อาชีพของคนช่างจัดการ...ที่ธรรมดา แต่ไม่ธรรมดา
วันนี้พี่เกียรติมีสายงานหนึ่งที่คนไม่ค่อยรู้จัก หรือรู้จักแต่ไม่ค่อยสนใจ มาแนะนำน้องๆ ชาว Dek-D.com ซึ่งในฐานะที่ตัวเรากำลังค้นหาตนเอง และค้นหาอาชีพที่เราจะทำในอนาคต เราควรรู้จักและศึกษารายละเอียดของงานต่างๆ ไว้หลายๆ อาชีพ เพื่อนำไปพิจารณาว่าเราจะมีความถนัด และความชอบเหมาะกับงานนั้นๆ หรือไม่ และในครั้งนี้พี่ก็จะพามารู้จักที่น้องๆ อาจจะสนใจก็ได้ เป็นอาชีพที่อาจจะพอรู้จัก แต่เราไม่รู้เลยว่ามันเจ๋งอย่างไร!!!
น้องๆ รู้หรือไม่ว่า การจะเป็นพนักงานของหน่วยงานใดๆ นั้น ต้องถูกคัดสรรคัดเลือกเสียก่อน บางทีก็มีเจ้านายมาสัมภาษณ์โดยตรง แต่ในบริษัทใหญ่ ที่ต้องการรับพนักงานหลายตำแหน่ง และมีผู้สมัครหลายคนนั้น เขาต้อง มีแผนกหนึ่งในบริษัทนั้นๆ ทำหน้าที่คัดเลือกคนที่เหมาะสมในลำดับแรกก่อนพาไปสัมภาษณ์กับเจ้านาย ไม่เช่นนั้น มีมาสมัครร้อยคน เจ้านายต้องนั่งสัมภาษณ์ทั้งร้อยคน...แย่แน่ๆ ไม่ต้องทำงานทำงานการกันแล้ว ฮา
และในแผนกเดียวนี้เอง ที่ต้องรับงานอีกมากมายซึ่งเกี่ยวข้องกับพนักงานทุกคนในบริษัทนั่นเอง ทั้งทำเรื่องเข้างาน ลาออกของพนักงาน ดูแลเรื่องอัตราเงินเดือนและสวัสดิการให้เหมาะสม วางแผนและจัดทำโครงการพัฒนาพนักงานในบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแผนกที่ต้องมีกันในทุกบริษัท เป็นแผนกงานที่สำคัญต่อบริษัทอย่างยิ่ง และก็น่าสนใจใช่เล่น พี่เกียรติเลยขอแนะนำให้น้องๆ ได้รู้จักกัน กับงานในกลุ่มทรัพยากรมนุษย์ หรือ ฝ่ายบุคคล จ้า
เพื่อความเข้าใจง่ายมากขึ้น พี่เกียรติจึงขอแบ่งกลุ่มงานสายนี้ออกเป็น 4 กลุ่มค่ะ
1) Recruitment ฝ่ายสรรหาว่าจ้าง ทำหน้าที่ประมวลข้อมูลและแผนคุณสมบัติของพนักงานทุกตำแหน่งสำคัญในบริษัท เรียนรู้รายละเอียดของแต่ละตำแหน่งงานนั้น และประกาศรับสมัครพนักงานใหม่ เมื่อได้ผู้สมัครแล้วก็ต้องทำการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นให้เหมาะสมกับตำแหน่งงาน ติดต่อกับผู้สมัครตอบปฏิเสธหรือรับมาสัมภาษณ์ และอำนวยความสะดวกกับผู้สมัครต่อในขั้นตอนการสัมภาษณ์ต่อไปค่ะ บางบริษัทก็จะให้ทำหน้าที่ทดสอบและสัมภาษณ์เบื้องต้นก่อนส่งไปสู่หัวหน้างานสัมภาษณ์ด้วยค่ะ วะว้าววว งานแบบนี้ต้องมีทักษะการจัดการและจิตวิทยาใช่ย่อยเลยนะเนี้ย
2) Payroll & welfare ฝ่ายดูแลเรื่องการจัดจ่ายเงินตามอัตราจ้างของพนักงานให้เหมาะสม คิดคำนวณค่าล่วงเวลา และหรือหักค่าใช้จ่ายตามวันที่ขาด มาทำงานสาย รวมทั้งการจัดจ่ายเงินตามสวัสดิการ ประกันภัย และทำแผนและแบบทดสอบการพิจารณาเงินพิเศษต่างๆ ด้วย บางบริษัทก็ลาก เอ้ย มอบหมายให้นักบัญชีของบริษัททำงานด้านนี้นี่แหละ แต่จริงๆ นอกจากเรื่องทักษะในการคิดคำนวณแล้ว ก็ยังต้องมีความรู้ทางกฎหมายข้อสวัสดิการต่างๆ ด้วย รอบคอบและซื่อสัตย์ เพราะต้องรู้อัตราเงินเดือนของทุกๆ คน แต่ไปบอกเล่าใครฟังไม่ได้เลยนะ ความลับ ความลับ
3) Training ฝ่ายฝึกอบรม มีสองลักษณะสำคัญค่ะ คือ การฝึกอบรมก่อนเข้าทำงาน ให้รู้หลักการทำงานและวิธีปฏิบัติของบริษัท และระหว่างการทำงานเพื่อทบทวนและเพิ่มพูนความรู้ของพนักงานอย่างสม่ำเสมอ ไม่งั้นทำงานไปเรื่อยๆ ก็น่าเบื่อแย่ ต้องมีการพาไปอบรมบ้าง เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ และนำมาปรับใช้กับงานได้ กลุ่มTraining นี้มีบทบาทอย่างเด่นชัดในบริษัทสายงานบริการต่างๆ อย่างห้างสรรพสินค้า สายการบิน ประกันภัย เพราะต้องมีการอบรมพนักงานก่อนเพื่อให้เกิดวิธีและจิตใจในให้การบริการที่ดี และในบางบริษัทก็จะแยกงานส่วน training นี้ออกจากงานทรัพยากรมนุษย์กลุ่มอื่นๆ ค่ะ พี่ว่าตำแหน่งงานนี้ทำหน้าที่คล้ายๆ คุณครูอยู่เหมือนกันนะ ต้องทำแผนและไปอบรมให้พนักงานในบริษัท มีเพื่อนร่วมบริษัทเป็นลูกศิษย์ และบางคนก็แก่วัยกว่านะ ฮ่าๆๆๆ
4) Policy development & Employee relations ฝ่ายนโยบายการพัฒนาภาพรวมของบริษัทและดูแลสุขภาพทางใจของพนักงาน ทำให้พนักงานมีความรัก ความผูกพันกับบริษัท (Employee Engagement) พร้อมตั้งใจทุ่มเทพลังกาย พลังใจให้กับการทำงานที่รับผิดชอบอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่กลุ่มนี้ต้องทำให้เกิดบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ต้องดูแลเรื่องสัมพันธภาพระหว่างกลุ่มผู้นำ กับลูกน้อง และระหว่างเพื่อนร่วมงานกันเอง โดยฝ่ายนี้ต้องวางแผนร่วมกับอีกสามฝ่ายข้างต้นเลย เพื่อให้มีแผนพัฒนาบริษัทให้เป็นตามภาพลักษณ์ของบริษัทและสร้างแรงจูงใจที่ดีในการทำงานให้พนักงาน กลุ่มนี้ต้องรู้เรื่องการบริหารเป็นสำคัญ ดวงตาก็ต้องปิ๊งๆ คอยสำรวจกระแสความต้องการของพนักงานในบริษัทโดยตลอด
กลุ่มที่ 1) และ2) มีในทุกองค์กรอยู่แล้ว แต่ในปัจจุบันก็มีแนวโน้มที่ทุกองค์กร บริษัท ห้างร้านจะให้ความสำคัญกับกลุ่ม 3) และ4) มากขึ้น เนื่องจากเห็นความสำคัญของพนักงาน ซึ่งถือเป็นทรัพยากรสำคัญ อันเป็นแรงขับเคลื่อนของบริษัท ถ้าไม่มีการพัฒนาพนักงานควบคู่ไปกับการดูแลด้านจิตใจ ก็ทำให้พนักงานไม่มีแรงพอที่จะทำงานเพื่อบริษัทได้ ดังนั้น แนวโน้มของงานสายทรัพยากรบุคคล จึงค่อยๆ มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ
หลายๆ มหาวิทยาลัยได้เปิดหลักสูตรปริญญาตรีให้สอดคล้องกับงานโดยตรงมากขึ้น เช่น คณะทรัพยากรมนุษย์ คณะบริหารธุรกิจ สาขาทรัพยการมนุษย์ เป็นต้น ด้วยสายงานนี้ มีแนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องให้เรียนรู้ มีแบบทดสอบ แบบสำรวจ วิธีการจัดการแนวใหม่ ที่ไม่เแพร่หลายนักในไทยเรา ให้นำมาประยุกต์ใช้จริงอีกมาก ซึ่งแต่ก่อนนั้นมีแต่หลักสูตรในระดับปริญญาโทและเอกเท่านั้น อย่างไรก็ตาม งานสายนี้สามารถประยุกต์ได้จากการเรียนในคณะ/สาขาเหล่านี้ค่ะ คือ จิตวิทยา รัฐศาสตร์ และครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์
งานในกลุ่มนี้ อาจมีจำนวนจำกัดเสียหน่อย เพราะแต่ละบริษัทก็ไม่จำเป็นต้องการคนในตำแหน่งนี้หลายคนนัก แต่ก็เป็นฝ่ายที่ทุกบริษัท ทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะรัฐบาล เอกชน หรือองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรก็ตาม...ต้องมีฝ่ายนี้อยู่ในบริษัท และก็ต้องการคนที่รู้หลักการใหม่ๆ มีแนวคิดที่ดีเพื่อมาทำงานสายนี้เสมอ น่าสนใจใช่เล่นเลยเนอะ
เป็นอีกหนึ่งอาชีพ ที่เหมาะสมกับคนชอบการจัดการ มีความคิดบรรเจิดชอบสร้างโครงการใหม่ๆ ที่มุ่งพัฒนาความรู้คน ทำงานเอกสารได้ มีทักษะในการสื่อสารดี ชอบที่จะวิเคราะห์คน ศึกษาคน เป็นงานบริหารเล็กๆ ที่ที่ำคัญมากเลยนะ ถ้าเราดูคนไม่เก่ง คัดใครเข้ามาทำงานไม่รู้ บริษัทป่วนแน่ อิ อิ
แหล่งข้อมูล,ภาพประกอบ: http://www.bls.gov/oco/ocos021.htm http://learnthat.com/2010/12/career-guide-for-human-resources-managers/ http://humanresources.about.com/ flickr.com |
10 ความคิดเห็น
ด้วยค่ะ ปี1เอง .. ได้ข่าวว่าหางานยาก TT'
สายไหนก็ได้จ้า แต่ถ้าให้ดีเป็นศิลป์-คำนวณก็ได้ จะได้เรียนเลขเรียนคำนวณ เรียนบัญชี เผื่อได้ทำเงินเดือนด้วย แต่จริงๆ แล้วด้วยตัวคณะนี้ และคณะที่ประยุกต์ได้อย่างจิตวิทยา รัฐศาสตร์ และครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์เอง ทุกสายการเรียนมีโอกาสสอบเข้าในคณะดังกล่าวได้จ้า
HR เป็นหน่วยงานที่ทำงานได้แย่ที่สุด ตั้งกฎเกณฑ์ระเบียบสถานประกอบการก็ไม่ค่อยมีตรรกกะ จึงสร้างปัญหามากมาย ไม่ค่อยสร้างความยุติธรรมในการประเมินผลงาน ไม่ต้องอะไรมากแค่วิธีการประเมินยังไม่ได้ความเลย ให้คนที่ไม่เคยเป็น HR ไปทำยังทำได้ดีกว่า เพราะมันอยู่ที่ความคิดความอ่านที่พวกเขาไม่ถึง หรือก็ไม่ค่อยทำงาน สังเกตดูเรื่อง JD การอบรม เวลาถูก iso audit จะโดนบ่อยมากเพราะไม่ค่อยทำงาน จน auditor ปล่อยผ่าน เพราะเป็นอย่างนี้ทุกบริษัท
ถ้าคิดจะเป็น HR ก็เตรียมถูกคนด่าได้เลย เพราะเป็นหน่วยงานที่ฉลาดน้อยที่สุดในองค์กร
เห็นด้วยค่ะ HR เป็นงานที่ง่ายที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับแผนกอื่น แต่กลับทำงานได้ห่วยที่สุด สร้างปัญหาได้มากที่สุด สุดสุดของที่สุดจริงๆ