สวัสดีชาว Dek-D ที่น่ารักทุกคนค่ะ ตอนนี้ตั้งใจเรียนกันอยู่รึเปล่าเอ่ย? อยากบอกว่าแค่พริบตาเดียว น้องๆ อาจจะต้องไปอยู่ในสภาพยุ่งหัวฟูเตรียมปั่นเกรดเทอมแรกซะแล้ว ก็เวลามันเดินเร็วมากๆ เลย และเกรดนี่ก็สำคัญกับวัยมัธยมอย่างเรามากๆ ด้วย
 


 
         น้องๆ เคยสงสัยมั้ยว่า ทำไมบางวิชาตั้งใจเรียนแทบตาย แต่เกรดออกตรงกันข้ามแบบสุดๆ นี่อาจารย์คิดเกรดผิดหรือเราโง่จริงๆ อ๊ะๆ อย่าเพิ่งคิดไปถึงขั้นนั้นค่ะ (- -'') ไม่ใช่แน่นอน มาดู 10 ความจริงของเด็กมัธยมฯ ตั้งใจเรียนแล้วทำไมเกรดตก กันดีกว่า!

1. กดดันตัวเองเกินไป
         คนทุกคนมีความหวัง หวังตั้งใจเรียนจะทำให้ได้คะแนนดี คว้าเกรดสี่ เป็นที่หนึ่งของห้อง ยิ่งหวังมากก็ยิ่งกดดันมาก พอทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่คิด หลายๆ คนก็ถึงขั้นเจ็บหนักกันเลยทีเดียว พี่เมก้าไม่อยากให้น้องๆ กดดันตัวเองว่าเทอมนี้ต้องเกรดสี่ทุกวิชา ช่วงใกล้สอบต้องอ่านหนังสือตลอดคืนอะไรแบบนั้นนะคะ สิ่งที่ตึงเกินไปย่อมไม่ใช่สิ่งที่ดีอยู่แล้วค่ะ เราจะทั้งเครียดทั้งลนจนทำอะไรก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง เผลอๆ อาจทำให้เกรดลดฮวบด้วย

         ลองเปลี่ยนมาเป็นทำใจสบายๆ เวลาเรียนก็ตั้งใจฟังครูสอน ค่อยๆ ทำความเข้าใจตาม ช่วงใกล้สอบก็อ่านหนังสือให้เต็มที่ ไม่ต้องเครียด ถ้าเราไม่สร้างความคาดหวัง แต่พยายามทำทุกวันให้ดีที่สุดแทน พี่เมก้าเชื่อว่าผลลัพธ์ต้องออกมาดีแน่นอนค่ะ 


2. ไม่เข้าใจแล้วไม่ถาม
         อยากรู้ว่าน้องๆ วัดความตั้งใจเรียนจากตรงไหน? จากการ 'นั่งหลังตรงตาจับจ้องไปที่กระดานดำ' หรือ 'นั่งพยักหน้าเหมือนเข้าใจทุกอย่างที่ครูสอน'  พี่เมก้าจะบอกว่าไม่ใช่ทั้งหมดที่พูดมาเลยค่ะ น้องๆ อาจจะตั้งใจเรียนจริงแต่แท้จริงแล้วเราอาจไม่เข้าใจบทเรียนนั้นเลยก็ได้ เพราะเราแค่ตั้งใจฟัง ตั้งใจจดตาม แต่ไม่ได้ตั้งใจทำความเข้าใจบทเรียนอย่างถ่องแท้และลึกซึ้ง นี่จึงเป็นที่มาของการที่เราตั้งใจเรียน แต่เกรดออกมาไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้มากนัก   


 
         พี่เมก้าอยากให้น้องๆ ตั้งใจเรียนแล้วคิดตามไปด้วยว่าเราเรียนทันรึเปล่า เราเข้าใจสิ่งที่ครูสอนมั้ย น้องอาจจะรู้สึกว่าคาบเรียนนั้นใช้สมองหนักมาก แต่อย่างน้อยก็ได้ทดสอบตัวเองนะว่า ถ้าเรียนไม่รู้เรื่องเราควรจะรีบถามครูด่วนๆ แล้วล่ะ ลองคิดง่ายๆ ก็ได้ว่าในแต่ละเทอมน้องๆ เรียนกี่วิชา เกิดวิชานี้ก็ไม่แม่น วิชาโน้นก็ไม่แม่น ได้ความรู้ไปแบบลุ่มๆ ดอนๆ เกรดออกมาศพไม่สวยแน่เลยค่ะ ย้ำอีกครั้ง! เรียนไม่เข้าใจต้องรีบถามคุณครูนะคะน้องๆ อายครูบ่รู้วิชาเน่อ ^^

3. ความผิดพลาดจากการอ่าน
         นี่คือความประมาท! พี่เมก้าเชื่อว่าน้องๆ ต้องมีความเข้าใจว่า 'แค่ตั้งใจเรียนในห้องก็ไม่ต้องอ่านหนังสือแล้ว' มันเป็นความเชื่อที่ค่อนข้างน่ากลัวมากเลยค่ะ คนที่ตั้งใจเรียนอย่างเดียวไม่อ่านหนังสือทบทวนแต่ยังทำคะแนนได้ดี แทบจะมีเพียง 1 ในล้านเท่านั้น! (อย่างน้อยก็น่าจะอ่านผ่านๆ ตามาบ้าง -__-') แล้วก็ต้องยอมรับว่าพวกเขามีความสามารถเฉพาะตัวนะคะ เพราะฉะนั้นคนธรรมดาอย่างเราๆ ตั้งใจเรียนในห้องแล้วก็อย่าปล่อยทิ้งค่ะ ต้องตั้งใจอ่านหนังสือด้วย

         ที่สำคัญอย่าอ่านผิดจุด ครูเน้นให้อ่านตรงไหน ทำความเข้าใจตรงนั้นเป็นพิเศษ (ถึงแม้บางทีสิ่งที่เน้นจะออกบ้างไม่ออกบ้าง แต่คุณครูคงเห็นดีแล้วค่ะว่าความรู้ที่นักเรียนได้รับจะต้องไปไกลกว่านี้ อ่านเล่มเดียวไม่พอ หาเล่มอื่นมาเสริมความเข้าใจบ้าง ฟิตขนาดนี้เกรดตกก็ให้รู้ไป!
 

4. ไม่ค่อยทำแบบฝึกหัด
         บางทีตั้งใจเรียนอย่างเดียวก็ไม่พอค่ะ แบบฝึกหัดต่างๆ ที่อาจารย์มอบหมายก็เป็นสิ่งจำเป็นเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นแบบฝึกหัดท้ายบทเรียน แบบฝึกหัดในชีทที่ครูแจก แบบฝึกหัดในข้อสอบเก่า ฯลฯ การทำแบบฝึกหัดทบทวนจะช่วยให้น้องๆ เข้าใจเนื้อหาในแต่ละบทเรียนมากขึ้น ส่วนข้อสอบย้อนหลังในแต่ละปีก็ทำให้มองเห็นโจทย์ที่หลากหลาย ข้อสอบส่วนใหญ่ที่อาจารย์ออก พี่เมก้าคิดว่าน่าจะคล้ายกับแบบฝึกหัดที่เราได้ลองฝึกมาจนคุ้นชินแน่ๆ


 
         ถ้าน้องๆ ไม่ลงมือทำแบบฝึกหัดด้วยตนเองพอไปเจอข้อสอบจริงอาจจะมึนตึบได้ค่ะว่า 'เอ๊ะ! ข้อนี้ต้องทำยังไงนะ?' หรือ 'ข้อนี้ตอบอะไรนะ?'  พอติดๆ ขัดๆ ทำข้อสอบไม่ได้ก็คือตกม้าตาย คะแนนสอบน้อยเกรดแย่ไปอีก T^T แต่!!! ถ้าเราเคยเห็นผ่านตามาก่อนต่อให้ข้อสอบยากแค่ไหน พี่เมก้าเชื่อว่าร้อยทั้งร้อย น้องๆ สามารถหาวิธีมาพลิกแพลงโจทย์ทำข้อสอบได้ลื่นปรื๊ดๆ แน่นอน

5. ขาดเทคนิคเตรียมความพร้อม
         น้องๆ ที่ตั้งใจเรียนแต่เกรดยังตกอยู่ อาจเกิดจากความผิดพลาดตั้งแต่ขั้นเตรียมความพร้อมแล้วค่ะ ขอกล่าวรวมๆ ทั้งในเรื่องเรียนและเตรียมสอบเลยนะคะ การเรียนให้ถูกวิธีต้องเรียนอย่างตั้งใจและเข้าใจไปพร้อมกันค่ะ ตั้งใจฟังให้เข้าใจก่อน อย่าก้มหน้าก้มตาจดอย่างเดียว เพราะเนื้อหาที่ครูสอนมันจะผ่านหูเราไปเหมือนไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน แถมกลับไปอ่านเองก็ไม่รู้เรื่องอีก ปากกาสีใกล้มืออาจเป็นทิปเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยเพิ่มความสามารถด้านการจดจำและการเรียนของน้องๆ ได้นะคะ  

         ส่วนขั้นตอนเตรียมสอบ ก็ควรมีเคล็ดลับเฉพาะตัวในการอ่านหนังสือหรือวางแผนทำข้อสอบ อย่างน้องบางคนทำสรุปบทเรียนก่อนสอบด้วยตัวเอง หาวิธีจำศัพท์ จำสูตรคำนวณ หรือเชื่อมโยงเนื้อหาที่เกี่ยวเนื่องกันให้จำได้ง่ายๆ จนเรียกได้ว่าจำจนตายก็ไม่มีวันลืม! (เพราะยากเหลือเกิน กระซิกๆ T^T) บางคนวางแผนไปถึงตอนทำข้อสอบเลย ลองจับเวลาบ้าง ลองใช้สูตรเดาช้อยส์ตัดช้อยส์อย่างมีหลักการบ้าง ถ้าตั้งใจเรียนแต่ขาดเทคนิคก็เหมือนนักรบที่ไร้อาวุธนะคะน้องๆ ต้องเตรียมพร้อมเสมอค่ะ


6. คะแนนเก็บต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
         คะแนนเก็บนับเป็นขุมทรัพย์มหาศาลเลยนะ น้องๆ ที่ตั้งใจเรียน เข้าเรียนสม่ำเสมอคงคว้าคะแนนจิตพิสัยจากคุณครูมาเต็มอยู่แล้ว แต่คะแนนส่วนนี้อาจเป็นแค่ส่วนเล็กๆ เมื่อเทียบกับคะแนนเก็บทั้งหมดซึ่งมาจากงานเดี่ยว งานกลุ่ม เทสต์ย่อยต่างๆ บางวิชาคะแนนเก็บมีค่ามากถึง 80% เมื่อเทียบกับคะแนนสอบ 20% เพราะฉะนั้นถ้าน้องๆ ตั้งใจเรียนแต่ทำคะแนนเก็บในส่วนอื่นๆ ไม่ดีพอ นี่ก็อาจเป็นตัวฉุดให้เกรดอันสวยหรูของเราตกลงมาได้ค่ะ


 
         เมื่อรู้ว่าคะแนนเก็บมีความหมายแล้วต่อไปน้องๆ ก็ต้องตั้งใจรับผิดชอบงานต่างๆ ให้เต็มที่ ส่งงานให้ครบตรงเวลาอย่าดองเค็ม และเช็กความถูกต้องเพื่อลดข้อผิดพลาดสักนิด ส่วนคะแนนเก็บที่เป็นเทสต์ย่อย พี่เมก้ารู้ว่าถ้ายากคือยากจนหืดขึ้นคอ ทำให้ดีที่สุดละกันนะคะน้องๆ คะแนนเก็บเป็นตัวช่วยให้เราได้ค่ะ ^^

7. ไม่ใส่ใจเรื่องหน่วยกิต
         หน่วยกิตคือตัวแปรสำคัญสำหรับเกรดของน้องๆ เลยค่ะ บางวิชาที่หน่วยกิตเยอะ ถ้าทำคะแนนสอบได้ดีก็จะทำให้เกรดโดยรวมอลังการดาวรุ่งพุ่งแรงไปเลย แต่ถ้าคะแนนวิชานั้นสะสมแต้มไว้แย่มาก งานนี้เกรดได้ดิ่งลงเป็นผีพุ่งไต้แน่เลยค่ะ ฉะนั้นการที่น้องมั่นใจว่าตั้งใจเรียนมากแต่เกรดดันตกลงกว่าที่ควรจะเป็น พี่เมก้าขอเดาว่าสาเหตุหนึ่งน่าจะมาจากสิ่งนี้แน่นอน 'ไม่ใส่ใจเรื่องหน่วยกิตเท่าที่ควร' วิชาหน่วยกิตเยอะไม่ค่อยทุ่ม ไปทุ่มเต็มที่ให้วิชาหน่วยกิตน้อยแทน

         ต่อไปนี้พี่เมก้าเลยอยากให้น้องๆ หันมาเห็นความสำคัญของหน่วยกิตให้มากขึ้น ลองดูซิว่ากว่าสิบวิชาที่เราต้องเรียน มีวิชาไหนที่ต้องตั้งใจเป็นพิเศษเพราะหน่วยกิตมากมั้ย อ๊ะๆ ไม่ได้หมายความว่าให้น้องๆ ทิ้งวิชาที่หน่วยกิตน้อยนะคะ แต่ละคนก็มีวิชาที่ชอบและถนัดแตกต่างกันไป เกิดวิชาที่หน่วยกิตเยอะเป็นเสมือนยาขมสำหรับเราจะได้รับมือถูกไง 


8. แบ่งเวลา 'ชิลล์' ไม่เป็น
         นี่เป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายคนเลยนะคะ น้องบางคนตั้งใจเรียนในห้องมาก แต่ออกมานอกห้องคือติดเล่นมากเกินไป คิดว่าแค่ตั้งใจฟังครูสอนในห้องก็น่าจะพอแล้ว กลับบ้านมาเลยชิลล์มาก ไม่อ่านหนังสือ ไม่ทบทวนการบ้าน เอาแต่เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลงอย่างเดียว ซึ่งเวลาที่น้องๆ เสียไปจากการ 'ชิลล์' นี่แหละ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกรดเราตกได้ เพราะฉะนั้นอยากพักผ่อนทำได้ค่ะ แต่อย่าลืมแบ่งเวลามาให้ความสำคัญกับเรื่องเรียนด้วย


 
         ลองลิสต์สิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันขึ้นมาก็ได้ วันนี้จะทวนหนังสือสัก 1 ชั่วโมง ทำการบ้านอีก 1 ชั่วโมง ให้รางวัลตัวเองเป็นการทำกิจกรรมที่ชอบอีก 1 ชั่วโมง ที่เหลือก็นอนพักเอาแรงเตรียมตั้งใจเรียนในวันต่อไป ถ้าทำได้แบบนี้อนาคตน้องๆ จะมองเห็นแสงสว่างแน่นอนค่ะ

9. เกิดวิกฤตในช่วงเวลาสำคัญ
        พี่เมก้าขอให้คำนิยาม "ช่วงเวลาสำคัญ" เป็นช่วงสอบที่มีผลต่อเกรดของน้องๆ ละกันค่ะ ใครจะไปรู้ว่าช่วงใกล้สอบเราจะชอบดวงตก เหมือนถูกราหูอม เดี๋ยวปวดหัว ปวดท้อง ลำไส้แปรปรวนไปอีก ซึ่งอาการแบบนี้เป็นกันทุกคนค่ะ (รวมถึงพี่เมก้าด้วย - -'') เราก็อ่านหนังสือเตรียมตัวมาดีแล้ว ตอนเรียนก็ตั้งใจ ตอนอ่านหนังสือก็จดจำคำพูดคุณครูได้ขึ้นใจ แต่ทำไมเวลาสอบต้องตื่นเต้นจนลนลาน น่าโมโห!

         ความเครียดประกอบกับความตื่นเต้นนี่แหละที่ทำให้เราไม่เป็นอันสอบ ต้องวิ่งเข้าวิ่งออกห้องน้ำเป็นว่าเล่น แถมพอร่างกายไม่พร้อมสมองก็ไม่พร้อมตามไปด้วย ความหวังที่จะทำข้อสอบได้ริบหรี่ไปอีก พี่เมก้าเลยอยากให้น้องๆ ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี ทำใจสบายๆ ไม่ต้องเครียด เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงของแสลงที่อาจทำให้เราจู๊ดๆ ในวันสอบได้ เท่านี้ก็เหมือนได้เตรียมความพร้อมให้ตัวเองแล้วค่ะ   
 

10. เพราะข้อสอบยากเกินไป!
         หืม! น้องๆ อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ เพราะข้อสอบยากเกินไป ต่อให้ตั้งใจเรียนมากแค่ไหน เกรดก็มีสิทธิ์ตกได้อยู่ดี ต้องบอกว่าเรื่องของข้อสอบนี้มันคล้ายจะอยู่เหนือความควบคุมของเรา เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครูผู้ออกข้อสอบ ถ้าข้อสอบออกมามีความยากเกินไปในระดับที่ต้องคิดกันยี่สิบตลบ แถมยังกว้างเกินขอบเขต เราก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากยอมรับและลงมือทำเท่าที่ความรู้จะพอไปไหว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพี่เมก้าไม่ได้จะบอกให้น้องๆ ยอมแพ้ค่ะ


 
         สมมติว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับน้องจริง ลองออกมาจับกลุ่มคุยกับเพื่อนเลย อย่าปล่อยผ่านค่ะ ครูแต่ละท่านมีแนวการออกข้อสอบที่ต่างกัน หลายท่านออกยากพลิกแพลงโจทย์ซับซ้อนเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความคิด นักเรียนอย่างน้องๆ ก็มีหน้าที่ช่วยกันคิดหาคำตอบในส่วนที่ทำไม่ได้ ยิ่งข้อสอบยากยิ่งต้องเตรียมความพร้อมให้มาก ไปหาข้อสอบเก่ามาฝึกทำเยอะๆ รับรองว่าคราวหน้าเจอข้อสอบหมูๆ เกรดพุ่งแรงแซงทางโค้งแน่นอนค่ะ

         ทั้งหมดนี้คือ 10 ความจริงของเด็กมัธยมฯ ตั้งใจเรียนแล้วทำไมเกรดตก! ที่พี่เมก้านำมาฝากน้องๆ นะคะ บางทีก็เกิดเป็นความเซ็งได้ว่าทำไมตั้งใจเรียนแล้วเกรดยังตกอีก ขอบอกว่าเซ็งเป็นบางครั้งบางคราวได้ แต่ไม่อยากให้ล้มเลิกความตั้งใจค่ะ มาเริ่มต้นใหม่แล้วทำให้ดีกว่าเดิมดีกว่า! น้องคนไหนอยากแชร์ความในใจ มามะๆ เชิญด้านล่างเลยจ้า 

 
พี่เมก้า
พี่เมก้า - Columnist นักข่าวสายการศึกษา ที่มีความสุขกับการแต่งฟิค อ่านฟิค เพ้อถึงยัมมี่ฟู้ดไปวันๆ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

Nightmare Member 7 ธ.ค. 59 19:26 น. 6
ไม่อยากจริงจังกับวิชาหน่วยกิตน้อยๆหรอกค่ะ แต่ครูสอนนี่แหละปัญหา วิชาครูไม่สำคัญใช่มั้ย" คำพูดนี่มาพร้อมกองงานที่เลี่ยงไม่ได้ ไม่ทำติด0 ร. มผ. แน่นอน 0.5หน่วยกิตสั่งงานเหมือนเรียน5หน่วยกิตเป็นสัจธรรมไปแล้วค่ะ วิชา3หน่วยกิตสั่งนิดเดียวเอง อย่าว่าแต่0.5 เลย 1 หน่วยกิตก็เยอะพอกัน สั่งทีเหมือนนร.หยุดเป็นสัปดาห์ //มาบ่นแล้วจากไป
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

7 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Nightmare Member 7 ธ.ค. 59 19:26 น. 6
ไม่อยากจริงจังกับวิชาหน่วยกิตน้อยๆหรอกค่ะ แต่ครูสอนนี่แหละปัญหา วิชาครูไม่สำคัญใช่มั้ย" คำพูดนี่มาพร้อมกองงานที่เลี่ยงไม่ได้ ไม่ทำติด0 ร. มผ. แน่นอน 0.5หน่วยกิตสั่งงานเหมือนเรียน5หน่วยกิตเป็นสัจธรรมไปแล้วค่ะ วิชา3หน่วยกิตสั่งนิดเดียวเอง อย่าว่าแต่0.5 เลย 1 หน่วยกิตก็เยอะพอกัน สั่งทีเหมือนนร.หยุดเป็นสัปดาห์ //มาบ่นแล้วจากไป
0
กำลังโหลด
Gtsone 8 ธ.ค. 59 09:36 น. 7
ตอน ม.ต้น เราเกรด 3.9 ขึ้นตลอดเลยนะ พอตอนนี้ ม.4 ย้ายโรงเรียนมา (เป็น รร ที่ได้เกรดยากมาก -.-) เกรดเหลือ 3.6 เลย 5555 แต่ทุกคนก็ได้ประมาณนี้กันเราเลยไม่ค่อยใส่ใจกับเกรด ใส่ใจความรู้ที่ได้มากกว่า
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด