สงสัย? "ดื่มน้ำ 8 แก้ว" คิดแล้วปริมาณเท่าไหร่ ได้ผลกับทุกคนจริงหรอ?

เราเรียนเรื่องการดื่มน้ำตั้งแต่เด็กๆ ว่า ใน 1 วันร่างกายควรดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว โดยที่ไม่ได้ลงลึกรายละเอียดว่าทำไมถึงต้องดื่มวันละ 8 แก้ว แล้วแต่ละแก้วต้องมีปริมาณเท่าไหร่ ต้องดื่มในช่วงเวลาไหน จนสุดท้ายกลายเป็นว่า ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการดื่มน้ำ และจะดื่มน้ำก็ต่อเมื่อรู้สึกกระหายเท่านั้น บางคนแทบไม่ดื่มน้ำระหว่างวันด้วยซ้ำ ส่วนน้ำหวานอย่างชานมไข่มุก กาแฟเย็น อันนี้ไม่นับเป็นน้ำดื่มนะคะ ฮ่าๆ

กลับมากันที่การ ดื่มน้ำ 8 แก้ว กันต่อ จากการหาข้อมูลจากหลายๆ แหล่ง พบว่าไม่มีการระบุชัดเจนว่าการดื่มน้ำ 8 แก้วเป็นปริมาณเท่าไหร่ ถ้าไม่คิดอะไรมาก บางคนอาจจะเข้าใจว่า แค่กินครบ 8 แก้วของตัวเอง ก็น่าจะเพียงพอแล้ว อาจจะแก้วละ 200 ml. หรือ 400 ml. ก็นับเป็นแก้วเหมือนกัน อันนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิดมากๆ เลยล่ะค่ะ

 

การดื่มน้ำ ควรดื่มในช่วงเวลาที่เหมาะสม พอมากระจายเวลาในการดื่มแล้ว ก็จะตกประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน ในแต่ละแก้วปริมาณจะแปรผันตามน้ำหนักตัวของร่างกาย วิธีการคิดง่ายๆ คือ นำน้ำหนักตัวของตัวเอง ไปคูณกับ 33 (น้ำหนัก x 33) [บางที่มีสูตรว่า (น้ำหนัก x 2.2 x 30) / 2 จะใช้สูตรนี้ก็ได้ มีค่าเท่ากัน] ก็จะได้ปริมาณน้ำเป็นหน่วย ml. ที่เราควรดื่มต่อวัน เช่น น้ำหนัก 50 กิโลกรัม มาคิดปริมาณน้ำจะได้เป็น 50 x 33 = 1,650 ml. หรือประมาณ 1.6 ลิตร นั่นเอง

ทีนี้เราก็นำปริมาณน้ำ 1.6 ลิตรที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน มาเฉลี่ยเป็นแก้วเพื่อกระจายดื่มทั้งวัน ถ้าคิดเป็น 8 แก้ว ก็จะตกแก้วละประมาณ 200 ml. ช่วงเวลาที่เหมาะสมของการดื่มน้ำในแต่ละวันมีดังนี้

1.ดื่มตอนตื่นนอน 1 แก้ว เพราะร่างกายขาดน้ำมาทั้งคืน มีความเข้มข้นของเลือดสูง ถ้าไปอาบน้ำทันที การดื่มน้ำก่อนอาบน้ำจะช่วยปรับสมดุลร่างกายด้วยค่ะ

2.ช่วงเวลาสายๆ 9.00-10.00 น. ประมาณ 1-2 แก้ว เป็นช่วงที่ร่างกายทำงาน มีการขับของเสีย เป็นช่วงที่ควรดื่มน้ำเพื่อขับของเสียออกไป

3.ดื่มน้ำก่อนรับประทานอาหาร 1 แก้ว จะช่วยให้ระบบย่อยทำงานดีขึ้น แนะนำว่าไม่ควรดื่มระหว่างมื้ออาหารค่ะ

4.ช่วงเวลาบ่ายๆ  13.00-14.00 ประมาณ 2-3 แก้ว เป็นช่วงที่ร่างกายทำงานหนักภาคบ่าย การดื่มน้ำจะช่วยให้ระบบอวัยวะภายในทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5.ก่อนนอน 1 แก้ว เป็นการล้างสิ่งตกค้างภายในกระเพาะและลำไส้ ช่วยป้องกันการอุดตันของเส้นเลือด ยังช่วยให้หลับสบายอีดด้วยค่ะ

 

การปรับตัวในการดื่มน้ำแรกๆ อาจจะทำให้เราปัสสาวะบ่อย เพราะร่างกายเรายังจำการดื่มน้ำน้อยในปริมาณเดิมๆ อยู่ ต้องใช้เวลาสักพักค่ะ เมื่อร่างกายปรับได้แล้ว น้ำที่ดื่มเข้าไปก็จะไปช่วยปรับสมดุลต่างๆ ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื่น แถมสุขภาพก็ดีขึ้นด้วยทั้งช่วยลดอาการท้องผูก ล้างสารพิษ ปรับอุณหภูมิของร่างกาย ปรับให้เลือดไหลเวียนได้ดีด้วยค่ะ

เตือนไว้ทิ้งทายว่า การดื่มน้ำมากเกินไปก็ไม่ดีนะคะ จะส่งผลให้เป็นพิษต่อร่างกาย ดื่มเท่าที่จำเป็นต่อร่างกาย เหมาะกับขนาดตัวของตัวเองจะดีกว่าค่ะ ในอาหารที่เรารับประทานก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบด้วย ตรงนี้ก็จะช่วยเติมเต็มปริมาณน้ำในร่างกายเราด้วย เห็นแบบนี้แล้ว รีบวางน้ำหวานแล้วเทน้ำเปล่าดื่มกันดีกว่าค่ะ

 
พี่แป้ง
พี่แป้ง - Columnist นักข่าวสายรับตรง พร้อมเสิร์ฟข่าวสอบเข้าทุกมหา'ลัย เติมพลังได้จากชาเย็นหวานน้อย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

3 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด
Boaboon Member 20 ก.ย. 65 00:33 น. 3

ขออนุญาต​ประชา​สัมพันธ์นะคะ​‼️

Healthy programming

จากศูนย์​สุขภาพ​โภชนาการ​ Antiag​ing สำหรับ​ใครที่สนใจหรือต้อง​การ​ดูแลเรื่องสุขภาพ ต้องการตัวช่วยในเรื่องของสุขภาพให้ง่ายขึ้น ติดต่อ​ช่องทาง​ไลน์​ ได้เลยคค่ะ

ติดต่อปรึกษา รายละเอียดลึกได้ฟรี

Line:@362iflkl(มี@ข้างหน้า)

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด