สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... เจอกับ พี่เป้ และประสบการณ์เด็กนอกสนุกๆ เช่นเคย !! สำหรับเรื่องที่นำมาฝากวันนี้มาจากประเทศที่ไกลมากกกกกกกกกกสุดๆ เพราะอยู่ถึงทวีปอเมริกาใต้แน่ะ ! กับเรื่องสนุกๆ จากประเทศ "เปรู" อ่านเพลินมากๆ ขอบอก ^^ Hola,Como estas? Me llamo Jo. ที่เริ่มต้นอย่างนี้ไม่ใช่อะไรครับ แค่อยากจะบอกว่า ตอนมาแรกๆ พูดได้แค่นี้จริงๆ 555 .... สวัสดีครับผมชื่อ "โจ้" อายุ 16 เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเอเอฟเอสเปรู รุ่น50 ภาคพื้นเหนือ ซึ่งเอเอฟเอสพึ่งจะมีภาคพื้นเหนือปีนี้ปีแรก แจ็คพ็อตก็เลยแตกใส่ผมเลย ภาคพื้นเหนือแตกต่างจากภาคพื้นใต้ตรงที่ เราจะได้มาพร้อมกับพวกฝรั่งกลุ่มใหญ่ๆ ไม่ว่าจะมาจากเยอรมัน เบลเยี่ยม อเมริกา นิวซีแลนด์ ออสเตรีย ฝรั่งเศส และอีกมากมายหลายประเทศ โดยรวมๆ กันแล้วประมาณ 60 กว่าคนเลยทีเดียว ผมอยู่เมืองชื่อ Chiclayo ซึ่งมีคนที่จะไปอยู่ทั้งหมด 8 คน สำหรับเมืองที่อยู่ป็นเมืองที่ติดทะเลและเขาเรียกกันว่าเป็นเมืองแห่งมิตรภาพ โฮสท์แม่บอกว่าเพราะเป็นเมืองที่เล็ก (อารมณ์ประมาณดูอบอุ่น 555) และผู้คนอัธยาศัยดีเป็นมิตร คนที่นี่จะชอบเรียกพวกคนเอเชียว่า China หรือ Chino เพราะว่าพวกเรามีตาที่เหมือนคนจีน = = ผมก็เลยไปซื้อเสื้อแล้วเพนท์เสื้อผมว่า No soy de China Soy de Tailandia ได้แรงบันดาลใจจากเพื่อนประเทศโดมินิกันที่เขาก็เพนท์เหมือนกัน 555 หรือที่แปลว่า ฉันไม่ได้มาจากจีน ฉันมาจากประเทศไทย แล้วเดินรอบเมืองมันซะเลย 555 มาถึงโรงเรียนกันบ้าง โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนสหซึ่งแตกต่างจากที่ไทยที่เป็นโรงเรียนชายล้วน แต่ก็ไม่ได้แปลกอะไรมาก เพราะโรงเรียนผมเขาแยกห้องผู้ชายกับห้องผู้หญิง ซึ่งหมายความว่าเจอกันได้เฉพาะตอนพักและเลิกเรียนเท่านั้น การใช้ชีวิตอยู่ที่โรงเรียนก็ไม่ได้ยากมากเท่าไหร่เพราะมีเพื่อนคนไทยอยู่คนหนึ่งที่อยู่มาก่อนแล้ว(ภาคพื้นใต้) ก็เลยได้เพื่อนกลุ่มเดียวกัน และเพื่อนที่นี่ทุกคนดีกับผมมากๆ ถึงขนาดมีวันนึง พวกเขาพาผมไปดูโรงงานทำขนมซึ่งเป็นของบ้านเพื่อนทำธุรกิจอยู่ โดยจ่ายค่ารถค่าอาหารให้ แถมพาผมกลับไปส่งถึงบ้านอีกต่างหาก ทั้งๆ ที่บ้านผมอยู่ไกลเรียกได้ว่าประมาณ 30 นาทีจากตัว แถมผมยังได้ทำกิจกรรมมากมายรวมกับเพื่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นการเต้นเพลงพื้นเมืองของที่นี่ ไปงานฮัลโลวีน ไปทะเล ไปปาร์ตี้จบการศึกษา ซึ่งเป็นอะไรที่สนุกมากๆ ส่วนเรื่องอาหารการกินของที่นี่ ส่วนตัวแล้วคิดว่าอาหารเปรูก็คล้ายๆ อาหารบ้านเราเพราะคนที่นี่ก็กินข้าวเป็นหลัก แต่จะมีพวกวิธีการทำอาหารที่แตกต่างกันไปบ้าง อย่างเช่น อาหารขึ้นชื่อของที่นี้เรียกว่า Ceviche (เซบิเช่) ทำจากเนื้อปลาดิบปรุงรสด้วยมะนาว เกลือ พริก ผักชี และหัวหอมซอย ซึ่งจะทำให้เนื้อปลาสุกโดยใช้กรดจากมะนาว หรือจะเป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองผมคือ Arroz con pato (ข้าวอบเป็ด) เป็นข้าวอบเป็ดที่ทำจากการเอาผักชีไปปั่นแล้วเอาไปหุงพร้อมกับข้าวแถมใส่เบียร์ลงไปด้วย และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ค็อกเทลที่ขึ้นชื่อของเปรูเรียกว่า Pisco sour ทำจากน้ำมะนาว ปิสโก และไข่ขาว แต่อาหารที่แปลกๆ ที่เคยไปเจอมาก็คือ อาหารของเมืองที่อยู่ในป่าที่ติดกับแม่น้ำ Amazon จะมีการกินเนื้อ ลิง เต่า จิ้งจกป่า ปลาปิรันย่าตัวนิ่ม หนอนตัวอ้วนๆ ผมได้ชิมไปแค่เนื้อเต่า เนื้อจิ้งจกป่า และเนื้อหนอนปิ้ง เนื้อเต่านั้นรสชาติมันจะคล้ายๆ เป็ดแต่ตัวเนื้อมันจะคล้ายๆ เนื้อวัว ส่วนเนื้อจิ้งจกป่ารสชาติเหมือนไก่เลยแต่จะมีกลิ่นเฉพาะตัวของมัน ส่วนเนื้อหนอนปิ้งนี้ผมบอกไม่ได้ 100% เพราะไม่ได้กินเข้าไปจริงๆ 5555 เพราะตอนกัดดันนึกถึงตอนมันขยับๆ แล้วขยะแขยงเลยบ้วนออก รสชาติหนังมันจะยวบๆ หน่อย ส่วนข้างในมันจะมีน้ำมัน อารมณ์ประมาณกัดแล้วพุ่งไรงี้ รสชาติจะเค็มๆ มันๆ หน่อย และผมเป็นคนที่ชอบทำอาหารมากกกกกกก อาจจะเรียกได้ว่าอยู่ในสายเลือดเลยทีเดียว ถึงขั้นมีครั้งนึงขอโฮสท์ขายอาหารไทยที่บ้าน โฮสท์ก็ให้ด้วย!!! แต่ดันไม่มีเวลา มัวแต่ไปเที่ยว 5555 ผมก็เลยไปลงเรียนทำอาหารในเมือง ลงไปสองคอร์ส คอร์สแรกเรียนกับเด็กๆ แต่เหมือนไม่ค่อยได้เรียน เหมือนไปเลี้ยงเด็กไรยังงี้มากกว่า และอีกคอร์สนึงคือเรียนทำอาหารแบบจริงจัง ก็ได้เรียนทำอาหารเปรูหลายจานเลยทีเดียว แถมบางทีผมกับพี่ชายผมก็ชอบชวนพวกเพื่อนฝรั่งมากินข้าวที่บ้าน ก็เลยได้โชว์ฝีมือบ่อยๆ ใครอยากชิมอาหารเปรู เดี๋ยวรอผมกลับไปเปิดร้านอาหารเปรูที่ไทยก่อนนะ 5555 และประสบการณ์ที่จะไม่มีวันลืมได้เลยคือ การที่พวกเรานักเรียนแลกเปลี่ยนทั้งหมด (ทั้งค่ายเหนือค่ายใต้) ได้ไปร่วมงานเฉลิมฉลองวันที่ 5 ธันวาคมกับทางสถานทูตไทยที่จัดที่โรงแรมมาริออตที่ลิม่า (เมืองหลวงเปรู) ทางสถานทูตดูแลพวกเราอย่างดีมากๆ ซึ่งพวกเราก็ได้ไปโชวร์การแสดงกัน เช่น พวกผู้หญิงก็รำโชว์ต่างๆ และมีการร้องเพลงพระราชนิพนธ์ต่อหน้าท่านทูตเกือบทุกประเทศ ทั้งนี้ก็ต้องขอบคุณสถานทูตประเทศไทยที่ลิม่าที่ให้พวกเราได้ไปร่วมงานอย่างสูงเลยครับ และขอทิ้งท้ายประสบการณ์อีกประสบการณ์หนึ่งที่จะไม่มีวันลืมเลยเหมือนกันคือ ประสบการณ์ความรัก ซึ่งตั้งแต่ผมมาที่นี่ ผมชอบผู้หญิงไปแล้วรวมๆ แล้วประมาณ 5 คนแล้วก็อกหักมันทุกคนเลยยยยยย คนแรก - ผมนึกว่าเขามีแฟนแล้ว ก็เลยไม่กล้ายุ่งด้วย เค้าเป็นฝรั่งที่ทำงานอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กยากจนที่ผมเคยไปนั่นแหละครับ
อ่านจบแล้ว พี่เป้ รู้สึกอยากชิม Ceviche มากๆ เลยค่ะ น้องโจ้บรรยายซะน้ำลายสอ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ชอบทำอาหาร เพราะบรรยายรสชาติอาหารได้เห็นภาพมากๆ 555+ .... ส่วนใครมีประสบการณ์เด็กนอกสนุกๆ อยากแบ่งปันเพื่อนๆ บ้าง ก็รีบพิมพ์เลย ความยาวประมาณ 3 หน้า และแนบรูปประกอบ 10 รูปส่งมาได้ที่ pay@dek-d.com แล้วเจอกันจ้า
|
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?
28 ความคิดเห็น
ไม่สิ นอนเช้า 55555555
น่าอิจฉาจังค่ะ อยากไปบ้าง
ท่าทางจะสนุก
แต่คุ้มดีนะคะ เพิ่งเคยเห็นมีคนมาบอกเล่าประสบการณ์รัก
ในเมืองนอกถึง 5 คนครั้งแรก
น่ารักดี 55555555
ขอบคุณค่ะ ที่มาแชร์ประสบการณ์ดีๆให้ชาวเด็กดีได้อ่านกัน
น่าสนุกดีนะคะ เป็นรุ่นเเรกด้วยคงน่าประทับใจน่าดูเลย
น่าสนใจมากๆเลยประเทศเปรูเนี่ย
อยากไปจังปี รอเปิดเทอมจะสอบให้ได้เลย55+
ปีนี้จะต้องไปสอบให้ได้ Fighto !!
AFS PER#46 โซนใต้ค่าาา
เปรูแนวกว่าที่คิดๆ
from afs perเหนือ รุ่น1 เหมือนกันๆ เพื่อนโจ้5555555
อยากลองกินบ้างแฮะ เสียดายตอนพี่ไปถูกส่งไปกลางทะเลทราย เลยอด
ปล.ซุปใส่สบู่นี่โดนแกล้งเหรอ
หนูก็เปรู เพื่อนคนไทย รร เดียวกะโจ้;) คิดถึงเพื่อนๆมากๆเลยยยยยย
แก๋ม:)