สวัสดีค่ะ^^ น้องๆ เคยได้ยินกันมาเยอะแล้วใช่มั้ยคะเกี่ยวกับพรสวรรค์และพรแสวง ที่มักจะเกี่ยวกับความสามารถพิเศษนู่นนี่นั่น เห็นแล้วก็ฮึบบ!! อยากมีกับเขาบ้าง เพราะเท่ชะมัดเลย ปกติแล้วพรสวรรค์จะใช้เรียกคนที่มีความสามารถพิเศษเหนือชาวบ้านคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเล่นดนตรี เล่นกีฬา แล้วสำหรับการเรียนล่ะ มีพรสวรรค์ด้านนี้รึป่าวนะ เคยมั้ย ที่บางทีก็รู้สึกว่าเพื่อนเรานี่จะเทพไปไหน ก่อนสอบยังเห็นมันเล่นเกมอยู่เลย แต่ไหงผลสอบออกมา ท็อปตล๊อดตลอด แล้วดูเราสิอ่านสิบรอบแล้วยังไม่เข้าหัว โลกใบนี้มันช่างไม่ยุติธรรมจริงๆ เล้ย จริงๆ พรสวรรค์เรียนเก่งมันไม่มีหรอกค่ะ ส่วนใหญ่จะเน้นไปในเรื่องของความสามารถพิเศษทั้งหลาย แต่พรสวรรค์ของคนเรียนเก่งก็คือการมีความจำเป็นเลิศ หัวไว เรียนรู้เร็ว อ่านรอบเดียวก็ทะลุปรุโปร่งยิ่งบวกกับความขยันเขาก็เลยเทพ อาจจะมีคนขี้เกียจแล้วได้ดีแต่ก็มีจำนวนน้อย เพราะพี่มิ้นท์เชื่อว่าความตั้งใจและความขยันเปลี่ยนทุกอย่างได้จริงๆ
นอกจากการตั้งใจเรียนที่ใครๆ ก็บอกให้ฟังจนหูชาแล้ว พรแสวงที่สามารถทำให้เราเรียนเก่งได้ มีอะไรบ้าง ลองมาดูสิ่งที่พี่มิ้นท์จะแนะนำนะคะ
1.หัดเป็นคนช่างสงสัย เคยได้ยินกันรึป่าวว่าเด็กขี้สงสัยเป็นเด็กฉลาด นั่นแหละค่ะ ทฤษฎีเดียวกัน น้องๆ ต้องรู้จักช่างสังเกตและขี้สงสัยบ้าง แต่ควรสงสัยในสิ่งที่เป็นประโยชน์นะ เพราะรอบตัวเรามีสิ่งต่างๆ ที่น่าค้นหามากมาย ความสงสัยจะเป็นแรงบันดาลใจให้เราค้นหาคำตอบ พอน้องๆ หาคำตอบได้ จำได้ รู้รายละเอียด เมื่อนั้นน้องๆจะรู้สึกว่าตัวเองเทพขึ้นทันที 1% 55+ ความช่างสงสัยก็เอามาประยุกต์ใช้ในห้องเรียนได้นะคะ เวลามีอะไรไม่เข้าใจก็ถามอาจารย์ อย่าอมความอายอยู่ เพราะถ้าเราไม่แสดงหาคำตอบ คำตอบก็ไม่พุ่งมาหาเราหรอก
2.ทบทวนอยู่เสมอ ถ้าเราเป็นคนที่เมมโมรี่ในสมองน้อยเหลือเกิน จะด้วยว่าเพราะมีน้อยตั้งแต่แรกอยู่แล้วหรือมัวแต่ไปจำชื่อนักร้องเกาหลีก็ตาม ก็อาจจะเป็นความโชคร้ายของเรา ดังนั้นถ้าเรามัวแต่นั่งเฉยๆ หนังสือวางเฉยๆ ไม่คิดจะทำอะไรซักอย่าง มันก็จะแย่ไปกันใหญ่ ทีนี้จะโทษใครก็ไม่ได้ น้องๆ ที่รู้ตัวว่าความจำไม่ดีหรือเข้าใจอะไรยาก ควรทบทวนเนื้อหาที่เรียนอย่างสม่ำเสมอ อาจจะเป็นช่วงก่อนนอนซัก 15 นาที หรือก่อนเรียนในครั้งต่อไปก็ได้ค่ะ อย่างน้อยก็ต้องเข้าหัวมั่งล่ะ
3.หาเทคนิคในการอ่านของตัวเองให้เจอ เพราะการอ่านเป็นหัวใจของการเรียน มีเทคนิคในการอ่านดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง โดยเฉพาะการสอบ ถ้าเรามัวแต่อ่านเรื่อยเปื่อยไม่รู้จักจับใจความสำคัญ น้องๆ ก็ไม่มีทางเข้าใจเนื้อหาเหล่านั้นหรอกค่ะ เทคนิคในการอ่านแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไป เช่น ต้องอ่านตอนเช้า, อ่านแล้วโน้ตย่อ, อ่านช้าๆ แต่อ่านเข้าใจในรอบเดียว, อ่านในที่เงียบ ฯลฯ ดังนั้นน้องๆ ต้องหาสไตล์การอ่านของตัวเองให้เจอและประยุกต์ใช้จริงๆ รับรองน้องๆ จะเรียนเก่งขึ้นแน่นอน
4.เชื่อมั่นในตัวเอง ที่สำคัญอย่าคิดว่าตัวเองโง่ เพราะจะทำให้เราหมดกำลังใจ ถึงแม้ทักษะของคนเราจะไม่เท่ากันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะแย่กว่าเค้าในทุกเรื่อง ดังนั้นเวลามีงานหรือการบ้าน อย่าเอาแต่ลอกค่ะ อันนี้พี่มิ้นท์เน้นย้ำอยู่เสมอ เพราะประโยชน์ของการลอกก็แค่ทำให้เรามีงานส่งแค่นั้นเอง ดังนั้นเราต้องมั่นใจในตัวเอง ทำการบ้านด้วยตัวเอง ผิดก็ช่างมัน แต่มันจะทำให้น้องๆ เกิดการเรียนรู้ค่ะ ว่าแล้วถ้าเปิดเทอมนี้ใครยังเป็นก๊อปปี้แมนอยู่ พี่มิ้นท์จะไปตีน้องๆ ถึงที่เลยนะ ฮ่าๆ
ความเป็นอัจฉริยะด้านการเรียนเป็นสิ่งที่เราสามารถสร้างขึ้นและพัฒนาได้เรื่อยๆ อย่าคิดว่ามันเป็นพรสวรรค์ พอเราไม่มีตรงนี้ก็ท้อแท้ไม่อยากเรียน ดังนั้นพี่มิ้นท์จึงขอสรุปเอาง่ายๆ แล้วกันว่า การเรียนเก่งเนี่ยบางคนอาจจะมีพรสวรรค์ในด้านความจำ เทคนิคการอ่านหนังสือ ดังนั้นคนที่ไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้ก็อาจจะต้องเหนื่อยกว่าคนอื่น แต่ถ้าเราไม่ท้อซะอย่างสวรรค์ก็คงเห็นใจเราบ้างล่ะ เพราะสุดท้ายแล้วพรแสวงที่เราตั้งใจและพยายาม อดทน รวมทั้งหมั่นฝึกฝนอยู่ตลอดเวลาจะกลายเป็นพรสวรรค์ให้เราได้เอง เจ๊คอนเฟิร์ม!! ช่วงนี้ก็ใกล้เปิดเทอมแล้ว ยังไงพี่มิ้นท์ก็เป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนมีพลังและมีกำลังใจในการเรียนต่อไปนะคะ ปลายเทอมก็อย่าลืมเอาเกรดสี่มาอวดพี่มิ้นท์นะ^^
ภาพประกอบ http://ro.iammango69.com http://www.zoneza.com
|
80 ความคิดเห็น
จะพยายามนําไปใช้นะค่ะ
เปิดเทอมนี้สู้ตายค่ะ
ขอบคุณค่ะพี่มิ้นท์ จะลองดูค่ะ
เปิดเทอมสู้ตายยยยยยยยยย
ต้อนรับเปิดเทอม
เปิดเทอมจะเริ่มทำตัวใหม่ ให้ดีกว่าเดิม!!(ให้ได้)
เทอมนี้จะตั้งใจเรียนแล้วค่าาา yy'
เดี๋ยวจะเอาไปใช้มั่ง เผื่อ(ฟลุ๊ค)ได้ห้องคิง 555+
ต้องสู้คะ ^^
ขอบคุณพี่มิ้นท์มากๆคะ
สู้ๆคะ
x(^_^)
ผมจำเก่ง แต่ก็เป็นประเภทอ่านรอบเดียวช้าๆ
อ่านหลายรอบมันทำให้เราสับสนน่ะครับ -..-