City-As-School โรงเรียนทางเลือกสุดเจ๋งในอเมริกาที่สนับสนุนคนมีฝัน

    สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com เคยสงสัยกันไหมคะว่าจะมีโรงเรียนไหนที่นอกจากจะเรียนรู้กันในห้องเรียนแล้ว ยังผลักดันให้นักเรียนออกไปเรียนรู้นอกห้องด้วย และไม่ใช่แค่นอกห้องแค่บริเวณโรงเรียนนะคะ แต่ออกไปสู่โลกกว้างจริงๆ เลย วันนี้ พี่นิทาน ไปเจอโรงเรียนเจ๋งๆ ที่น่าสนใจ ที่ไม่เน้นการเรียนรู้แค่ในห้องเรียนอย่างเดียว และอยากจะมาเล่าให้น้องๆ ฟังกันค่ะ

    เป็นที่รู้กันดีทุกคนว่าเมื่อพูดถึงโรงเรียน อันดับแรกที่นึกถึงคือ ตื่นเช้า ไปโรงเรียน เรียน โดนสั่งงาน กลับบ้าน ทำการบ้าน อ่านหนังสือเตรียมสอบ แต่รู้หรือไม่ว่ามีโรงเรียนอีกแบบที่เก๋และแหวกแนวไม่เหมือนที่เคยเห็นมาแน่นอน นั่นก็คือโรงเรียน "City-As-School" ที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกานั่นเอง ที่นี่เป็นโรงเรียนทางเลือกสำหรับนักเรียนเกรด 11 และ 12 (เทียบเท่า ม. 5-6 ของไทยค่ะ) ที่ย้ายมาจากโรงเรียนต่างๆ ในเมืองนิวยอร์คที่ต้องการเรียนรู้ในแบบที่โตขึ้น สมจริงมากขึ้นและเตรียมพร้อมที่จะก้าวไปในอีกขั้นของชีวิต 

    ที่ City-As-School นี้จะมีการสอนที่ไม่เหมือนที่อื่น คือเน้นให้นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะต่างๆ ที่ตัวเองถนัดผ่านโลกแห่งความเป็นจริง ให้ออกไปหาประสบการณ์และ "ทำ" สิ่งที่ถนัดจริงๆ กับคนที่รู้ด้านนั้นจริงๆ และได้รับประสบการณ์จริงๆ แถมไม่ต้องมีสอบอีกด้วย! ยกตัวอย่างเช่น หากนักเรียนคนหนึ่งมีความสนใจในด้านการออกแบบ แต่รักการแสดงด้วย ไม่รู้ว่าควรจะเลือกทางไหนดี อย่างงี้ต้องส่งไปฝึกงานกับโรงละคร และนักเรียนจะได้เรียนรู้การทำงานทุกขั้นต้องตั้งแต่การออกแบบฉาก สร้างฉาก หรือแม้แต่ช่วยงานหลังเวที และนอกจากนั้นนักเรียนที่นี่ไม่ต้องมีการสอบใดๆ ทั้งสิ้น แต่จะเน้นการเก็บผลงาน ทำพอร์ตโฟลิโอแทนเพื่อให้มั่นใจและเป็นทางเลือกว่าจบไปแล้วจะทำงานเลยหรือจะเข้ามหาวิทยาลัยในฝันดี แต่ที่แน่ๆ โรงเรียนนี้เค้ามีคำขวัญคือนักเรียนทุกคนจะต้องเป็น "เด็กที่น่าสนใจที่สุดในนิวยอร์ค" แน่นอนค่ะ มาดูกันดีกว่าว่าน่าสนใจยังไง

   
    City-As-School ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1972 โดย Frederick J. Koury ด้วยนักเรียนเพียง 15 คน และทีมงานอีก 4 คน และขยายจากการใช้พื้นที่ชั้นสองของโบสถ์แห่งหนึ่งจนกลายมาเป็นตึก 5 ชั้นถึงทุกวันนี้ Koury เปิดโรงเรียนนี้ขึ้นเพราะมีความเชื่อว่าการศึกษาไม่ควรมีอยู่แค่ในห้องสี่เหลี่ยมเท่านั้น แต่จะต้องได้ออกไปเรียนรู้ในโลกแห่งความเป็นจริงด้วย จากประสบการณ์การเป็นครูในโรงเรียนที่ผ่านมาของเขามักจะพานักเรียนออกไปทัศนศึกษาอยู่บ่อยๆ และเมื่อได้ก่อตั้งโรงเรียนนี้ขึ้น เขาจึงตั้งใจไว้ว่าอยากจะให้นักเรียนทั้งหมดของเขาได้เรียนรู้และใช้มหานครนิวยอร์คนี้เป็นพื้นที่ฝึกวิชา ดังนั้นเขาจึงมอบโอกาสให้นักเรียนที่มีฝันได้ออกนอกห้องเรียนไปเรียนรู้ในบริษัทต่างๆ กับผู้คนต่างๆ ที่หลากหลายในเมืองใหญ่แห่งนี้ Koury ยังกล่าวไว้อีกว่า เมื่อได้มาเรียนที่นี่ นักเรียนทุกคนจะได้เรียนรู้และตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง และการที่ได้ออกไปเรียนรู้ข้างนอกนั้นนักเรียนจะต้องเจอกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่คาดไม่ถึง กับคนที่ไม่คิดว่าจะเจอ (ทั้งดีและแย่) และเหตุการณ์เหล่านั้นจะสอนให้พวกเขาเรียนรู้และค้นหาตัวตนเจอเอง โดยครึ่งหนึ่งของการเรียนรู้ที่นี่จะเป็นการฝึกงานกับบริษัทในเครือที่นักเรียนจะได้ทั้งประสบการณ์และได้เรียนรู้วิชาต่างๆ เช่น คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์, ภาษาอังกฤษ, ประวัติศาสตร์ โดยที่ไม่ต้องเรียนในห้องเรียนแบบที่อื่นๆ ที่เคยเจอมาเลยค่ะ

 

    การเรียนการสอนที่นี่ค่อนข้างสนุกสนาน ทุกคนเท่าเทียมกันและไม่มีการแบ่งแยกใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ สีผิว ที่มา เพศ และอื่นๆ นักเรียนส่วนมากจะอายุประมาณ 17 - 18 ปี หรือเพิ่งจบ ม. 4 - 5 กันมาจากโรงเรียนเก่าและทุกคนมีสาเหตุที่แตกต่างกันไปในการย้ายมาเรียนที่นี่ ทั้งที่มีความสนใจอยากมาเองอยู่แล้ว และทั้งคนที่เคยถูกแกล้งจากโรงเรียนเก่ามาเพียงเพราะเขาสักหรือเจะหูแบบแปลกๆ หรือแม้กระทั่งโดนเหยียดและไม่ยอมรับเรื่องเพศสภาพ บางคนอาจท้องก่อนวัยอันควรและถูกสังคมกีดกัน เพื่อนๆ ไม่ยอมรับ แต่ที่โรงเรียน City-As-School แห่งนี้จะไม่มีใครเหยียดใครหรือเกลียดใครเพราะการเป็นตัวของตัวเองเลยแม้แต่นิด ทุกคนที่นี่เข้าใจและมีความหลากหลายแต่อยู่ร่วมกันได้โดยเคารพในกันและกัน และแม้กระทั่งคุณครูยังให้ความสนิทสนมและเท่าเทียมกับนักเรียนด้วยการให้เรียกชื่อเล่น และปฏิบัติกับนักเรียนทุกคนเหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่ง ซึ่งทำให้นักเรียนรู้สึกมั่นใจและกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น 

 

    แม้ว่า City-As-School จะเป็นโรงเรียนทางเลือกสำหรับนักเรียนที่อยากย้ายมาเรียนด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่ที่นี่ก็เป็นโรงเรียนที่เสริมแรงบันดาลใจและผลักดันให้นักเรียนทุกคนก้าวเดินตามทางที่ต้องการให้สำเร็จทั้งการศึกษาและในชีวิตจริง และทุกๆ สัปดาห์นักเรียนจะมีกิจกรรมให้คุยกับครูที่ปรึกษาโดยทุกคนจะสามารถพูดคุยเรื่องอะไรก็ได้ ทั้งเรื่องการไปฝึกงาน เรื่องการเรียน หรือแม้กระทั่งเรื่องสิ่งที่ชอบ กิจกรรมนี้จะช่วยให้ทุกคนมีการสื่อสารและแลกเปลี่ยนความคิด ทุกคนจะมีความสนิทสนมและผูกพันกับเหมือนครอบครัวกันเลยค่ะ และความพิเศษของโรงเรียนนี้ก็คือเมื่อทุกคนฝึกงานจบแล้วจะได้หน่วยกิตรับรองจากโรงเรียน และจะช่วยหาบริษัทที่ตรงกับความสามารถและความสนใจนักเรียน พร้อมทั้งจัดการติดต่อให้เสร็จสรรพ นอกจากนั้นเมื่อนักเรียนหลายๆ คนที่จบจากโรงเรียนไปแล้วทางโรงเรียนจะมีการติดต่อกลับไปและถามไถ่ให้แน่ใจว่าทุกคนได้เดินตามฝันต่อหรือเปล่า หรือพูดง่ายๆ ว่าได้เข้ามหาวิทยาลัยที่ต้องการ หรือเข้าทำงานกับบริษัทที่ตั้งใจไว้ไหม

/
Photo credit : Business Insider 

    เหล่าครูที่โรงเรียน City-As-School ต่างก็พูดกันเป็นเสียงเดียวว่าการเรียนการสอนแบบนี้มีผลดีที่ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ในทุกๆ ด้าน และเสริมสร้างความมั่นใจ ฝึกฝนความเป็นมืออาชีพให้เป็นนิสัยค่ะ

    ถือว่าเป็นโรงเรียนที่น่าสนใจอีกโรงเรียนเลยนะคะ แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าโรงเรียนนี้เหมาะสำหรับนักเรียนที่อยู่ที่นิวยอร์คเท่านั้น หากใครสนใจอยากอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเชิญที่เว็บไซต์โรงเรียนเลยค่ะ http://www.cityas.org/

http://www.businessinsider.com/

http://www.cityas.org/