ในบรรดา 4 ทักษะฝึกภาษาอังกฤษ หลายคนยกให้ "ทักษะการฟัง" ยากที่สุด หินสุดๆ เพราะต้องอาศัยทั้งฟัง คิดและแปลไปพร้อมๆ กัน ไหนจะมีเรื่องสำเนียง ความเร็วของผู้พูดที่ควบคุมไม่ได้อีก ที่เห็นว่าฟังแล้วนิ่งๆ หลับตาพริ้มนี่ไม่ใช่กำลังคิดนะ กำลังเอ๋อค่าาา~
ถึงการฟังจะยาก แต่สำหรับคนที่กำลังฝึกภาษา จะทิ้งทักษะนี้ไม่ได้เลย ถ้ายังอยากพูดคุยกับชาวต่างชาติรู้เรื่อง ดังนั้นอย่าเพิ่งท้อไปซะก่อน ทุกอย่างมันต้องใช้เวลาค่ะ ไหนๆ พูดถึงเรื่องทักษะการฟังแล้ว นอกเหนือจากให้ฝึกดูหนังฟังเพลงภาษาอังกฤษบ่อยๆ ซึ่งเป็นวิธีเบสิกสุดๆ พี่มิ้นท์มีเคล็ดลับฝึกการฟังในลักษณะต่างๆ มาเสริมให้ทักษะการฟังภาษาอังกฤษของเราดียิ่งขึ้น ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ
ถึงการฟังจะยาก แต่สำหรับคนที่กำลังฝึกภาษา จะทิ้งทักษะนี้ไม่ได้เลย ถ้ายังอยากพูดคุยกับชาวต่างชาติรู้เรื่อง ดังนั้นอย่าเพิ่งท้อไปซะก่อน ทุกอย่างมันต้องใช้เวลาค่ะ ไหนๆ พูดถึงเรื่องทักษะการฟังแล้ว นอกเหนือจากให้ฝึกดูหนังฟังเพลงภาษาอังกฤษบ่อยๆ ซึ่งเป็นวิธีเบสิกสุดๆ พี่มิ้นท์มีเคล็ดลับฝึกการฟังในลักษณะต่างๆ มาเสริมให้ทักษะการฟังภาษาอังกฤษของเราดียิ่งขึ้น ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ
1. ให้ภาษาอังกฤษเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต
ฝึกเป็นเวลาไม่ผิด แต่ถ้าอยากให้ได้ผลเร็วขึ้น ให้เปิดใจรับภาษาอังกฤษเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเราซะเลย ไม่ว่าจะทำการบ้าน นั่งรถ นั่งเรือ ออกกำลังกาย ทำกับข้าว อาบน้ำแต่งตัว ให้เปลี่ยนจากเปิดเพลงไทยฟังดีเจพูดทั้งชั่วโมง มาเป็นฟังข่าว ฟังเพลง หรือบทเรียนภาษาอังกฤษ ซึ่งสามารถเปิดผ่านเว็บไซต์ได้หลายเว็บไซต์เลยค่ะ วิธีนี้ช่วยให้เราเคยชินกับการอยู่กับภาษาอังกฤษ ที่สำคัญจะได้เลิกอ้างว่าไม่มีเวลาฝึก ก็เล่นเปิดแทบจะตลอดเวลาเลยนี่นา!
2. เปิดเบาๆ ให้ฟังยากขึ้นกว่าเดิม
ฝึกระดับยากขึ้นมาหน่อย เมื่อเปิดคลิปภาษาอังกฤษที่ชอบหรือคลิปใน Youtube ให้เปิดเสียงเลเวลเสียงเบากว่าที่ฟังปกติให้ฟังยากขึ้น เพื่อฝึกทั้งการฟังและการอ่านท่าทางของคนพูดค่ะ ถามว่าทำทำไม? เพราะในโลกของความเป็นจริง เราควบคุมน้ำเสียงและความดังของเสียงของคนอื่นไม่ได้นั่นเอง การฝึกแบบนี้ก็จะช่วยให้เราคุ้นเคยการฟังเสียงเบาๆ และตีความจากการแสดงออกระหว่างการพูดนั่นเองค่ะ
3. ฝึกฟังหลายๆ แบบ
บางคนเลือกฝึกเฉพาะการดูหนังซาวด์แทร็กหรือเน้นฟังเพลงสากล แต่ถ้าฝึกฟังหลายๆ แบบ เช่น รายการเกมโชว์ รายการเรียลลิตี้ รายการข่าว ไปจนถึงประกาศสุนทรพจน์จากผู้นำต่างๆ แล้วเปรียบเทียบมองหาความแตกต่างของการพูดแต่ละรูปแบบ การฝึกแบบนี้นอกจากจะฝึกการฟังแต่ละประเภทได้ดีมากๆ แล้ว ถ้าเป็นคนช่างสังเกต น้องๆ จะเก็บคำศัพท์จากการพูดแต่ละแบบได้เยอะเลย เพราะอย่างพวกรายการต่างๆ ก็ใช้คำศัพท์ประเภทนึง ข่าวก็ใช้คำอีกแบบนึง สุนทรพจน์ก็จะได้ศัพท์ทางการขึ้นมา เป็นต้น วิธีเวิร์คแน่นอนค่ะ
4. ฟังภาษาอังกฤษจากคนที่ไม่ได้พูดอังกฤษเป็นภาษาหลัก
อย่าเพิ่งงงค่ะ! หลายประเทศบนโลกนี้มีภาษาใช้เป็นของตัวเอง (ไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น) แต่มีหลายล้านคนที่ใช้ภาษาอังกฤษได้เข้าขั้นเทพเลยทีเดียว ลองฝึกฟังภาษาอังกฤษจากคนชนชาติต่างๆ ก็เป็นอีกวิธีที่ทำให้เราได้ฝึกฟังภาษาอังกฤษสำเนียงต่างๆ ซึ่งมีประโยชน์เวลาเราได้ไปเจอคนชาติอื่นพ่นภาษาอังกฤษใส่จะได้ไม่ตกใจเนอะ เป็นบททดสอบที่ท้าทายและยังทำให้เรามีแรงจูงใจในการเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มมากขึ้นด้วย ก็ขนาดไม่ใช่เจ้าของภาษายังเรียนรู้จนพูดได้ไฟแล่บ เราเองก็ต้องทำได้แบบนั้นบ้างแหละ
(พี่มิ้นท์ เคยดูคลิปที่คุณสิงโต นำโชค ให้สัมภาษณ์ในรายการ BBC Radio Interview พูดคล่องมากกก ดูแล้วเกิดแรงบันดาลใจไฟลุกโชน อยากวิ่งออกไปพูดคุยกับฝรั่งตอนนั้นเลยทีเดียว น้องๆ ลองหาชมดูนะ)
5. ฝึกฟังให้ได้มากกว่าคำศัพท์
การฝึกฟังส่วนมาก เราสนใจแค่ว่าจะฟังออกมั้ย ตีความได้มั้ย ก็เลยไปสนใจแต่ความหมายของมัน ความจริงเราควรสนใจเรื่องของโทนเสียงของผู้พูดด้วยนะ เสียงสูงเสียงต่ำก็มีผลต่อความหมาย ทำไมเขาถึงพูดเสียงสูง ทำไมช่วงนี้ถึงพูดเสียงต่ำ ทำให้น้องๆ เข้าใจธรรมชาติของภาษาอังกฤษมากขึ้น นอกจากโทนเสียงของประโยคแล้ว ยังมีอีกเรื่องนึงที่เรียนกันตั้งแต่ประถมก็คือ การเน้นเสียงหนักเบาในคำ (Word Stress) คำในภาษาอังกฤษหลายคำออกเสียงคล้ายๆ กันถ้าไม่ตั้งใจฟังดีๆ ความหมายผิดไปเลยจ้า ฉะนั้นมีโอกาสได้ฝึกฟัง ก็ควรฝึกฟังเรื่องการเน้นเสียงในคำด้วย ดูว่าเค้าเน้นที่พยางค์ไหน จะได้สื่อสารกันราบรื่นทั้งผู้พูดและผู้ฟังค่ะ
6. ฟังเสียงที่ตัวเองพูด
ฟังคนอื่นพูดมามากพอแล้ว อย่าลืมกลับมาฟังเสียงตัวเองบ้างนะ แนะนำว่าว่างๆ ให้หาบทความภาษาอังกฤษสั้นๆ มาลองอัดเสียงตัวเองลงในมือถือหรือคอมพิวเตอร์ที่บ้าน อัดเสร็จก็ฟัง แน่นอนว่าเราไม่อยากฟังเสียงตัวเองหรอก ฮ่าๆ แต่มันคือสิ่งที่ควรทำค่ะ ฟังแล้วหาจุดบกพร่อง แล้วรีบแก้ไขซะ! ฝึกฟังบ่อยๆ แล้วนำมาใช้กับการพูดของตัวเอง รับรองทักษะการฟังก็ดี๊ดี การพูดก็แจ่ม
เป็นยังไงบ้างคะ กับ 6 เทคนิคฝึกฟังภาษาอังกฤษที่หลายคนมองข้ามไปโดยเฉพาะการฟังเสียงของตัวเองที่บอกจุดแข็ง-จุดอ่อนในตัวเรา ฝึกเยอะๆ ใช้เยอะๆ ยิ่งขยันยิ่งเป็นเร็วค่ะ และเมื่อได้ไอเดียฝึกฟังครบแล้ว ก็อย่าลืมลงสนามจริงเพื่อใช้กันด้วย คราวหน้าจะมีไอเดียฟิตเกรดเรื่องไหนอีก อย่าลืมกลับมาติดตามกันนะ :D
ไม่เชื่อก็ลองดู สนุกด้วย
11 ความคิดเห็น
เราชอบดูรายการอาหารที่มีคุณป้ากับน้องหมาเป็นพิธีกรอ่ะค่ะ เค้าจะพูดเป็นภาษาอังกฤษ แต่ติดสำเนียงญี่ปุ่น รุ้สึกมันน่ารักปนฮาๆดี มีซับอังกฤษให้ด้วย ไม่ต้องห่วง 55
แนะนำให้ดู the face ก็ช่วยฝึกได้เหมือนกันนะคะ5555555
การฟังเพลงช่วยได้เยอะจริงจริงค่ะ เราออกสำเนียงได้ดีขึ้นแล้ว แต่เรื่องคำ ศัพพพ เอิ่มคือ................ไม่ได้ไรเลยอ่ะ555
ขำขำ
หนูโง่อังกฤษมากค่ะ แต่ไอเดียนี้น่าจะได้ผล ขอบคุณมากค่ะ