Death Rattle เสียงสั่นแห่งความตาย สัญญาณบ่งบอกก่อนวันสุดท้ายของชีวิต

Spoil

  • เสียงสั่นแห่งความตาย คือเสียงที่จะเกิดตอนคนเราใกล้ตาย
  • เป็นไกลไกทางธรรมชาติที่เลี่ยงไม่ได้ แม้จะพยายามรักษา แต่ก็ทำให้แค่เสียงเบาลง
  • ทางที่ดีที่สุดคือการปล่อยวาง และทำใจให้ได้

ความตายเป็นเรื่องธรรมดา เป็นสิ่งปกติในธรรมชาติ เมื่อมีเกิด มีเติบโต มีแก่ชรา มีเสื่อมสภาพ แล้วก็ตาย โดยที่ความตายนั้นเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ คิดจะมาก็มา บางคนอาจใช้ชีวิตสนุกสนานตามปกติ แต่จู่ๆ วันถัดมาเสียชีวิตก็มี หรือบางคนป่วยเป็นโรควินิจฉัยที่รักษาไม่หาย และกำลังจะตาย แต่กลับฟื้นตัวขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาดเอง

แต่ว่าประเด็นในวันนี้ที่พี่เบสจะพาเพื่อนๆ ชาว Dek-D มารู้จักกันนั่นก็คือ Death Rattle หรือเสียงสั่นแห่งความตาย เป็นเสียงที่ว่ากันว่าจะได้ยินจากคนที่กำลังใกล้ตายเท่านั้น เป็นสัญญาณบ่งบอกที่ทำให้คนรอบข้างรู้ได้ทันทีว่าคนคนนี้กำลังจะตาย มันคืออะไร? มาจากไหน บทความนี้จะพาทุกคนไปไขคำตอบกัน

ภาพจาก Freepik.com
ภาพจาก Freepik.com

Death Rattle เสียงสั่นแห่งความตาย

เสียงสั่นแห่งความตาย คือเสียงของลมหายใจที่ฟังดูน่ากลัว เสียงสั่น ฟังดูทรมาน หายใจลำบาก เป็นสัญญาณที่มักจะออกมาจากผู้ป่วยที่มีโรคร้ายแรง และรักษาไม่หาย มักจะได้ยินตอนที่พวกเขาอยู่สภาพที่หมดสติ หรืออยู่ในสภาพที่กำลังจะสิ้นลมหายใจนั่นเอง

ตามหลักทางวิทยาศาสตร์มีคำอธิบายอยู่ เพราะคนป่วยใกล้ตายส่วนมากนั้นพวกเขาจะอ่อนแรงมากๆ ทำไม่ได้แม้แต่จะกลืนน้ำลายเพื่อทำให้ลำคอชุ่มชื้นขึ้นด้วยซ้ำ มันเลยทำให้คราบสกปรก น้ำลายที่เหนียวหนืด น้ำมูกที่ไหลผ่านระหว่างจมูก และลำคอ มันก็เหนียวจนติดสะสมอยู่ตรงหลังลำคอ ทำให้ช่องการหายใจทำได้ยิ่งลำบากมากกว่าเดิม

นอกจากนั้นแล้ว กระแสลมหายใจของคนป่วยอาการโคม่าก็จะเปลี่ยนไปอีกด้วย ด้วยเหตุผลเดียวกันที่พวกเขายิ่งอ่อนแรงมากขึ้น แม้แต่การหายใจยังต้องสูดหายใจเข้าออกโดยใช้แรงมากกว่าปกติ จนทำให้เสียงลมหายใจที่ดังสนั่นมันเกิดขึ้น และยิ่งมันต้องผ่านช่องลมที่มีน้ำมูก น้ำลายเหนียวข้นอยู่ด้วย มันก็เลยก่อเกิดเป็นเสียงสั่นประสาทที่ถูกเรียกว่า เสียงสั่นแห่งความตายนั่นเอง

หลังจากที่เกิดเสียงแห่งความตายนี้ขึ้นมาแล้ว กระบวนการของร่างกายของผู้ป่วยอาการสาหัสก็จะค่อยๆ ปิดตัวลง จนกระทั่งปิดระบบหายใจเป็นอย่างสุดท้าย เป็นการสิ้นสุดชีวิตคนคนหนึ่งไป แม้แต่การตายของคนก็ยังมีขั้นตอนเป็นระบบระเบียบ ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นปุ๊บปั๊บอย่างที่หลายคนเข้าใจ ยกเว้นในกรณีเกิดอุบัติเหตุนะ

มันทำให้คนป่วยทรมานมากขึ้นใช่รึเปล่า?

จากเสียงการหายใจที่ฟังดูน่ากลัวจนได้ชื่อว่าเป็นเสียงสั่นแห่งความตาย แต่ความจริงแล้วสำหรับคนที่เกิดอาการนี้ขึ้นมันไม่ได้ทรมานเหมือนอย่างเสียงที่ได้ยินเลยแม้แต่น้อย บางครั้งเสียงมันก็ไม่ได้ดังสนั่น แต่มาในรูปแบบเสียงครางเบาๆ ก็มี แต่ก็ยังฟังดูทรมานอยู่ดีนั่นแหละ โดยส่วนมากถ้าผู้ป่วยยังคงพอจะรู้สึกตัวได้ มีสติอยู่บ้าง จะยิ่งรู้สึกไม่ทรมานกับการหายใจรูปแบบนี้ แต่จะไปทรมานกับอาการรูปแบบอื่นมากกว่า อย่างเช่น

  • อาการมึน สับสน
  • หมดแรง ต้องการนอนตลอดเวลา
  • อุณหภูมิในร่างกายลดลง ตัวเย็น แขนเย็น ขาเย็น
  • ผิวหนังขึ้นสีผิดปกติ เช่น สีดำ สีฟ้า

นั่นทำให้พอสรุปได้ว่าการที่คนป่วยหายใจออกมาเป็นเสียงสั่นแห่งความตาย ไม่ได้ทำให้พวกเขาทรมานยิ่งขึ้นจนเป็นสาเหตุของการตาย แถมยังไม่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าหายใจทรมานอีกต่างหาก แต่ว่า มันก็ยังเป็นปัญหาที่ทำให้สภาพจิตใจของญาติผู้ป่วย คนรัก หรือคนใกล้ชิดที่มาได้ยินเสียงนี้เกิดความไม่สบายใจเป็นอย่างมากอยู่เหมือนกัน ถ้าแบบนั้นจะมีทางแก้ไขอะไรหรือเปล่า?

ภาพจาก Freepik.com
ภาพจาก Freepik.com

หนทางการเยียวยาอาการเสียงแห่งความตาย

จากการศึกษาข้อมูลได้พบว่า 66% ของญาติผู้ป่วยที่ได้ฟังเสียงสั่นแห่งความตายนี้เข้าไป จะเกิดความวิตกกังวลกันอย่างมาก ทำให้ทางการแพทย์มีคำแนะนำสำหรับการลดแก้ปัญหาในเรื่องเสียงแห่งความตายดังนี้

เปลี่ยนตำแหน่งการนอน - ให้นอนหันข้าง และทำหมอนให้สูงเข้าไว้ก่อน การทำแบบนี้จะทำให้พวกน้ำมูก น้ำลายไม่เข้าไปอุดกันอยู่ที่ส่วนหลังของลำคอได้

จำกัดการรับของเหลวเข้าปาก - ถ้าไม่อยากให้มีน้ำ หรือคราบสกปรกติดข้างในควรทำแบบนี้ รวมไปถึงอาหารเองก็ถูกห้ามเหมือนกัน จึงเห็นได้ว่าผู้ป่วยอาการหนักส่วนใหญ่จะต่อสายอาหารทางจมูกลงสู่กระเพาะโดยตรงเลยเพื่อกินอาหาร

การให้ยา - วิธีนี้จะช่วยทำให้น้ำมูก น้ำลาย ที่ไปอุดตันจนสะสมกลายเป็นเสมหะหนืดข้นมันเริ่มแห้ง และสามารถชะล้างออกไปได้ง่ายขึ้น

การทำความสะอาดช่องปาก - วิธีนี้สามารถใช้ควบคู่กับยาได้ ด้วยการกินยาทำให้มันแห้ง แล้วก็ทำความสะอาดภายในช่องปากด้วยไม้สำลีชุบน้ำ เขี่ยเอาเสมหะออกไป

วิธีการที่แนะนำไปนี้มันพอจะช่วยได้แค่ส่วนนึงเท่านั้น เพราะยังไงคนป่วยอาการหนักย่อมมีเสียงหายใจที่รุนแรงกว่าคนปกติอยู่แล้ว แถมการเช็ดล้างมันก็เป็นการรักษาเพียงชั่วคราว พักนึงเดี๋ยวเสมหะมันก็กลับมาอีกครั้ง

ธรรมชาติที่ไม่อาจเลี่ยง

สุดท้ายแล้วความตายก็เป็นสิ่งที่มนุษย์เราเลี่ยงไม่ได้ เสียงสั่นแห่งความตายเองก็ด้วย อย่างที่บอกไปว่ามันเป็นกลไกของร่างกายที่ค่อยๆ ปิดระบบของตัวเองลงก่อนจะสิ้นลมหายใจไปในที่สุด ดังนั้นทางที่ดีที่สุดในการรับมือกับเสียงสั่นนี้ คือการทำใจ และยอมรับมันให้ได้เพียงเท่านั้น

แม้จะเป็นหนึ่งในสัญญาณที่บอกว่าคนป่วยกำลังจะเสียชีวิตในอีกไม่นาน แต่ว่าก็ไม่มีงานวิจัยไหนสามารถบอกตัวเลขที่แน่นอนได้ว่าถ้าเกิดเสียงสั่นแห่งความตายนี้ขึ้นมาแล้ว คนคนนั้นจะมีชีวิตรอดได้อีกนานแค่ไหน บางคนก็ยังอยู่ได้อีกหลายวัน หลายสัปดาห์ บางคนก็อาจจะไม่กี่ชั่วโมงแล้วทรุดหนักลงไปเลย

ดังนั้นถ้าอยากจะสังเกตอาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดจริงๆ ว่าอาการหนักถึงขั้นไหนแล้ว ยังทนต่อไปได้อยู่รึเปล่า? มันมีวิธีสังเกตเพิ่มเติมดังนี้ 

  • คนที่กำลังจะตายจะเริ่มรู้ตัวเองถึงความเจ็บปวดจากโรคร้ายที่กำลังเป็น จะเริ่มกระสับกระส่าย ทนไม่ไหว
  • มีการพูดถึงเรื่องในอดีตที่ยาวนานผ่านมา พูดถึงคนที่เขาคิดถึงที่จากไปก่อนหน้านี้ว่ามาหาเขาแล้ว

ถ้าพวกเขากำลังจะจากไป สิ่งที่ตัวเรา และคนสนิทคนอื่นๆ ของเขาจะทำได้มีเพียงแค่อยู่กับเขาให้ได้นานที่สุด  อยู่ข้างๆ ผู้ป่วยตราบจนนาทีสุดท้าย เพราะไม่มีใครที่อยากจะจากไปแบบโดดเดี่ยวเลย อีกทั้งเรื่องของเสียงยังช่วยเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยสาหัสได้อย่างมาก เพราะโดยส่วนใหญ่ร่างกายของพวกเขาจะเริ่มปิดระบบไปทีละส่วน จนเหลือการได้ยินที่เป็นระบบส่วนท้ายๆ ที่จะถูกปิด เพราะฉะนั้นการให้กำลังใจผ่านเสียงจึงเป็นอะไรที่ดีที่สุดแม้ตัวผู้ป่วยจะแทบไม่รู้สึกตัวแล้วก็ตาม บอกให้ผู้ป่วยผ่อนคลาย และหมดห่วงกับคนที่มีชีวิตอยู่ได้แล้ว

สุดท้ายนี้ แม้เรื่องของดวงวิญญาณ และโลกหลังความตายจะเป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ แต่การที่เราต้องใช้ชีวิตอยู่ต่อไป คือการที่เราต้องดูแลตัวเองให้ดี ให้สมกับที่เราบอกกับคนที่เรารักก่อนเขาตายไปว่าเราดูแลตัวเองได้แล้ว ให้เขาหมดห่วงได้อย่างแท้จริง จงใช้ชีวิตมุ่งหน้าต่อไป แม้จะเจ็บปวดก็ตาม

ภาพจาก Freepik.com
ภาพจาก Freepik.com

 

สำหรับบทความนี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างหนักหน่วงในด้านของจิตใจ และมันก็ทัชหัวใจของพี่เบสเอามากๆ เลย เพราะพี่เบสก็เคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วเหมือนกัน ดังนั้นก่อนที่อะไรจะสายเกินไป แสดงความรักต่อคนที่เรารักให้มากๆ นะครับ ใครมีประสบการณ์อะไรจะมาแชร์ก็สามารถพิมพ์คอมเมนต์กันได้เช่นเคยเลยนะครับ

 

 

 

ข้อมูลจาก:https://www.healthline.com/health/death-rattle?https://www.verywellhealth.com/what-is-the-death-rattle-2249083
พี่เบส
พี่เบส - Columnist คอลัมนิสต์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น