สวัสดีน้องๆ Dek-D ที่น่ารักทุกคนนะคะ ว่ากันว่าเมื่อต้องย้ายไปอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ สถานที่ใหม่ๆ สกิลการเอาตัวรอดคือสิ่งสำคัญที่สุด! การเปลี่ยนผ่านจากมัธยมฯเข้าสู่มหา'ลัยก็เช่นเดียวกัน จำเป็นต้องมีทักษะพิเศษเพื่อความอยู่รอดและความรุ่งเรืองของชีวิต!!
วันนี้พี่เมก้าเลยตั้งใจพาน้องๆ มาดู 10 สกิลพิเศษที่เฟรชชี่ต้องมี! ไม่แน่ว่าทักษะที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น อาจเป็นความเชี่ยวชาญที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวเรามานานแล้วก็ได้ ขอยืนยันว่าทุกสกิล พี่ผ่านมาหมดแล้ว (แถมทำได้ไม่ดีสักอย่าง -_-' ล้อเล่นค่ะ) ดีไม่ดีมีติดตัวไว้ก่อนก็ไม่เสียหายเนอะ
1. สกิลเดินเร็วติดจรวด
เริ่มต้นด้วยสกิลที่คล้ายกับจะเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่บอกเลยว่าไม่ค่ะ อยู่มหา'ลัยน้องๆ ต้องมีความกระฉับกระเฉงว่องไวเป็นพิเศษ เพราะแต่ละวันเราต้องทำภารกิจมาเยอะมาก สำหรับน้องเฟรชชี่ที่ค่อนข้างเดินช้าเหมือนพี่เมก้า ไม่ต้องกลัวเลยนะคะ เข้าปีหนึ่งไปเดี๋ยวก็เดินเร็วขึ้นเอง น้องๆ จะได้ยินประโยคนี้จนเคยชินเวลาเข้ากิจกรรม "เดินเร็วค่ะน้อง ให้ไวค่ะ ก้าวยาวๆ เลย วิ่งได้วิ่ง" คือนาทีนี้ปั่นเท้าจนขาแทบจะพันกันแล้วค่ะพี่ ยิ่งขึ้นปีสูงยิ่งเดินเร็วติดจรวดเลย
ตอนปี1 พี่เมก้าจำได้ว่ามีช่วงเวลาที่เดินเรียนบ่อยมาก เรียน 2 ชั่วโมงเปลี่ยนคาบ แล้วไม่ได้เปลี่ยนแค่ห้องนะคะ เปลี่ยนตึกด้วยค่ะ จากตึกหน้ามหาวิทยาลัยไปหลังมหาวิทยาลัย แล้ววิ่งมันก็จะเหนื่อยเกินไป ช่วงหลังเลยเปลี่ยนเป็นเดินเร็วแทน ทำให้เหนื่อยน้อยลง...มั้ง? เดินเร็วบนทางราบนี่ยังชิลล์นะคะ มาเจอเดินเร็วตอนขึ้นบันได 3-4 ชั้นนี่สิ โอ้โห! เพลียแรง
2. สกิลขี่จักรยานให้เป็น
การขี่จักรยานเรียกได้ว่าเป็นสกิลพิเศษสำหรับน้องเฟรชชี่จริงๆ ยิ่งกับมหา'ลัยที่มีอาณาเขตกว้างเหมือนเป็นจังหวัดของตัวเอง ยิ่งจำเป็นมากเลย จำเป็นแค่ไหน ก็ถึงขนาดที่ว่าเปิดร้านให้เช่าจักรยานแล้วไม่มีเหลือสักคัน คือเจ้ายานพาหนะนี้ทำให้เราสะดวกเวลาไปไหนมาไหนค่ะ ไม่ต้องยืนตากแดดง้อรถราง ไม่ต้องโบกพี่วินที่นานๆ จะแว้นมาสักทีให้เปลืองเงินด้วย
ยิ่งตึกเรียนของบางมหา'ลัยอยู่ไกลกันเป็นกิโล แค่คิดว่าจะเดินยังไงให้ทันเช็กชื่อเข้าเรียนก็ถอนหายใจแล้วค่ะ ลองฝึกสกิลดูก่อน ขี่จักรยานไม่ยากอย่างที่คิดนะคะ เผลอๆ น้องอาจจะติดใจปั่นกันจนกล้ามขาขึ้นน่องปูดไปเลยก็ได้ กรณีที่เหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ พี่เมก้าแนะนำให้หาคนมาขี่แล้วเราซ้อนท้ายค่ะ วี้ดวิ้ว~~~ (เป่าปากทำไมอะ ^W^)
3. สกิลคิดเร็วเขียนไว
สกิลนี้เป็นอะไรที่พี่เมก้ารู้สึกว่าสมองเราเต้นตุบๆ เลยค่ะ ท้าทายศักยภาพสุดๆ หากตอนมัธยมฯน้องๆ ไม่เคยฟังอาจารย์ คิดตาม แล้วมือจดยิกๆ พร้อมกันไปด้วย เข้ามหา'ลัยได้เจอแน่นอน! ช่วงปรับตัวตอนแรกๆ บอกเลยว่ามึนค่ะ ออกจากห้องเรียนแบบงงๆ ทุกคลาส แต่พอมาช่วงหลังๆ ก็รู้ว่าแค่จดเนื้อหาในสไลด์ให้เร็วมันไม่พอ ต้องพยายามคิดตามให้ทันด้วย มันก็ยิ่งยากเลย ไม่มีเพื่อนคนไหนกล้ายืมสมุดเลคเชอร์ของพี่เมก้าเลยค่ะ คงไม่ต้องบอกนะว่าทำไม
1. สกิลเดินเร็วติดจรวด
เริ่มต้นด้วยสกิลที่คล้ายกับจะเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่บอกเลยว่าไม่ค่ะ อยู่มหา'ลัยน้องๆ ต้องมีความกระฉับกระเฉงว่องไวเป็นพิเศษ เพราะแต่ละวันเราต้องทำภารกิจมาเยอะมาก สำหรับน้องเฟรชชี่ที่ค่อนข้างเดินช้าเหมือนพี่เมก้า ไม่ต้องกลัวเลยนะคะ เข้าปีหนึ่งไปเดี๋ยวก็เดินเร็วขึ้นเอง น้องๆ จะได้ยินประโยคนี้จนเคยชินเวลาเข้ากิจกรรม "เดินเร็วค่ะน้อง ให้ไวค่ะ ก้าวยาวๆ เลย วิ่งได้วิ่ง" คือนาทีนี้ปั่นเท้าจนขาแทบจะพันกันแล้วค่ะพี่ ยิ่งขึ้นปีสูงยิ่งเดินเร็วติดจรวดเลย
ตอนปี1 พี่เมก้าจำได้ว่ามีช่วงเวลาที่เดินเรียนบ่อยมาก เรียน 2 ชั่วโมงเปลี่ยนคาบ แล้วไม่ได้เปลี่ยนแค่ห้องนะคะ เปลี่ยนตึกด้วยค่ะ จากตึกหน้ามหาวิทยาลัยไปหลังมหาวิทยาลัย แล้ววิ่งมันก็จะเหนื่อยเกินไป ช่วงหลังเลยเปลี่ยนเป็นเดินเร็วแทน ทำให้เหนื่อยน้อยลง...มั้ง? เดินเร็วบนทางราบนี่ยังชิลล์นะคะ มาเจอเดินเร็วตอนขึ้นบันได 3-4 ชั้นนี่สิ โอ้โห! เพลียแรง
2. สกิลขี่จักรยานให้เป็น
การขี่จักรยานเรียกได้ว่าเป็นสกิลพิเศษสำหรับน้องเฟรชชี่จริงๆ ยิ่งกับมหา'ลัยที่มีอาณาเขตกว้างเหมือนเป็นจังหวัดของตัวเอง ยิ่งจำเป็นมากเลย จำเป็นแค่ไหน ก็ถึงขนาดที่ว่าเปิดร้านให้เช่าจักรยานแล้วไม่มีเหลือสักคัน คือเจ้ายานพาหนะนี้ทำให้เราสะดวกเวลาไปไหนมาไหนค่ะ ไม่ต้องยืนตากแดดง้อรถราง ไม่ต้องโบกพี่วินที่นานๆ จะแว้นมาสักทีให้เปลืองเงินด้วย
ยิ่งตึกเรียนของบางมหา'ลัยอยู่ไกลกันเป็นกิโล แค่คิดว่าจะเดินยังไงให้ทันเช็กชื่อเข้าเรียนก็ถอนหายใจแล้วค่ะ ลองฝึกสกิลดูก่อน ขี่จักรยานไม่ยากอย่างที่คิดนะคะ เผลอๆ น้องอาจจะติดใจปั่นกันจนกล้ามขาขึ้นน่องปูดไปเลยก็ได้ กรณีที่เหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ พี่เมก้าแนะนำให้หาคนมาขี่แล้วเราซ้อนท้ายค่ะ วี้ดวิ้ว~~~ (เป่าปากทำไมอะ ^W^)
3. สกิลคิดเร็วเขียนไว
สกิลนี้เป็นอะไรที่พี่เมก้ารู้สึกว่าสมองเราเต้นตุบๆ เลยค่ะ ท้าทายศักยภาพสุดๆ หากตอนมัธยมฯน้องๆ ไม่เคยฟังอาจารย์ คิดตาม แล้วมือจดยิกๆ พร้อมกันไปด้วย เข้ามหา'ลัยได้เจอแน่นอน! ช่วงปรับตัวตอนแรกๆ บอกเลยว่ามึนค่ะ ออกจากห้องเรียนแบบงงๆ ทุกคลาส แต่พอมาช่วงหลังๆ ก็รู้ว่าแค่จดเนื้อหาในสไลด์ให้เร็วมันไม่พอ ต้องพยายามคิดตามให้ทันด้วย มันก็ยิ่งยากเลย ไม่มีเพื่อนคนไหนกล้ายืมสมุดเลคเชอร์ของพี่เมก้าเลยค่ะ คงไม่ต้องบอกนะว่าทำไม
นอกจากสกิลนี้จะได้ใช้ในห้องเรียนแล้ว ยังใช้ตอนสอบด้วย น้องๆ จะได้เจอข้อสอบเขียนสุดโหด ที่ทำให้เราต้องใช้สมองคิดหาคำตอบที่ดีพร้อมกับปั่นมือเขียนไปด้วยให้ทันเวลา เพื่อนพี่เมก้าเคยเขียน 3 ชั่วโมง 20 หน้ากระดาษ A4 มีใครให้มากกว่านี้มั้ยคะ?
4. สกิลมนุษย์ค้างคาว
มนุษย์ค้างคาวคือมนุษย์ที่ตาสว่างตอนกลางคืนแล้วมาหลับตอนเช้าค่ะ ฟังดูไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่เนอะ แต่ก็ต้องยอมรับว่านี่เป็นวงเวียนชีวิตของนิสิตนักศึกษาส่วนใหญ่เลย เพราะภารกิจเราเยอะมาก~~~ ไหนจะกิจกรรม ไหนจะรายงาน ยิ่งช่วงสอบยิ่งหนักเลยค่ะ แบ่งเวลามาอ่านหนังสือแทบไม่ถูกเลย คือถ้ามีเรียนบ่ายหรือสอบบ่ายก็โชคดีไปค่ะ จะตื่นตลอดคืนมาหลับตอนเช้าก็ไม่มีใครว่า แต่ถ้ามีเรียนมีสอบทั้งเช้าบ่าย วันนั้นความซวยจะต้องถูกจารึก เพราะสมองเราจะเออเร่อง่วงงุนไปตลอดวันนั่นเอง
ในเมื่อความจำเป็นบังคับขนาดนี้ วิธีรับมือของพี่เมก้าก็คือทำใจและฟิตร่างกายให้พร้อมค่ะ จะมาอ่อนแอก็แพ้ไปไม่ได้ เราต้องอึด ถึก ทน น้องๆ อาจจะอาศัยงีบหลับก่อนเข้าเรียน หรือถ้าใครมาเรียนเองก็หลับบนรถเลยค่ะ อย่านอนในห้องเรียนเด็ดขาด เดี๋ยวจะเจอไม้เรียว - -!! ที่สำคัญอย่าเผลอหลับจนเลยป้ายนะคะ
5. สกิลความจำเลิศเหมือนนกพิราบ
ต้องเปรียบกับนกพิราบ เพราะน้องนกเค้าความจำดีมากเลยค่ะ พี่เมก้านี่ไม่ขออะไรเลย ขอแค่ความจำดีเป็นครึ่งหนึ่งของน้องนกพิราบก็ยังดี (- -') คือชีวิตเฟรชชี่ปี 1 จะขลุกขลักนิดหน่อย ถ้าเราเป็นพวกความจำปลาทองน่ะค่ะ น้องๆ ต้องจำอะไรเยอะแยะมาก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่สำคัญๆ เส้นทางไปตึกเรียน ห้องเรียน โรงอาหาร หอสมุด หอพัก ฯลฯ (อย่าพูดไป พื้นที่มหา'ลัยนั้นกว้างใหญ่กว่าโรงเรียนเรามากนะคะ)
นอกจากนี้ยังต้องจำชื่ออาจารย์ ชื่อเพื่อน ชื่อกลุ่มเรียน ฯลฯ บางคนเรียนจบมาเป็นเทอมยังเรียกชื่ออาจารย์ผิดๆ ถูกๆ อยู่เลยค่ะ TT__TT เรื่องพื้นที่ความจำในสมองเป็นสิ่งสำคัญนะคะ ยิ่งช่วงสอบนี่สำคัญมาก ถ้าน้องๆ จำเนื้อหาบทเรียนได้แม่นจะเป็นประโยชน์มากเลยค่ะ อย่าลืมฟิตสมองให้ปึ๋งปั๋งเหมือนนกพิราบนะ ^^
6. สกิลลงทะเบียน #ไวคือชนะ
อาจมีแค่น้องใหม่บางคณะบางสถาบันเท่านั้น ที่ได้สัมผัสการลงทะเบียนเรียนแบบเด็กมหา'ลัยตั้งแต่เทอม 1 ส่วนใหญ่มักจะเจอของจริงในเทอม 2 ค่ะ มันคือสงครามที่ทุกคนต้องเอาตัวรอด! ต้องบอกว่าเรื่องลงทะเบียนเรียน เป็นอะไรที่เหนื่อยใจมากจริงๆ เหนื่อยแรกคือต้องอดตาหลับขับตานอนมานั่งรอระบบลงทะเบียน (ที่ชอบเปิดตอนเที่ยงคืน ไม่รู้ให้ใครลง O[]O!) เหนื่อยที่สองคือเปิดปุ๊บระบบล่มปั๊บ (เกิดวินาทีนรกเลย) เหนื่อยที่สามต้องใช้สกิล ลงให้ดี ลงให้ไว ถ้าทำได้ มีที่เรียน! แย่งชิงกันสุดๆ
4. สกิลมนุษย์ค้างคาว
มนุษย์ค้างคาวคือมนุษย์ที่ตาสว่างตอนกลางคืนแล้วมาหลับตอนเช้าค่ะ ฟังดูไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่เนอะ แต่ก็ต้องยอมรับว่านี่เป็นวงเวียนชีวิตของนิสิตนักศึกษาส่วนใหญ่เลย เพราะภารกิจเราเยอะมาก~~~ ไหนจะกิจกรรม ไหนจะรายงาน ยิ่งช่วงสอบยิ่งหนักเลยค่ะ แบ่งเวลามาอ่านหนังสือแทบไม่ถูกเลย คือถ้ามีเรียนบ่ายหรือสอบบ่ายก็โชคดีไปค่ะ จะตื่นตลอดคืนมาหลับตอนเช้าก็ไม่มีใครว่า แต่ถ้ามีเรียนมีสอบทั้งเช้าบ่าย วันนั้นความซวยจะต้องถูกจารึก เพราะสมองเราจะเออเร่อง่วงงุนไปตลอดวันนั่นเอง
ในเมื่อความจำเป็นบังคับขนาดนี้ วิธีรับมือของพี่เมก้าก็คือทำใจและฟิตร่างกายให้พร้อมค่ะ จะมาอ่อนแอก็แพ้ไปไม่ได้ เราต้องอึด ถึก ทน น้องๆ อาจจะอาศัยงีบหลับก่อนเข้าเรียน หรือถ้าใครมาเรียนเองก็หลับบนรถเลยค่ะ อย่านอนในห้องเรียนเด็ดขาด เดี๋ยวจะเจอไม้เรียว - -!! ที่สำคัญอย่าเผลอหลับจนเลยป้ายนะคะ
5. สกิลความจำเลิศเหมือนนกพิราบ
ต้องเปรียบกับนกพิราบ เพราะน้องนกเค้าความจำดีมากเลยค่ะ พี่เมก้านี่ไม่ขออะไรเลย ขอแค่ความจำดีเป็นครึ่งหนึ่งของน้องนกพิราบก็ยังดี (- -') คือชีวิตเฟรชชี่ปี 1 จะขลุกขลักนิดหน่อย ถ้าเราเป็นพวกความจำปลาทองน่ะค่ะ น้องๆ ต้องจำอะไรเยอะแยะมาก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่สำคัญๆ เส้นทางไปตึกเรียน ห้องเรียน โรงอาหาร หอสมุด หอพัก ฯลฯ (อย่าพูดไป พื้นที่มหา'ลัยนั้นกว้างใหญ่กว่าโรงเรียนเรามากนะคะ)
นอกจากนี้ยังต้องจำชื่ออาจารย์ ชื่อเพื่อน ชื่อกลุ่มเรียน ฯลฯ บางคนเรียนจบมาเป็นเทอมยังเรียกชื่ออาจารย์ผิดๆ ถูกๆ อยู่เลยค่ะ TT__TT เรื่องพื้นที่ความจำในสมองเป็นสิ่งสำคัญนะคะ ยิ่งช่วงสอบนี่สำคัญมาก ถ้าน้องๆ จำเนื้อหาบทเรียนได้แม่นจะเป็นประโยชน์มากเลยค่ะ อย่าลืมฟิตสมองให้ปึ๋งปั๋งเหมือนนกพิราบนะ ^^
6. สกิลลงทะเบียน #ไวคือชนะ
อาจมีแค่น้องใหม่บางคณะบางสถาบันเท่านั้น ที่ได้สัมผัสการลงทะเบียนเรียนแบบเด็กมหา'ลัยตั้งแต่เทอม 1 ส่วนใหญ่มักจะเจอของจริงในเทอม 2 ค่ะ มันคือสงครามที่ทุกคนต้องเอาตัวรอด! ต้องบอกว่าเรื่องลงทะเบียนเรียน เป็นอะไรที่เหนื่อยใจมากจริงๆ เหนื่อยแรกคือต้องอดตาหลับขับตานอนมานั่งรอระบบลงทะเบียน (ที่ชอบเปิดตอนเที่ยงคืน ไม่รู้ให้ใครลง O[]O!) เหนื่อยที่สองคือเปิดปุ๊บระบบล่มปั๊บ (เกิดวินาทีนรกเลย) เหนื่อยที่สามต้องใช้สกิล ลงให้ดี ลงให้ไว ถ้าทำได้ มีที่เรียน! แย่งชิงกันสุดๆ
ถ้าไม่อยากนก ก็เช็กความเร็วเน็ตให้ดีค่ะ คนที่แพ้ต้องดูแลตัวเองนะ (^^'' ยิ้มอ่อน) นอกจากสกิลลงทะเบียนต้องเลิศแล้ว พี่เมก้าขอฝากให้น้องๆ ผูกมิตรกับพี่ๆ ฝ่ายทะเบียนไว้ด้วยค่ะ ส่วนใหญ่เวลาติดต่อทุกคนมักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเงิบตลอด โดนจิกบ้าง โหดใส่บ้าง พูดกับพี่เค้าเพราะๆ ยิ้มหวานๆ ความจริงพี่เค้าใจดีค่ะ
7. สกิลอาบน้ำเย็นหน้าหนาว~~~
สกิลนี้พิเศษมาก มีเพียงเฟรชชี่ไม่กี่มหา'ลัยเท่านั้นที่ต้องใช้สกิลนี้ เพราะปีนึงลมหนาวมักจะแวะผ่านแค่เพียงชั่วอึดใจ อาจไม่เกิน 1 สัปดาห์ แต่เป็นสัปดาห์นรกเลยก็ว่าได้ บางคนถึงขั้นไม่ยอมอาบน้ำ เพราะน้ำมันเย็นมาก อย่างพี่เมก้าอาบเร็วจนเมทถามว่า นี่อาบน้ำแล้วเหรอ? ถ้าไม่มีสกิลนี้ น้องจะทำได้แค่ไปยืนจ้องฝักบัว น้ำไหลออกมาอาจช็อกตายได้ แล้วหอในจะมีเครื่องทำน้ำอุ่นสักกี่ที่กัน ไม่มี้ไม่มี ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ไม่ต้องอาบค่ะ อาศัยเช็ดตัวเอา
แต่ถ้าวันไหนทนความเน่าหนอนของตัวเองไม่ได้จริงๆ ก็ต้องอาศัยสกิลเด็ดๆ เช่น กลั้นหายใจเอาน้ำรดแขนรดขาก่อน ให้ร่างกายได้ปรับสภาพสักพัก แล้วค่อยรอรับน้ำซู่ใหญ่ที่อาจจะเย็นไปถึงลำไส้ (เว่อร์ตลอด =__=') ไม่ก็หาวิธีระบายความหนาว อาบไปว้ากไปอะไรแบบนี้ แต่ระวังเพื่อนข้างห้องตกใจนะคะ
8. สกิลแต่งหน้า 5 นาที
กระแสความงามกำลังมาแรง เราก็ต้องดูแลตัวเองกันสักนิดนึงค่ะ เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แค่น้องผู้หญิงที่แต่งหน้ามาเรียนแล้ว ชายแท้ก็ลุกมาเมคโอเวอร์ได้ ไม่ต้องกลัวคนมองว่าแปลกนะคะนเดี๋ยวนี้ผู้ชายแมนๆ เตะบอลครับ ก่อนออกจากหอก็มีทาครีมกันแดด ลงบีบี เขียนคิ้ว ทาลิปมันบางๆ เหมือนกันค่ะ สิ่งที่สำคัญพอๆ กับการแต่งหน้ายังไงไม่ให้หน้าเทา ก็คือแต่งหน้ายังไงให้ทันเข้าเรียนนี่สิ พี่เมก้าเชื่อว่าน้องๆ เฟรชชี่หลายคนสามารถเก็บสกิลพิเศษนี้ได้แน่นอน แต่งหน้า 5 นาที!
สกิลนี้มักจะถูกปลุกขึ้นมาใช้เวลาตื่นสายค่ะ รู้หรอกว่าถ้าช้ากว่านี้ไปเรียนไม่ทันแน่ แต่ไม่แต่งก็ไม่ได้ เราเลยต้องใช้ความว่องไวเปลี่ยนซากให้เป็นคน O_o? บางคนเชี่ยวมาก แค่ 5 นาทีก็ออกมาหน้าฟรุ้งฟริ้งสวยใสสไตล์เกาหลีแล้ว อย่างพี่เมก้าก็ไวเหมือนกันค่ะ โปะครีมกันแดดกับแป้งกระป๋อง 1 นาที ออกจากห้องได้เลย
9. สกิลแม่บ้านแม่เรือน
นี่เป็นสกิลพิเศษสำหรับเฟรชชี่เด็กหอเลยค่ะ ใครมีความเป็นแม่ศรีเรือนอยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงเลย น้องๆ เอาตัวรอดได้แน่นอน แต่ถ้าน้องคนไหนอยู่บ้านไม่เคยทำ ไม่อยากทำ งานนี้อาจต้องมีสวมวิญญาณแม่บ้านแม่เรือนกันบ้างล่ะ เพราะอยู่หอเราต้องดูแลตัวเองค่ะ ไม่มีใครมาทำให้เราหรอกนะคะ หรือมีใครหมายมั่นปั้นมือว่าจะให้รูมเมททำบ้าง TTOTT สงสารเพื่อนร่วมห้องตาดำๆ จริงๆ สารภาพตามตรงว่าตอนแรกพี่เมก้าก็แอบคิดค่ะ แต่พอมานั่งคิดนอนคิดดูอีกทีของแบบนี้มันฝึกกันได้นี่นา
7. สกิลอาบน้ำเย็นหน้าหนาว~~~
สกิลนี้พิเศษมาก มีเพียงเฟรชชี่ไม่กี่มหา'ลัยเท่านั้นที่ต้องใช้สกิลนี้ เพราะปีนึงลมหนาวมักจะแวะผ่านแค่เพียงชั่วอึดใจ อาจไม่เกิน 1 สัปดาห์ แต่เป็นสัปดาห์นรกเลยก็ว่าได้ บางคนถึงขั้นไม่ยอมอาบน้ำ เพราะน้ำมันเย็นมาก อย่างพี่เมก้าอาบเร็วจนเมทถามว่า นี่อาบน้ำแล้วเหรอ? ถ้าไม่มีสกิลนี้ น้องจะทำได้แค่ไปยืนจ้องฝักบัว น้ำไหลออกมาอาจช็อกตายได้ แล้วหอในจะมีเครื่องทำน้ำอุ่นสักกี่ที่กัน ไม่มี้ไม่มี ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ไม่ต้องอาบค่ะ อาศัยเช็ดตัวเอา
แต่ถ้าวันไหนทนความเน่าหนอนของตัวเองไม่ได้จริงๆ ก็ต้องอาศัยสกิลเด็ดๆ เช่น กลั้นหายใจเอาน้ำรดแขนรดขาก่อน ให้ร่างกายได้ปรับสภาพสักพัก แล้วค่อยรอรับน้ำซู่ใหญ่ที่อาจจะเย็นไปถึงลำไส้ (เว่อร์ตลอด =__=') ไม่ก็หาวิธีระบายความหนาว อาบไปว้ากไปอะไรแบบนี้ แต่ระวังเพื่อนข้างห้องตกใจนะคะ
8. สกิลแต่งหน้า 5 นาที
กระแสความงามกำลังมาแรง เราก็ต้องดูแลตัวเองกันสักนิดนึงค่ะ เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แค่น้องผู้หญิงที่แต่งหน้ามาเรียนแล้ว ชายแท้ก็ลุกมาเมคโอเวอร์ได้ ไม่ต้องกลัวคนมองว่าแปลกนะคะนเดี๋ยวนี้ผู้ชายแมนๆ เตะบอลครับ ก่อนออกจากหอก็มีทาครีมกันแดด ลงบีบี เขียนคิ้ว ทาลิปมันบางๆ เหมือนกันค่ะ สิ่งที่สำคัญพอๆ กับการแต่งหน้ายังไงไม่ให้หน้าเทา ก็คือแต่งหน้ายังไงให้ทันเข้าเรียนนี่สิ พี่เมก้าเชื่อว่าน้องๆ เฟรชชี่หลายคนสามารถเก็บสกิลพิเศษนี้ได้แน่นอน แต่งหน้า 5 นาที!
สกิลนี้มักจะถูกปลุกขึ้นมาใช้เวลาตื่นสายค่ะ รู้หรอกว่าถ้าช้ากว่านี้ไปเรียนไม่ทันแน่ แต่ไม่แต่งก็ไม่ได้ เราเลยต้องใช้ความว่องไวเปลี่ยนซากให้เป็นคน O_o? บางคนเชี่ยวมาก แค่ 5 นาทีก็ออกมาหน้าฟรุ้งฟริ้งสวยใสสไตล์เกาหลีแล้ว อย่างพี่เมก้าก็ไวเหมือนกันค่ะ โปะครีมกันแดดกับแป้งกระป๋อง 1 นาที ออกจากห้องได้เลย
9. สกิลแม่บ้านแม่เรือน
นี่เป็นสกิลพิเศษสำหรับเฟรชชี่เด็กหอเลยค่ะ ใครมีความเป็นแม่ศรีเรือนอยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงเลย น้องๆ เอาตัวรอดได้แน่นอน แต่ถ้าน้องคนไหนอยู่บ้านไม่เคยทำ ไม่อยากทำ งานนี้อาจต้องมีสวมวิญญาณแม่บ้านแม่เรือนกันบ้างล่ะ เพราะอยู่หอเราต้องดูแลตัวเองค่ะ ไม่มีใครมาทำให้เราหรอกนะคะ หรือมีใครหมายมั่นปั้นมือว่าจะให้รูมเมททำบ้าง TTOTT สงสารเพื่อนร่วมห้องตาดำๆ จริงๆ สารภาพตามตรงว่าตอนแรกพี่เมก้าก็แอบคิดค่ะ แต่พอมานั่งคิดนอนคิดดูอีกทีของแบบนี้มันฝึกกันได้นี่นา
เราก็เริ่มจากงานง่ายๆ ก่อนก็ได้ เช่น ล้างจาน กวาดห้อง ถูพื้น งานแบบนี้ถ้าทุกคนช่วยกันทำ หน้าที่ก็ไม่ต้องตกไปอยู่กับใครคนใดคนหนึ่งให้เหนื่อย หรืองานซักผ้า รีดผ้า ถ้าเราทำเป็น อยากจะซักผ้าให้ขาวสะอาด รีดให้เรียบกริบเป็นกลีบยังไงก็ได้ ไม่ต้องพึ่งร้าน ซัก อบ รีด ให้เปลืองเงิน แถมยังมั่นใจว่าเสื้อไม่หายไม่หดแน่นอน
10. สกิลเรื่องปากท้อง
อาหารอร่อยๆ นี่แทบจะต่อลมหายใจและชีวิตเราเลยนะคะน้องๆ สังเกตได้จากเวลาท้องร้องนี่ เริ่มไม่มีสมาธิกับการเรียนแล้ว มันหงุดหงิด อยากหาของอร่อยมาใส่ท้องเต็มแก่ พอพักกลางวันหลายคนก็เริ่มเลย แปลงร่างเป็นเชลล์ชวนชิม เสาะแสวงหาร้านเด็ดทั้งในและนอกมหา'ลัย ร้านไหนไม่แจ่มเราไม่กิน! ขึ้นชื่อว่าคิวยาว เราไม่แคร์! อาศัยความไวมาจับจองที่นั่งเป็นการด่วน ยิ่งเวลากินบางทีก็ต้องรีบโซ้ยด้วยค่ะ เผื่อมีเรียนบ่ายจะได้เข้าคลาสทัน ^^ อิ่มจนหนังท้องตึงหนังตาหย่อนไปอีกต่างหาก
จากประสบการณ์ตรง เฟรชชี่ทุกคนแทบจะมีสกิลในการสอดส่องร้านอร่อยอยู่แล้ว แถมยังพ่วงความเปิบพิสดาร O[]O! แซวเล่นค่ะ ^^' มีความเป็นแม่ครัว-พ่อครัวหัวป่าก์ชอบครีเอทสูตรอาหารใหม่ๆ มาแชร์กันในหอพัก ถ้ากินแล้วอร่อยก็ปลื้มปริ่มกันไป แต่ถ้าไม่งานนี้อาจมีโดนแบนได้ ประมาณว่า อย่าได้คิดที่จะทำอีก T^T เสียใจอะ!
นี่ก็คือ 10 สกิลพิเศษที่เฟรชชี่ต้องมี! สังเกตมั้ยคะน้องๆ ส่วนใหญ่มักจะเป็นสกิลที่เกี่ยวข้องกับความไวทั้งนั้นเลย อาจเป็นเพราะวัยนักศึกษาจำเป็นต้องอาศัยพลังมากระตุ้นสปิริตตัวเองสูง เราเลยต้องแข่งกับเวลาบ่อยนั่นเอง หากน้องๆ เห็นว่าเฟรชชี่ควรจะมีสกิลพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติมอีก ก็เข้ามาแชร์กันได้นะคะ พี่เมก้ารออ่านค่า~~~
10. สกิลเรื่องปากท้อง
อาหารอร่อยๆ นี่แทบจะต่อลมหายใจและชีวิตเราเลยนะคะน้องๆ สังเกตได้จากเวลาท้องร้องนี่ เริ่มไม่มีสมาธิกับการเรียนแล้ว มันหงุดหงิด อยากหาของอร่อยมาใส่ท้องเต็มแก่ พอพักกลางวันหลายคนก็เริ่มเลย แปลงร่างเป็นเชลล์ชวนชิม เสาะแสวงหาร้านเด็ดทั้งในและนอกมหา'ลัย ร้านไหนไม่แจ่มเราไม่กิน! ขึ้นชื่อว่าคิวยาว เราไม่แคร์! อาศัยความไวมาจับจองที่นั่งเป็นการด่วน ยิ่งเวลากินบางทีก็ต้องรีบโซ้ยด้วยค่ะ เผื่อมีเรียนบ่ายจะได้เข้าคลาสทัน ^^ อิ่มจนหนังท้องตึงหนังตาหย่อนไปอีกต่างหาก
จากประสบการณ์ตรง เฟรชชี่ทุกคนแทบจะมีสกิลในการสอดส่องร้านอร่อยอยู่แล้ว แถมยังพ่วงความเปิบพิสดาร O[]O! แซวเล่นค่ะ ^^' มีความเป็นแม่ครัว-พ่อครัวหัวป่าก์ชอบครีเอทสูตรอาหารใหม่ๆ มาแชร์กันในหอพัก ถ้ากินแล้วอร่อยก็ปลื้มปริ่มกันไป แต่ถ้าไม่งานนี้อาจมีโดนแบนได้ ประมาณว่า อย่าได้คิดที่จะทำอีก T^T เสียใจอะ!
นี่ก็คือ 10 สกิลพิเศษที่เฟรชชี่ต้องมี! สังเกตมั้ยคะน้องๆ ส่วนใหญ่มักจะเป็นสกิลที่เกี่ยวข้องกับความไวทั้งนั้นเลย อาจเป็นเพราะวัยนักศึกษาจำเป็นต้องอาศัยพลังมากระตุ้นสปิริตตัวเองสูง เราเลยต้องแข่งกับเวลาบ่อยนั่นเอง หากน้องๆ เห็นว่าเฟรชชี่ควรจะมีสกิลพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติมอีก ก็เข้ามาแชร์กันได้นะคะ พี่เมก้ารออ่านค่า~~~
1 ความคิดเห็น
ปีหน้าแล้วเว่ยยย #สู้ๆ