มีสไตล์ แต่ไม่ตายตัว

 

     จะสลับเป็น My style is no style หรือ No style is my style ก็ได้ เพราะบทความวันนี้มาแบบไม่มีสไตล์ตายตัวอยู่แล้ว

     บทความนี้ทำมาเพื่อหนุ่มๆ ที่ไม่ชอบการแต่งตัวรูปแบบเดียวกันซ้ำๆ อยากจะบอกว่า เป็นพวกเดียวกันกับพี่มิ้งเลย เนื่องจากบางทีก็อยากกระโดดไปแต่งตัวแนวนั้น แนวนี้บ้าง หนุ่มไหนยังไม่คล้อยตาม ถ้าอย่างนั้นมาหาข้อดีของทฤษฎีนี้กันเลย

 

    การมีแนวที่ชัดเจน จะสามารถเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งได้ แต่การไม่มีสไตล์ตายตัว ก็ทำให้เราสามารถปรับลุคในสถานการณ์หลากหลายกว่า ดูไม่น่าเบื่อในสายตาใครๆ ด้วย

 

     ข้อดีของการมีเสื้อผ้าหลายสไตล์คือ หนุ่มๆ จะมีทางเลือกในการ Mix & Match การเข้ากันของเสื้อ,กางเกง,รองเท้า ได้มันกว่า นำมาซึ่งการแต่งตัวแบบทะลุแนว ที่เน้นความแปลกเด่น ไม่สนรูปแบบเดิมๆ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น มันต้องออกมาลงตัวด้วยนะ ถ้าอย่างนั้นตลกตายเลย
 
     เมื่อวันนี้อยากเป็นหนุ่มมาดเซอร์ ก็หาเสื้อลายตาราง จับคู่กับยีนส์และรองเท้าผ้าใบคู่เก่ง วันต่อมาอยากจะเป็นหนุ่มสมาร์ท ก็เป็นเสื้อเชิ้ต เข็มขัดหัวสวยๆ กางเกงสแล็คและรองเท้าหนังขัดเงา ส่วนอีกวันอยากจะฉีกแฟชั่นเดิมๆ ก็หาเสื้อยืดแขนกุด กางเกงขาเดฟ กับแตะคีบ แถมหมวกเท่ๆ อีกหนึ่งใบ

 

     เห็นข้อดีของการที่ไม่มีสไตล์ตายตัวหรือยังล่ะ ทฤษฎีนี้เป็นการใส่สีสันให้กับการแต่งตัวหนุ่มๆ ได้ดีเลย ถ้ามีใครมาถามว่าปกติแต่งตัวสไตล์ไหน ให้สูดหายใจเข้าหนึ่งครั้ง แล้วบอกเขาไปว่า No style is my style

 

 

 

 

พี่มิ้งค์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

8 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
JUSTBYNK Member 14 ก.ค. 54 04:27 น. 3

 แต่ถ้าแต่งอะไรที่มันขัดแย้งกันมากก็ไม่ค่อยดีนะครับ

อย่างวันนึงใส่เดฟมาแบบชาวร็อค อีกวัน ใส่โอเวอร์ไซส์เป็นฮิพฮอพ = =

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด