16 อาชีพน่าสน!! สายวิทยาศาสตร์สุขภาพ ตอนแรก

 16 อาชีพน่าสน สายวิทยาศาสตร์สุขภาพ ตอนแรก

      พี่เกียรติเห็นที่ไหนสักที่ใน Dek-D นี่แหละว่า อยากให้มีเรื่องอาชีพทางการแพทย์จัง พี่เกียรติจึงไปรวบรวมอาชีพทางการแพทย์มาให้น้องๆ รู้จัก เผื่อสนใจ และเป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อ ซึ่งอาชีพที่เกี่ยวข้องนี้พี่เกียรติขอเรียกรวมว่า อาชีพด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพและประยุกต์ ซึ่งไม่ได้มีแต่กลุ่มให้การรักษาอย่างเดียวเท่านั้น แต่หมายรวมถึงกลุ่มที่สนับสนุนการรักษา อย่างทีมดูแลเครื่องมือ ทีมวิจัย และกลุ่มสนับสนุนการดูแลหลังการรักษาด้วย เรียกว่า คนกลุ่มนี้ต้องทำงานประสานความร่วมมือกัน จะทำให้การรักษาคนไข้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด คนไทยจะได้มีสุขภาพแข็งแรง  เย้!!

 

   
  1. ทันตแพทย์ หมอฟัน อาชีพที่ทุกคนยำเกรง...เกรงว่าจะต้องถูกถอนฟัน ยามพี่เกียรตินึกถึงเครื่องมือของหมอฟัน แล้วอยากจะร้องกรี๊ด ครืด ครืด จี๊ด จี๊ด ต่อให้หมอฟันหน้าตาดีขนาดไหน ก็ไม่อยากเข้าใกล้ถ้าต้องไปทำฟัน ฮา อาชีพนี้ต้องเรียนอยู่กับฟัน และเครื่องมือทำฟันถึง  6 ปี จบออกมาก็ต้องใช้ทำงานใช้ทุนก่อน แต่หนทางอาชีพนี้ก็สดสวย คิดดู ต่อให้เป็นหมอฟันเอง ก็ฟันผุได้ใช่ไหมล่ะ  นอกจากความรู้สายวิทย์ - คณิตแล้ว ต้องมีความรู้ภาษาอังกฤษดีด้วย ควรมีฝีมืองานประดิษฐ์สักหน่อย เพราะต้องใช้เครื่องมือเกี่ยวกับการปั้นและการประดิษฐ์ และตกแต่งฟัน เป็นงานฝีมือประเภทหนึ่งเนอะ มีมนุษยสัมพันธ์ดี เข้ากับคนง่าย มีวาทะไว้หลอกคนมาทำฟัน (โดยเฉพาะเด็กๆ อิอิ) เป็นอาชีพที่อยู่สุขภาพช่องปากของคนเรา ดังนั้น จึงต้องทำใจและยอมรับว่าสุขภาพช่องปากของแต่ละคนอาจแย่มากๆ ก็ได้นะ พี่เกียรติจะไม่พูดถึงจุดนี้ แต่น้องๆ ที่สนใจอาชีพนี้ต้องนึกเอาเองว่าจะแย่ได้ขนาดไหน และทนจุดนี้ได้หรือไม่นะจ๊ะ เดี่ยวจะหาว่าสวย เอ้ย พี่เกียรติไม่เตือน อิอิ

      2. พยาบาล อาชีพน่ารักที่มาเคียงคู่กับคุณหมอ แล้วคุณหมอจะทำงานได้อย่างราบรื่นหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความคล่องแคล่วของพยาบาลด้วย พยาบาลเป็นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายนะคะ ผู้ชายเรียกบุรุษพยาบาล ผู้หญิงเรียก นางพยาบาล พยาบาลเองก็มีสาขาเฉพาะทางนะคะ ไม่ใช่แค่ดูแลคนไข้ทุกๆคนในโรงพยาบาลอย่างเดียว สาขาเฉพาะทางของพยาบาลเป็นการเรียนเพิ่มเติมของพยาบาลวิชาชีพมีทั้งหลักสูตรระยะสั้น หรือระดับปริญญาโทและเอก เช่น การพยาบาลปริศัลยกรรม (การผ่าตัด) การพยาบาลผู้ป่วยเด็กโรคเรื้อรัง การพยาบาลหัวใจ และหลอดเลือด การพยาบาลศัลยกรรมอุบัติเหตุ  การผดุงครรภ์ ฯลฯ ทั้งนี้ก็เพื่อดูแลคนไข้ในส่วนต่างๆ ที่รับผิดชอบได้อย่างเหมาะสม น้องๆ ที่สนใจอาชีพพยาบาล นอกจากจะต้องเป็นคนรักงานบริการ ชอบดูแลโดยนิสัยแล้ว ก็ยังต้องมีความละเอียด ช่างสังเกต เพราะต้องดูการเปลี่ยนแปลงของคนไข้โดยตลอด และไม่รังเกียจหรือทนกับสิ่งไม่พึงประสงค์จากคนไข้ อย่างอุจจาระ ปัสสาวะ ได้ด้วย แวะไปอ่านบทความดีๆ เกี่ยวกับอาชีพพยาบาลได้จ้า "ตามติดอาชีพพยาบาล จบปุ๊ปได้งานปั๊ป" โดยพี่เป้                             

                     สนใจต้องเลือก : คณะพยาบาลศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยต่างๆ หรือวิทยาลัยพยาบาลทหารเหล่าต่างๆ และวิทยาลัยพยาบาลในสังกัดรัฐบาลหรือโรงพยาบาลเอกชน หลักสูตร 4 ปี

      3. เภสัชกร อาชีพนี้ไม่ได้ทำหน้าที่จ่ายยา อย่างเดียวนะคะ ในโรงพยาบาล เภสัชกรทำหน้าที่จ่ายยาตามแพทย์สั่งก็จริง แต่ใช่ว่าแค่หยิบยามาใส่ถุงให้คนไข้เท่านั้นนะ แต่ต้องเป็นคนที่คอยดูแลการจ่ายยาให้เหมาะสมกับคนไข้ด้วย เภสัชกรหลายคนจะจุกจิก ถามคนไข้ว่าแพ้ยาอะไรไหม คนไข้ก็จะรำคาญ นี่หาหมอแล้วไม่จบใช่ไหม ฮา แต่จริงๆ เพราะเภสัชกรจะได้จ่ายยาได้เหมาะสม ลดภาวะเสี่ยงที่เกิดจากการใช้ยาผิด และก็ให้คำแนะนำเรื่องการกินยาด้วย นอกจากจ่ายยาแล้ว ก็สามารถปรุงยา เป็นคนทำยาที่ใช้รักษาโรค รวมถึงการทำเครื่องสำอางต่างๆ ด้วย สถานที่ที่มีเภสัชกรรวมตัวอยู่มากที่สุด คือ องค์การเภสัชกรรม ซึ่งหน่วยงานที่ผลิตยารัฐวิสาหกิจสำคัญของประเทศไทยเรา แต่เภสัชกรทำงานได้หลากหลายจ้า ตั้งแต่โรงพยาบาล สถานพยาบาล บริษัทผลิตยา บริษัททำเครื่องสำอาง เปิดร้านขายยาเอง ฯลฯ อาชีพนี้ส่วนใหญ่ทำงานในห้องปฏิบัติการ และอยู่กับเอกสารการทดลอง ดังนั้นน้องๆ ที่สนใจ ต้องเป็นคนที่ชอบงานเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์และรับงานเอกสารได้ค่ะ         

            4. นักกิจกรรมบำบัด/อาชีวบำบัด ในชีวิตคนเราต้องมีการดูแลตนเองใช่ไหมคะ อย่างการกิน นอน เดิน นั่ง เล่นกับเพื่อน หรือทำงาน รู้จักหาวิธีผ่อนคลายให้ตนเอง รวมถึงการเข้าสังคม แต่บางทีคนเราก็มีความจำเป็นอื่นๆ จนบางทีก็ไม่สามารถทำในสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้ จึงมีนักกิจกรรมบำบัด เพื่อช่วยดูแล ให้คำแนะนำ สนับสนุบ และส่งเสริม ให้บุคคลต่างๆ สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มความสามารถ ช่วยลดข้อจำกัดทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสังคมของบุคคลเหล่านั้น แนะนำปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม โดยใช้ทั้งเทคนิค จิตวิทยา และอุปกรณ์เสริม เมื่อเรียนจบ ต้องสอบใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะค่ะ  ในโรงพยาบาลที่มีนักกิจกรรมบำบัดทำงาน จะเน้นการดูแลและให้คำแนะนำหลังการรักษา แก่คนไข้ที่เพิ่งหายจากการเจ็บป่วย ช่วยแนะนำการฝึกการใช้อุปกรณ์ หรือการทำงานต่างๆ ในชีวิตประจำวัน นักกิจกรรมบำบัดที่ทำงานกับเด็กๆ หรือเด็กที่มีความต้องการพิเศษ (ทั้งในโรงพยาบาลและโรงเรียน) ก็จะเน้นให้เด็กๆ มีความสามารถในการดูแลตนเองมากขึ้น ผ่านการเล่น การสอนด้วยเทคนิค และอุปกรณ์เสริมต่างๆ เพื่อนพี่เกียรติคนหนึ่งที่เป็นนักกิจกรรมบำบัด ต้องออกแบบของเล่นเองที่จะใช้ช่วยเด็กๆ ทำกิจกรรมได้เลยนะ เยี่ยมมากๆ

      5. นักเทคนิคการแพทย์  ทำหน้าที่วิเคราะห์ วิจัย โดยใช้เครื่องมือเทคโนโลยีในห้องปฏิบัติการ เพื่อนำผลการวิเคราะห์ไปใช้ประโยชน์ในการประเมินสุขภาพ การวินิจฉัยและป้องกันโรค วิเคราะห์สารพิษ สารปนเปื้อนต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม อ่านแล้วเข้าใจยากใช่ไหมล่ะ ขอเสนอตัวอย่างแล้วกัน เช่น ในโรงพยาบาล จะมีคุณพยาบาลเก็บเลือดของคุณคนไข้ส่งมาตรวจ นักเทคนิคการแพทย์ก็ต้องตรวจเลือดนั้นๆ ว่ามีความผิดปกติ มีเชื้ออะไรแฝงอยู่หรือเปล่า แล้วก็ส่งผลตรวจเลือดนั้นไปที่หมอเจ้าของไข้ เพื่อวินิจฉัยโรคและรักษาต่อไป ซึ่งก็ไม่มีมีแค่การตรวจเลือดนะคะ จะมีการตรวจวิจัยสิ่งต่างๆ จากเลือด น้ำเชื้อ เชื้อโรค ของเหลวจากร่างกายมนุษย์ ฯลฯ ตามลักษณะสาขาทางเทคนิคการแพทย์ ได้แก่ เคมีคลีนิก จุลชีววิทยาคลีนิค ภูมิคุ้มกันวิทยาคลีนิก ธนาคารเลือด และจุลทรรศนศาสตร์คลีนิก และโลหิตวิทยา น้องๆ ที่สนใจวิชาชีพนี้ต้องชอบการใช้เครื่องมือเทคโนโลยี ติดตามการเปลี่ยนแปลงของเครื่องมือเทคโนโลยีต่างๆ มีความรับผิดชอบในงานที่ต้องทำ เนื่องจากเป็นงานที่ต้องมีการส่งผลต่อไปยังทีมแพทย์ หากทำงานล่าช้า การตรวจก็ช้าไปด้วย คนไข้อาจทรุดก่อนได้ ต้องเป็นคนที่ชอบทำงานตามแบบแผนเสียหน่อย เพราะต้องอยู่แต่กับงานในห้องปฏิบัติการ และเอกสารรายงานต่างๆ อาจดูจำเจ แต่ก็สามารถค้นพบสิ่งแปลกใหม่จากสิ่งที่ต้องวิเคราะห์ได้นะ 

      6. นักรังสีวิทยา/รังสีเทคนิค ทำงานคล้ายคลึงกับนักเทคนิคการแพทย์ แต่เชี่ยวชาญเฉพาะทางรังสีวิทยาโดยตรง  กล่าวคือ ทำหน้าที่วิเคราะห์ วิจัย โดยใช้เครื่องมือเทคโนโลยีด้านรังสีวิทยามาวิเคราะห์ วิจัย ทำหน้าที่ตรวจ X-Ray และสามารถวิเคราะห์ผลได้ และนำผลการวิเคราะห์นั้นๆ ไปใช้ประโยชน์ในการประเมินสุขภาพ แม้ว่าจะต้องเรียนและทำงานกับรังสีต่างๆ แต่ก็มีการป้องกันอย่างเหมาะสมต่อความเสี่ยงต่างๆ นั้น เมื่อจบการศึกษาสามารถทำงานเป็นพนักงานวิทยาศาสตร์การแพทย์ สายรังสีเทคนิค ทำงานตามโรงพยาบาลหรือบริษัทที่เกี่ยวข้องได้  อาชีพนี้มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางน้อย และตลาดงานรองรับโดยตรงก็ยังไม่มาก เนื่องจากเครื่องมือเฉพาะทางรังสีวิทยาเองก็มีราคาสูง ไม่สามารถจัดหากันได้ในทุกโรงพยาบาล แต่ก็ยังเป็นอาชีพสำคัญที่ต้องการบุคลากรเฉพาะ เพื่อให้การวินิจฉัยรักษาผู้ป่วยเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

      7. นักโภชนาการทางการแพทย์ น้องๆ คงเคยเห็นหรือเคยรับประทานอาหารที่พยาบาลเอามาให้กินตอนเราอยู่ในโรงพยาบาลใช่ไหม บางทีก็เราก็อยากกินอาหารอย่างอื่น แต่หมอก็ห้ามไว้ เพราะ อาหารโรงพยาบาลเขาจัดมาให้เหมาะสมตามสภาพผู้ป่วยแล้ว ซึ่งอาหารในโรงพยาบาลเหล่านี้จัดโดยนักโภชนาการค่ะ ซึ่งมีหน้าที่สำคัญมากๆ ที่จะต้องจัดอาหารให้เหมาะสมกับสภาพผู้ป่วยแต่ละกลุ่ม (ไม่ได้จัดให้แค่คนสองคนนะ ต้องจัดให้ผู้ป่วยทั้งดรงพยาบาลเลยทีเดียว) นักโภชนาการมีหน้าที่วางตารางการจัดอาหารให้เหมาะสมกับสภาพผู้ป่วย โดยสามารถคำนวณค่าแคลอรี สารอาหารที่เหมาะสม ส่วนประกอบอาหารที่ต้องหลีกเลี่ยง หรือส่วนประกอบทดแทนที่สามารถเพิ่มสารอาหารได้เท่าเทียมกัน อันเป็นส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพผู้ป่วยมาก หากได้รับอาหารไม่เพียงพอร่างกายก็ไม่สมารถซ่อมแซมตัวเองได้ หากไม่รับอาหาร ยาก็กินไม่ได้ หรือหากกินอาหารผิด ยาที่รับเข้าไปก็ไม่ออกฤทธิ์อีก ฯลฯ อาหารในโรงพยาบาลจึงสำคัญมาก ตำแหน่งนี้จึงให้ใครมาทำแทนไม่ได้ง่ายๆ ต้องเรียนมาเฉพาะทีเดียวเลย บางทีนักโภชนาการต้องวางแผนเป็นพิเศษร่วมกับทีมหมอและเภสัชกร เพราะผู้ป่วยอาจเป็นเด็กที่รับประทานทั้งยาและอาหารยาก เลยต้องวางแผนร่วมกันทำอาหารชุดพิเศษให้ผู้ป่วยรับประทานเลยค่ะ นักโภชนาการเป็นคนวางแผนการจัดอาหาร ไม่ใช่คนปรุงอาหารก็จริง แต่พี่เกียรติก็อยากเห็นนักโภชนาการในใรงพยาบาลที่สามารถจัดอาหารได้ดีมีสารอาหารครบครัน เท่าๆ กับที่ช่วยดูเวลาปรุงอาหารให้อร่อยด้วย (ได้ไหม? ฮา) น้องๆ ที่สนใจอาชีพนี้ นอกจากจะต้องรักการทำอาหารแล้ว ต้องมีความคิดสร้างสรรค์และใฝ่รู้ รู้จักหาส่วนประกอบอาหารใหม่ๆ มาใช้ทำอาหารได้ แม้จะไม่ได้ทำเอง แต่ก็ต้องรุ้ว่าอะไรจะทำอาหารได้อร่อยเนอะ

           8. นักทัศนมาตรศาสตร์ เป็นสาขาวิชาประยุกต์ทางด้านการแพทย์และฟิสิกส์ด้านแสง มาแก้ไขปัญหาของระบบการเห็นของมนุษย์ มีหน้าที่ในการดูแลสุขภาพสายตา ตรวจ วินิจฉัย แก้ไขและป้องกันความผิดปกติทางด้านสายตาด้วยวิธีการทางทัศนมาตรหรืออุปกรณ์ เช่น การใช้เลนส์สายตา คอนแทคเลนส์ เครื่องมือในการฝึก ฟื้นฟูกล้ามเนื้อตา มีส่วนร่วมกับทีมจักษุแพทย์เพื่อติดตาม ป้องกันหรือร่วมในการแก้ไขปัญหาการเห็นเท่าที่จำเป็นต่อผู้ป่วย เช่น การตรวจเพื่อเตรียมการผ่าตัดตาและติดตามผลการรักษาโรคตา ดังนั้น นักทัศนมาตรวิชาชีพจึงไม่ใช่จักษุแพทย์ แต่สามารถวินิจฉัยความผิดปกติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเห็นที่สามารถแก้ไขด้วยอุปกรณ์ เช่น แว่นตา ได้ แต่ก็ไม่ใช่ช่างตัดแว่นสายตา เพราะนอกจากจะมีความสามารถในระดับวินิจฉัยปัญหาการมองเห็นได้ในระดับหนึ่งแล้ว ก็ยังสามารถจัดทำอุปกรณ์เพื่อช่วยการมองเห็นได้เหมาะสม นอกเหนื่อจากแว่นตาอย่างเดียว ก็ปัญหาสายตาก็ไม่ได้มีแค่สั้น ยาวหรือเอียงนี่เนอะ แล้วก็ไม่ได้แก้โดยใส่แว่นตาอย่างเดียวด้วย อาชีพนี้จึงมีความสำคัญมาก เมื่อเรียนจบ ก็ต้องสอบใบประกอบโรคศิลปะ เรียกว่า นักทัศนมาตรวิชาชีพ (Optometrist)

                ครั้งนี้พี่เกียรติขอนำเสนอ 8 อาชีพแรกก่อนะจ๊ะ ก็แหม...แค่ 8 อาชีพก็ยาวขนาดนี้แล้วนี่เนอะ พี่เกียรติว่าเขียนให้สั้นแล้วเชียวนะ แต่อย่างว่าแหละ อาชีพน่าสนใจ เราก็ต้องตั้งใจศึกษากันเสียหน่อยใช่ไหมล่ะ? ความน่าสนใจของอาชีพเหล่านี้ คือ ทุกงานล้วนมุ่งดูแลสุขภาพของคน ซึ่งสำคัญมากๆ เพราะไม่ว่าใครก็อยากจะมีสุขภาพที่ดีเยี่ยม และการจะประกอบอาชีพเหล่านี้ได้ แทบทุกคณะต้องเรียนจบสายสามัญ แผนวิทย์ - คณิต เท่านั้นนะคะ ถึงจะสอบเข้าเรียนต่อในคณะเหล่านี้ได้ 

"16 อาชีพน่าสน!! สายวิทยาศาสตร์สุขภาพ ตอนจบ" มาแล้วจ้า...