P
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศฯ
                            สาขาวิชานิเทศศาสตร์
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
 
          วัสดีค่ะ คณะในฝันของเราก็ยังอยู่ที่ ICT นิเทศศาสตร์ นะคะ น้อง ๆ หลายคนคงเข้าใจมากขึ้นแล้วว่าคณะนี้เรียนอะไรบ้าง แต่ว่าเรายังไม่ได้รู้เลยว่าในรั้วจริง ๆ แล้วเขาเรียนอะไรกัน เรียนที่ไหน แล้วเรียนแยกออกมาจะเหงาหรือเปล่า แล้วคะแนนการสอบเป็นอย่างไร สอบเข้าอย่างไร? ... พี่แป้งได้ไปสัมภาษณ์รุ่นพี่ 2 สาวจาก ICT นิเทศศาสตร์ มาเม้าท์ให้น้อง ๆ ฟังกันค่ะ พร้อมแล้วไปพบกับพี่ ๆ กันเลย

 


พี่เอิน ปราญชลี  บุญสงเคราะห์
สาขานิเทศศาสตร์ เอกการลูกค้าสัมพันธ์
มหาวิทยาลัยศิลปากร


พี่แป้ง : ก่อนอื่น แนะนำตัวเองก่อนเลยค่ะ
พี่เอิน : สวัสดีค่ะ ชื่อนางสาวปราญชลี  บุญสงเคราะห์ ชื่อเล่น เอิน ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ยาวใช่ไหมคะ ฮ่าๆ เรียกย่อๆว่า ICT ค่ะ) สาขานิเทศศาสตร์ เอก การลูกค้าสัมพันธ์ หรือ CRM (Customer Relationship Management) ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยศิลปากรค่ะ

พี่แป้ง : ตอนสอบเข้าน้องเอินสอบเข้าด้วยวิธีไหนคะ?
พี่เอิน : เอินสอบเข้าด้วยแอดมิชชั่นกลางค่ะ สอบเข้ามาคณะนี้ ใช้ GAT ล้วนเลยค่ะ เข้ามาด้วยคะแนนติ่งๆ 20,031.95 คะแนน (T^T)  บรรยากาศในตอนลุ้นผล (ต้องนับถอยหลังลงไปเกือบ 2 ปีแหนะ แก่จัง ;P) กำลังนั่งร้องคาราโอเกะเลยค่ะ นั่งลุ้นกับเพื่อนอีก 3 คน แต่ว่า 2 คนมีที่เรียนแล้ว ก็เลยเหลือแค่เรากับเพื่อนสนิทอีกคน พอผลประกาศออกมา ตอนนั้นแทบไม่รู้สึกลุ้นอะไรแล้วค่ะ ฮ่าๆ รู้ว่าต้องติดแหละไม่มีทางหลุดหรอก แต่จะติดอะไรเนี่ยสิ

         
พอเวลา 6 โมงเย็น เราเลยส่งแมสเสจพวกรหัสไปที่เช็คทางโทรศัพท์ พอแมสเสจส่งกลับมาก็ขึ้นว่า ขอแสดงความยินดี ... บลาๆ แล้วก็บอกรหัสมา 1572 ณ เวลานั้นก็รู้สึกว่า เห้ย!!~ ติดแล้ว แต่ตัวเลขนี้มันติดคณะอะไร? สงสัย การตลาด มศว ฮ่าๆ สักพักก็โทรบอกแม่ว่า เอินติดแล้วนะ รหัสนี้ๆ แต่เอินไม่รู้เหมือนกันติดอันดับไร คณะไร เราก็เข้าใจมาตอน 10 นาทีว่าเราติด การตลาด มศว ป่าวประกาศไปเรื่อย ฮ่าๆ สักพักนึงเพื่อนโทรมาบอกว่า เอินรหัส 1572 มัน ICT นิเทศ นะ เราก็เลยร้องดังยิ่งกว่าเดิม ฮ่าๆ เพราะอยากเข้านิเทศ มากกว่า แถมได้ใจกลางเมืองอีกต่างหาก > <
 

พี่แป้ง : ตอนจะสอบเข้า น้องเอินมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้างคะ?
พี่เอิน : ช่วงนั้นทั้งเรียนพิเศษดาว้องค์, ติวตัวต่อตัว, ซื้อหนังสือทุกวิชามานั่งทำแบบฝึกหัด เพื่อเตรียมสอบโอเน็ต ส่วนแกทแพทฝึกฝนเลยค่ะ ทำโจทย์เยอะๆ สอบแกทก็วันๆนั่งเชื่อมโยงแต่แกทคะแนนเลยออกมาดี แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่เก่งอังกฤษ คะแนนแกทเลยออกมาไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่ พอโค้งสุดท้ายนี่ทุ่มสุดตัว กิจกรรมที่ชอบทำ ปล่อยก่อนเลยค่ะ ไฟท์ติ้งหนังสือเต็มที่ น้องๆก็สู้นะคะ

พี่แป้ง : ก่อนที่จะสอบเข้า ICT นิเทศศาสตร์มีสอบที่ไหนมาบ้าง?
พี่เอิน : ก่อนหน้าที่จะมาอยู่แอดมิชชั่นกลาง สอบตรงมา 2 ที่ค่ะ ที่แรกคือคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการแสดงและกำกับการแสดง มศว เป็นคณะที่อยากเข้ามากค่ะ ติวหนักมาก แทบจะไม่ได้เผื่อใจให้ที่ไหนต่อเลย พอสอบผ่านครั้งแรก ประกาศรายชื่อออกมาดีใจมาก แต่พอรอบสองไม่มีรายชื่อเรา ก็เฟลเบาๆค่ะ แต่ก็คิดในใจว่า มีคนอื่นที่เก่งกว่าเรา T^T

           สอบตรงอันที่ 2 คือ ธรรมศาสตร์ คณะ ศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการละคอน ตอนนั้นเป็นปีแรกที่มีการสอบตรงใช้ยื่น จิตอาสาและประชาธิปไตย รุ่นแรกค่ะ ถ้าจำไม่ผิดคนที่จะสมัครได้ต้องเกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป แล้วก็มีผลงานด้านจิตอาสา เขาจะให้ส่งเรียงความเรื่องจิตอาสาเข้าไป แล้วทางคณบดีแต่ละคณะจะเป็นคนคัดเลือกค่ะ ซึ่งคณะที่สมัครเข้าไปทางคณะจะเลือกออกมาเพียงแค่ 3 คน เพื่อให้มาเข้าค่ายทำจิตอาสา พอประกาศผลออกมาดีใจมากค่ะที่เราเป็น 1 ใน 3 ที่ติดเข้ามาในค่าย

          แต่พอ
เข้าค่ายแล้วเขาจะคัดเอาแค่ 1 คนเท่านั้น พอเข้ามาในค่ายเราจะไม่รู้ว่าเพื่อนๆคนไหนจะเข้าคณะอะไร จะมีรุ่นพี่ธรรมศาสตร์เป็นพี่เลี้ยงแล้วก็มีอาจารย์แต่ละคณะมาเป็นครูประจำเพื่อให้คะแนนเด็กๆ เรียกได้ว่าค่ายนี้มีแต่นักกิจกรรมตัวเต็งๆ มีอาจารย์ที่ทำให้เรารู้สึกกดดันตลอดเวลาเพราะเค้าจะให้คะแนนเราตลอด พอจบค่ายก็คณะเอินดันมีเรียกออดิชั่น ตอนออดิชั่นนี่เสียวสุดๆแล้วค่ะ เจอเพื่อนอีก 2 คนด้วย 3 คนที่จะเข้าคณะนี้นี่ คนละเพศเลย ฮ่าๆ หญิง, ชาย, เพศที่สาม พอวันที่ประกาศผลออกมา เพื่อนที่เป็นเพศที่สามได้ เราก็เฟลกันไปอีกรอบนึงเลยค่ะ เพราะเป็นสิ่งที่หวังมากที่สุด T^T

พี่แป้ง : ทำไมถึงเลือกที่จะเรียน ICT นิเทศศาสตร์คะ?
พี่เอิน : ที่เลือก คณะ ICT นิเทศศาสตร์เพราะว่า อยากเรียนด้านนิเทศศาสตร์อยู่แล้วค่ะ ยิ่งอยู่ในตัวเมืองไม่ต้องไปต่างจังหวัดยิ่งดีใหญ่ พ่อไม่อยากให้ไปนอนหอด้วย

พี่แป้ง : เอกที่น้องเอินเรียน เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้างคะ?
พี่เอิน : เอก การลูกค้าสัมพันธ์ ม.ศิลปากรที่เดียวเลยที่มีเอกนี้เลย ฮ่าๆ เป็นเอกที่เกี่ยวกับลูกค้าโดยตรง เป็นการเรียนรู้ความต้องการของลูกค้า สร้างความแตกต่างทำให้ได้เปรียบเหนือกว่าคู่แข่ง การออกแบบ และสร้างกลยุทธ์ในการบริการ ที่ผูกใจลูกค้า ดึงดูดลูกค้า และออกแบบเฉพาะรายลูกค้าสร้างสัมผัสบริการที่น่าประทับใจได้อย่างต่อเนื่อง ทุกโอกาส ทุกสัมผัสบริการที่ติดต่อองค์กร เอกเราช่วยในการมัดใจลูกค้าเลยก็ว่าได้
 

พี่แป้ง : น้องเอินคิดว่า ข้อดีของการเรียน ICT นิเทศศาสตร์ คืออะไรคะ?
พี่เอิน : มีทั้งเรียนในเมืองไม่ต้องไปอยู่ต่างจังหวัด พ่อจะได้ไม่ห่วง ฮ่าๆ จริงๆ เอินคิดว่า แนวความคิดของ คณบดี(ผศ.ชัยชาญ ถาวรเวช ตอนนี้เป็น อธิการบดีแล้วค่ะ ;]) ที่ก่อตั้งคณะ ICT ขึ้นมา มีแนวคิดที่ยอมเสียเงินจ้างครูที่มีประสบการณ์จริงมาสอน หรือเชิญ guest มาแชร์ประสบการณ์งานด้านต่างๆมาสอน ช่วยให้เด็กๆมีความรู้มากกว่า เพราะตามที่ สกอ. ตั้งกฏว่า ต้องมีครูจบวุฒิปริญญาเอกบลาๆ  ในความคิดเอินก็คิดว่า ครูเหล่านั้นก็อยู่ในตำรา สอนในแบบตำรา แต่ไม่สามารถสอนในแบบด้านประสบการณ์ การแก้ไขปัญหาในแบบชีวิตจริง บางทีสิ่งที่ครูพูดเป็นได้แค่ในความคิด แต่ครูที่ทำงานจริงมีประสบการณ์สามารถบอกวิธีแก้ปัญหาได้ดีกว่าเพราะมีการลงมือทำ

         ชีวิตการเรียนที่นี่ แทบจะเรียน 7 วันเลยก็ว่าได้ค่ะ การบ้านกอง ๆ ทับๆลงมาเรื่อย ๆ เพราะครูคิดว่า ชีวิตจริงในการทำงาน ไม่มีคำว่าหยุด งานมันต้องมาเรื่อยๆ ครูเลยอยากให้นักเรียนมีภูมิต้านทาน ไม่ใช่เรียนสบาย ๆ การบ้านไม่เยอะ พอไปทำงานจริง ตาย!!~ รับกับงานไม่ได้


พี่แป้ง : เรียนแยกออกมาที่บางรัก รู้สึกเหงา ๆ มั้ยคะ?
พี่เอิน : ตอนเข้ามาปี 1 ก็รู้สึกเหงาค่ะ แลดูปลีกวิเวกจัง เพื่อนคณะอื่นก็ไม่มี ไม่ค่อยได้ฟิวความเป็นมหาลัยเลย กิจกรรมมีไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่อยู่ไปสักพักก็หลงรัก ฮ่าๆ สาขาเราไฮโซนะ ติดริมแม่น้ำ อยู่ย่านใจกลางเมือง โรงแรมหรูล้อมรอบ ฮ่าๆ ไม่หลงรักก็คงไม่ได้ใช่ไหมคะ

พี่แป้ง : สุดท้ายนี้อยากให้ฝากถึงน้อง ๆ ที่อยากเรียน ICT นิเทศศาสตร์ค่ะ
พี่เอิน : สำหรับน้องๆที่อยากเข้าคณะICT สู้ๆนะคะ ทุกๆความฝันถ้าน้องลงมือทำ ขอแค่น้องทำอย่างเต็มที่ สิ่งที่ตอบแทนกลับมาคือ "ยินดีด้วย..." แน่นอนค่ะ เข้ามาแล้วก็อย่าดีใจเกินจนทำให้เกรดร่วง พี่ว่าพี่ไม่ได้ขู่นะ ฮ่าๆ แต่ว่า..งานเยอะจริงๆ ฮ่าๆ แบ่งเวลาดีๆ แล้วจะใช้ชีวิตในมหาลัยอย่างมีความสุข
 
    " หากคิดอย่าปล่อยให้มันเป็นเพียงแค่ความคิด แต่จงลงมือทำอย่างเต็มที่
    แล้วสิ่งที่ตอบแทนความตั้งใจอย่างเต็มที่นั้น จะเป็นอย่างไร...จะดีจะร้าย
    เราจะไม่เสียใจ เพราะเราทำอย่างสุดความสามารถ... "



 


พี่ป้อ ธนิดา กนกเลิศวงศ์
สาขานิเทศศาสตร์ เอกการโฆษณา
มหาวิทยาลัยศิลปากร


พี่แป้ง : ก่อนอื่น แนะนำตัวเองก่อนเลยค่ะ
พี่ป้อ : สวัสดีค่ะ ป้อ ค่ะ นางสาวธนิดา กนกเลิศวงศ์ เป็น 1 ใน 10 ผู้เข้ารอบ Brands' Admission Reality 3 ค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่ที่คณะ ICT สาขานิเทศศาสตร์ เอกการโฆษณา ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยศิลปากรค่ะ

พี่แป้ง : น้องป้อสอบเข้าด้วยวิธีไหนคะ?
พี่ป้อ : ป้อสอบเข้าด้วยวิธี แอดมิชชั่นค่ะ ป้อเลือกยื่นแบบ GAT 50% O-NET 30% GPAX 20% ตอนประกาศผลนี่ป้อลุ้นตัวเกรงเลยค่ะ เพราะตอนนั้นอยู่ข้างนอกกับพี่และแม่เลยยังดูผลไม่ได้ เพื่อนก็กระหน่ำโทรมาถามว่าติดที่ไหน เราเองก็อยากรู้ใจจะขาดแล้ว เลยโทรให้เพื่อนอีกคนดูผลให้ พอเพื่อนบอกว่าติด... เราก็ดีใจแล้วเหมือนขึ้นสวรรค์ทั้ง ๆ ที่เพื่อนยังบอกไม่หมดว่าติดคณะไหน 555 เพราะตอนที่เลือกก็เลือกแต่ที่ชอบไว้แล้ว ติดที่ไหนเลยดีใจหมดค่ะ ยิ่งพอรู้ว่าได้เรียนที่ ICT นิเทศฯที่นี่ยิ่งดีใจค่ะ เพราะอยู่ในเมืองไม่ต้องออกไปอยู่หอหรือต่างจังหวัดเลย แถมยังเป็นนิเทศฯที่เราอยากเรียนมากอีกด้วย เลยดีใจมากๆๆๆค่ะ

พี่แป้ง : ได้ข่าวว่า เราเองเป็นคนที่คะแนนต่ำสุดในการแอดมิชชั่นเข้าไป รู้สึกยังไงคะ?
พี่ป้อ : ตอนนั้นพอเข้าไปดูคะแนนต่ำสุดก็ตกใจเสียวสันหลังวาบเลยค่ะ คิดว่าโชค + ดวง + บุญบารมี ที่ทำมาแต่ชาติปางก่อนช่วยเอาไว้แน่ๆถึงได้ติดมาเป็นอันดับท้ายๆของคณะแบบนี้ มันเป็นทั้งความดีใจและความกดดันมารวมอยู่ในเวลาเดียวกันเลยค่ะ ดีใจที่ติดเข้ามา แต่กดดันตรงที่แน่นอนว่าเพื่อนที่เข้ามาต้องมีพื้นฐานที่ดีกว่าเราแน่ๆ เหมือนเราไปเป็นฐานของเพื่อนๆเลย พอเปิดเทอมมาป้อเลยตั้งใจเรียนกว่าตอน ม.ปลาย มาก มีแอบท้อหลายครั้งเพราะตอนสอบ Pre-test วิชาภาษาอังกฤษ เราได้คะแนนต่ำสุดในห้องนั้น กดดันตัวเองจนกระทั่งพอรู้ผลสอบต้องแอบหนีออกจากห้องไปนั่งน้ำตาไหลในห้องน้ำ (ชีวิตดราม่ามาก)

            แต่เพราะด้วยเหตุที่เราเข้ามาเป็นคนสุดท้ายของคณะ เราจึงมีแรงฮึดที่จะสู้ เหมือนไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ป้อจึงหันมาสู้ใหม่ รู้ว่าเราอ่อนตรงไหน เราก็ต้องหวงคะแนนมากๆ เหมือนเรารู้ว่าตอนสอบเราต้องทำคะแนนได้ไม่ดีแน่ๆ ในห้องเวลามีคะแนนตอบคำถามเราจะรีบตอบเพื่อเอาคะแนนนั้นมาช่วยตอนสอบค่ะ การตั้งใจเรียนในห้องจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก จนสุดท้ายได้ที่ 1 ของเอกมา ก็เพราะแรงฮึดจากการสอบได้ที่โหล่ครั้งนั้น เราไม่อยากเป็นที่สุดท้ายตลอดไป จะรอให้ใครมาอ่อนกว่าเราคงไม่ได้ นอกจากเราต้องพัฒนาตัวเราเองเท่านั้น

พี่แป้ง : ก่อนที่จะสอบเข้า ICT นิเทศศาสตร์มีสอบที่ไหนมาบ้าง?
พี่ป้อ : ส่วนใหญ่ป้อจะออกแนวทำพอร์ทชิงทุนของ ม.เอกชน มากกว่าค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ABAC และ ม.กรุงเทพ แล้วก็มีสอบตรงของ มศว แต่ก็ไม่ติดสักที่ 555 ชีวิตท้อแท้มาก โดนแรงกดดันจากเพื่อนๆอีก เพื่อนติด ทำไมเราไม่ติด แต่ก็คิดอีกอย่างว่า ไม่ติดสอบตรง เราก็อาจจะแอดมิชชั่นติดก็ได้นะ (คิดปลอบใจตัวเองสุดๆ) แต่การคิดเข้าข้างตัวเองแบบนี้มันก็ทำให้มีกำลังใจเหมือนกันนะ ไม่งั้นแค่ไม่ติดก็รู้สึกแย่มากพอแล้วจะมาคิดแง่ลบก็ยิ่งทำร้ายตัวเองไปซะเปล่าๆ คิดซะว่าที่นี่คงไม่เหมาะกับเราแล้วเดินหน้าหาที่ใหม่ต่อ

พี่แป้ง : ทำไมถึงเลือกที่จะเรียน ICT นิเทศศาสตร์คะ?
พี่ป้อ : บอกก่อนเลยว่า ตอนแรกป้อไม่รู้ว่า ICT นิเทศศาสตร์ ม.ศิลปากร เรียนที่บางรัก (แต่ตอนนี้ปี 1ย้ายไปเพชรบุรีแล้ว) ที่รู้เพราะตอนนั้นเปิดคลิปดู กัปตันกร BAR3 พูดในเว็บ Dek-D ว่าอาจจะเลือกที่นี่เพราะเรียนที่กรุงเทพ เท่านั้นหละ เราตกใจมาก นึกว่า ม.ศิลปากร มีเรียนที่นครปฐมอย่างเดียว จึงต่อสายตรงไปถามกัปตันกรเลย ก็ได้คำตอบมาว่าเรียนบางรักจริงๆ เข้าทางเราเลย เพราะที่นี่อยู่ในตัวเมืองกรุงเทพเลย ไม่ต้องไปอยู่หอ ใกล้สยาม ติดแม่น้ำเจ้าพระยา BTS สะพานตากสินถึง โอ้ววว เดินทางสะดวกมากตรงกับข้อจำกัดที่ที่บ้านกำหนดไว้คือ ต้องเดินทางสะดวก ห้ามอยู่หอ ห้ามออกนอกกรุงเทพ

           แถมพออ่านวิชาที่คณะนี้เรียนเจอวิชา คอมพิวเตอร์กราฟฟิก ป้ออยากเรียนมากคิดว่าคงจะสนุกแน่ๆ นิเทศฯที่อื่นไม่มีด้วย แต่พอเรียนจริงๆเท่านั้นหละ ขอร้องไห้แปป T_T ยากแต่เป็นประโยชน์มาก ถือเป็นความสามารถพิเศษได้เลยที่เด็กนิเทศฯ ม.ศิลปากร สามารถสร้างบ้านสร้างคอนโดในคอมพิวเตอร์ได้ สุดยอดดดด ประหนึ่งเรียนสถาปัต ฯ ยังไงก็ต้องขอบคุณเว็บ Dek-D มาก ถ้าวันนั้นไม่เข้ามาก็อาจจะไม่รู้ว่านิเทศศิลปากรเรียนบางรักและอาจจะไม่ได้เลือกที่นี่เลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นน้องๆต้องเข้าเว็บ Dek-D บ่อยๆนะ จะได้มีข่าวสารอะไรใหม่ๆมาอัพเดตตลอด อิอิ

 

พี่แป้ง : แล้วถ้าสอบไม่ติด ICT นิเทศศาสตร์ คิดว่าจะเรียนอะไรคะ?
พี่ป้อ : คิดว่าอาจจะเป็นแนวบริหารธุรกิจที่ที่บ้านอยากให้เรียนค่ะ จริงๆตัวป้อเองก็ไม่ได้อคติกับคณะบริหารฯเลย แต่ที่เลือกนิเทศฯเพราะชอบนิเทศฯมากกว่า ถ้าเกิดต้องเรียนบริหารจริงๆป้อก็โอเคค่ะ เพราะอีกใจก็ชอบด้านการตลาดพวกนี้ด้วยค่ะ ซึ่งความจริงแล้วป้อเรียนนิเทศฯ เลือกเอกโฆษณา มันก็คาบเกี่ยวเรื่องการตลาดด้วยเยอะมาก เพราะก็โฆษณาถือเป็นการสื่อสารด้านการตลาดอีกทางหนึ่งค่ะ

พี่แป้ง : น้องป้อคิดว่า อะไรคิดสิ่งที่ยากที่สุดในการเรียน ICT นิเทศศาสตร์ คะ?
พี่ป้อ : ป้อว่าสิ่งที่ยากที่สุดคือ ความคิดสร้างสรรค์ค่ะ จะทำอย่างไรให้คิดงานออกมาไม่ซ้ำเพื่อน ไม่ซ้ำกับคนอื่นที่ทำมาทั้งหมด ให้อาจารย์รู้สึกว่า "ว้าวววคิดได้ไง...สุดยอดไปเลย" ซึ่งเป็นสิ่งที่ป้อก็ยังทำไม่ได้สักที เราเรียนกฏในการทำโฆษณาทั้งหมด ดูงานโฆษณาเป็นร้อยๆพันๆชิ้น เพื่อเรียนรู้ขอบเขตของการทำงาน และต้องพยายามแหวกออกนอกเขตนั้นให้ได้ รู้ว่าใครเคยทำอะไรมาแล้วบ้าง เพื่อให้เราไม่ทำซ้ำ และต้องทำออกมาให้แปลกและดี ซึ่งต้องตอบให้ได้ด้วยว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ไม่ทำแบบนั้น มีเหตุผลมารองรับ นั่นจึงเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่แท้จริง เหมือนเรียนกฏเพื่อแหกกฏ

พี่แป้ง : แล้วกิจกรรมหรือผลงานที่ประทับใจที่ผ่านมา มีอะไรบ้างคะ?
พี่ป้อ : ที่ภูมิใจที่สุดคงเป็นการได้ทำโปสเตอร์โปรโมทงานในคณะที่จะต้องมีวิทยากรจากข้างนอกมาพูดในคณะค่ะ เพราะเป็นครั้งแรกที่เราต้องออกแบบโปสเตอร์ที่ใช้งานจริง ติดทั่วคณะเลย แถมตอนออกแบบต้องส่งโปสเตอร์ไปให้วิทยากรที่จะมาพูด ซึ่งเป็นคนทำงานจริงๆในวงการโฆษณา ให้เขา Comment งานของเราและปรับปรุงจนกว่าจะเป็นที่พอใจก่อนนำไปติดทั่วคณะค่ะ ซึ่งเราโดนตีกลับมาปรับปรุงถึง 10 รอบ  ทำแล้วแก้ใหม่ ทำแล้วแก้ใหม่ แบบนี้ไปเรื่อยๆ นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอด 3 วัน รอรับสายโทรศัพท์เพื่อแก้งาน

           จนในที่สุดก็ได้โปสเตอร์แบบที่ถูกใจทั้งเราและวิทยากร ซึ่งก็ได้นำไปใช้จริง ติดทั่วคณะระยะเวลา 1 เดือน มันรู้สึกภูมิใจมากที่มีคนมองโปสเตอร์ของเรา อ่านมัน ให้ความสนใจมัน เพราะหน้าที่ของโปสเตอร์คือเรียกร้องความสนใจจากคนอื่น แค่เขาหันมามองมันเราก็ดีใจแล้วค่ะ


พี่แป้ง : สาขาเอกที่น้องป้อเรียน เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้างคะ?
พี่ป้อ : ป้อเรียนเกี่ยวกับการทำโฆษณาค่ะ ตั้งแต่การคิดโฆษณา การลงมือทำ และวางแผนที่จะปล่อยโฆษณา ซึ่งโฆษณาที่พูดนี้รวมไปถึงโปสเตอร์ โฆษณาในนิตยาสาร อินเตอร์เน็ต วิทยุ โทรทัศน์ แผ่นพับ ออกแบบโลโก้  Billboard เรียกง่ายๆเลยคือเรียนสื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถโปรโมทให้กับตัวบริษัทนั้นๆได้ จะทำอย่างไรให้คนไม่เจอโฆษณาแล้วเบี่ยงหน้าหนีหรือปิดทิ้ง ต้องโฆษณาให้รู้สึกเหมือนไม่โฆษณาเพื่อให้คนที่ดูไม่รู้สึกรำคาญ เพราะฉะนั้น เพื่อนๆคนไหนเจอโฆษณา กรุณาดูมันสักแปปนะคะ ถือว่าสงสารพวกหนูเถอะนะ 5555555

พี่แป้ง : สุดท้ายนี้อยากให้ฝากถึงน้อง ๆ ที่อยากเรียน ICT นิเทศศาสตร์ค่ะ
พี่ป้อ : อยากให้น้องๆทุกคนตั้งใจอ่านหนังสือเยอะๆ ติดแบบไม่หวาดเสียวเหมือนพี่ งานที่คณะนี้ค่อนข้างหนักมาก เราต้องฝึกความรับผิดชอบเยอะ ฝึกการแบ่งเวลา ใช้เวลาที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่นพอได้การบ้านมาตอนเช้า ถ้าทำได้ตอนกลางวันก็ควรเสร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง พอกลับบ้านมาเราจะได้มีเวลาทำอย่างอื่นที่เราชอบต่อ แล้วน้องจะทั้งเรียนและเล่นได้อย่างมีความสุข ไม่เครียด ลองตั้งเป้าหมายอะไรสักอย่างแล้วทำให้บรรลุทีละอย่าง พอถึงเวลาเรามองย้อนกลับไปเราก็จะมาไกลเกินกว่าสิ่งที่เราคาดเอาไว้ในตอนต้น อย่าขาดความมั่นใจในตัวเอง ให้มันพอมีบ้างในตัวเพื่อเป็นแรงผลักดันเราในวันที่ไม่มีใครเชื่อมั่นในตัวเรา ซื่อสัตย์ต่อความฝัน เดินไปหามันด้วยความมุ่งมั่นและความสำเร็จจะซื่อสัตย์ต่อเรา ความเชื่อคือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดค่ะ!!


            โอ้ววววววว...ทั้ง 2 คนได้สัมผัสบรรยากาศการแอดมิชชั่นทั้งคู่เลยนะคะ บอกเลยว่าตอนลุ้นนี่ลุ้นมาก ยิ่งตอนที่เพื่อนแชร์สเตตัสบนเฟสบุคว่าติดที่นั่น ติดที่นี่ แล้วเราเช็คดูไม่ได้เนี่ย เหมือนใจจะขาด คืออยากว๊าบกลับบ้านไปเปิดคอมฯแล้วอะตอนนั้น แต่ก็ยินดีที่ผ่านมันมาได้นะคะ ครั้งหนัาจะเป็นประสบการณ์จริง ชีวิตจริงของรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว จะทำงานอะไรกันบ้าง อย่างลืมติดตามกันนะคะ ^___^

 

 
พี่แป้ง
พี่แป้ง - Columnist นักข่าวสายรับตรง พร้อมเสิร์ฟข่าวสอบเข้าทุกมหา'ลัย เติมพลังได้จากชาเย็นหวานน้อย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

3 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด