที่ทำให้เราอยากเข้าคณะ/สาขานี้ครับ

       - เบสท์เป็นคนที่สนใจในศิลปะทางด้านนี้อยู่แล้ว ที่สำคัญละครเวทีนั้นเป็นศิลปะที่น่าสนใจมาก เนื่องจากเป็นสิ่งที่สามารถสื่อสารกันได้ระหว่างคนแสดงกับคนดู เมื่อเราแสดงอยู่ เราก็สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกของคนดูได้เช่นกัน นี่คือเสน่ห์ของละครเวที จึงทำให้เราอยากมีส่วนร่วมในละครเวทีที่ไม่ใช่เพียงแค่คนดู แต่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างละครเวทีด้วย

แล้วพอเรารู้ว่าเราชื่นชอบและมีความสนใจที่จะเข้าศึกษาต่อในคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการแสดงและกำกับการแสดงแล้ว เรามีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง 

       - ตอนแรกเบสท์ก็ไม่รู้หรอกว่าจะอ่านอะไร ทำอย่างไรถึงเราจะติดคณะนี้ เอกนี้ เบสท์เลยคิดว่าทุกอย่างมันต้องมีจุดเริ่มต้น เบสท์เลยเริ่มอ่านจากต้นกำเนิดของละครเวที ตั้งแต่ตำนานจนถึงปัจจุบันว่ามีอะไรบ้าง โดยให้เราคิดว่าการที่เราจะสร้างละครเวทีสักเรื่องจะต้องมีอะไรบ้าง แล้วค่อยๆ อ่านไปเรื่อยๆ รายละเอียดของแต่ละอย่าง นักแสดงจะต้องเป็นอย่างไร บทบาทเหมาะกับบทนี้ไหม และเมื่อเราคิดว่าเราสามารถสร้างละครเวทีได้แล้ว เราควรจะไปแสดงที่ไหน คิดเป็นสเต็ปไปเป็นขั้นๆ ที่สำคัญภาษาอังกฤษก็สำคัญกับเราในทุกๆ อย่างดังนั้นก็ควรจะเข้าใจภาษาอังกฤษด้วย แค่ให้รู้หลัก Gramma Vocab ก็พอ ส่วนการสอบสัมภาษณ์ คือ ให้เป็นตัวเราเองมากที่สุด ตอบตามจริง เชื่อมั่นในตัวเอง และมีสติกับตัวเองตลอดเวลา

เบสท์ !! มีเรื่องอะไรที่อยากจะเล่า ให้น้องๆ ชาวเด็กดีฟังบ้างครับ

       - ตอนนี้เดอะเบสท์ก็อยู่ในช่วงของการรับน้อง เลยอยากเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟัง หลายๆ คนคิดว่าการรับน้องมันโหด มันเหนื่อย แต่อยากให้มองในมุมกลับกันว่ารับน้องแล้วเราได้อะไรกลับไปบ้าง อย่างเดอะเบสท์อ่ะเป็นคนที่ขี้กลัว เป็นคนที่ไม่กล้าตัดสิใจ ซึ่งการรับน้องของเอกเดอะเบสท์ คณะเดอะเบสท์ มันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก พี่สอนให้เรากล้ามากขึ้น ตัดสินใจเป็น รู้จักถึงคุณค่าของสิ่งของ รู้จักคำว่าเพื่อน คำว่าพี่ พี่ทำให้เรารับผิดชอบเป็น ในชีวิตมหาวิทยาลัยมันไม่เหมือนกับการเรียนมัธยมเลย เราต้องคิดเป็น โตให้เป็น แล้วการรับน้องมันก็เหมือนกับด่านที่สอนให้เราโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น หลายๆคนอาจคิดว่าไม่อยากเข้ามหาวิยาลัยเลย อยากกลับไปเป็นเด็กมัธยมอีก แต่เดอะเบสท์คิดว่าคนเรามันต้องพัฒนา แล้วรุ่นพี่ก็กำลังสอน กำลังช่วยให้เราโตเป็นผู้ใหญ่ทางด้านความคิดอยู่ เราก็ควรจะต้องเต็มที่ไปกับมัน ถึงตอนนี้มันยังไม่ผ่านช่วงรับน้อง แต่เราก็ค่อยๆ ซึมซับสารที่รุ่นพี่ได้ส่งมาให้ แค่เราเปิดรับแล้วเราก็จะมีความสุขกับทุกอย่าง ขอบคุณรุ่นพี่ค่ะ

ฝากถึงชาวเด็กดีหน่อยครับ

       - ทุกมหาวิทยาลัยสอนเราเหมือนกัน ไม่มีที่ไหนดีกว่าหรือแย่กว่า ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราว่าเรามีความตั้งใจขนาดไหน ส่วนคณะอยากให้เราเลือกในสิ่งที่เรารัก เราสนใจ ไม่จำเป็นว่าเราเรียนวิทย์-คณิตแล้วเราต้องเรียนแพทย์ เภสัช วิศวะ เพราะถ้าเราไม่ชอบเรียนไปก็ไม่มีความสุข อย่าไปเสียดาย ความรู้เหล่านั้น !! มันก็ไม่ได้หายไปจากเราหรอก ทำในสิ่งที่เป็นเรา แล้วมันจะออกมาดี เราก็จะมีความสุขไปกับมันด้วย หลายคนเลือกคณะเลือกอาชีพจากรายได้ อยากบอกว่าความจริงแล้วทุกอาชีพก็รวยเหมือนกันน่ะแหละ เพราะมันก็เริ่มจากตัวเรา ดังนั้นเลือกเถอะสิ่งที่เราสนใจ เราชอบ เรารัก แล้วจะไม่เสียใจกับสิ่งที่เลือก !!