ครู! มหาศาลน่าเรียนรู้ ตอน คนของชาติ
 
            เมื่อความตอนที่แล้ว น้องๆ ชาว Dek-D.com หลายๆ คนคงจะได้ทราบรายละเอียดครูแต่ละระดับกันบ้างแล้ว ต่อไปนี้จะเป็นส่วนที่น้องๆ อาจจะยังไม่ทราบ เพราะเป็นรายละเอียดช่วงต้องไปทำอาชีพจริงๆ ขอนำน้องๆ ไปรู้จักกับอาชีพครูตามสังกัดต่างๆ สำหรับน้องที่สนใจอาชีพครู จะได้เลือกโรงเรียนตามความชอบและความสะดวกได้อย่างเหมาะสมจ้า 



 
            ครูราชการ สังกัด สพฐ.  (สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน)  ต้องสมัครและสอบบรรจุ ตามพื้นที่ที่น้องๆ อยากเข้าไปเป็นครู แต่ส่วนมากจะจัดสรรตามภูมิลำเนาของผู้สมัครสอบเป็นสำคัญก่อน แต่บางทีอัตราตามวิชาเอกที่จบมาก็ไม่ได้อยู่ในภูมิลำเนาตัวเอง จึงต้องไปสมัครสอบตามจังหวัดทีรับสมัครนั้นๆ ไม่มีศูนย์รับสมัครและสอบส่วนกลางนะ อยากเป็นครูในเขตพื้นที่ไหนก็ต้องไปสมัครสอบที่พื้นที่นั้นๆ เลยจ้า ผู้ที่มีสิทธิ์สอบบรรจุแบบนี้ ต้องจบการศึกษาในสาขา/เอกวิชาที่ต้องการ และต้องมีใบประกอบวิชาชีพครูเท่านั้นค่ะ

 
         นอกจากนี้ยังมี ครูราชการอัตราพิเศษ เป็นอัตราที่ได้รับสิทธิ์การสอบบรรจุจากตำแหน่งราชการที่ว่างจากโรงเรียน ส่วนมากคือครูอัตราจ้างที่มีใบประกอบวิชาชีพ และทำงานในโรงเรียนนั้นๆ มาแล้วเป็นเวลาหนึ่ง และทำงานได้ดี เมื่อมีตำแหน่งราชการว่าง ก็สามารถเข้าไปสอบในตำแหน่งนั้นๆ ได้โดยตรงค่ะ (ยังต้องสอบนะ ไม่ใช่ได้ตำแหน่งได้เลย)  ส่วนนี้ไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการในทุกๆ โรงเรียนนะ เป็นเพียงการเปิดเฉพาะกิจตามอัตราการขาดแคลนของครูราชการแต่ละโรงเรียนค่ะ

 
        ครูราชการ จะมีสวัสดิการคุ้มครองจากภาครัฐ เช่น ค่ารักษาพยาบาลที่ครอบคลุมบุตรและพ่อแม่ ฯลฯ รวมถึงเงินค่าวิทยฐานะหรือเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูไปตามลำดับขั้น ถ้าสนใจว่ารายได้ส่วนนี้เท่าไหร่น้องๆ ลองสืบค้นจากทางอินเทอร์เน็ตได้จ้า (ไม่บอกง่ายๆ นะเออ แต่พอบอกได้ว่า "มากพอสมควร" จนครูหลายคนมัวแต่ทำตำแหน่ง จนแทบลืมสอนทีเดียว อุ๊บ...พี่เกียรติโดนอุ้ม)
 
 
           ครูสังกัด สช. คือ ครูโรงเรียนเอกชน ที่ขึ้นทะเบียนบรรจุกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน คล้ายๆ ครูราชการนะ คือ มีสวัสดิการที่จัดสรรภายใต้พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน จะขึ้นทะเบียนเป็นครู สช ได้เมื่อมีใบประกอบวิชาชีพ มีคุณสมบัติตามพระราชบัญญัติกำหนด และทำงานในโรงเรียนเอกชนหนึ่งๆ ถึงหนึ่งปีแล้ว (หรือตามความเหมาะสมที่โรงเรียนระบุ) มีสวัสดิการกองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน เป็นเงินช่วยเหลือเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามกำหนด แต่ไม่มีค่าตำแหน่งวิทยฐานะเหมือนครูราชการ ซึ่งทดแทนได้ด้วยอัตราเงินเดือนของครูเอกชนนั่นเอง ถ้าโรงเรียนใหญ่ มีชื่อเสียง ก็จะมีเงินเดือน โบนัส เงินสอนพิเศษ หรือเงินดูแลอื่นๆ ได้มากขึ้นตามนโยบายของผู้บริหารโรงเรียน
 
 
         ครู กทม  หรือ ข้าราชการครูที่ขึ้นตรงกับส่วนราชการปกครองกรุงเทพมหานคร เป็นครูโรงเรียนสังกัดกทม. โรงเรียนที่ชุดนักเรียนปักตัวอักษรหลายตัว มีตัวอักษร ก อยู่เหนือตัวอักษรอีก 4 ตัวนั่นเอง ผู้ที่สมัครสอบบรรจุต้องมีคุณสมบัติตามกำหนด และต้องมีใบประกอบวิชาชีพครูเท่านั้น สวัสดิการเหมือนกับครูราชการสังกัด สพฐ. แต่มีเงินบางส่วนต่างกันซึ่งต้นสังกัด กทม. เป็นผู้ให้ แต่การบรรจุอยู่ในเขตการปกครองของกรุงเทพมหานครเท่านั้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผู้เลือกสอบว่าอยากทำงานที่ไหน กรุงเทพมหานครหรือภูมิลำเนาตนเอง
 
           นอกจากนี้ยังมีครูสังกัดองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น หรือครูเทศบาล ซึ่งต้องสอบบรรจุตามคุณสมบัติที่ท้องถิ่นนั้นๆ กำหนดและต้องมีใบประกอบวิชาชีพเช่นกัน สวัสดิการไม่ต่างกัน แต่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของหน่วยงานท้องถิ่นนั้นๆ ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยใดๆ นั้นน้องๆ ที่สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากอินเทอร์เน็ต
 
 
          ครูอัตราจ้าง ครูในโรงเรียนรัฐบาลและเอกชนทั่วไป ที่เข้าไปทำหน้าที่สอนในโรงเรียน อาจยังไม่มีใบประกอบวิชาชีพครูก็ได้ แต่จบเอกวิชาและมีคุณสมบัติตามที่โรงเรียนต้องการ แต่ถ้ามีใบประกอบวิชาชีพก็จะได้เงินพิเศษ เป็นค่าใบประกอบวิชาชีพเพิ่มเติมค่ะ มีภาระหน้าที่เหมือนครูบรรจุในด้านการสอน และเขียนแผนการสอนทุกประการ แต่อาจไม่ต้องมีภาระด้านการประเมินคุณภาพของโรงเรียนเท่าครูบรรจุของโรงเรียน สวัสดิการที่ได้รับก็จะเหมือนพนักงานบริษัททั่วไป มีการเก็บเบี้ยประกันสังคม ประกันภัย(ถ้าโรงเรียนทำให้) ค่าสอนพิเศษ(ของโรงเรียน ถ้ามี) ส่วนอัตราเงินเดือนนั้น ก็เท่าๆ กับฐานอัตราเงินเดือนครูทั่วไป


 
       
        ดังจะเห็นว่า อาชีพครูแต่ละสังกัด ล้วนต้องมี "ใบประกอบวิชาชีพครู" ซึ่งถือเป็นมาตรฐานที่รับรองว่าคุณครูผู้นั้นจะมีทั้งความรู้และจรรยาบรรณอันเหมาะสมในการเป็น "ครูมืออาชีพ"
 
         ซึ่งปัจจุบัน ย้ำนะ ว่าตอนนี้เท่านั้น ที่ยังมีการเรียนในหลักสูตรครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ หลักสูตร 5 ปี ที่ถ้าเรียนผ่าน ฝึกสอนจบ และทำกิจกรรมครบตามที่คุรุสภากำหนด จะได้รับใบประกอบวิชาชีพครูโดยอัตโนมัติเลย  แต่ก็ยังมีข่าวอีกว่าในปีหน้านี้แม้จะจบจากคณะครูแล้ว ก็ยังต้องสอบรับใบประกอบวิชาชีพนี้อีกอยู่ดี ในขณะเดียวกันก็จะมีหลักสูตรครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ 6 ปี ที่เมื่อจบแล้วได้วุฒิปริญญาตรีควบโทเลย แต่ข่าวก็คือข่าวอีกนั่นแหละจ้า ยังเอาอะไรแน่นอนไม่ได้ 

 
          ดังนั้น ถ้าน้องๆ อยากเป็นครูจริงๆ แนะนำให้เรียนในคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ในหลักสูตรที่มีการฝึกสอนอย่างน้อย   1 ปี จะมีโอกาสสอบใบประกอบวิชาชีพครูได้ง่ายมากกว่า การจบจากคณะอื่น แล้วไปสอบประกอบวิชาชีพครูภายหลังค่ะ กรณีหลังนี้ยุ่งยากมากๆ ต้องสอบให้ผ่านมาตรฐานทางวิชาการเฉพาะมากมายและต้องผ่านการฝึกสอน และโอกาสในการรับราชการยังช้ากว่าอีกด้วย   


       ว่าแล้วก็มาถึงช่วงที่พี่เกียรติสัญญาว่าจะพาไปอ่านข้อความจากคุณครูมะนาว 
อ่านแล้วรับรองว่าจะได้รับแง่คิดแง่มุมดีๆ ในการค้นหาตนเองจ้า
 
 1.ตอนนี้เป็นครูที่ไหนคะ         
       ตอนนี้รับราชการครู ที่โรงเรียนบ้านดอย อ.ดอยหลวง จ.เชียงรายครับ สอนประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทุกวิชายกเว้นวิชาธรรมะศึกษาครับ (มีพระมาสอน)

2.สนใจอาชีพครูแต่เมื่อไหร่ ค้นพบตัวเองว่าอยากเป็นครูได้อย่างไร 
      มีหลายเหตุผลมากเลยครับ  เรื่องของเรื่องคืออยากเป็นครูมาตั้งแต่เด็กนั่นแหละครับ คิดว่าการที่มีพ่อเป็นครูถือว่าเป็นส่วนหนึ่งครับ แม้ว่าจะถูกพ่อแนะนำใส่หัวมาตั้งแต่เด็กว่ามีอาชีพอื่น ๆ ที่มีรายได้ดี เช่น เป็นวิศวกร หมอ หรือสัตวแพทย์ ซึ่งตอนแรกเราก็คล้อยตามแล้วล่ะครับ เดี๋ยวอยากเป็นนั่นเป็นนี่เยอะแยะไปหมด แล้วจุดที่ทำให้เปลี่ยนมาอยากเป็นครูอีกครั้งนี่ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับ เหมือนมันสะสมมาเรื่อยๆ
 
 
      ถ้าจะลองนึกย้อนตอนนี้ดก็คงเริ่มจาก ตอนที่มาเรียนชั้นป.6 ซึ่งเป็นชั้นที่คุณพ่อของตัวเองเป็นครูประจำชั้นนี่แหละครับ ฮา เรียกได้ว่า หลังจากนั้นก็มีคุณพ่อเป็นฮีโร่ในเรื่องการสอนครับ รู็สึกว่าอยากสอนนักเรียน แล้วทำให้นักเรียนมีรอยยิ้มได้เหมือนพ่อเป็นครูไม่จำเป็นต้องมาซีเรียสกับเนื้อหา ไม่ใช่ว่าเราละเนื้อหานะครับ แต่เราทำให้นักเรียนสนุกกับเนื้อหาได้ เลยอยากเป็นครูแบบนี้ อยากสอนให้ได้แบบนี้  พอมาเรียนมัธยม ก็ไม่ใช่คนเก่งครับ คือหลงไปเรียนสายวิทย์มาครับ ทีนี้พวกเพื่อน ๆ ก็จะเก่งฟิสิกส์ เคมี ชีวะ กันหมด วิชาที่เราพอจะทำได้ คือ วิชาภาษาไทย และเป็นวิชาเดียวที่ เราติวเพื่อน ๆ ได้ (นอกนั้นบ๊วยหมด 555)
 
          พอได้อธิบายให้เพื่อน ๆ เข้าใจได้ มันก็มีความสุขขึ้นมาครับ อีกเหตุผลหนึ่งคืออาชีพครูเป็นอาชีพที่มีปิดเทอมครับ อิอิ (แต่ก็แล้วแต่สถานการณ์นะครับ ครูบางโรงเรียนที่มีผอ.เฮี้ยบ ๆ ก็แทบไม่ได้ปิดเทอมเหมือนกัน)
 
          เหตุผลสุดท้ายคือเป็นคนที่อยากทำอะไรหลาย ๆ อย่างมากในชีวิตนี้ครับ ทั้งเขียนหนังสือ แต่งเพลง ร้องเพลง  เมื่อมาถึงช่วงที่เราต้องเลือกจริง ๆ ตอนยื่นคะแนนเอนทรานซ์ (ไม่ได้แก่ไปใช่มั้ยครับ รุ่นรองสุดท้ายน้าาา - -") ตอนนั้นฟันธงว่ายังไงก็จะเรียนครู เพราะ ครูนี่แหละสามารถทำอะไรได้หลาย ๆ อย่าง แต่ถ้าเป็นอย่างอื่นแล้ว จะมาเป็นครูสอนหนังสือในโรงเรียนไม่ได้นะ (ตอนนั้นคิดแบบนี้ครับ) แล้วก็ได้เป็นครูจริง ๆ และทำความฝันของตัวเองได้จริง ๆ แม้ว่าจะเป็นเพียงบนโลกออนไลน์ก็เถอะ!! 

3.คิดว่าอาชีพครูตอนนี้เป็นอย่างไร / แนะนำอาชีพครู
        ตอนนี้อาชีพครู (โดยเฉพาะข้าราชการ) กำลังก้าวเข้าสู่การยกระดับ ให้เป็นวิชาชีพชั้นสูง เพราะ ถือว่าครูเป็นผู้ดูแลอนาคตของชาติกันเลยทีเดียว เงินเดือนก็ถือว่ามาถึงระดับที่น่าพอใจ(ของบางคน)แล้วนะครับ ที่สำคัญเงินเดือนขึ้นปีละสองครั้งนะครับ 
       
         เพื่อน ๆ ที่เป็นครูหลายคนชอบบ่นว่างานหนักนะครับ แต่ถ้าเทียบกับอาชีพอื่น อาชีพครู ก็ถือไม่ถือว่าหนักครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับความชอบ (อีกแล้ว) หลายคนคงเบื่อกับคำ ๆ นี้ แต่อยากให้มองเรื่องนี้จริง ๆ แหละครับ พอมาเป็นครู หลายคนเกิดอาการท้อครับ เนื่องจากอาจจะเจอกับเด็ก ๆ ที่ไม่ตั้งใจเรียน หรือสอนแล้วเด็กไม่เข้าใจที่เราสอน ซึ่งต้องใช้ความพยายามและใจเย็น ๆ ครับ ส่วนตัวถือว่าเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง ที่เราจะต้องเอาชนะ(เจ้าเด็กพวกนั้น) ให้ได้ครับ 
         นอกจากนี้ เรื่องงานนอกเหนือจากการสอน ก็ถือว่าบั่นทอนกำลังใจอย่างมากครับ หลายคนอยากเป็นครู เพราะอยากสอนหนังสือ แต่งานเช่น พัสดุ ห้องสมุด การเงิน วิชาการ ฯลฯ เป็นเรื่องน่าปวดหัวพอสมควรครับ ส่วนใหญ่โรงเรียนเล็ก  ๆ จะเจอปัญหานี้ครับ 
 
4.ฝากน้องๆ ชาว Dek-D.com ที่กำลังค้นหาตนเอง
      เอาแบบง่าย ๆ นะครับ จินตนาการครับ ว่าเราจะต้องทำอาชีพนั้น ๆ ดู นึกภาพดูครับ ว่าเราจะเป็นแบบนั้นได้ไหม ฟังทั้งข้อดีและข้อเสียของอาชีพนั้น เอามาประกอบการตัดสินใจครับ
       บางคนอาจจะคิดว่าการตัดสินใจทั้งหมดขึ้นอยู่กับตัวเรานะครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อยากให้น้อง ๆ ลองปรึกษากับผู้ปกครองดูก็ได้ครับ ค่อย ๆ คุยกัน แล้วสิ่งที่เราเลือก ก็จะถูกใจทั้งเรา และที่บ้านของเราด้วย   จะได้ไม่เป็นปัญหาทีหลังครับ อย่างน้อยวันที่เราท้อ ๆ พ่อแม่ ก็จะคอยเป็นกำลังใจให้ครับ
 
  5.เรื่องเล่าน่ารักๆ ที่ครูมะนาวพบ และการันตีได้ว่าจะพบได้เฉพาะอาชีพครู 
        อาชีพครู คงเป็นอาชีพเดียวมั้งครับ ที่ขับรถผ่านแล้วมีคนยกมือไหว้ 555 ก็นักเรียนของเรานี่แหละครับ 555 ดูยิ่งใหญ่มากมั้ยล่ะครับ อิอิ 
        ถ้าจะให้เล่าความสนุกในโรงเรียน วันเดียวก็คงไม่หมดครับ   ถ้าอยากอ่านเรื่องราวสนุก ๆ ของคุณครูบ้านดอย  ก็ติดตามในเวปบล็อกครูบ้านดอยได้ครับ  
        นอกจากนี้ ก็มี แฟนเพจด้วยครับ แต่เน้นเรื่องของเพลงครับที่ FB เป็นการยืนยันอีกทางหนึ่งว่า เป็นครูแล้วทำอะไรได้อีกหลายอย่างครับ (แอบโฆษณาซะเลย อิอิ) 
พี่เกียรติต้องยอมให้ครูมะนาวโฆษณาผลงานสุดน่ารักนี้แล้วล่ะ อย่าลืมไปคลิกไลค์แฟนเพจครูมะนาวกันได้
       
       ครู เป็นเพียงอาชีพเดียวที่จะได้ค่อยๆ สะสมความสุขและความภาคภูมิใจไปพร้อมๆ กับการเติบโตของเยาวชนรุ่นต่อรุ่น ท่ามกลางสังคมไทยที่วุ่นวายและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มีเพียงอาชีพเดียวจะยั้งยืนต่อไป "ครูอาชีพ" ค่ะ 
 
 
      ถ้าใครยังไม่ตัดสินใจในการเลือกอาชีพครู ลองไปร่วมกิจกรรมสอนน้องผู้ด้อยโอกาสตามชุมชนต่างๆ ลองไปฝึกงานที่โรงเรียนอนุบาล ตามพี่ไปค่ายครูต่างๆ ส่วนใครเรียนขั้นเทพมากๆ สามารถไปสอนพิเศษ หารายได้พิเศษเลยจ้า เปิดช่องทางเลือกของตนเองในอนาคต 
 

          ใครจะรู้...คุณอาจเป็นอีกผู้หนึ่งที่พร้อมพลีชีพเพื่อชาติทำงานครูโดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย เพื่อรากฐานที่มั่นคงของชาติสยามเราก็ได้
  
 
ขอขอบคุณ
   คณะครุศาสตร์ ที่ทำให้เราได้พบคุณครูของชาติหลายๆ คน และยินดีกับอนาคตครูชาติต่อไป
   ครูมะนาว  โรงเรียนบ้านดอย
   ครูดวงกมล โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)
   ครูน้ำ โรงเรียนประชาอุทิศ
ภาพประกอบ
   โรงเรียนอัสสัมชัญ-http://swis.assumption.ac.th/html_edu/assumption/temp_pic/big_picture/60080.JPG
พี่เกียรติ
พี่เกียรติ - Community Master ถนัดแฝงตัวตามกระทู้เด็กดี มีความสนใจเป็นล้านเรื่องขึ้นอยู่กับดราม่าขณะนั้น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

ศษ.บ. 11 พ.ย. 54 13:55 น. 14
การจะเป็นครูนั้น ต้องเริ่มต้นที่จิตวิญญาณ ในการถ่ายทอดความรู้ให้แก่ศิษย์ มิใช่เป็นเพื่อหวังรายได้หรือผลประโยชน์ต่างๆ นานา ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต..ถ้าไม่เช่นนั้น ความเป็นวิชาชีพครู ก็จะหมดไปเพราะไร้ครูมืออาชีพนั่นเอง
0
กำลังโหลด
whenever Member 30 ต.ค. 54 12:27 น. 6

อาชีพครูเป็นอาชีพที่รู้สึกยกย่องมาตั้งแต่จำความได้ เพราะเจอครูอำไพที่เป็นครูคนแรกที่จำได้ ท่านน่ารักมากๆ จนตอนนี้ยังคิดถึงท่านอยู่เลยว่าจะสบายดีไหม หลังจากโรงเรียนปิดก็ไม่ได้เจอกันอีก
รวมไปถึงครูน่ารักๆอีกหลายท่านที่ให้ทุกอย่างเพื่อศิษย์ หากมีโอกาสต้องพบพวกท่านให้ได้

ถึงจะอยากเป็นครูตามที่พ่อสนับสนุน แต่ก็ยังรู้สึกไม่ใช่ตัวเอง เพราะโดยส่วนตัว เว็นพูดไม่เก่ง เวลาพูดหน้าชั้นทีสั่นหงึกหงักจนเพื่อนหัวเราะ (ฮ่าๆ แต่ไม่ถือนะ) แถมมือเย็นเจี๊ยบ
ขืนเป็นครูคงได้สั่นโชว์ แทนสอนนักเรียนแน่ๆ

0
กำลังโหลด
บ้าบอ002 Member 3 พ.ย. 54 11:26 น. 8
 ครูหนึ่งคนสอน ทุกกลุ่มสาระ แล้วครู ก็เรียนมาแค่เอกเดียว นี่แหละระบบการศึกษาของไทย

ครูหนึ่งคน สอนทุกกลุ่มสาระ แล้วนักเรียนก็จะได้เรียน ทุกกลุ่มไร้สาระ

ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ เพราะตอนนี้ก็เรียนครูอยู่เหมือนกัน  คิดอยู่ว่า ถ้าได้สอน แล้วต้องสอนทุกรายวิชา  จะทำยังไงให้เด็กได้ความรู้  อย่างเต็มที่  เฮ้อ เรียนครูเหนื่อยนะครับ  แต่มีความสุข 


0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
momea 10 พ.ย. 54 11:59 น. 13
ทำให้หนูมีกำลังใจในการอ่านหนังสือมากเลย ปีนี้หนูจะเข้าคณะครุศาสตร์ให้ได้ค่ะ
ขอเรื่องของครูอนุบาลด้วยนะคะ อยากอ่านอีกค่ะ
ขอบคุณค่ะ
0
กำลังโหลด

12 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เพื่อนร่วมรุ่น Edu48 29 ต.ค. 54 19:10 น. 4
มะนาว เธอได้ลงชื่อแล้ว
ขอให้เต็มที่กับการทำงานนะจ๊ะ
อย่าลืมกลับมาเยี่ยมรั้วสีเพลิงชมพูนะ
0
กำลังโหลด
whenever Member 30 ต.ค. 54 12:27 น. 6

อาชีพครูเป็นอาชีพที่รู้สึกยกย่องมาตั้งแต่จำความได้ เพราะเจอครูอำไพที่เป็นครูคนแรกที่จำได้ ท่านน่ารักมากๆ จนตอนนี้ยังคิดถึงท่านอยู่เลยว่าจะสบายดีไหม หลังจากโรงเรียนปิดก็ไม่ได้เจอกันอีก
รวมไปถึงครูน่ารักๆอีกหลายท่านที่ให้ทุกอย่างเพื่อศิษย์ หากมีโอกาสต้องพบพวกท่านให้ได้

ถึงจะอยากเป็นครูตามที่พ่อสนับสนุน แต่ก็ยังรู้สึกไม่ใช่ตัวเอง เพราะโดยส่วนตัว เว็นพูดไม่เก่ง เวลาพูดหน้าชั้นทีสั่นหงึกหงักจนเพื่อนหัวเราะ (ฮ่าๆ แต่ไม่ถือนะ) แถมมือเย็นเจี๊ยบ
ขืนเป็นครูคงได้สั่นโชว์ แทนสอนนักเรียนแน่ๆ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
บ้าบอ002 Member 3 พ.ย. 54 11:26 น. 8
 ครูหนึ่งคนสอน ทุกกลุ่มสาระ แล้วครู ก็เรียนมาแค่เอกเดียว นี่แหละระบบการศึกษาของไทย

ครูหนึ่งคน สอนทุกกลุ่มสาระ แล้วนักเรียนก็จะได้เรียน ทุกกลุ่มไร้สาระ

ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ เพราะตอนนี้ก็เรียนครูอยู่เหมือนกัน  คิดอยู่ว่า ถ้าได้สอน แล้วต้องสอนทุกรายวิชา  จะทำยังไงให้เด็กได้ความรู้  อย่างเต็มที่  เฮ้อ เรียนครูเหนื่อยนะครับ  แต่มีความสุข 


0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ครูสาระ 5 พ.ย. 54 12:42 น. 10
ในโรงเรียนประถม
ครูที่เรียนมาเอกเดียว อาจจะไม่ถนัดในวิชาอื่น ๆ ก็จริงครับ
แต่คุณครูก็เคยผ่านวิชาเหล่านั้นมาแล้ว จากการเรียนประถม มัธยม
และสะสมความรู้รอบตัวมาเป็นเวลานานแล้ว

ดังนั้นความรู้ระดับประถม ไม่น่าจะเกินความสามารถของครูประถมที่จะค้นคว้ามาสอนเด็ก ๆ หรอกครับ
อย่าให้คำว่า "ไม่ตรงเอก" และ "ระบบการศึกษาไทย" มาเป็นอุปสรรคในการถ่ายทอดความรู้ครับ

ถ้าครูตั้งใจ ทำไมจะทำไม่ได้ครับ
0
กำลังโหลด
momea 10 พ.ย. 54 11:59 น. 13
ทำให้หนูมีกำลังใจในการอ่านหนังสือมากเลย ปีนี้หนูจะเข้าคณะครุศาสตร์ให้ได้ค่ะ
ขอเรื่องของครูอนุบาลด้วยนะคะ อยากอ่านอีกค่ะ
ขอบคุณค่ะ
0
กำลังโหลด
ศษ.บ. 11 พ.ย. 54 13:55 น. 14
การจะเป็นครูนั้น ต้องเริ่มต้นที่จิตวิญญาณ ในการถ่ายทอดความรู้ให้แก่ศิษย์ มิใช่เป็นเพื่อหวังรายได้หรือผลประโยชน์ต่างๆ นานา ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต..ถ้าไม่เช่นนั้น ความเป็นวิชาชีพครู ก็จะหมดไปเพราะไร้ครูมืออาชีพนั่นเอง
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด