สวัสดีครับ เปิดปีใหม่มาเจอกันแน่ครับ สำหรับการสอบ 7 วิชาสามัญประจำปี 2558 ที่จะสอบในวันที่ 17-18 มกราคมที่จะถึงนี้ สนามสอบนี้บอกเลยว่าไม่ใช่แค่สอบให้ผ่านๆ ได้คะแนนเท่าไหร่ก็ไปยื่น แต่ต้องสอบให้ได้คะแนนตามเกณฑ์ที่คณะต่างๆ กำหนดด้วย อย่างเช่น รับตรงแพทย์ กสพท.ที่กำหนดให้ทุกวิชาต้องไม่ต่ำกว่า 30% ดังนั้น สนามนี้จึงเป็นอีกสนามไม่แค่ไปสอบ แต่เป็นสนามคัดคนออกได้เหมือนกัน
วันนี้ พี่ลาเต้ จะมาแนะนำดึงคะแนนให้เกิน 30+ ของวิชาที่หลายคนบอกว่ายาก และเป็นอีกหนึ่งวิชาที่ทำเอาน้องๆ หลายคนหมดสิทธิ์ลุ้นผลแพทย์ เพราะคะแนนต่ำกว่า 30% นั้นก็คือวิชาคณิตศาสตร์ จะเป็นยังไงไปดูกันเลย
วันนี้ พี่ลาเต้ จะมาแนะนำดึงคะแนนให้เกิน 30+ ของวิชาที่หลายคนบอกว่ายาก และเป็นอีกหนึ่งวิชาที่ทำเอาน้องๆ หลายคนหมดสิทธิ์ลุ้นผลแพทย์ เพราะคะแนนต่ำกว่า 30% นั้นก็คือวิชาคณิตศาสตร์ จะเป็นยังไงไปดูกันเลย
.jpg)
จับเวลาwข้อละ 3 นาที (ห้ามเกิน)
การสอบ 7 วิชาสามัญจะมีเวลาให้ทำข้อสอบวิชาละ 90 นาที โดยปีนี้วิชาคณิตศาสตร์ รูปแบบออกมาแล้วว่า ปรนัย 20 ข้อ + อัตนัยฝนคำตอบ 10 ข้อ รวม 30 ข้อ ซึ่งก็ลงตัวพอดีข้อละ 3 นาที ข้อไหนง่ายทำเสร็จเร็วก็จะมีเวลาไปเผื่อข้อที่ยากกว่า การจับเวลาสำคัญมากนะครับ เพราะจะทำให้เราเหมือนได้ลองสนามจริงๆ วิชาลิมิตการคิดของเรารอดไหมใน 90 นาที พูดไปไม่เห็นภาพ เอาเป็นว่าน้องลองจับเวลาดูซักครั้งจะรู้เอง
บทโกยคะแนน อ่าน ก็จะทำได้
เนื้อหาในตำราเรียน พี่ลาเต้ ขอแยกออกเป็น 2 แบบนะ คือ อ่านยังไงก็ทำไม่ได้ กับอ่านนิดหน่อย ก็ทำได้ ในเวลา 30 วันที่เหลือนี้ พี่ลาเต้ แนะนำให้เก็บอย่างหลังให้หมดเลยครับ เป็นการลงทุนที่ค้มค่ากับเวลามากๆ ซึ่งบทเรียนโกยคะแนน ก็จะมี 5 บทหลักๆ ได้แก่ เซต, ตรรกศาสตร์, ฟังก์ชั่น, แคลคูลัส, สถิติ โดยหาก 5 บทนี้เราพอจะมีพื้นฐานเวลาจริงทำได้ คิดว่าคะแนนเกิน 50% แน่นอนครับ แต่เผื่อคิดผิดอีก 20% ก็ยังผ่านเกณฑ์ 30% อยู่ดี
ทำข้อสอบวันละบท บทละ 10 ข้อ
เนื้อหาที่ออกสอบ 7 วิชาสามัญวิชาคณิตศาสตร์ตามที่ สทศ.ได้เผยแพร่ออกมา มี 5 กลุ่ม ดังนี้ 1.ความรู้พื้นฐาน (เซตและการดำเนินการของเซต ตรรกศาสตร์ ฟังก์ชั่น) 2.ระบบจำนวนจริง 3.เรขาคณิต 4.พีชคณิต 5.ความน่าจะเป็นและสถิติ 6.แคลคูลัส และ 7.ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ พี่ลาเต้ แนะนำให้นำข้อสอบเก่ามานั่งทำเลยครับว่าละ 1 บทจนครบ หากขยันก็ทำทั้งฉบับ
หากขี้เกียจมากวันละ 10 ข้อ การทำข้อสอบนี้ อาจยังไม่ต้องจับเวลาก็ได้ ใช้เวลาในการคิดให้เต็มที่ เมื่อทำเสร็จให้ทำ 2 อย่าง คือ 1.ดูเฉลยแล้วว่าวิธีคิดของเราถูกไหม และ 2.ทำตารางเทียบเลยว่าบทไหนเราอ่อนมากที่สุด แล้วเวลาที่เหลือก็ไปลุยเอาบทนั้น การทำข้อสอบเก่านั้นสำคัญมาก มีรุ่นพี่หลายคนบอกว่าวิชาสามัญคณิตศาสตร์ ชอบเอาของเก่ามาออกบ่อยๆ ดังนั้น มีข้อสอบของดีอยู่ในมือแล้ว เปิดดูซะหน่อย อย่าให้หลุดมือไปนะ
ฝึกดิ่งในรูปแบบ 4 คูณ 4
ทางนี้จริงๆ ไม่อยากแนะนำเลย แต่เข้าใจหัวอกคนเกลียดเลข ทำยังไงก้ไม่เข้าใจ มันไม่ใช่ทาง การดิ่งของ 7 วิชาสามัญนั้น หากทำไม่ได้จริงๆ แนะนำให้ใช้วิธีนี้ครับ (แต่ไม่รับรองผลนะ 5555) นั้นคือ การดิ่ง 4 คูณ 4 โดย 4 ข้อแรกดิ่ง ก. , 4 ข้อถัดมาดิ่ง ข. , 4 ข้อถัดมาดิ่ง ค. และ 4 ถัดมาดิ่ง ง. ทั้งนี้เพื่อกระจายความเสี่ยง อาจจะลองดิ่งแล้วมาคิดคะแนนดูก็ได้นะ ว่าได้เท่าไหร่ ซึ่งไม่มีหลักการเลย แต่ก็ดีกว่าทำไม่ได้แล้วมั่ว แบบนั้นไม่มีหวังเลย T T
ความยากน้อยกว่า PAT1 แต่ยากกว่า O-NET
ใครที่ผวาจากข้อสอบ PAT1 ยังไม่ทันหาย ไม่ต้องตกใจกลัวไปซะก่อน เพราะขอบอกว่าข้อสอบวิชาสามัญคณิตศาสตร์ ระดับความยากนั้นยังเบาบาง หากให้คะแนนความยากเต็ม 10 วิชา PAT1 จะอยู่ที่ 10 ส่วนวิชาสามัญอยูที่ 7 และโอเน็ตอยู่ที่ 5 ดังนั้นไม่ต้องกดดันมาก เพราะความกดดันความเครีดจะพาเราพังทั้งหมด จะว่าไปวิชาสามัญคณิตศาสตร์ ยังไม่น่าเครียดเท่าพวกวิชาวิทยาศาสตร์นะ รายนั้นค่า Mean เกิน 20+ แทบจะทำบุญประเทศเลยล่ะ
ทั้งหมดนี้เป็น How To หลักสูตร 30 วันโกยคะแนนวิชาสามัญ 30+ (วิชาคณิตศาสตร์) ใครที่คิดว่าเน่าแน่ๆ ลองไปปรับใช้กันนะครับ โดยเฉพาะน้องๆ ที่จะสอบแพทย์ กสพท. ไม่ใช่น้องไม่เก่ง แต่การสอบ 7 วิชาทีเดียวหมด น้องอาจต้องแบ่งสัดส่วนไปบ้าง เก็บโน่นบ้าง เก็บนี่หน่อย สรุปไม่ได้อะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน หรือเต็มแก้วซะอย่าง เลยเป็นสาเหตุให้ตกเกณฑ์นั้นเอง ยังไงขอให้น้องๆ ทุกคนโชคดี สู้ๆ
5 ความคิดเห็น
ชอบคุณมากค่าา T^T