"พายุ" ภัยพิบัติที่คนไทยควรรู้จัก...ก่อนตกเป็นเหยื่อ !!

               วัสดีค่ะน้องๆ ปี 2012 ถึงโลกจะยังไม่แตกตามความเชื่อที่เคยได้ยินมา แต่ก็มีเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดขึ้นรอบโลกให้หวั่นใจอยู่เรื่อยๆ ทั้งแผ่นดินไหว พายุ น้ำท่วม ฯลฯ นับวันก็ยิ่งทวีความรุนแรง ไม่ใช่แค่สร้างความเสียหาย แต่ยังมีผู้เสียชีวิตด้วย

              ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีอีกหนึ่งภัยพิบัติเกิดขึ้นใกล้บ้านเรามากๆ ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน หลายคนคิดว่าฝนตกเพราะหน้าฝนธรรมดา แต่ความจริงมันคืออิทธิพลของพายุไคตั๊ก ที่ตั้งตัวถล่มตั้งแต่ฟิลิปปินส์ไปจนถึงประเทศจีน(น่ากลัวมาก)

               "พายุไคตั๊ก" เดิมเป็นพายุดีเปรสชั่น TD14W เริ่มก่อตัวตั้งแต่ประมาณ 12 ส.ค. ทางตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ ถัดจากนั้นอีกแค่วันเดียวพายุไคตั๊ก ได้เพิ่มกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน มีความเร็วสูงสุดในวันที่ 13 ส.ค.ถึง 74 กม./ชม. ซึ่งส่งผลต่อฟิลิปปินส์ทำให้เกิดพายุพัดถล่มเสียหายหนักตามที่น้องๆ ได้ดูข่าว จากนั้นค่อยๆ เคลื่อนตัวไปยังเป้าหมายต่อไป คือ ฮ่องกงและประเทศจีนตามลำดับ โดยความเร็วที่ออกจากเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์นั้นได้เปลี่ยนเป็นพายุไต้ฝุ่น มีความเร็วลม 120 กม./ชม. ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่รุนแรงที่สุดในพายุโซนร้อน ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำอุ่นในทะเลจีนใต้ด้วย ทำให้ทางการของฮ่องกงและจีนต้องประกาศระดับการเตือนภัยพายุ เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมตัวรับมือ

                จนกระทั่งวันที่ 17 ส.ค. พายุไต้ฝุ่นไคตั๊กก็เข้าถล่มทางใต้ของประเทศจีน ทำให้เกิดแผ่นดินถล่ม เกิดพายุฝน น้ำท่วม ต้นไม้หัก บ้านเรือนพังทลายในหลายจุด ทั้งมณฑลไห่หนัน มณฑลกวางตุ้ง และมณฑลก่วงสี รวมๆ จาก 3 มณฑลนี้ ถือว่าได้รับความเสียหายมากๆ ชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 5 แสนคนเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าประเทศจีนนั้นน่าเห็นใจมากๆ เลยทีเดียวค่ะ เพราะแค่ปีนี้ปีเดียว ก็มีพายุโซนร้อนพัดถล่มเป็นลูกที่ 13 แล้ว เรียกว่าถล่มติดกันจนไม่ได้พักฟื้นตัวเลยค่ะ



ผลกระทบของพายุไคตั๊กในประเทศจีน

                เมื่อผ่านประเทศจีนแล้วพายุไคตั๊กได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนเข้าเขตรอยต่อประเทศเวียดนาม-ลาว-จีน และอ่อนกำลังลงเรื่อยๆ เป็นพายุดีเปรสชั่นจนสลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในวันที่ 18 ส.ค. อยู่ที่ประเทศพม่า ประเทศไทยจึงได้รับอิทธิพลทำให้ฝนตกกระจายทั่วประเทศในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามขณะนี้พายุไคตั๊กก็ได้สลายตัวพร้อมกับให้บทเรียนแก่ชาวโลกไปมากพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ธรรมชาติยังพยายามสร้างบทเรียนอยู่ตลอดเวลา ล่าสุดก็ได้เกิดพายุลูกใหม่ "เทมบิง" ที่ได้พัฒนาจากพายุดีเปรสชั่น(เมื่อ 19 ส.ค.) ที่ประเทศฟิลิปปินส์ และเป็นไต้ฝุ่นเตรียมถล่มฮ่องกงอีกระลอก

               แม้ประเทศไทยจะไม่ได้รับมือกับพายุนั้นโดยตรง แต่ก็ต้องบอกว่าได้รับผลกระทบด้วยเหมือนกัน เพราะจากสภาพอากาศที่ลมแรง เกิดพายุฝน ก็ทำให้ป้ายโฆษณาหรือต้นไม้ในหลายๆ จุดหักโค่น และคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นด้วย

               อ่านจนถึงตรงนี้ น้องๆ หลายคนน่าจะรู้เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของพายุในเขตภูมิภาคเราแล้ว แต่อาจจะยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับความรุนแรงของพายุ ว่าทำไมถึงชื่อเรียกต่างกัน และต่างกันยังไง พี่มิ้นท์จะมาอธิบายให้รู้จักกันค่ะ วันหลังได้ยินจากข่าวแล้วจะได้ไม่งงนะคะ

              พายุหมุนในเขตร้อน คือ พายุที่เกิดขึ้นเหนือมหาสมุทรในเขตร้อน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มตามระดับความรุนแรงที่วัดจากความเร็วลมที่จุดศูนย์กลางพายุ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ
             

1) พายุดีเปรสชั่น

     เป็นพายุที่ที่ก่อให้เกิดฝนตกทั้งฝนตกธรรมดาหรืออาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้บ้าง ถ้าเทียบกับพายุทั้งหมด ถือว่าเป็นพายุที่มีกำลังอ่อน ความเร็วลมใกล้บริเวณศุนย์กลางไม่เกิน 62 กม./ชม.
                
 

2) พายุโซนร้อน

      มีกำลังแรงกว่าดีเปรสชั่น เรียกว่าเป็นพายุปานกลาง มีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลาง 63 - 117 กม./ชม. จะเกิดขึ้นเมื่อพายุขนาดใหญ่อ่อนกำลังลง ขณะเคลื่อนตัวในทะเล และความเร็วที่จุดศูนย์กลางลดลงเมื่อเคลื่อนเข้าหาฝั่ง ดังนั้นพายุชนิดนี้ทำให้ลมในทะเลแรงมาก เรือเล็ก เรือใหญ่จึงควรงดออกจากฝั่ง
                 

3) พายุไต้ฝุ่น

     รุนแรงที่สุดในบรรดาพายุทั้งหมด โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางตั้งแต่ 118 เป็นต้นไป มีชื่อเรียกหลายชื่อตามพื้นที่ที่เกิดพายุ โดยในแถบแปซิฟิกนี้จะเรียกว่า "ไต้ฝุ่น"  ในแถบมหาสุทรแอตแลนติกเหนือแถวทะเลแคริบเบียน เรียกว่า "เฮอร์ริเคน" และแถบมหาสมุทรอินเดียเรียกว่า "ไซโคลน" เส้นผ่าศูนย์กลางของพายุนี้อาจถึงพันกิโลเมตรเชียงค่ะ พายุไต้ฝุ่นมีพลังงานมหาศาล ถ้าพัดไปที่ไหนก็จะไปสร้างความเสียหายไว้ที่นั่น ทำให้ต้นไม้ล้มทับบ้านเรือน ฝนตกหนักทั้งคืน และอาจเกิดคลื่นน้ำซัดบ้านเรือนชายฝั่งได้


ภาพถ่ายดาวเทียม พายุไคตั๊ก


             เมื่อรู้ความรุนแรงของพายุแต่ละชนิดแล้ว ลองกลับไปอ่านเหตุการณ์ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้านเราอีกครั้ง แล้วจะรู้ว่าประเทศไทยเราโชคดีมากๆ ที่ไม่ได้ยู่ในแถบพื้นที่เสี่ยงของพายุไต้ฝุ่น เนื่องจากพายุไต้ฝุ่นได้พลังงานความร้อนแฝงจากทะเล ดังนั้นในบริเวณเขตร้อนมีแหล่งน้ำอุ่นที่สุดอยู่ที่ทางตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้จึงเป็นแหล่งกำเนิดชั้นดีของพายุลูกใหญ่และรุนแรง ประเทศที่รับเคราะห์อยู่บ่อยๆ จึงเป็นฟิลิปปินส์ จีน ฮ่องกง เวียดนาม ซึ่งกว่าจะมาถึงประเทศไทยก็จะต้องผ่านภูเขา สิ่งกีดขวางต่างๆ รวมถึงมวลอากาศเย็นเข้ามาผสม พลังงานของไต้ฝุ่นจะลดลง จึงเป็นพายุดีเปรสชั่นเท่านั้น...

              ในยุคที่สื่อต่างๆ เข้าถึงได้ง่ายแบบนี้ เราก็ได้เห็นภัยพิบัติจากประเทศต่างๆ มากขึ้น สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ คือ ต่อให้ไม่ได้เกิดในประเทศของเรา แต่พอเห็นความสูญเสียแล้วก็รู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก เรื่องเหล่านี้นับวันก็จะยิ่งใกล้ตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ยังไงก็ฝากชาว
Dek-D.com ให้ดูแลตัวเอง หมั่นติดตามข่าวสารอยู่เป็นประจำ เพื่อวางแผนและเตรียมการรับมือกับภัยพิบัติแบบต่างๆ "การมีความรู้ เป็นเครื่องมือป้องกันที่ดีที่สุด" นะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
http://paipibat.com, www.easydivers.info,
http://earthobservatory.nasa.gov, http://news.xinhuanet.com
http://irrigation.rid.go.th/rid15/ppn/om/om6.htm

พี่มิ้นท์
พี่มิ้นท์ - Columnist พี่สาวใจเย็น ผู้เกิดมาในแอดมิชชั่นยุคแรก แต่เข้าใจ TCAS มากกว่า

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

12 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
โนมาเนียนา Member 23 ส.ค. 55 19:21 น. 3
รู้สึกว่าประเทศไทยโชคดีมาก

อยากให้โชคดีตลอดไป

แต่ก็ไม่ควรประมาท เราควรมาเตรียมพร้อมรับมือภัยธรรมชาติกันดีกว่า
0
กำลังโหลด
Minmina Member 23 ส.ค. 55 19:39 น. 4
มิน่า อาทิตย์ที่แล้วฝนตกกันไม่ลืมหูลืมตา = =;;
เห็นอย่างนี้แล้วรู้สึกว่า...โชคดีมากที่มาแค่ฝน
ไต้ฝุ่นไม่เข้าก็น่าจะดีใจแล้ว//ฟิ้ว =w=;;
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
แป๋งแป้ง Member 23 ส.ค. 55 21:13 น. 6
ส่วนใหญ่ประเทศรอบๆเราจะเจอหนักซะมาก ส่วนประเทศไทยแค่ได้รับผลกระทบ ถือว่าเป็นโชคดีแล้ว
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
หลานย่าลิ Member 11 พ.ย. 55 20:54 น. 15
เพิ่มเติมนิดนึงครับพี่มินต์ ถ้าพายุแบบไต้ฝุ่นก่อตัวแถวทวีปออสเตรีย ก็จะมีชื่ออีกชื่อหนึ่งคือ "วิลลี่ วิลลี่" ครับ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด