อลัมน์โรงเรียนนี้น่าอยู่เริ่มมีสีสันมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีทั้งหญิงล้วน โรงเรียนสามภาษา โรงเรียนเก่งขั้นเทพ โรงเรียนเอกชน มาสัปดาห์นี้น่าจะเป็นที่จับตามองแน่นอน เพราะเป็นโรงเรียนชายล้วนชื่อดังที่อยู่ในกรุงเทพฯ

          โรงเรียนที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ คือ โรงเรียนบวรนิเวศ เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จัก เพราะที่แห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็น "โรงเรียนชายล้วนห้าแผ่นดิน" ลูกศิษย์โรงเรียนนี้ภาคภูมิใจกันทุกคน โดยเฉพาะน้องมอสเก็บความภาคภูมิใจนี้คนเดียวไม่ไหว จึงอยากเผยแพร่ให้กับเพื่อนๆ ชาว Dek-D.com ให้รับรู้ ว่าแล้วก็ไปติดตามเรื่องราวในโรงเรียนชายล้วนแห่งนี้ได้เลย
 
 
 โรงเรียนบวรนิเวศ (บ.น.) จ.กรุงเทพฯ
 
หมวดที่ 1 : นี่แหละโรงเรียนเรา
        (1) ประเภทโรงเรียน>>  โรงเรียนวัดบวรนิเวศ หนึ่งในโรงเรียนชายล้วน สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ก่อตั้งมาเป็นระยะเวลา 119 ปี สมคำกล่าวขานที่ว่าเป็น”โรงเรียนชายล้วนห้าแผ่นดิน”    (แอบภาคภูมิใจ อิอิ)
        (2) สีประจำโรงเรียน>> "เหลือง-ดำ" หมายถึง พระพุทธศาสนา และ ความเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวดุจพญานาค ตามลำดับ สมคำที่ว่า"เหลืองดำคือสี่ที่เราบูชา"

        (3) ที่ตั้งโรงเรียน>> ตั้งอยู่ใกล้ถนนสายประวัติศาสตร์ ถนนราชดำเนิน ตั้งอยู่เลขที่ 250 ถนนพระสุเมรุ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร

        (4) เครื่องแต่งกาย >> เป็นชุดนักเรียนเป็นเสื้อเชิ๊ตแขนสั้นสีขาว อกด้านขวาปักอักษรย่อ "บ.น." ถัดลงมาเป็นเลขประจำตัวนักเรียนซึ่งเป็นเลขไทยห้าหลัก  ส่วนอกซ้ายปักสัญลักษณ์แสดงชั้นปี โดยใช้สีต่างๆ ๕ สีบ่งบองถึงคณะ (รายละเอียดจะอธิบายในหัวข้อถัดๆไป) ในส่วนของชุดพละ เป็นเสื้อเชิ๊ตแขนสั้นสีเหลือง ปกคอสีดำ กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายปักตราสัญลักษณ์ประจำโรงเรียน โดยปล่อยชายเสื้อ

        (5) สิ่งที่เคารพนับถือ >>
 
 
               ด้านในศาลาจตุรมุขและด้านหน้าพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า 

        5.1 ศาลาจตุรมุข    เริ่มที่ศาลาจตุรมุขนะครับ ศาลานี้เป็นที่ประดิษฐาน พระรูปสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ผู้ทรงเป็นองค์อุปถัมถ์และครูคนแรกของโรงเรียนของเราตลอดพระชนมายุ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันทรงสุหร่าย ทรงเจิม พระรูปสมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯในครั้งที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินเปิดอาคารวชิรญาณวงศ์  ทุกเช้าเด็กวัดบวรทุกคนต้องยกมือไหว้เสมอเวลาเดินเข้าโรงเรียนครับ          
    
        5.2 พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า  จัดสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่โรงเรียนสถาปนาครบ 115 ปี เพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงสถาปนาโรงเรียนของเราขึ้นมา โดยประดิษฐาน ณ บริเวณด้านหน้าอาคารวชิรญาณวงศ์  เปรียบเสมือนศูนย์รวมใจอันเป็นที่เคารพสักการะของเราชาวบวรนิเวศทุกคนครับ หากเด็กบวรคนไหนจะไปสอบหรือมีเรื่องอะไรมักจะบนด้วยดอกกุหลาบตามจำนวนรุ่นจบ

         (6) แบ่งชั้นเรียนยังไง>> ถ้าเป็นน้อง ม.ต้น จะเรียนเหมือนกันหมดครับ แต่พอขึ้น ม.ปลาย จะแยกเป็นสายๆไป มีสายวิทย์ สายศิลป์-คำนวณ  สายศิลป์-ภาษาจีน และ สายศิลป์ทั่วไปครับ

         (7) วิธีเรียน (เดินเรียน/ นั่งห้องเรียน)>> การเรียนโดยส่วนใหญ่จะเรียนอยู่ที่ห้องเรียนประจำครับ โดยจะแบ่งออกเป็นตึกของ ม.ต้น และ ม.ปลาย ส่วนพวกวิชาศิลปะ ดนตรี วิทยาศาสตร์ก็จะต้องเดินไปเรียนตามห้องและตึกของวิชานั้นๆครับ

        (8) สภาพห้องเรียน>> ห้องเรียนของโรงเรียนเราก็ไม่ได้ต่างไปจากโรงเรียนอื่นเท่าไรหรอกครับ แต่ถ้าจะพูดถึงความเก่าแล้วก็ไม่แพ้ใครเหมือนกัน
         อย่างห้องเรียนตึกวชิรญาณวงศ์ ตึกของน้อง ม.ต้น ตัวประตูหน้าต่างล้วนเป็นไม้สักแท้หนา เรียกว่าสมัยนี้หาได้ยากครับ ประตูยังเป็นแบบบานคู่อยู่เลย ได้อารมณ์เก่าแบบสุดๆ  และลิฟต์ของอาคารนี้ยังเป็นลิฟต์ตัวแรกของกรมสามัญศึกษา หรือเรียกง่ายก็ลิฟต์ตัวแรกของโรงเรียนรัฐนะครับ ยังเป็นระบบเปิดปิดประตูหาดูได้ยากนะครับสมัยนี้
       ถ้าเป็นตึกสมเด็จพระญาณสังวรก็จะมีความใหม่ขึ้นมาอีกหน่อย และห้องเรียนของตึกนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าโรงเรียนทั่วๆ ไป เพราะเป็นอาคารสร้างงบประมาณของสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบันไม่ใช่จากศึกษาธิการ ถือได้ว่าเป็นบุญของเด็กวัดบวรทุกคนเลยครับ

 
บรรยากาศตัวอาคารวชิรญาณวงศ์
   (9) จุดเด่นของโรงเรียน >>
          9.1  บวรนิเวศใต้ร่มสังฆราชา โรงเรียนวัดบวรนิเวศอยุ่ใต้ร่มพระบารมีของพระสังฆราชถึงสามพระองค์
            - สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส( พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ )
            - สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์
           ปัจจุบันอยู่ในพระอุปถัมภ์ขององค์สมเด็จพระสังฆราช ผู้ทรงพระราชทานทุนทรัพย์เพื่อสนับสนุนทางด้านการศึกษาแก่ลูกนาคา ไม่ว่าจะเป็นอาคารสถานที่ ทุนการศึกษา และเมื่อมีกิจกรรมสำคัญต่างๆ ท่านได้เสด็จมาดูแลโรงเรียนอย่างใกล้ชิด เช่น ได้เข้าเฝ้าของนักเรียนที่กำลังจะจบ ม.6  อาคารเรียนหลังใหม่ 5 ชั้น ก็มาจากทรัพย์ส่วนพระองค์ หรือเข็มประจำโรงเรียนก็ได้รับการปลุกเสกจากสมเด็จทั้งสิ้นครับ ถือว่าการได้เป็นเด็กวัดบวรนิเวศนั้นอยู่ใต้บารมีสมเด็จพระญาณสังวรฯ ถือว่าเป็นมงคลอย่างหาที่สุดมิได้
 
บวรนิเวศสร้างสรรค์คนดี ใต้ร่มพระบารมีสังฆราชา
      9.2 "คณะสัมพันธ์ รักมั่นปรองดอง"
             โรงเรียนวัดบวรนิเวศเป็นโรงเรียนแรกของประเทศมีระบบพี่ปกครองน้อง โดยแบ่งการปกครองเป็น 5 คณะสี ขึ้นตรงกับอำนาจของฝ่ายบริหารโรงเรียน ซึ่งในส่วนย่อยจะมีอาจารย์คอยกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด โดยทุกเช้านักเรียนในโรงเรียนจะต้องเข้าแถวแบ่งเป็นคณะและทำกิจกรรมของโรงเรียนเป็นคณะๆด้วยเช่นกัน ประกอบด้วย

 

            1.คณะ "วชิรญาณวงศ์" สีประจำคณะ "สีม่วง" มาจาก สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 13 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ประทับอยู่ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
            2.คณะ "ดำรงธรรมี"  สีประจำคณะ "สีฟ้า" มาจาก พระศรีบัญชา (ทวน ธรรมชีวะ) บริจาคทุนทรัพย์ สร้างเพื่ออุทิศถวายให้หลวงดำรงธรรมสาร ( มี ธรรมชีวะ) ผู้บิดา เป็นประทานชื่อว่า "ตึกดำรงธรรมี"
            3.คณะ "รังสีสังวร"  สีประจำคณะ "สีเขียว" มาจาก วัดรังสีสุทธาวาส เป็นวัดที่เคยตั้งอยู่ก่อนบนพื้นที่บริเวณเดียวกับโรงเรียนวัดบวรนิเวศ นำเอามาผนวกกับคำว่าสังวรมากจาก สมเด็จพระญาณสังวร (ครั้งดำรงตำแหน่งพระราชาคณะ)  
            4.คณะ "บวรนาคินทร์" สีประจำคณะ "สีแสด" มาจากพระนามของพระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพหรือสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส มาผนวกกับคำว่า บวร ซึ่งมีความหมายว่าพญานาคผู้พิทักษ์บวรนิเวศ
            5.คณะ "อรพินทุ์พิสุทธิ์"  สีประจำคณะ "สีน้ำเงิน" มาจาก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอรพินทุ์เพ็ญภาค พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสละทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างอาคารเรียนหลังนี้พร้อมประทานชื่อว่า "อรพินทุ์"  เมื่อมีการตั้งชื่อคณะจึงเติมคำว่าพิสุทธิ์ลงไป จึงมีความหมายว่าดอกบัวที่บริสุทธิ์

       9.3 แห่เทียนพรรษา
           เป็นงานกิจกรรมที่โรงเรียนจัดคู่กับชุมชนและกรุงเทพมหานครน่ะครับ จะแห่ตั้งแต่หน้าโรงเรียน ตัดเข้าถนนข้าวสาร ออกมาทางราชดำเนิน และวกเข้าโรงเรียนอีกทีครับ เรื่องการตกแต่งรูปขบวนนี้ไม่ต้องสืบครับแต่ละคณะจัดเต็มไม่แพ้กันเลย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งงานกิจกรรมใหญ่ของโรงเรียนในช่วงภาคเรียนที่ 1 ครับ

 
รูปขบวนกิจกรรมงานแห่เทียนของแต่ละคณะ( ยอมกันที่ไหน! )
      (10) มุมเด็ดของ โรงเรียน>>  มุมเด็ดของโรงเรียนของเรานั้นมีมากมายหลายที่ครับเริ่มที่
            10.1 ห้องสิริสมบัติ  สร้างเป็นเรือนไม้สักทอง เป็นพิธิภัณฑ์ส่วนพระองค์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ประกอบด้วยเครื่องอัฐบริขาร หนังสือที่ทรงพระนิพนธ์ วัตถุมงคลที่ทรงอธิฐานจิต ตาลปัตร พัดยศที่ประดิษฐานพระนาม ญสส. ที่ทรงประทานเป็นที่ระลึกในวาระต่างๆ  หากมีงานปลุกเสกหรืองานสำคัญของโรงเรียนห้องสิริสมบัตินี้จึงจะเปิดครับ

 
ห้องสิริสมบัติ(พิพิธภัณฑ์ส่วนพระองค์ของสมเด็จพระสังฆราช องค์ปัจจุบัน)

        10.2 ตึกมนุษยนาควิทยาทาน ตึกมนุษย์นาควิทยาทาน เป็นอาคารสถาปัตยกรรมเลียนแบบศิลปโกธิค ปัจจุบันมีแค่ตึกนี้กับอาคารแม้นของโรงเรียนเทพศิรินทร์ ตึกมนุษย์เป็นอาคารคอนกรีต 2 ชั้น หน้าจั่วของอาคารประดับตกแต่งด้วยเสากลมติดผนัง รองรับซุ้มโค้ง หน้าต่างประดับกระจกสี ตรงกลางของตัวอาคารเป็นนาฬิกา เหนือนาฬิกานี้มีชื่ออาคารว่า “มนุษย์นาควิทยาทาน”  เป็นอาคารที่เรียกว่าสวยที่สุดของโรงเรียน อีกทั้งอาคารนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ายังทรงเป็นประธานพิธีเปิดอาคารอีกด้วย
 

  หมวดที่ 2 : สิ่งมีชีวิตในโรงเรียน
        (1) จำนวนนักเรียน>> โรงเรียนวัดบวรนิเวศมีนักเรียนประมาณ 1000 คนครับ เด็ก ม.ต้น จะเยอะกว่าเด็ก ม.ปลาย นิดนึงครับ
        (2) คนนี้แหละ น่ารักเว่อร์>> เนื่องด้วยบวรเป็นโรงเรียนชายล้วน ก็คงจะไม่มีอารมณ์ดาวเดือน ร.ร. น่ะครับ แต่มีโครงการสุภาพบุรุษนาคาที่ได้คัดเลือกน้องๆ ม.ปลายมาเป็นตัวแทนที่บ่งบอกถึงความเป็นเด็กวัดบวร เด็กวัดยุคใหม่ เรียกง่ายๆ ก็เป็นบุคคลที่เด็กทั้งโรงเรียนรู้จักแล้วก็สนใจ
 
 
       ซึ่งปีนี้ได้ น้องพัน, น้องตั้ม, น้องแมน, น้องกันต์ และน้องต้น เป็นตัวแทนของเราครับ

 หมวด 3 : ชีวิตในโรงเรียน
        (1) กิจกรรมสุดฮิตหลังเลิกเรียน>> มีหลายกิจกรรมนะครับ แต่ถ้าเป็นช่วงกีฬาคณะละก็ไม่เหมือนที่อื่นแน่ๆ เพราะเป็น ร.ร. ชายล้วน ความซุกซนของเด็ก ม.1และ2 ที่จะต้องมาซ้อมแสตนทุกเย็นนั้นเป็นไปได้ยาก พวกรุ่นพี่ ม.6 แต่ละคณะก็เลยต้องพร้อมใจผลัดกันโดดเรียนเพื่อรับน้องครับ เพราะ ม.ปลาย จะเลิกช้ากว่า ม.ต้น ส่วนถ้าน้องหนีไปได้ก็แน่นอนครับพี่ก็ต้องวิ่งตาม บางคณะขึ้นรถเมล์ตามกันเลยทีเดียว ส่วนถ้าหนีไปได้แน่นอนว่าตอนเช้าเจอเช็คบิลครับ 5555

        (2) ที่เที่ยว ที่สถิต หลังเลิกเรียน>> เยอะมากครับ เพราะโรงเรียนเราตั้งอยู่กลางเกาะรัตนโกสินทร์ มีโรงเรียนชายล้วน หญิงล้วนใกล้ๆ จำนวนมาก ดังนั้นที่เที่ยวส่วนใหญ่ก็แถวโรงเรียนเลยครับ เช่น แมคโดนัลข้างสตรีวิทยา ลานหน้าศาลาว่าการกรุงเทพฯ แถวๆโรงเรียนเบญจมราชาลัย แต่ส่วนใหญ่แล้วเด็กบวรจะชอบอยู่โรงเรียนกันเย็นๆ ครับ เตะบอลบ้าง ทำงานบ้าง ทำจนพี่ยามมาไล่ประจำ ยิ่งถ้ามีงานคณะแล้วละก็เรียกว่าแทบจะหอบหมอนและผ้าห่มมานอนกันใน ร.ร. เลยทีเดียว
 
หน้าอาคารวชิรญาณวงศ์

        (3) กีฬาเด็ดๆ ของคาบพละ>> อยู่โรงเรียนชายล้วนมีกีฬาประเภทเดียวครับ ฟุตบอลเท่านั้นที่ครองโลก แต่ด้วยพื้นที่จำกัดเด็กบวรก็มักจะเนรมิตสนามบอลได้อย่างที่คนอื่นนึกไม่ถึง ขนาดซอกตึกเล็กๆยังไม่เว้น นับดีๆก็มีเป็นสิบสนามครับ

        (4) รุ่นพี่ไอดอล (ที่จบไปแล้ว)>> เยอะมากๆ ครับ ทั้งในวงการบันเทิง การเมือง เช่น พี่ไก่ วรายุทธ อาต้อย เศรษฐา พิศาล อัครเศรณี  สิ่งหนึ่งที่ทำให้เด็กวัดบวรได้จากที่แห่งนี้ก็คือการทำกิจกรรม จนเมื่อเวลาอยู่ในสังคมก็สามารถดำรงตนอยู่ในสังคมใด้อย่างมีความสุข

         (5) อะไร คือ ความเว่อของกีฬาสีปีที่ผ่านๆ มา>>  เห็นเป็นโรงเรียนชายล้วนแบบนี้ กีฬาคณะของที่นี่เรียกว่าไม่แพ้โรงเรียนสหแน่นอน แต่ที่เด่นๆ ของงานนี้จะเป็นยูนิตี้ของเด็กในแต่ละคณะ เพราะทุกคนจะจริงจังกับการทำงานกีฬาคณะมากๆ อีกทั้งยังมีรุ่นพี่ศิษย์เก่าของแต่ละคณะกลับมาช่วยน้องๆ เป็นประจำทุกปี ส่วนเชียร์ลีดเดอร์ของที่นี้ก็เข้มแข็งสมกับเป็นโรงเรียนชายล้วน
 
     นาคาเกมส์

  หมวด 4 :   บอกรักโรงเรียน
 
 

         ขึ้นชื่อว่าโรงเรียน "วัด" ผมเชื่อว่าหลายคนคงแอบคิดว่าเป็นโรงเรียนที่อยู่ระดับล่าง แต่สำหรับผมแล้ว โรงเรียนวัดแห่งนี้ เป็นสถาบันเดียวที่เปี่ยมด้วยคุณค่า ให้ข้อคิด ให้ชีวิตการศึกษา ให้ทักษะการดำเนินชีวิต ให้ความรัก ความผูกพันธ์ และมิตรภาพของคำว่า เพื่อน พี่ น้อง เพื่อนที่กอดคอหัวเราะและร้องไห้มาด้วยกัน พี่ที่คอยให้ความช่วยเหลือทั้งศิษย์เก่าและปัจจุบัน น้องที่คอยช่วยเหลือให้กำลังใจ ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ผมคิดว่าคงหาที่ไหนไม่ได้
         สุดท้ายผมอยากจะบอกว่า ผมไม่เคยคิดน้อยใจที่ไม่ได้เรียนโรงเรียนชื่อดังระดับต้นๆ ผมไม่เคยคิดเสียใจเวลาใครมองผมว่าเป็นแค่เด็กโรงเรียนวัด อยากจะบอกว่าผมภูมิใจที่ได้ถูกหล่อหลอมให้มีความเป็นสุภาพบุรุษ มีชีวิตที่มีความสุขถึงแม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น แต่ทุกความรู้สึกของชีวิตเด็กวัดคนนี้จะตราตรึงอยู่ในหัวใจไม่จางหาย พร้อมที่จะพูดได้อย่างเต็มภาคภูมิว่า ผมรักโรงเรียนของผม
                                                              "โรงเรียนวัดบวรนิเวศ"

 
เปิดประตูโรงเรียนโดย :  มอส อรพินทุ์ บวรนิเวศรุ่น นาคราช 118
 
        น้องมอสจัดเต็ม อลังการงานสร้างทุกตัวอักษรและทุกรูปภาพเลยทีเดียว เชื่อว่าจากเดิมที่วัดบวรนิเวศจะเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว แต่หลังจากนี้ไป นอกจากจะเป็นที่รู้จักแล้ว ทุกคนจะต้องภาคภูมิใจในโรงเรียนนี้ไม่แพ้เด็กบวรนิเวศเองแน่นอน
 
         
---------------------------------------------------------------------------------------
น้องๆ ที่สนใจลงคอลัมน์โรงเรียนน่าอยู่ ที่เว็บเด็กดี
ดาวน์โหลดไฟล์คำถามได้ที่นี่ โรงเรียนน่าอยู่ (193) : โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ ลพบุรี (สว.ลบ.)

เมื่อพิมพ์คำตอบพร้อมรูปภาพเสร็จเรียบร้อย ส่งมาได้ที่ kamonkarn@dek-d.com
ส่งก่อนได้ขึ้นเว็บก่อนนะคะ

------------------------------------------------------------------------------------


โรงเรียนนี้น่าอยู่ (10) : โรงเรียนราษฎร์วิทยา (ตี่มิ้ง) (ร.ว.)


 


E-Mail พี่มิ้นท์ : kamonkarn@dek-d.com
พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

51 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กฤต ศิริบวรเกียรติ 22 เม.ย. 55 08:35 น. 5
หากไม่มีน้องจิตอาสา พี่ๆ คงไม่ไม่ได้อ่าน ไม่ได้ดู ประวัติ มุมมอง สาระ และสิ่งอื่นๆ ที่ถ่ายทอดออกมาเป็นบทสรุปที่น่าสนใจ ขอบคุณทีมงานผู้จัดทำทุกคนด้วยครับ......นึก บวร ๙๒
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
—>น้องสาว<— Member 22 เม.ย. 55 11:06 น. 7
โรงเรียนนี้เราไปสอบรัยตรงถาปัตย์ =w=
เพิ่งรู้ว่าเป็นโรงเรียนชายตอนไปถึงสนามสอบนู้นแหละ แหะๆ

0
กำลังโหลด
gun 22 เม.ย. 55 14:20 น. 8
อ่านแล้วเห็นภาพ โดยไม่ต้องดูรูปเลยครับ มันมีอยู่ในความทรงจำและจิใจอยุ่แล้ว รักโรงเรียนนี้มากๆครับ
(Gun บวร 105)
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Nateput 22 เม.ย. 55 23:54 น. 12
แม้จะเป็น โรงเรียนวัด แต่เหล่า ลูกนาคาก็ภูมิใจ ที่ได้เกิดมาเรียนที่ โรงเรียนวัดบวรนิเวศ
0
กำลังโหลด
the chariot 23 เม.ย. 55 00:58 น. 13
อรพินทุ์ฯ 6 ปีครับ หนึ่งในความทรงจำในโรงเรียนที่ภูมิใจมาก เหมือนชีวิตเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ อยู่คณะเดิม เพื่อนๆห้องเดิมมาตลอด จึงมีความผูกพันกับคณะนี้เป็นพิเศษ แต่ก็ภายใต้ความภูมิใจของเข็ม จปร. ของโรงเรียนเช่นกัน

ขอบคุณรุ่นน้องผู้ผลักดันครับ เป็นก้าวแรกที่ดี :)
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เฉลิมพล รูปปั้น 15 พ.ค. 55 13:24 น. 19
โรงเรียนจะดีและน่าอยู่ยิ่งขึ้นถ้านักเรียนทุกคนมีความศรัทธาในโรงเรียน
มีความตั้งใจไม่ทำตัวเหลวไหล พี่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเฝ้ามองโรงเรียนที่พี่รักมากที่สุดพัฒนาไปในทางที่ถูกต้อง

ประธานวชิฯ 107 (พี่เหลิม)
0
กำลังโหลด
Christmas 15 พ.ค. 55 19:58 น. 20
โรงเรียนนี้้เด็กจบมาเป็นใหญ่เป็นโตกันทุกคนครับรับรอง พ่อผมก็เรียนที่นี้ เพื่อนพ่อแต่ละคนเป็นนักการเมือง นักธุกิจใหญ่โตกันทั้งนั้นเลย เห็นแล้วแอบอิจฉาเล็กๆ 55555
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด