เจอแน่ๆ 10 คำถามนี้!! เมื่อต้องสอบสัมภาษณ์รอบ กสพท.

      ประกาศผลกันออกมาแล้วสำหรับการสอบ กสพท. น้องหลายคนที่ติดก็เกิดคำถามต่อมาว่า พี่คะ สอบสัมภาษณ์ยากมั้ย? ยังไง? อะไร? พี่เมษ์เลยไปทำการสำรวจ และสอบถามจากพี่ๆ ที่ผ่านการสอบสัมภาษณ์ กสพท. มา เพื่อค้นหา 10 คำถามที่เจอแน่ ตอนสอบสัมภาษณ์ รอบ กสพท. มาฝากน้องๆ กัน

 

 
     อย่างที่น้องๆ ได้ถามกันเข้ามาว่า เอ๊ะ หนูจะตอบคำถามได้มั้ย? คำถามจะยากรึเปล่า? อาจารย์จะถามอะไรบ้าง? ฯลฯ ,,  พี่เมษ์ว่าอย่ามัวแต่กังวลกันเลยค่ะ มาเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับคำถามที่น่าจะเจอในห้องสัมภาษณ์กันดีกว่า เวลาน้องๆเข้าสอบสัมภษษณ์จะได้ไม่เหวอเมื่อเจอคำถามจริงๆกัน

 
  1. ทำไมอยากเป็นหมอ / คิดยังไงมาเรียนแพทย์ 

         คำถามนี้เจอกันแน่ๆ 99% เลยนะคะ เพราะคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์เกือบทุกสถาบันต้องการรู้ว่าน้องคิดอะไรอยู่ เพราะทุกคนต้องฝันจะเป็นแพทย์ถึงมาสอบเข้าใช่มั้ย แต่มันต้องมีอะไรสักอย่างที่บอกว่า เห้ย!เราอยากเป็นเพราะ..... ขอให้น้องๆ ตอบตามความจริง แต่เหมาะสม เช่น ชอบกลิ่นโรงพยาบาล, อยากช่วยคน(คำตอบนี้แอบนางงามนะ น้องควรบอกด้วยว่าทำไมถึงอยากช่วยคน), ผมเป็นเด็กซน เคยขาหัก แขนหัก ซี่โครงหัก คุณหมอใจดีเลยอยากเป็นแบบคุณหมอ ฯลฯ
         พี่เมษ์เชื่อว่า ทุกคนที่มีฝัน ต้องมีอะไรสักอย่างที่อยู่ในใจ ค้นดูให้เจอคำตอบนะคะ เพราะนอกจากจะเป็นคำตอบสำหรับการตอบคำถามแล้ว น้องอาจจะเจอพลังที่จะผลักดันให้น้องสู้ตลอดระยะเวลา 6 ปีต่อจากนี้ค่ะ

     
  1. แพทย์ต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง / คิดว่าจะเป็นหมอต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง

         คำถามนี้ถามเพื่อเช็คน้องๆ ว่า น้องๆ คิดว่าคนแพทย์เค้าควรมีอะไรบ้าง นอกจากวัดความรู้ของน้องต่อวิชาชีพที่น้องสนใจแล้ว ยังเป็นการถามเพื่อดูแนวความคิดของน้องด้วย ดังนั้นคำถามนี้ก็สำคัญ ควรหาคำตอบที่เป็นตัวตนของตัวเองเพราะกรรมการท่านทราบว่าแพทย์ควรมีคุณสมบัติอะไร แต่ท่านอยากรู้จักตัวตนน้องๆ มากกว่านะ โดยน้องอาจจะตอบว่า “หนูคิดว่า คนเป็นหมอต้องมีจิตใจดี มีระเบียบ รอบคอบ และที่สำคัญหนูคิดว่าหมอต้องมีเมตตาและเห็นคุณค่าของทุกชีวิตเท่าเทียมกัน” ,, แอบบอกนิดนึงว่า การหาข้อมูลเรื่องจรรยาบรรณแพทย์มาปรับให้เป็นภาษาตนเอง จะทำให้น้องๆ ตอบได้ดีขึ้นนะจ๊ะ

     
  2. อะไรในตัวคุณที่คิดว่าเหมาะจะเป็นแพทย์

         จะเรียนแพทย์ทั้งทีก็ต้องรู้จักตัวเอง ที่กรรมการสัมภาษณ์ถามแบบนี้เพราะท่านอยากรู้จักน้องๆ และอยากให้น้องๆ ถามตัวเองเช่นเดียวกัน ว่าน้องมีจุดเด่นอะไรบ้างที่คิดว่า เนี่ย เราควรได้เป็นหมอเพราะ .... แล้วก็ให้เหตุผลประกอบเพื่อให้คำตอบน่าเชื่อถือขึ้นนะคะ
         ตัวอย่างคำตอบ เช่น “หนูคิดว่า หนูใจเย็นค่ะ คนเป็นหมอถ้าใจร้อนอาจทำให้การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาผิดพลาดได้” หรือ “ผมเป็นคนแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างมีสติครับ เพราะการเป็นหมอเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคนไข้ของเราจะป่วยหรือบาดเจ็บมาขนาดไหน ถ้าผมไม่มีสติที่ดีและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เหมาะสมอาจจะส่งผลต่อผู้ป่วยได้ครับ”

     
  1. คิดว่าจะเรียนไหวเหรอ / เกรดแค่นี้เรียนไหวหรอ

         เป็นคำถามทดสอบอารมณ์น้องๆ นะคะ อย่าเพิ่งหน้าเสียหรือแสดงอาการประหม่า ให้มองอีกมุมว่ากว่าจะเป็นหมอสักคน รัฐและมหาวิทยาลัยต้องสนับสนุนเงิน อุปกรณ์และบุคลากร อาจารย์สำหรับการเตรียมบุคลากรทางการแพทย์อย่างน้องๆ มหาศาล ถ้าน้องเข้ามาแล้วเรียนไม่ไหว มันก็เป็นการลงทุนที่สูญเปล่า คณะกรรมการถึงต้องการความมั่นใจจากน้องๆ นั่นเอง
         ขอให้น้องๆ แสดงความมั่นใจให้กรรมการรับรู้ อาจจะตอบว่า “เรียนได้แน่ๆ ค่ะ และจะตั้งใจเรียนเป็นอย่างดี” หรือถ้าเกรดน้อยมาก น้องก็อาจจะตอบว่า “ถึงเกรดหนูจะน้อย แต่หนูเชื่อว่าหนูมีความพยายามและความตั้งใจในการเรียน และจะสามารถเรียนได้แน่นอน” พี่เมษ์ขอบอกเลยนะคะ ว่า “สายตา” สามารถแสดงความหนักแน่นของคำตอบนี้ได้ดีกว่าคำพูดที่สวยหรูนะ

     
  1. ปรับตัวได้มั้ย / ในสภาวะความกดดันที่มีคนเก่งมากๆ จะไหวรึเปล่า

         แน่นอนว่าเรียนหมอ มีแต่คนเก่งแน่ๆ ทุกคนต้องมุ่งมั่นทุ่มเท เป็นคณะที่ว่ากันว่ารวมคนเก่ง เจอแต่คนเก่งๆ เหมือนกัน คนที่เคยเก่งมาก ถ้าอยู่ในที่ที่ไม่เก่งเท่าเดิม บางคนก็เฟลล์ กรรมการสอบสัมภาษณ์เลยลองสมมติเหตุการณ์ ขอให้น้องตอบตามความรู้สึกค่ะ ถ้าน้องคิดว่ากดดัน แต่อย่าลืมว่า ต้องเติมประโยคคำถามให้ดูเหมาะสมด้วย เช่น “ผมคิดว่าต้องกดดันแน่นอนครับ แต่ผมมีความพยายาม ความตั้งใจและใฝ่ฝันจะเรียนหมอ ยังไงผมก็เชื่อว่าตัวเองจะสามารถผ่านความกดดันนั้นไปได้ครับ” หรือ “หนูไม่กดดันค่ะ เพราะการมีคนเก่งมารวมกันทำให้หนูอยากจะพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นด้วยค่ะ”

     
  1. ตอนเข้ามาเกรดเยอะ ถ้าเข้ามาเรียน เกรดลด จะทำใจได้รึเปล่า

         ถ้าเกรดน้องๆ ที่เข้ามาเยอะมากกกกก แต่การเรียนหมอเนี่ยไม่ง่าย น้องอาจจะเจอเกรดที่ทำให้เกิดอาการหวีดร้องได้ น้องจะไหวหรือเปล่า ขอให้ตั้งสติอีกเช่นกัน เพราะการแสดงสีหน้าช็อกๆอาจทำให้กรรมการประเมินน้องไปอีกแบบนึงเลยนะ
         ขอให้น้องๆ พูดจากความรู้สึก ถ้าน้องรับได้ก้บอกไปเลยค่ะว่า “หนูคิดว่าหนูทำใจได้คะ เพราะจากที่คุยกับรุ่นพี่หลายๆ คนก็เคยบอกเอาไว้เหมือนกัน แต่ก็จะพยายามเต็มที่ค่ะถึงเกรดจะลดหนูก็ตั้งใจต่อไป” หรือ “ผมคิดว่าผมรับไมได้ครับ แต่ผมก็จะไม่ท้อ ผมเลือกแล้วว่าจะทำอาชีพนี้ ผมก็จะทำให้สำเร็จ เอาความผิดพลาดมาเป็นบทเรียนครับ”

     
  1. คุณเลือก .... อันดับ 1 นี่ แล้วคุณจะมาเรียนที่เราทำไม คุณไม่ไปเรียนที่คุณเลือกไว้อันดับ 1

        ในกรณีที่น้องๆ ไม่ติดคณะที่เลือกเป็นอันดับ 1 แต่ไม่ติดในอันดับ1 ขอให้น้องๆ ยิ้ม และตอบกรรมการในคำถามนี้ให้ชัดเจนเลยว่า น้องภูมิใจแค่ไหนที่สามารถสอบติดได้ที่นี่ และดีใจแค่ไหนที่สอบติดคณะในฝันของตัวเอง เช่น “ผมดีใจมากครับที่สามารถสอบติดได้ที่นี่ ถึงแม้จะไม่ใช่อันดับ 1 ที่ผมเลือก แต่ทุกอันดับที่ผมเลือกคือคณะอันดับ 1 ที่ผมใฝ่ฝัน และผมก็ภูมิใจมากจริงๆ ที่มีโอกาสได้เข้ามาเรียนที่นี่” หรือ “หนูอาจจะไม่ติดในคณะอันดับ 1 แต่ทุกคณะที่หนูยื่น หนูตั้งใจที่จะเรียนจริงๆ ค่ะ” แค่นี้ก้เรียกรอยยิ้มจากกรรมการสอบสัมภาษณ์ได้แล้วค่ะ เพราะได้แสดงให้ท่านรู้ว่า น้องเคารพและให้เกียรติที่นี่ไม่น้อยกว่าอันดับ 1 ที่น้องเลือกไว้
     
  1. คิดว่าคุณจะทำตามระเบียบคณะได้มั้ย

         แน่นอนว่าการเป็นหมอไม่ได้มีเฉพาะความรู้ แต่ข้อบังคับ หรือข้อควรปฏิบัติก็มีเช่นกัน ดังนั้น การเข้ามาอยู่ในกฏระเบียบที่อาจจะแตกต่างกับคณะหรือวิชาชีพอื่นๆ อาจจะทำให้น้องๆ อึดอัดหรือไม่ชอบใจ คณะกรรมการสัมภาษณ์อยากให้น้องๆ ได้คิดนั่นเองค่ะถึงถามคำถามนี้ น้องๆ ควรมั่นใจในคำตอบ เช่น “ทำได้แน่นอนครับ/ค่ะ” โดยอาจจะเสริมความมั่นใจในคำตอบโดยให้เหตุผลไปด้วยนั่นเองค่ะ เช่น “หนูได้เข้ามาคณะนี้แล้ว หนูก็จะเคารพและปฏิบัติตามกฏคณะแน่นอน เพราะหนูตั้งใจที่จะเข้ามาที่นี่จริงๆ”


     
  1. มีอุปสรรคในการเรียนอะไรบ้างที่กังวล

         หมอ ไม่ได้เรียนกันง่ายๆ คณะกรรมการคุมสอบท่านก็เป็นห่วงน้องๆ เช่นกัน อาจจะเป็นการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาต่อไป พี่เมษ์แนะนำว่าให้น้องๆ “สร้างข้อกังวลที่มีผลเป็นบวก” ,,, มันคือ ข้อกังวลที่ทำให้ดูดีแต่ดูจริงนั่นเองค่ะ เช่น “สิ่งที่ผมกังวลคือ ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือซ้ำๆ ซึ่งถ้าเข้ามาเรียนแล้ว ผมจะพยายามแบ่งเวลาให้เหมาะมากขึ้น” ตอบแบบนี้ หล่อเลยนะ 5555 หรือ “หนูมักจะมีคำถามทุกครั้งหลังจากที่ได้เรียนอะไรไป อาจจะต้องขอคำแนะนำจากอาจารย์นอกห้องเรียนบ่อยขึ้นนะคะ” อื้อหืออออ สวยยยยยมากเลย

     
  1. มีอะไรจะถามเพิ่มเติมหรือเปล่า

         ถ้าน้องๆ มีคำถามก็ควรถามค่ะ แต่ต้องพิจารณาคำถามด้วยนะคะ ว่าอย่าปล่อยไก่ ทำดีมาทั้งหมด มาตกม้าตายคำถามสุดท้ายละแย่เลย อาจจะถามจากข้อมูลที่มีเบื้องต้นเช่น “หนูทราบมาว่าทางคณะมีโครงการจิตอาสา ออกไปตามชนบท หนูจะมีวิธีอย่างไรบ้างถึงจะร่วมกิจกรรมได้” นอกจากจะแสดงให้กรรมการทราบว่าน้องใส่ใจข้อมูลของคณะแล้ว น้องยังสนใจการทำกิจกรรมเพื่อสังคมด้วยนะ หรือ ถ้าน้องๆ ไม่มีคำถามจริงๆ อาจจะตอบว่า “ยังไม่มีครับ แต่ผมคิดว่าหากเข้ามาเรียนที่นี่แล้ว ผมอาจจะมีคำถามที่ต้องรบกวนอาจารย์ทุกท่านอีกมากครับ” เป็นการแสดงให้กรรมการทราบว่าน้องจะใส่ใจตลอดการเรียนที่นี่นั่นเองคะ


 
     พี่เมษ์ว่า “10 คำถามที่เจอแน่ ตอนสอบสัมภาษณ์ คณะแพทย์และทันตแพทย์” ที่พี่เมษ์ได้เตรียมทั้งคำถาม แนวคำตอบและการเตรียมตัวมาให้น้องๆ น่าจะพอช่วยให้น้องๆ เบาใจในการสอบสัมภาษณ์และช่วยให้น้องๆ เตรียมตัวได้ง่ายมากขึ้นแล้วนะคะ
     อย่าลืมว่าการเตรียมตัวเป็นสิ่งสำคัญ น้องๆ ควรอ่านประวัติและหลักสูตรของสถาบันที่น้องติดด้วยจะเพิ่มความั่นใจให้มากขึ้น ที่สำคัญการสร้าง First Impression ก็สำคัญไม่ต่างกัน สายตา บุคลิก ท่าทาง การแต่งกาย มารยาท ต้องระวังและทำให้ตัวเองดูดีที่สุดด้วย และขอให้น้องๆ มีสติ มีความเชื่อมั่นในตัวเอง และตอบอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เครียดหรือกังวลมากไปจนสติหลุด ตอบไม่รู้เรื่องแค่นั้นเพียงพอแล้วค่ะ

     สำหรับน้องที่มีคำถามอื่นๆ ที่คิดว่าน่าเจอตอนสัมภาษณ์ หรือพี่ๆที่มีประสบการณ์ก็อย่าลืมแวะมาบอก มาแชร์กันในคอมเม้นท์ได้เลย ,,,  ที่สำคัญต้องขอบคุณ น้องเอ๋ย นทพ.ณัฐพร สุทธิสว่างวงศ์ กัปตันแบรนด์แอดมิชชั่นเรียลลิตี้ 4 และ พี่กุง พญ.ประภาพร เทียนอำพร สำหรับแนวคำถาม คำตอบ และก็ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก พี่แหวน ภญ. ดาลัด วโรภาสตระกูล และ พี่อาร์ม นพ.ปณิธาน ปิยะไกวัล สำหรับข้อมูลอื่นๆ ด้วยนะคะ

 
พี่เมษ์
พี่เมษ์ - Columnist คอลัมนิสต์ฝ่ายการศึกษา

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

เเค่ติดหมอ 15 มี.ค. 57 11:25 น. 5
ตอบข้อ1 ทำไมถึงอยากเป็นหมอ : ก็ผมเก่ง 2 ก็ผมเก่ง 3 ก็ผมเก่ง 4 เกรดกากมอปลาย เเต่ผมสอบติดจุฬา ดีกว่าเกรด4บางที่สอบไม่ติดไรเลย 5 ไม่เห็นจะยาก เพราะผมเก่ง 6 จบมอหกเกรดเฉลี่ย ไม่ถึง3 คิดไรมาก เดะเข้าเทอมเเรกก็เห็นว่าเกิน3.5 เเน่ๆ 7 ก็เลือกอันดับ1จุฬาไง 8 ได้ครับ 9 เรียนชีวะไม่เก่งครับ 10 จารย์รับผมไหมครับ ผมเก่งครับ
7
กำลังโหลด
ชายนิรนาม 15 มี.ค. 57 07:16 น. 4
ฝากถึงน้องๆที่ติดพระมงกุฏนะคับ จะมีอีก1คำถามหลักที่ที่อื่นไม่มีอย่างแน่นอน และต้องโดนถามทุกคน"รู้ไหมที่นี่มีฝึกทหาร แล้วคิดว่าจะทนสภาพแวดล้อมแบบนี้ได้หรือไม่ ฝึกไปเรียนไปด้วยจะไหวหรอ" น้องๆอาจจะลังเลในคำตอบ แต่ขอให้มีความเชื่อมั่นในตัวเองนะคับ....เยี่ยม
1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ลิขิตรา 17 มี.ค. 57 16:26 น. 9
จริงๆจะฝากบอกว่าตอบให้เป็นธรรมชาติ และเป็นตัวเองที่สุดค่ะ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยตกสัมภาษณ์ เว้นแต่แปลกจริงๆ เพราะฉะนั้นเชื่อมั่นในตัวเอง แสดงความเป็นตัวเองออกมาอย่างตรงไปตรงมา แต่รู้กาลเทศะและมีมารยาท บางที่มีจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยาคลินิคร่วมสัมภาษณ์ด้วย เขามองออกแน่นอนถ้าน้องโกหก บางคำถามอาจทำร้ายจิตใจ ค่อยๆคิดตั้งสติก่อนสตาร์ต สูดหายใจเข้า 1 เฮือก โปรยยิ้มแล้วคิดหาคำตอบที่เป็นตัวเราที่สุด ตัวอย่างเบาๆ...ที่พี่โดน "ชีวิตน้องดูเหมือนจะดีมากเลยนะ เคยผิดหวังอะไรไหม ?" บางครั้งเขาก็ไม่ได้ต้องการคนที่สำเร็จทุกอย่าง แต่อยากได้คนที่สามารถจัดการกับความไม่สำเร็จได้ ไม่จำเป็นต้องโลกสวย แต่บางทีต้องเข้าใจโลก และเข้าใจตัวเอง เป็นกำลังใจให้ค่ะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

16 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
้้้นนนนนน 14 มี.ค. 57 20:38 น. 3
อ่านตัวอย่างคำตอบจแล้ว รู้สึกโลกสวย ยังไงๆก็ไม่รู้ หนูจะตั้งใจ หนูจะพยายาม ให้ถึงที่สุด ความเห็นส่วนตัวนะ เอ่อ..
0
กำลังโหลด
ชายนิรนาม 15 มี.ค. 57 07:16 น. 4
ฝากถึงน้องๆที่ติดพระมงกุฏนะคับ จะมีอีก1คำถามหลักที่ที่อื่นไม่มีอย่างแน่นอน และต้องโดนถามทุกคน"รู้ไหมที่นี่มีฝึกทหาร แล้วคิดว่าจะทนสภาพแวดล้อมแบบนี้ได้หรือไม่ ฝึกไปเรียนไปด้วยจะไหวหรอ" น้องๆอาจจะลังเลในคำตอบ แต่ขอให้มีความเชื่อมั่นในตัวเองนะคับ....เยี่ยม
1
กำลังโหลด
เเค่ติดหมอ 15 มี.ค. 57 11:25 น. 5
ตอบข้อ1 ทำไมถึงอยากเป็นหมอ : ก็ผมเก่ง 2 ก็ผมเก่ง 3 ก็ผมเก่ง 4 เกรดกากมอปลาย เเต่ผมสอบติดจุฬา ดีกว่าเกรด4บางที่สอบไม่ติดไรเลย 5 ไม่เห็นจะยาก เพราะผมเก่ง 6 จบมอหกเกรดเฉลี่ย ไม่ถึง3 คิดไรมาก เดะเข้าเทอมเเรกก็เห็นว่าเกิน3.5 เเน่ๆ 7 ก็เลือกอันดับ1จุฬาไง 8 ได้ครับ 9 เรียนชีวะไม่เก่งครับ 10 จารย์รับผมไหมครับ ผมเก่งครับ
7
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ลิขิตรา 17 มี.ค. 57 16:26 น. 9
จริงๆจะฝากบอกว่าตอบให้เป็นธรรมชาติ และเป็นตัวเองที่สุดค่ะ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยตกสัมภาษณ์ เว้นแต่แปลกจริงๆ เพราะฉะนั้นเชื่อมั่นในตัวเอง แสดงความเป็นตัวเองออกมาอย่างตรงไปตรงมา แต่รู้กาลเทศะและมีมารยาท บางที่มีจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยาคลินิคร่วมสัมภาษณ์ด้วย เขามองออกแน่นอนถ้าน้องโกหก บางคำถามอาจทำร้ายจิตใจ ค่อยๆคิดตั้งสติก่อนสตาร์ต สูดหายใจเข้า 1 เฮือก โปรยยิ้มแล้วคิดหาคำตอบที่เป็นตัวเราที่สุด ตัวอย่างเบาๆ...ที่พี่โดน "ชีวิตน้องดูเหมือนจะดีมากเลยนะ เคยผิดหวังอะไรไหม ?" บางครั้งเขาก็ไม่ได้ต้องการคนที่สำเร็จทุกอย่าง แต่อยากได้คนที่สามารถจัดการกับความไม่สำเร็จได้ ไม่จำเป็นต้องโลกสวย แต่บางทีต้องเข้าใจโลก และเข้าใจตัวเอง เป็นกำลังใจให้ค่ะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ไอติมมะม่วงอร่อยมาก 17 มี.ค. 57 19:49 น. 13
ที่เคยเจอก็มีอย่างที่กระทู้เขียน กับคำถามพวกข่าวปัจจุบัน จริงๆสอบสัมภาษณ์ไม่ค่อยมีอะไร คำตอบไม่ต้องสวยหรู หรือคิดมากเลย แค่อย่าตอบ หรือทำบุคลิกแปลกๆก็พอแล้ว
0
กำลังโหลด
Guh2o Member 28 มี.ค. 57 20:42 น. 14

ขอแค่น้องๆเป็นคนปกติ ไม่ทำตัวประหลาดๆเค้าก็รับน้องเข้าแล้วล่ะ อย่าไปพูดจาแปลกๆละกัน เค้าจะจับไปสัมพาษย์กะหมอจิตเวชอีกรอบถ้าทำตัวประหลาด บอกไว้เลย คำถามไม่มีไรหรอก มาจากไหน คะแนนเป็น ใครได้ออสการ์ปีนี้(ถามทำไมมมมม) เค้าก็ทดสอบว่าจิตใจเราปกติเปล่าเท่านั้นแหละ ตราบใดที่น้ิงๆไม่ไปตอบว่า งานอดิเรกชอบคุยกับต้นไม้ ยังไงก็ผ่านฉลุย

0
กำลังโหลด
Nocebo-[D] Member 30 มี.ค. 57 08:07 น. 15

ในการสัมภาษณ์ เค้าแค่อยากจะรู้จักตัวตนเราให้มากขึ้นเท่านั้นเอง ทำไมเราต้องไปพยายาม fake ตัวเอง หาคำตอบออกมาให้ดูดี ทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่ตัวตนของเราเลยสักนิด

คนที่เค้ามาสัมภาษณ์เค้าดูออกนะว่าใครจริง ใครไม่จริง

เป็นตัวของตัวเองดีที่สุด คอนเฟิร์ม !!

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด