วันนี้หลายๆมหาวิทยาลัยก็เริ่มที่จะเปิดเทอมกันแล้ว...หนึ่งในนั้นคือ มศว ที่เปิดเทอมพร้อมเปิดกิจกรรมรับน้องไปในตัว...ซึ่งทาง อธิการบดีของ มศว ก็ได้มาแนะนิสิตน้องใหม่ให้รู้คุณค่าของเงิน อย่าใช้โทรศัพท์เกินความจำเป็น ไม่ใช่มีไว้เพื่อคุยเล่น เหตุการสูญเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ แนะนิสิตดูเรื่องแต่งตัวตามแฟชั่น อย่าเน้นเบรนเนมโดยไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจตัวเอง หวั่นนิสิตตกเป็นทาสทางวัตถุ ฝากพ่อแม่ควรจะเน้นเรื่องวินัยทางการเงินให้ลูก

 

ศ.ดร.วิรุณ  ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ(มศว) กล่าวตอนหนึ่งในงานปฐมนิเทศและต้อนรับนิสิตใหม่ ประจำปี 2551 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 พ.ค.- 1 มิ.ย. 2551 ณ มศว องครักษ์ว่า ในขณะนี้สังคมไทยและสังคมโลกประสบปัญหาที่เหมือนกันนั้นก็คือ ภาวะการณ์รุมเร้าทางเศรษฐกิจ นิสิตน้องใหม่ทุกคนตลอดถึงนิสิตรุ่นพี่ต้องรู้จักใช้จ่ายและมีวิจัยทางการเงินให้มาก โดยเฉพาะการใช้จ่ายเงินไปกับการโทรศัพท์มือถือของเยาวชนรุ่นใหม่นั้นต้องใช้จ่ายไปกับการโทรศัพท์มาก เด็กบางคนใช้โทรศัพท์เหมือนคนที่ทำธุรกิจ พูดคุยในเรื่องที่ไม่มีสาระมากเท่าที่ควร

 
 

การมีโทรศัพท์มือถือใช้ควรจะรู้ว่าจะใช้เมื่อมีความจำเป็น ไม่ใช่มีไว้เพื่อคุยเล่น เพราะนั่นหมายถึงการสูญเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ นอกจากนี้อยากให้นิสิตทุกคนดูเรื่องการแต่งตัวตามแฟชั่น ถ้ามากเกินไปหรือใช้ของแพง ที่เน้นเบรนเนมโดยไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจตัวเอง จะทำให้นิสิตตกเป็นทาสทางวัตถุ ซึ่งตนมองว่าคนที่ซึ่งของเบรนเนมหรือบ้าเบรนเนมนั้นเป็นคนที่ดูตลก หรือบางคนก็อวดร่ำอวดรวยจนแลดูตลกมากกว่าจะดูดี การที่นิสิตยังหาเงินใช้เองไม่ได้และต้องขอเงินพ่อแม่ จึงควรตระหนักในเรื่องเหล่านี้ และแม้แต่คนที่มีฐานะที่จะซื้อของเบรมเนมได้ ก็ควรจะดูความเหมาะสม ให้พอเหมาะพอควร ไม่ใช่ซื้อเบรนเนมจนโอเวอร์เกินไป

 

“ขอฝากถึงพ่อแม่ควรจะเน้นเรื่องวินัยทางการเงินให้ลูกด้วย และต้องสอนในเรื่องสำนึกการประหยัด ซึ่งตอนนี้ทางมศว ได้ให้นโยบายกับอาจารย์ทุกคนที่สอนนิสิต ไม่ใช่สอนแต่ความรู้ทางวิชาการเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสอนเรื่องการใช้ชีวิต อาจารย์ทุกคนต้องอบรมสั่งสอนและช่วยกันชี้ให้นิสิตเห็นถึงภาวะวิกฤติทางสังคมไทยและสังคมโลก ขณะนี้ต้องช่วยกันสร้างให้พวกเขาตระหนักและมีสำนึกด้านการประหยัดในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้จ่ายเงิน ทรัพยากรที่เราใช้อยู่ทุกวัน ซึ่งตอนนี้มศว รณรงค์

 

มหาวิทยาลัยสีเขียวถือเป็นนโยบาย มหาวิทยาลัยที่ต้องการทำให้ประชาคมรู้จักใช้ทรัพยากรให้พอเพียง ไม่ฟุ่มเฟือย และรณรงค์ให้มศวเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว ที่ไม่ใช่เพียงแค่การปลูกต้นไม้ให้เขียวเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงทุกอย่างตลอดถึงความคิดด้วย นอกจากนี้เราต้องเน้นเรื่องการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้องและใช้ภาษาไทยให้เข้มแข็ง ตลอดถึงรณรงค์ให้นิสิตรักการอ่าน”

 

          เป็นเรื่องจริงที่ พี่ลาเต้ เห็นด้วยนะครับ...เพราะการเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นจะสบายมากๆ วันหนึ่งเรียน 4 ชั่วโมง ก็เดินเที่ยวอีก 5 ชั่วโมง ดังนั้นเงินต่างๆมันก็จะไหลออกจากกระเป๋าได้ง่าย...เมื่อรู้อย่างนี้ก็ให้น้องๆเฟรชชี่ทั้งหลายระวัง และห้ามใจตัวเองให้ดีครับ...
 

พี่ลาเต้ขอขอบคุณข้อมูลจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

 
พี่ลาเต้
พี่ลาเต้ - Columnist นักข่าวสายการศึกษา เกาะติดทุกข่าวแทนน้องๆ ตัวถีบ ตัวดันให้ ม.6 สอบติด

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

4 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
ยังงงได้อีกอะ 13 มิ.ย. 51 00:37 น. 2
สรุป จระเข้เผือกคืออะไรยังไม่รู้เลยอะ ใครรู้ตอบห่อยได้ปะ พี่เค้าแค่บอกว่าอยู่ในบึง แล้วสักวันจะเห็น งงอะ
0
กำลังโหลด
ktmn Member 22 มิ.ย. 51 17:07 น. 3

เราเองก็ไม่ได้ไปดู
ฝนตกอ่าอดเลยที่อัตลักษณ์
ยังท่องแปดอันไม่ได้เลยเขจ้าเชียร์ก็ไม่เคย5555+
ขืนเข้าไปประธานเชียร์ถูกเราวากคืนแน่5555+
แล้วก็
พี่ๆที่อยุ่คณะแพทย์ที่มศวประสานมิตรครับ
ผมอยากรุ้จักด้วยอ่า
ถ้าหลงเข้ามาก็รับผมไว้ด้วยคนนึงนะครับ
อยากติดแพทย์แต่ดันสอบไม่ติดฮือๆ
เลยเรียนที่ตึก19ประจำเลยคงรู้นะครับว่าผมอยุ่คณะไร
มีเสื้อกาวด้วย5555

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด