จบจากช่วงยื่นคะแนนเลือกคณะแอดมิชชั่นไปแล้ว พี่ลาเต้ นึกว่าน้องๆคงจะหายเครียด หรือผ่อนคลายลงมาบ้าง แต่ที่ไหนได้ ยังมีน้องๆหลายคนที่ยังมีความเครียดอยู่ เพราะตื่นเต้น และกดดันต่อผลประกาศที่จะออกมา วันนี้ พี่ลาเต้ ก็เลยไปหยิบยกบทความจากหนังสือพิมพ์ข่าวสดมาบอกเล่ากันครับ...โดยเนื้อหาได้พูดถึงการลดความเครียดให้กับตัวเองในช่วงแอดมิชชั่น จะเป็นไงบ้างนั้น ไปอ่านพร้อมกันเลยครับ.. ในช่วงชีวิตการเป็นวัยรุ่น จะต้องมีระยะหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญรออยู่ 1 โค้ง นั่นคือการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในระบบกลาง หรือที่ปัจจุบันเรียกว่า แอดมิชชั่นส์ ซึ่งมีผลให้เด็กวัยรุ่นต้องเผชิญภาวะวิตกกังวล เกี่ยวกับการสอบ จนกลายเป็นความตึงเครียดทั้งทางจิตใจและร่างกาย แต่ที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่านั้นคือ ในการประกาศผลสอบทุกปีจะมีเด็กที่ผิดหวังเป็นจำนวนมาก บางคนเครียดจัดถึงขั้นฆ่าตัวตาย ซึ่งหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พยายามร่วมมือกันหาวิธีรับมือและแก้ปัญหาเหล่านี้ น.พ.สรวุฒ คุ้มครองธรรม จากศูนย์ส่งเสริมสุขภาพรีไวทัลไลท์ฯ ซอยร่วมฤดี ฝากข้อคิดที่น่าสนใจไว้ให้วัยรุ่นที่กำลังเครียดกับการประกาศผลสอบเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งจะมีขึ้นเร็วๆ นี้ รวมถึงผู้ที่อาจพลาดหวังจากการสอบเพื่อไม่ให้คิดทำร้ายตัวเอง การสอบเข้ามหาวิทยาลัย เป็นเส้นทางสำคัญหนึ่งของชีวิตวัยรุ่น มีทั้งคนสมหวังและผิดหวัง สำหรับคนที่พลาดตรงนี้อย่าเพิ่งเสียใจ หมดหวัง เพราะการสอบเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต โอกาสหน้าเรายังสามารถแก้ตัวใหม่ได้อีก ขอให้เตรียมตัวให้พร้อมและพยายามทำให้ดีที่สุด ส่วนใครที่ไม่อยากเสียเวลาก็ยังมีสถาบันการศึกษาอื่นให้เลือกเรียนอีกมาก อย่าคิดสั้นหรือทำร้ายตัวเอง เพราะอนาคตของเราไม่ได้วัดกันที่เรื่องนี้แค่อย่างเดียว ความเครียด เป็นสิ่งใกล้ตัวที่เกิดขึ้นกับเราได้ตลอดเวลา เพราะเกิดจากภาวะจิตใจตนเองที่ตื่นตัวพร้อมเผชิญความกดดันอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งคาดคิดว่าเกินความสามารถของเราที่จะแก้ไขให้หมดสิ้นหรือบรรเทาลงได้ สำหรับวัยรุ่นที่เครียดมากอาจแสดงออกมาในรูปของการเก็บตัว ไม่พูดคุยกับใคร ไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่ง หรือหลบหน้า มีอาการซึมเศร้า กินอาหารไม่ลง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ แน่นหน้าอก ท้องอืด ปวดหัว มีผื่นขึ้นตามตัว หากพบใครมีอาการแบบนี้ต้องรีบช่วยเหลือแก้ไขโดยเร็ว คุณหมอยังฝากอีกว่า ครอบครัวไหนที่มีลูกหลานผิดหวังจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ควรให้กำลังใจ เข้าอกเข้าใจเด็ก อย่าซ้ำเติม หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่น ยิ่งเด็กที่เคยทำร้ายตัวเองมาก่อน คุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลเป็นพิเศษเพราะเขาอาจทำซ้ำอีก เนื่องจากความผิดหวัง พยายามอย่าปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว พ่อแม่ควรเลี้ยงลูกให้รู้จักการเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆ และแก้ไขปัญหาอย่างมีเหตุผล รู้จักยอมรับความเป็นจริง จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้กับเขาในการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างดี ส่วนวิธีแก้เครียด คุณหมอแนะว่าควรหาทางระบายออกด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่ชื่นชอบ เช่น ออกกำลังกาย ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ ฯลฯ และพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 7-8 ชั่วโมง โดยเวลานอนที่ดีที่สุดของคนเราคือ ช่วง 4-5 ทุ่ม เพราะจะมีฮอร์โมนที่หลั่งออกมาช่วยซ่อมแซมร่างกายระหว่างเราหลับ และถ้ามีอาการนอนไม่หลับเพราะเครียดหรือคิดเรื่องอะไรมากเกินไป ไม่ควรดูทีวี อ่านหนังสือ หรือกินก่อนนอน เพราะทำให้สมองไม่ได้พัก ควรนั่งวิปัสสนา ทำจิตใจให้ว่างจะได้นอนหลับสบาย แต่สำหรับผู้ที่มีอาการเครียดเรื้อรัง อาจจำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วย เช่น โปรแกรม Wellness & Stress Management ที่รวบรวมศาสตร์แห่งการคลายเครียดในระดับลึก มีเทคนิคการดลจิต การนวดกดจุด เพิ่มพลังและความสดชื่นให้ร่างกาย ชีวิตวัยรุ่นเป็นช่วงที่มีสีสันและเสน่ห์มาก หากรู้จักใช้ความคิดและมีสติ จะเลือกเดินบนเส้นทางที่ถูกต้องได้ปลอดภัยตลอดรอดฝั่ง แต่หากปล่อยให้อารมณ์ผิดหวังเพียงวูบเดียวมาทำลายโอกาสดีๆ ที่รออยู่ในอนาคตก็เป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง |
พพี่ลาเต้ขอขอบคุณข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ข่าวสดพ |
12 ความคิดเห็น
เรื่องนอนเนี่ยยากตลอดเลย^ ^
ทำใจให้เข้มแข็ง เบิกบาน เครียดบ้างแต่อย่าแรงอย่าหมกมุ่น บางทีเราก็ห้ามไม่ได้
รู้สึกว่ามันน่าจะประกาศพรุ่งนี้ จะได้จบๆ กันไป
เพราะมันไม่ใช่ตัวของเค้านี่ .. ใช่ป่าว
อย่าเครียดนะ อย่างโน้นอย่างนี้ ... อธิบายสารพัน
การสอบเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิต มันก็จริงอยู่นะ แต่...
แต่ ถ้าการสอบครั้งนี้ของผมมันเกิดการผิดพลาดขึ้นมาล่ะ
นั่นก็หมายถึงอนาตคตของพวกผมใช่มั้ย ที่ไม่สามารถกลับไปสอบแก้ไข่ใหม่ได้
ถ้าอยากจะให้เด็กเรียนมีความกระตือรือร้น เรียนเก่ง ก็ลองแก้ปัญหาที่ต้นเหตุจะดีกว่านะคับ