|
สวัสดีค่ะ น้องๆ ชาว Dek-D.com เมื่อวานนี้ พี่เป้ หงุดหงิดอารมณ์เสียมาก เพราะเพื่อนตัวดียืมกระเป๋าเดินทางไป แต่พอเอามาคืน กระเป๋าเดินทางดันบุบบูบี้ หรือเรียกง่ายๆ ว่า เจ๊ง นั่นแหละค่ะ เฮ้อ เสียดายของจริงๆ เลย พี่เป้ เลยคงต้องซื้อกระเป๋าเดินทางใบใหม่ ว่าแต่การเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางนี่ก็ต้องมีเคล็ดลับในการเลือกเหมือนกันนะคะ จะเลือกสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ เพราะถ้ากระเป๋าเดินทางเกิดพังหรือขาดกลางทางระหว่างไปเมืองนอกนี่คงเซ็งกันเลย
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับประเภทกระเป๋าเดินทางกันก่อนนะคะ ซึ่งที่น้องๆ ใช้ส่วนมากก็คงเป็นกระเป๋าแบบล้อลาก ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ ชนิดแข็งและชนิดอ่อน
- ชนิดแข็ง (Hardside Luggage) กระเป๋าชนิดนี้ตรงตัวถังกระเป๋าจะทำด้วยพลาสติก หรือในปัจจุบันอาจมีบ้างที่ทำจากอลูมิเนียม เหมาะสำหรับใช้ใส่สิ่งของที่ต้องการให้อยู่เป็นรูปทรง ข้อดีคือสามารถป้องกันสิ่งของที่แตกง่าย ข้อเสียคือกระเป๋าชนิดนี้จะค่อนข้างหนักและเป็นรอยขีดข่วนง่าย

- ชนิดอ่อน (Softside Luggage) กระเป๋าชนิดนี้จะเบากว่าชนิดแข็ง และบางรุ่นจะสามารถขยายขนาดของกระเป๋าได้ด้วยโดยการขยายซิปออก ข้อดีคือมีน้ำหนักเบา ข้อเสียคือมีความปลอดภัยน้อยกว่าแบบแรกเพราะอาจถูกกรีดได้ รวมถึงหากใส่สัมภาระมากไป อาจทำให้กระเป๋าขาดได้

ส่วนประกอบที่สำคัญของกระเป๋าเดินทางและวิธีเลือกซื้อ
1. ตัวกระเป๋า อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นค่ะ
2. ล้อ ส่วนล้อมักจะเป็นส่วนที่อ่อนแอและเสียหายบ่อยมากที่สุดจากการใช้งาน และสายการบินส่วนมากมักปฏิเสธความรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับล้อ รวมถึงผู้ผลิตบางรายมักจะยกเว้นความเสียหายที่เกิดกับส่วนล้อในใบรับประกันของทางบริษัท ล้อที่ดีควรเป็นล้อที่ทำจากยางและล้อควรจะอยู่ใต้กระเป๋าพอดี เพราะจะสามารถป้องกันการเสียหายของล้อได้ดี
3. หูหิ้วและคันชัก ต้องสามารถยืดหดได้เป็นอย่างดี ก่อนซื้อควรลองดึงขึ้นดึงลงจนมั่นใจว่าหูหิ้วไม่มีปัญหา
4. ซิป ซิปมักเป็นส่วนที่บอบบางและชำรุดง่าย ซิปที่ดีต้องมีส่วนที่ยื่นเข้าไปในตัวกระเป๋า 1-2 นิ้ว
5. ต้องมีสายรัดในกระเป๋า ไว้สำหรับอัดของในกระเป๋าที่ใส่ให้มีขนาดเล็กลง เพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งาน
6. การรับประกัน แทบทุกยี่ห้อจะรับประกันก็ต่อเมื่อเกิดความเสียหายที่เกิดจากการผลิตเท่านั้น เช่น รอยเย็บเบี้ยว น็อตหลุด และการรับประกันนั้นจะเป็นการรับประกันจากผู้ผลิตเท่านั้น ไม่ใช่จากทางร้านที่จำหน่าย
7. ขนาดกระเป๋า โดยทั่วไปขนาดของกระเป๋าจะวัดเป็นลูกบาศก์นิ้ว โดยมีตั้งแต่ไม่กี่ร้อยจนถึงกว่า 8,000 ลูกบาศก์นิ้ว สำหรับน้องๆ ที่จะเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ ควรเลือกชนิดที่มีขนาด 5,000 ลูกบาศก์นิ้วขึ้นไป
8. ไม่ควรลืมซื้ออุปกรณ์เสริมป้องกันการโจรกรรม เช่น สายรัดกระเป๋าด้านนอก หรือสายยูสำหรับล็อคหัวซิปเข้าไว้ด้วยกัน

เอาล่ะ หลังจากทราบเคล็ดลับดีๆ แล้ว ก็อย่าลืมเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางกันให้ถูกต้องด้วยนะคะ หากเลือกซื้อกระเป๋าได้อย่างถูกต้อง น้องๆ ก็จะได้กระเป๋าคุณภาพดี ใช้งานได้นาน ไม่ต้องซื้อใหม่บ่อยๆ ประหยัดเงินได้อีกเพียบเลย
 ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.geocities.com/winwos02
|
13 ความคิดเห็น
ได้ความรู้มากมาย
ไม่ว่ากระเป๋าอะไรเราใช้แล้วซิปแตกทุกที ต้องเลือกแล้ว
มีปัญหาตลอด ^^
ใช้แบบไหน
ก็มีปันหาตบอดเรยค่ะ
เดี๋ยวนี้ใช้แบบ Hardside Luggage
แต่ก็ต้อกลัวเป็นรอยเพราะว่าซื้อมาจากที่ญี่ปุ่น
เวลาจะเดินทางต้องเอาไปพันพลาสติกตลอดเลย
ที่กระเป๋าพังบุบบี้ ก็คงเพราะเวลาที่เค้าโหลดกระเป๋าขึ้นใต้ท้องเครื่อง
ส่วนมากเค้าโยนกระเป๋าเรากันค่ะ
น่าเบื่อมากเรย
i like
คราวนี้แหละจะได้ซื้อกระเป่าแล้วใช้ได้นานซักที
ยืมพื้นที่น้ออออ
อ้าดีทีครบทั้ง 2 แบบเลย
เกมบนเวบหนุกๆอ่าลองเล่นกันดู
ไม่เสียเวลาโหลด
สมัครแล้วเล่นได้เลย
ปล.วัดดวงหนุกๆเอิ๊กๆ
ตอนไปเมกาอ่ะ กระเป๋าพังทั้งสองใบเลย
ใบแรกเป็นแบบชนิดแข็ง หูหิ้วหักและก็ตัวกระเป๋าแตกแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ จากการโหลดขึ้นใต้เครื่อง
ใบที่สองเป็นแบบชนิดอ่อน หูหิ้วหักอีกเหมือนกัน ไม่รู้ทำยังไง เหอๆ
พอตอนกลับก็ไม่ซื้อใหม่ เด๋วถ้าซื้อใหม่ พังอีกก็เสียดายอ่ะ ใบหนึ่งไม่ใช่ถูกๆ
เซ็งเป็ดเลย
แต่ถ้าพูดถึงใช้แบบชนิดอ่อนดีน่ะคับ ยัดของได้เยอะดี อิอิ (ทำมาแล้ว)
แต่ก็ระวังเรื่องน้ำหนักกันด้วยละคับ เด๋วจะโดนปรับเพิ่มอีก
ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีๆนะคับ