ประสบการณ์ทำงานพิเศษ ช่วงปิดเทอม ตอนจบ

          สวัสดีครับ..สุดที่ใน ในที่สุด ประสบการณ์ทำงานพิเศษช่วงปิดเทอม ก็เดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางซะที..วันนี้ พี่ลาเต้ จะมาเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในร้านอาหารเอ็มเค ซึ่งน้องๆหลายๆคนต้องไม่เคยรู้แน่นอน..งั้นอย่าเสียเวลาไปดูกันเลยครับ..

การเสริฟ์อาหารครั้งแรกในชีวิต..

          มาทำงานวันแรก พี่ๆในเอ็มเค ก็ต้อนรับโดยการให้แนะนำตัว..บรรยากาศตอนนั้นอบอุ่นอย่าบอกใคร..แนะนำทีก็โห่ต้อนรับที..ด้วยความที่เอ็มเคส่วนใหญ่มีแต่ผู้หญิง พี่ลาเต้ เข้าไปเป็นผู้ชายเลยได้รับเสียงกรี๊ดเป็นธรรมดา..หลังจากที่แนะนำตัวพี่ๆก็พาเต้นครับ..เขาบอกว่าที่นี่จะต้องเต้นทุกเช้าก่อนทำงาน เพื่อเป็นการวอล์มร่างกาย หลังจากนั้นพี่ๆก็สอนงานพี่ลาเต้ครับ..ว่าต้องทำโน่น ทำนี่ ทำอย่างนี้ ทำอย่างโน่น..น่าสนุกอย่าบอกใคร..

          มาแล้ว ลูกค้ามาแล้ว..เอาหละ พี่ลาเต้ จะไปเสริฟ์แล้วนะครับ..หลังจากที่จัดอาหารเสร็จ ก็เดินไปหาลูกค้าทันที ระหว่างทางต้องพูดดังๆตลอดทางว่า "หลังชน หลังชน" เพื่อให้คนที่อยู่ด้านหน้ารู้ว่า ด้านหลังมีคนกำลังถือของไปเสิร์ฟอยู่ค้าอยู่นะ..หากชนก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้..

          ทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะลูกค้า ก็ก้มหัวคำนับ 1 ครั้งครับพร้อมกล่าวว่า "สวัสดีครับ..รายการสุกี้ที่สั่งมาแล้วครับ..มีลูกชิ้นเนื้อปลา[พูดพร้อมหยิบลงโต๊ะ] สาหร่ายเอ็มเค หมูสามอย่าง ผักบุ้ง และไข่ไก่ครับ..รายการทั้งหมด 5 อย่างได้ครบแล้วนะครับ..ขอบคุณครับ.."[พร้อมก้มหัวลงคำนับครับ..]

นานาสารพัดลูกค้า..ต้องเอาใจ..

          เคยเป็นแต่ลูกค้ารอรับการบริการ..แต่พอได้มาเป็นคนให้บริการ แทบแย่เลยครับ..เพราะลูกค้ามีหลายอารมณ์ หลายสารพัดรูปแบบ ทั้งยั่วโมโห กวนวาจา แต่ไม่ว่าจะมารูปแบบไหน ในฐานะพนักงานก็ต้องยิ้มรับครับ..หากอึดอัดใจต้องเก็บไปร้องไห้ด้านหลัง ห้ามให้ลูกค้าเห็นเด็ดขาด..อย่างลูกค้าที่ พี่ลาเต้ เจอก็มีทั้งดี และไม่ดี ก็จะขอยกตัวอย่างเล่าให้ฟังแล้วกันครับ..

          ลูกค้าโต๊ะหนึ่งยกมือเรียกให้ พี่ลาเต้ ไปเช็คบิลจ่ายเงิน..ลูกค้ารายนี้ขอจ่ายเงินด้วยบัตรเคดิต..แต่กลับพูดว่า "เดี๋ยวน้องเอาบัตรนี้ไปให้แคชเชียร์นะ..อย่าไปยุ่งกับมันมาก เดี๋ยวพัง มันทำยากนะ น้องคงไม่เข้าใจหรอก ลำพังเงินเดือนก็คงไม่มีโอกาสใช้แล้วซินะ"..ตอนนั้น พี่ลาเต้ โมโหมากเลยครับ..ไม่พูดอะไรแต่ก็ยิ้มรับ พร้อมนำบัตรไปให้แคชเชียร์โดยด่วน..ก่อนจะเดินไปตั้งสติอารมณ์ด้านหลังร้าน..พี่ๆคนอื่นๆเห็นก็เข้ามาปลอบว่า นี่แค่เล็กๆ บางคนปาบัตรใส่หน้าเลยก็มี

          ขณะที่ลูกค้าดีๆก็มีอยู่เยอะ..อย่างเช่นลูกค้าคนนี้ที่เห็น พี่ลาเต้ กำลังวุ่นอยู่กับการรับออเดอร์จดเหงื่อตก..ก็เลยส่งกระดาษทิชชูมาให้ พร้อมบอกว่า "ซับเหงื่อหน่อยนะ..อย่าหักโหมมาก เป็นห่วงค่ะ"..คำสั้นๆแค่นี้หละ..ปลื้มไปทั้งวันเลยครับ..

          ไม่ดีไปแล้ว ดีไปแล้ว มากันที่ลูกค้าตลกกันบ้าง วันนั้นมีลูกค้าโต๊ะหนึ่งครับ..หลังจากที่จ่ายเงินเสร็จแล้ว..ก็ทยอยกันเดินออกไป แต่ พี่ลาเต้ ก็สังเกตว่า เอ๊ะ..ทำไมเขาเดินเข้าข้างใน ทั้งๆที่ประตูก็อยู่ทางนี้..สักพักลูกค้ากลุ่มนั้นก็เดินมานั่งที่โต๊ะตัวเดิม แล้วยืนคุยกัน จากนั้นก็เดินเข้าไปข้างในอีกที..ไม่นานก็เดินออกมายืนที่โต๊ะตัวเดิมอีกครั้งเป็นรอบที่ 3 พี่ลาเต้ จึงเดินเข้าไปถามว่า "ไม่ทราบลืมอะไรไว้หรือเปล่าครับ"..ลูกค้าตอบมาทันทีเลยว่า.."ทางออกอยู่ไหนค่ะ"

           ทั้งหมดนี้ก็เป็นประสบการณ์การทำงานในช่วงปิดเทอมของ พี่ลาเต้ นะครับ..สนุกสนานแถมได้เงินมาแบ่งเบาภาระพ่อแม่อีกด้วย..จำได้เลยว่าตั้งแต่ พี่ลาเต้ มาทำงานพาร์ทไทม์ ค่าน้ำ ค่าไฟ ที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ไม่เคยได้จ่ายเลยครับ..หากน้องๆคนไหนอยากจะทำงานแบบนี้หละก็..ปิดเทอมใหญ่ครั้งหน้าก็ลองดูได้ครับ..สู้ๆๆๆ..

พอ่านบทความเรื่องนี้ในตอนอื่นๆ คลิกที่นี่ ครับพ