ส่วนแรกนี้เป็นหลักสูตรปริญญาตรี
- หลักสูตรนักบินพาณิชย์ตรี (Commercial Pilot Licence - Aeroplane) จะต้องไปเรียนที่สนามบินบ่อฝ่าย หัวหินครับ เรียนเพื่อการเป็นนักบินเรียน ส่วนใหญ่จะเป็นสายการบินส่งมาฝึกเพื่อรอสอบเป็นนักบินพาณิชย์ตรี โท เอก ครับ
- หลักสูตรเทคโนโลยีการบินบัณฑิต เรียนที่สบพ. กรุงเทพ เรียนเกี่ยวกับการจัดการจราจรทางอากาศ การจัดการท่าอากาศยาน การจัดการการขนส่งสินค้าทางอากาศ
- หลักสูตรอิเล็กทรอนิกส์การบิน (Aviation Engineering program : AEE) เรียนที่สบพ. กรุงเทพครับ เรียนเกียวกับอิเล็กอิเล็กทรอนิกส์การบินทุกอย่างครับ
ต่อมาเป็นหลักสูตรระดับอนุปริญญาหรือเทียบเท่า
- หลักสูตรอนุปริญญา สาขานายช่างบำรุงอากาศยาน (Aircraft Maintenance Engineer Licence : AMEL พอเรียกให้สั้นเท่าแผนกอื่นเลยเหลือ AM นั่นแหละครับ) เรียนเกียวกับการซ่อมบำรุงระบบเครื่องบินทั้งลำ เรียนที่กรุงเทพครับ
- หลักสูตรการบำรุงรักษาเครื่องสื่อสารการบิน (Communications Maintenance : CM) เรียนเกี่ยวกับการบำรุงรักษาเครื่องมื่อสื่อสารทั้งหมด เรียนที่กรุงเทพครับ
- หลักสูตรการบำรุงรักษาเครื่องวัดประกอบการบิน (Aircraft Maintenance - Aircraft Instruments : AI) เรียนเกี่ยวกับการบำรุงรักษาเครื่องมื่อวัดในการบินทั้งหมด เรียนที่กรุงเทพเช่นกันครับ (เป็นแผนกที่เป็นแฟนกับ AM เยอะที่สุด ฮ่าๆๆ)
สำหรับรุ่นพี่ในแต่ละแผนกนั้นจะมีช่วงเวลา "รับน้อง" รุ่นพี่จะมารับน้องทุกคน และวันสิ้นสุดรับน้อง คือ วันไปรับน้องต่างจังหวัด และยังมีวันติดบ่า เรียกว่า วันแตงค์ (ขอบคุณในภาษาอังกฤษนั่นแหละครับ) คือ ชุดของเรามีเครื่องหมายติดบ่า หรือที่เรียกว่าอินทรธนู จะเริ่มใส่ได้ตอนจบเทอม 2 เป็นต้นไป สำหรับอินทรธนูนี้จะบอกถึงชั้นปี และแผนกที่ตนสังกัดครับ เทคโนโลยีการบินอินทรธนูจะสีขาว ช่างทุกแผนกอินธนูสีเลือดหมู
ตอนสอบเข้าจะแบ่งเป็นสอบข้อเขียน มีทั้งหมด 100 ข้อ ให้เวลา 3 ชัวโมง เมื่อผ่านรอบข้อเขียนแล้ว ก็มาสอบสัมภาษณ์ครับ แล้วแต่จะโดนอาจารย์ท่านไหนเสัมภาษณ์ครับ ก็ต้องอาศัยโชคและวาสนาครับ ฮ่าๆๆ ส่วนเรื่องทุนมีตามระบบทั่วไป คือ ทุนกู้ยืม กยศ. กยร. เเละมีบางคนที่ทางสายการบินส่งมา เป็นทุนรัฐบาลของประเทศนั้นๆ หรือเป็นหน่วยทหารส่งมาเรียนครับ
ที่นี่เราจะเรียนกันเป็นภาษาอังกฤษทุกตัวครับ ใครไม่ชอบต้องทำใจครับ ฮ่าๆๆ ส่วนตัวผมเรียน "สาขานายช่างบำรุงอากาศยาน: Aircraft Maintenance Engineer Licence : AMEL" ก็เรียนเรื่องการซ่อมบำรุงเครื่องบินทั้งหมด ซ่อมเบ้า (เปลี่ยนยาง, เปลียนระบบให้ความร้อนในครัว) ซ่อมหนัก (เปลียนไฮโดรริก เปลียนอลูมิเนียมที่หุ้มเครื่องบิน) มีรุ่นพี่ที่จบไปทำงาน 2 ทางคือ ทำงานกับสายการบิน และทำงานที่แท่นขุดเจาะกลางอ่าวไทยครับ คือ เเท่นขุดเจาะกับเครื่องบินใช้ระบบเดียวกัน เเต่หน้าที่ คือ สูบเเละส่งน้ำมัน เเก็สขึ้นฝัง แต่เครื่องบินใช้ในการเคลื่อนที่ และมีคนได้ทำงานกับชลัมเบอร์เจอร์ด้วย (เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับการสำรวจปิโตเลียม เเก็ส มีรุ่นพี่ AM39 ทำงานอยู่ แบบจบปุ๊บมารับไปทำงานเลย) ส่วนผม...จะไปทำงานกับสายการบินครับ
แถมตัวอย่างตารางเรียน พร้อมคำอธิบายอย่างย่อเลยครับ บอกเลยว่า ทุกวิชาสนุกครับ เน้นทำได้จริง ลุยจริง เพราะเราต้องเอาประสบการณ์ไปสอบ "ใบอนุญาตนายช่างภาคพิ้นดิน" ด้วยครับ
แต่ละวิชาจะเเบ่งเป็น KNOWLEGE เเละ SKILL คือภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัตินั่นแหละครับ เช่น HAR ฝึกใช้เครื่องมือในการซ่อมเครื่องบิน WEL ฝึกเชื่อมแก๊สและไฟฟ้า เป็นต้นครับ
สบพ. จะรับสมัครช่วง มกราคม-กุมภา ครับ เกือบลืมบอกไป...จะมีรุ่นพี่ติวนะครับ เรียกว่าเนวิเกเตอร์ เป็นการติวสอบเข้าทุกสาขา ยกเว้นนักบิน ค่าใช้จ่ายประมาณ 300 บาทครับ มีรุ่นพี่เเต่ละเเผนกมาติวให้ ติดตามได้ประมาณเดีอนมีนาคมครับ กำหนดการมาเมื่อไหร่จะแจ้งให้ทราบผ่านพี่เกียรติอีกครั้งนะครับ
23 ความคิดเห็น
http://www.vcharkarn.com/vcafe/204283
หนูเป็นผู้หญิงที่เรียนช่างไฟฟ้ากำลังคะ จากที่ทราบว่าถ้าวุฒ ปวช. จะรับแค่อนุปริญญาอ่าคะ ถ้าจะต่อ ป.ตรีด้วย ต้องต่ออีกกี่ปีคะ และ สนใจอยู่ 2 สาขา คือ ช่างซ่อมบำรุง กับ บำรุงเครื่องสื่อสาร อ่าคะ คือว่าอย่างไฟฟ้ากำลังยังงี้ควรจะเหมาะกับวิชาไหนมากกว่ากันคะ แล้วอย่างหนูควรเตรียมตัวยังไงคะ (ไม่ค่อยเม่นทฤษฎี แต่ปฏิบัติสู้ตายคะ)
อยากถามว่า ไม่มีทุนสำหรับ CPL ของสบพ.หรอคะ?
คือพยายามหา เจอแต่ทุนของม.นครพนม